ถ้าหากคุยกันถึงปัญหาผิวบนใบหน้า

" สิว "

น่าจะเป็นสิ่งที่หลายคนรู้สึกขยาดเป็นที่สุด ไม่ว่าจะเป็นสิวชนิดไหนก็ตาม ลองคิดดูสิคะ มีเม็ดแดง ๆ เล็กบ้างใหญ่บ้างขึ้นมาตามผิวหน้า มือไปโดนทีก็เจ็บที บางเม็ดก็มีหัวหนองออกมาเป็นสีเหลือง ๆ ยี้ นึกแล้วสยอง!

มิ้วเป็นคนหนึ่งที่ประสบปัญหากับการเป็นสิวมาโดยตลอดค่ะ ตั้งแต่เป็นวัยรุ่นและเริ่มแต่งหน้า เป็น ๆ หาย ๆ ตั้งแต่สมัยมัธยมยันเรียนมหาลัย มีทั้งดีขึ้นและแย่ลง หรือไม่เกิดอะไรขึ้นเลย! สิ่งที่แย่จากการเป็นสิวซ้ำ ๆ ซาก ๆ ของมิ้ว นั่นก็คือร่องรอยอารยธรรมของสิวที่ทิ้งเป็นรอยดำรอยแดงเอาไว้ให้ดูต่างหน้าค่ะ TT

และแน่นอนค่ะ คนเป็นสิวก็อยากมีหน้าใสไร้สิว ไร้ริ้วรอย มีผิวขาวกระจ่างใส แต่ก่อนจะได้หน้าใส ๆ มานั้น ต้องฟันฝ่าการจัดการสิวไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่  เม็ดนี้หาย เม็ดนั้นขึ้น เป็นสิววนกันไปอีก! จะให้ข้ามขั้นไปใช้ Whitening ลดเลือนรอยสิวไปด้วยเลย ผลที่ตามมาก็คือ สิวเห่อหนักกว่าเดิม!!! เพราะอะไรล่ะคะ เพราะสารที่มีอยู่ใน Whitening มันไม่โอเคกับผิวที่เป็นสิวน่ะสิ แล้วแบบนี้เมื่อไหร่จะมีหน้าใสไร้สิวกันได้ล่ะ?!

วันนี้มิ้วเลยจะมาแนะนำวิธีการทำให้หน้าขาวกระจ่างใส แถมไร้สิวมากวนใจอีก ลองมาดูกันตามขั้นตอนนี้เลยค่ะ

ขั้นตอนการรักษาสิว + ลดเลือนรอยสิว


1. รักษาสิวให้หายก่อน

ก่อนจะมีหน้าใส ๆ ไปอวดใครได้นั้น ก็ต้องกำจัดศัตรูตัวร้ายอย่าง " สิว " ออกไปก่อนค่ะ เริ่มจาก...

1.1 ทำความสะอาดผิวหน้าเป็นประจำในทุก ๆ วัน

อย่างที่รู้กันดีว่าใน 1 วันเราควรล้างหน้ากันวันละ 2 ครั้ง คือช่วงเช้าและตอนเย็นก่อนจะนอน เราจึงไม่ควรจะปล่อยให้ตัวเองมีเครื่องสำอางฉาบอยู่บนหน้าตอนที่กำลังนอนหลับ เพราะจะทำให้เกิดการสะสมเชื้อโรคแล้วทำให้เกิดสิวขึ้นในที่สุด

รูปภาพ:http://ghk.h-cdn.co/assets/15/47/980x490/landscape-1447980776-woman-sleeping-on-bed.jpg

1.2 พยายามอย่าเอามือไปสัมผัสตรงบริเวณที่เป็นสิว

การที่เราเอามือไปสัมผัสหน้าบริเวณที่เป็นสิวบ่อย ๆ มันอาจจะทำให้สิวเม็ดนั้น ๆ เกิดการอักเสบขึ้นมาได้ค่ะ อย่าลืมเพราะมือของเราก็เป็นแหล่งสะสมแบคทีเรียเหมือนกัน อย่างน้อยลดอาการเสี่ยงที่จะทำให้สิวเห่อมากกว่าเดิม

