พูดถึงเรื่องความรักในวัยรุ่น สาวๆ ซิสต้าเคยสังเกตไหมคะว่า ทำไมรักสมัยมัธยม โดยเฉพาะมัธยมปลายจึงจำ

" ฝังใจ "

ที่สุด ผู้ใหญ่หลายคนที่จำเรื่องรักในหนหลังไม่ได้เลย แต่หวานใจสมัยมัธยมล่ะจำแม่นเชียว คบกันวันแรกตอนไหน เคยไปเดทที่ร้านนี้กี่ครั้ง รายละเอียดทุกอย่างไม่มีตกหล่นบกพร่อง! แม้แต่เพลงรัก หรือภาพยนตร์แนวโรแมนติกที่ฮิตๆ ก็มักสร้างพล็อตในรั้วโรงเรียนมัธยมเสียเป็นส่วนใหญ่ มันต้องมีเหตุผลสิน่า!

วันนี้เรามีบทความช่วยชี้แจงแถลงไขว่า ทำไมรักสมัยมัธยมปลาย ( ไม่ว่าจะสมหวังหรือแห้วก็ตาม ) จึงมักตราตรึงอยู่ในความทรงจำเสมอมา มาอ่านกันเลย!


1. เธอทั้งคู่คบกันเมื่อตอนที่ยัง " เด๋อๆ " กันอยู่

รูปภาพ:http://24.media.tumblr.com/tumblr_mdqof9ceCI1rlx9l7o1_500.gif

ใครๆ ก็รู้ว่าช่วงมัธยมน่ะ ถ้าไม่หน้าตาดีจริงๆ มักเป็นช่วงเวลาที่ไม่อยากให้คนอื่นเห็นรูปมากที่สุด! เพราะเป็นวัยของผมเกรียน ตัดสั้นเท่าติ่งหู สิวเขรอะ ผิวคล้ำ หน้ามัน ฟันเหล็ก หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็นช่วง " เด๋อ " และ " ขี้เหร่ " ของทุกคนนั่นเอง

ถ้าเธอกับแฟนตกหลุมรักกันในช่วงที่ยังใสๆ หน้าไม่แต่ง แต่งตัวปอนๆ เสื้อยืดกางเกงขาสั้น หน้าเป็นหลุมสิวเกรอะกรังก็ยังชอบ แปลว่าเธอชอบเขาที่ " ตัวตน " จริงๆ เพราะช่วงวัยรุ่นยังไม่มีปัจจัยเรื่องฐานะ ทรัพย์สินเงินทอง หน้าตาทางสังคมเข้ามาเกี่ยวข้อง เรียกว่าเป็นรักที่บริสุทธิ์ที่สุดในชีวิตแล้ว!

2. เห็น " พัฒนาการชีวิต " ของแต่ละฝ่าย

รูปภาพ:http://28.media.tumblr.com/tumblr_m3485nkZCX1rp79gwo1_500.png

เธอจะเห็น " พัฒนาการ " ของแฟนตั้งแต่จบจากมัธยมปลาย เข้าเรียนในมหาวิทยาลัย จนเรียนจบและทำงาน หากเธอผ่านช่วงเวลานี้ไปได้อย่างมั่นคงก็คงหนีไม่พ้นตีระฆังงานวิวาห์แน่นอน! ในอีกด้าน หากต้องจบเส้นทางรักกับหวานใจสมัยมัธยม เธอก็ยังเหลือช่องทางติดต่อ เช่น เฟสบุ๊ค อินสตาแกรม เบอร์โทรศัพท์ ( หรือแม้แต่เลขที่บ้าน ) ให้ส่องดูชีวิตเขาอยู่ดี

จะเรียกว่าเป็น " ความผูกพัน " ก็ได้ จึงไม่แปลกที่จะจำฝังใจไม่ลืมเลือนค่ะ

3. เข้าใจกันจนบางที " คำพูด " ก็ไม่จำเป็น

รูปภาพ:http://3.bp.blogspot.com/-T5O7X9_fAX8/T3BaGBkV4YI/AAAAAAAACOc/PYRONWGc8eA/s640/tumblr_lduxgsxTCJ1qf9b87o1_500.png

หากเป็นคู่ทีสมหวังถึงขั้นเตรียมแจกการ์ดในเร็ววัน แน่นอนว่าต้องรักกัน รู้จักตัวตนอีกฝ่ายมากๆ ( ก็แน่ล่ะ คบกันมาตั้งแต่มัธยมปลายถึงแต่งงาน เวลาไม่ต่ำกว่าเจ็ดปีแน่นอน ) ข้ามผ่านประสบการณ์ตั้งแต่วัยรุ่นสดใสซาบซ่า จนถึงความรักมั่นคงของวัยทำงาน

รู้จักกันมานานขนาดนี้ แค่มองตาก็รู้ใจแล้ว! หากเกิดอุปสรรคขึ้นก็ไม่ต้องเสียเวลาเค้นคอหาคำตอบ เพราะความรู้สึกมันบอกว่าเขากำลังมีความทุกข์ หลายคู่ที่ไปกันไม่รอดด้วยสาเหตุบางอย่าง แต่ยังคงห่วงหาอาทรกันอยู่ห่างๆ เสมอ ( โอย ชีวิตดราม่า! )

4. ผ่าน " อุปสรรคในชีวิตคู่ " ด้วยกันมา

รูปภาพ:http://juicy4ever.pix.free.fr/films/cinderella/cinderella28.jpg

ทุกความสัมพันธ์ ไม่ว่ากับพ่อแม่ เพื่อนหรือแฟน ต่างก็ต้องมีจุดสูงสุดและต่ำสุดด้วยกันทั้งนั้น! ยิ่งถ้าพวกเธอเคยอยู่ใน " จุดต่ำสุดในชีวิต " ด้วยกันมาก่อน ผ่านการทะเลาะอย่างรุนแรง ปรับความเข้าใจกัน พบเจอเหตุการณ์ที่ทำให้ชีวิตคู่ตึงเครียดแล้วผ่านมันมาได้ มักจะทำให้รักกันมากขึ้นกว่าเดิมค่ะ

อุปสรรคในชีวิตคู่นั้นมีมากมาย ไม่ว่าจะเรื่องความห่างไกล ( เมื่อแยกย้ายกันเข้ามหาวิทยาลัย ) ความไม่เข้าใจกัน การไม่เคารพพื้นที่ส่วนตัวของกันและกัน หลายคู่ที่เลิกรากันไปเพราะปัญหาเหล่านี้ ซึ่งช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนี้ จะทำให้จำแม่นเป็นพิเศษค่ะ!

5. รู้ทันพฤติกรรมและ " ภาษากาย " ของแต่ละฝ่าย

รูปภาพ:http://images.says.com/uploads/story_source/source_image/376076/729b.jpg

สำหรับคู่ที่ผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะ นอกจากมองตาก็รู้ใจ ยังรู้ทัน " พฤติกรรม " และ " ภาษากาย " ของแต่ละฝ่ายอีกด้วย เธอจะรู้ทันทีว่าเขาอยู่ในอารมณ์ไหน มีความสุข, เศร้า, โมโห หรือแค่งอน รอให้เธอมาง้อ -.- สังเกตแป๊บเดียวก็รู้แล้ว

แม้บางคู่อาจไม่สมหวัง แต่เธอก็ยังคงคุ้นชินกับภาษากายของแฟนเก่าอยู่ดี เช่น ถ้าแฟนเศร้าเขาจะดื่มกาแฟดำที่เขาไม่ชอบ หากได้เจอกันในวันใดวันหนึ่งและเห็นเขาดื่มกาแฟดำอยู่ เธอคงอดไม่ได้ที่จะถามสารทุกข์สุกดิบของเขาอย่างแน่นอน ใช่ไหมล่ะ