1.3 เลือกใช้สกินแคร์ที่เหมาะกับสภาพผิว

คน

ผิวมัน เป็นสิวได้ง่าย ( มิ้วก็เป็นคนนึงค่ะที่เป็นแบบนั้น ) ต้องพยายามเลือกใช้สกินแคร์ที่อ่อนโยน ไม่ระคายเคืองผิว อย่างตัวมิ้วเองก็เลือกใช้สกินแคร์ที่ให้ความชุ่มชื่นกับผิว ยิ่งตอนที่เป็นสิวหนัก ๆ ด้วยและ ก็พยายามเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารลิโคชาลโคน ซึ่งเป็นสารที่ช่วยปลอบประโลมผิว และลดการอักเสบของสิวค่ะ

รูปภาพ:https://www.urbanmoonshine.com/wp-content/uploads/2016/06/licorice.jpg

2. กำจัดรอยสิว

เมื่อสิวหายเกลี้ยงแล้วก็มาถึงขั้นต่อไปที่เราจะต้องไปกำจัดรอยสิว มิ้วคิดว่าการรักษาสิวให้หายต้องใช้เวลาแล้ว การรักษารอยสิวก็ต้องใช้เวลามากกว่าเก่าค่ะ โดยเฉพาะตรงบริเวณที่เราชอบไปสัมผัส กด บีบ สำหรับตัวมิ้วเองต้องขอยอมรับเลยว่ามีไปทำทรีทเมนต์รักษาสิวมาบ้าง แต่ไปบ่อย ๆ เห็นจะไม่ไหว เงินในกระเป๋าได้แบนแต๊ดแต๋กันพอดี ก็เลยจะใช้วิธีทาครีมลดเลือนรอยสิวเอา หรือไม่ก็มาส์กหน้า แต่ขั้นตอนก็ยุ่งยากซ้ำซ้อนเกินไป ก็เลยหันมาใช้วิธีทาครีมลดเลือนรอยสิวเอา แต่ส่วนมากที่เจอก็เป็นการผลัดผิวทำให้ผิวบางอีก ดังนั้นก็ต้องหาครีมที่มันอ่อนโยนกับผิว แต่มีประสิทธิภาพในการดูแลรอยสิวอย่างได้ผลนะ ถึงจะดี

รูปภาพ:http://isskc.com/wp-content/uploads/2014/02/bigstock-Spa-Facial-Mask-Dayspa-12573125.jpg

3. เพิ่มความกระจ่างใสด้วยสาร Whitening

ก่อนอื่นต้องมั่นใจจริงแน่ๆ นะคะว่าสิวหายแล้วจริง ๆ เพราะ Whitening โดยทั่วไปตามท้องตลาด ส่วนใหญ่จะมีคุณสมบัติที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว หรือมีกรด AHA ซึ่งก่อให้เกิดการระคายเคือง อันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวขึ้นมาอีกอย่างไม่หยุดหย่อน ในข้อนี้มิ้วเจอกับตัวเองเลย เพราะลองใช้ Whitening มาหลายตัวมาก มันก็ให้ผลแบบเดิม ๆ คือระคายเคือง แพ้ กลับมาเป็นสิว วนลูปเดิม ๆ อีก เรียกได้ว่าหา Whitening ที่เหมาะกับคนเป็นสิวได้ยากมากจริง ๆ

รูปภาพ:http://img.weiku.com/waterpicture/2011/10/28/20/Acrylic_Round_cream_jar_cosmetic_packaging_634556837588270421_2.jpg

หลังจากลองมาหลายวิธี ก็ค้นพบแล้วว่าจริงๆ แล้ว กว่าจะหาครีมที่จัดการปัญหาในแต่ละ step ที่มันใช้พร้อมๆ กันได้ในเวลาเดียวกัน ก็หายากมาก กว้านมาเกือบทุกตัวในตลาด ก็ยังใช้พร้อมกันไม่ค่อยได้ จนตอนนี้มาเจอEucerin Day Mat Whiteningที่ลดขั้นตอนทั้งหมดมาไว้ในขวดเดียว ซึ่งวันนี้อยากมาแชร์ให้ฟัง เพราะว่านางใช้แล้วดี ดูแลสิว รอยสิวและผิวขาวได้ในครั้งเดียว

มิ้วได้ลองใช้เจ้าตัวนี้เป็นเวลา 2 สัปดาห์ค่ะ พยายามเฝ้าดูผลลัพธ์มาตลอด โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นสิว ดูจาก Before เลยค่ะ เป็นช่วงก่อนที่จะลองใช้ผลิตภัณฑ์ แอบมีสิวและรอยสิวอยู่บ้างประปรายบริเวณรอบ ๆ ปากและข้างแก้มค่ะ