6. มีประสบการณ์ / ความทรงจำดีๆ ร่วมกันมา

รูปภาพ:http://s1.dmcdn.net/IsqzX.jpg

คนเป็นแฟนกัน แม้จะคบกันจนตลอดรอดฝั่งหรือจบกันด้วยการเลิกรา ก็ต้องมีเศษเสี้ยวของประสบการณ์และความทรงจำดีๆ เหลืออยู่บ้างล่ะน่า! ยิ่งช่วงเวลาที่สนุกสนานได้เต็มที่อย่างวัยมัธยม ทั้งงานโรงเรียนอย่างกีฬาสี เวลาว่างหลังเลิกเรียนก็ไปเดทที่ร้านอาหาร ร้านไอศกรีม ป้อนขนมเข้าปากให้กันและกัน วันหยุดก็ชวนไปเที่ยวสวนสนุก ห้างสรรพสินค้าต่างๆ ใครจะลืมลงกันล่ะ

แม้ในที่สุดหนุ่มคนนั้นจะกลายเป็นแค่สถานะ " แฟนเก่า " เมื่อเจอกันอีกครั้งก็สามารถหวนนึกถึงความหลังครั้งนี้ได้อยู่ดี >< วัยเด็กน่ะสบายที่สุดแล้ว

7. เธอรู้ว่าความสัมพันธ์แบบนี้ " เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา "

รูปภาพ:http://images1.fanpop.com/images/photos/2100000/cinderella-story-a-cinderella-story-2198188-434-289.jpg

ลึกๆ แล้ว เธอทั้งคู่ก็รู้ดีว่า " วัยรุ่น " เป็นช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อที่ไม่แน่นอน ต่างฝ่ายอาจแยกย้ายไปไหนก็ได้เมื่อจบมัธยมปลาย ทำให้เธอระวังตัวและคอยประคับประคองความสัมพันธ์อยู่ตลอดเวลา เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะเปลี่ยนไป ยิ่งช่วงนี้ฮอร์โมนร้อนแรง เลือดพลุ่งพล่านแบบนี้ ถ้าเอาแต่ใจตัวเองมากไปก็มีแต่เลิกกับเลิก! ( หนุ่มไม่ง้อ รอจีบสาวสวยๆ ในมหาวิทยาลัยก็ได้ )

เพราะมนุษย์เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา จึงไม่แปลกที่คู่รักหลายคู่เปลี่ยนสถานะเป็น " โสด " เมื่อเข้ามหาวิทยาลัย แต่หากฝ่าฟันด้วยกันตลอดสี่ ( หรือห้าหกปี ) ในรั้วมหาวิทยาลัยนี้ไปได้ ก็ค่อนข้างแน่ใจแล้วว่าจะคู่กันไปทั้งชีวิตค่ะ

8. รู้จัก / สนิทกับครอบครัวของแต่ละฝ่าย

รูปภาพ:http://media10.onsugar.com/files/2011/06/25/1/301/3019466/f75076af5d7538da_the-family-stone.jpg

คู่รักมัธยมส่วนใหญ่มักสนิทกับครอบครัวของอีกฝ่ายง่ายๆ เพราะยังเป็น " เด็กน้อย " กันอยู่! หากเป็นผู้ใหญ่เราอาจต้องไปถึงบ้านอีกฝ่าย นัดเจอตัวกันวุ่นวาย แต่เด็กมัธยมมักมีเรื่องให้พ่อแม่มาโรงเรียนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะมารับ - ส่งลูก มางานโรงเรียนที่ลูกประกวด มาจ่ายค่าเทอม ซึ่งช่วงเวลาเหล่านี้แหละ ทำให้พวกท่านเห็นแฟนของลูกๆ ได้คุย ทักทาย หากเธอเข้าหาผู้ใหญ่เป็นอยู่แล้ว ก็ยิ่งสนิทกัน