ผ่านไป 1 สัปดาห์ สิวเริ่มแห้งในบางจุดค่ะ สังเกตดี ๆ จะเห็นผิวดูกระจ่างใสขึ้นนิดหน่อย

และผลจากการใช้ผลิตภัณฑ์มาได้ 2 สัปดาห์ค่ะ เห็นมั้ยว่าสิวยุบลงไปเยอะเลย แถมรอยสิวตามบริเวณต่าง ๆ ก็ดูจางลงด้วย เทียบให้ดูชัด ๆ ไปเลย

รูปภาพ:

ให้คะแนน Eucerin Dermo Purifyer Day Mat Whitening กันสักนิด

ขอให้คะแนนเป็นดาวนะคะ คะแนนเต็มทั้งหมด 5 ดาวค่ะ

- ลดรอยแดง รอยดำจากสิว : ✪✪✪✪ให้ 4 ดาวเลยค่ะ เพราะรอยสิวลดเลือนลงอย่างเห็นได้ชัด

- ควบคุมความมัน :  ✪✪✪✰ให้ 3.5 ดาวค่ะ เนื้อโลชั่นกำลังดี ไม่หนักเกินไป และไม่ทำให้ผิวมันขึ้น ( มิ้วสังเกตจากผิวบริเวณจมูกของตัวเองที่มันมากค่ะ )

- บำรุงผิวให้ชุ่มชื่น : ✪✪✪✪4 ดาวค่ะ ใช้แล้วรู้สึกว่าผิวนุ่ม ชุ่มชื่น และดูเรียบเนียนขึ้น ที่หัก 1 คะแนนเพราะทาได้แค่ตอนกลางวัน

- เหมาะสำหรับผิวเป็นสิวง่าย : ✪✪✪✪✪ข้อนี้ให้เต็ม 5 ดาวเลย เพราะมันช่วยให้สิวหายได้จริง ๆ โดยเฉพาะกับคนที่เป็นสิวอุดตันอย่างมิ้ว

- ซึมง่าย / ซึมเร็ว : ✪✪✪✪✪ให้ 5 ดาวเช่นเดียวกัน เพราะบีบเนื้อโลชั่นออกมาเพียงนิดเดียว ก็เกลี่ยได้สบาย ๆ ซึมเข้าสู่ผิวได้เร็วมาก ไม่มีการทิ้งความมันหลงเหลือไว้เลย

- รู้สึกสบายผิว / ช่วยให้ผิวกระจ่างใส / ลดสิวอุดตัน : ✪✪✪✪✰ให้ 4.5 ค่ะ จริง ๆ เพราะทาแล้วสบายผิวมาก ผิวหน้าแลดูขาวกระจ่างใสขึ้น เด็ดสุดคือไม่ก่อให้เกิดสิวอุดตันซ้ำซ้อน-ราคา : ✪✪✪ ให้ 3 ค่ะ ขอหัก 2 คะแนนเพราะราคาค่อนข้างสูงกว่าตัวอื่นในตลาด แต่ก็โอเคเมื่อเทียบกับผลที่ได้นะ

รูปภาพ:

สรุปเลยก็แล้วกันสำหรับผลิตภัณฑ์ตัวนี้ ความรู้สึกส่วนตัวที่ได้ทดลองใช้มา 2 สัปดาห์ มันเห็นผลได้ชัดเลยว่าหน้าใสขึ้นมาก สิวไม่เพิ่มขึ้น รอยสิวจางลง จากที่เคยมีผิวหมองคล้ำ ตอนนี้รู้สึกเลยว่าหน้าขาวกระจ่างใสขึ้นมาก ทำให้เลิกกังวลเรื่องเป็นสิวไปโดยปริยายเลยค่ะ แต่อย่างไรก็ตาม แม้สิวจะหายแล้วก็อย่าเพิ่งชะล่าใจนะคะ ถ้าไม่รักษาความสะอาดหรือดูแลกันดี ๆ น้องสิวคงได้ถามหาอีกแน่ ๆ

ด้วยความปรารถนาดีนะคะสาว ๆ หวังว่าวิธีการรักษาสิวและรอยสิวในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านทุกท่านนะคะ วันนี้ขอไปก่อนแล้ว บ๊ายบาย