สังเกตได้ว่าหลายคู่ที่เลิกกันไปแล้ว แม้กลับมาเจอกันอีกในวัยผู้ใหญ่ก็สามารถทักพ่อแม่ของอีกฝ่ายได้อย่างไม่เก้อเขิน อย่างไรพวกท่านก็ยังเอ็นดูเธออยู่ดี ( เข้าทางผู้ใหญ่กลับมาขอคืนดีได้ไหมน้อ )

9. เริ่มรู้จักการแบ่งเวลาระหว่าง " การเรียน " และ " ความรัก "

รูปภาพ:http://i.livescience.com/images/i/000/056/511/i02/college-couple-studying-130903.jpg

เมื่อเริ่มมีความรัก เธออาจจะมัวเมา ลุ่มหลงกับความมุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้งของอารมณ์คนมีคู่อยู่สักพัก แต่ถ้ามีคนคอยเตือนและอบรม เธอจะรู้จักคำว่า " แบ่งเวลาชีวิต " เพราะเธอยังเป็นวัยเรียน ไม่สามารถใช้เวลาทั้งหมดไปกับคนคนเดียวได้ ต้องแบ่งเวลาให้ถูกว่าช่วงไหนเรียน ช่วงไหนทำการบ้าน อยู่กับเพื่อน อยู่กับครอบครัว ช่วงไหนคุยกับแฟน แล้วความรักจะราบรื่น

ลองสังเกตคู่รักที่คบมาตั้งแต่สมัยมัธยมสิ มักจะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแบ่งเวลาเป็น ใส่ใจการเรียนอยู่เสมอ หากเอาแต่โดดเรียนไปอยู่ด้วยกัน ก็คงถูกพ่อแม่จับแยก และเลิกรากันในที่สุดแน่นอนค่ะ

10. มีเพลง,จดหมาย, ข้อความ ย้อนกลับไปดูให้คิดถึงวันเก่าๆ

รูปภาพ:https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/736x/81/98/65/819865da98941a7af5416f310805eacb.jpg

เพราะวัยรุ่นเป็นช่วงที่ความคิด จินตนาการและความสร้างสรรค์บรรเจิดที่สุด! คู่รักหลายคู่ที่มักประดิดประดอยของต่างๆ ให้แฟนในวันสำคัญ เช่น พับดาวใส่โหล ตุ๊กตา เสื้อกันหนาว ผ้าพันคอ หรือถ้าเป็นสาวสายดนตรีก็อาจแต่งเพลง เขียนจดหมายรักหวานๆ ให้แฟน

แม้ในที่สุดความรักจะไม่สมหวัง ต้องแยกกันไปตามทางชีวิตตัวเอง วันใดวันหนึ่งที่เจอของเหล่านี้เก็บอยู่ในชั้นใต้หลังคาแล้วเอามาดู ความทรงจำเก่าๆ ก็หวนกลับคืนมา ให้เธอนั่งคิดถึงได้อย่างมีความสุข

==========================

เพราะวัยรุ่นเป็นช่วงที่สนุกที่สุด เกิดเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ในชีวิตเยอะที่สุด ทั้งการเรียน เพื่อน กิจกรรม ความเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย และแน่นอน ความรัก! วัยรุ่นยังไม่ต้องเครียดหรือแบกรับภาระ ความเหนื่อยล้ามากนัก ( นอกจากการอ่านหนังสือสอบ ) เวลาว่างเยอะกว่าเมื่อเทียบกับผู้ใหญ่ ทำให้จำเหตุการณ์ต่างๆ  ที่เกิดขึ้นได้ดี หรือที่เรียกว่า " ฝังใจไม่ลืมเลือน " นั่นเองค่ะ

สำหรับคู่ที่ได้ลงเอยกันจริงๆ ก็ขออวยพรให้อยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่า แต่หากไม่ไปถึงฝั่งฝัน ก็จงอย่าเสียใจ อย่างน้อยในช่วงชีวิตหนึ่ง เราก็เคยผ่านช่วงเวลาดีๆ น่าจดจำให้ได้นึกถึงนะคะ :)

==========================


บทความที่เกี่ยวข้อง