สวัสดีค่ะสาวๆ ทุกคน กับช่วงนี้ฝนตก ฟ้าร้อง ท้องฟ้าครึ้มแบบช่วงนี้ บีเลยแว๊บมาเขียนบทความเล่นสักหน่อย อยากจะรีวิวอะไรชิคๆ นึกไปนึกมา นึกถึงเจ้าน้ำตบ!!!! เพราะเป็นอะไรที่ฮอตฮิตสำหรับสาวๆมานานสักพักแล้ว

บีเองก็มีโอกาสใช้มาบ้าง ก็เลยยกครีมน้ำตบหน้าใสมารีวิวค่ะ โดยรีวิวทั้งหมด 2 ตัว คือ Biotherm Life Plankton Essence และ  Derclema Galactomyces Essence

รูปภาพ:

ซึ่งเป็นตัวที่บีชอบมากๆทั้ง 2 ตัวเลย( เดี๋ยวจะบอกว่าสูสีกันยังไงบ้าง ตัวไหนเจ๋ง ไม่เจ๋งยังไง )

รูปภาพ:

ต้องบอกก่อนเลยว่า บีชอบครีมจำพวกที่ทาแล้วหน้าไม่มัน ไม่เยิ้ม เพราะสามารถทาได้ทั้งกลางวัน กลางคืนนั่นเอง ระหว่างวันหน้าก็ไม่มันจนเครื่องสำอางเยิ้ม บีเลยรู้สึกว่าเป็นอะไรที่คุ้มดีค่ะ สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ทาแล้วหน้าไม่มันไม่เยิ้ม

เริ่มจากตัวฮิตเลยยยยBiotherm Life Plankton Essence

รูปภาพ:

ตัวฮอตมาก ฮอตในบล็อกต่างๆ เลยทำให้บีห้ามใจไม่ได้ ต้องไปถอยมาใช้ตามเค้าบ้าง

สรรพคุณที่แบรนด์เค้าเคลมมาคือ" Life Plankton สารสกัดจากแพลงตอนน้ำแร่ร้อนธรรมชาติ ฟื้นบำรุงให้ผิวกลับมามีคุณภาพราวกับการเผยผิวใหม่ เน้นไปที่การเสริมความชุ่มชื้น ฟื้นฟูความกระจ่างใส ชะลอความร่วงโรยของผิว "

โดยส่วนตัวบีว่ากลิ่นแรงมากก มันเตะจมูกปั้งๆ เลย

เนื้อผลิตภัณฑ์จะข้นๆ หน่อยค่ะ

รูปภาพ:

ผ่านมา  1 นาที ซึมแบบนี้ค่ะ

รูปภาพ:

โดยส่วนตัวใช้แล้วเห็นผลนะคะ รู้สึกเลยว่าผิวนุ๊มนุ่ม รูขุมขนเล็กลง แต่พวกรอยสิว รอยแดง ตัวนี้ยังไม่มาแรงพอค่ะ แต่เรื่องลดการอักเสบของผิวนี่คือมันโอเคจริงแกเอ้ยยย

ตัวต่อมา

Derclema Galactomyces Essence

รูปภาพ:

ตัวนี้กับตัวข้างบน เนื้อสัมผัสและกลิ่นต่างกันมากพอสมควรนะคะ ตัวนี้เนื้อผลิตภัณฑ์จะใส ไม่ขุ่น เหมือนBiothermและกลิ่นไม่แรงเท่า ใครไม่ชอบกลิ่นแบบBiothermน่าจะชอบตัวนี้นะ

สรรพคุณที่แบรนด์เค้าเคลมมาคือ" Derclema Intensive Essence Galactomyces 100% เห็นผล ใน 21 วัน ด้วยส่วนประกอบเข้มข้นจาก Galactomyces ที่ช่วยฟื้นฟูผิว และช่วยบำรุงให้ผิวเรียบเนียน กระจ่างใสขึ้น โดยใช้ส่วนผสมคุณภาพสูงจาก USA ปลอดภัยและปราศจากสารสังเคราะห์ที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว "

เนื้อสัมผัสจะเป็นน้ำใสๆ นะคะ ไม่ได้ข้นเหมือนBiothermค่ะ

รูปภาพ:

หลังผ่านไป 1 นาที เนื้อผลิตภัณฑ์ก็ซึมแบบนี้

รูปภาพ:

ลองมาสักพักผิวนุ่มขึ้นจริงๆ เรื่องรูขุมขนค่อนข้างได้ผลเลย แต่ที่บีชอบเป็นพิเศษคืออาการหน้ามัน หน้าเยิ้มระหว่างวัน ไม่มีเลยในช่วงที่ใช้เจ้าตัวนี้ค่ะ และก็ไม่ทำให้ผิวหน้าแห้งด้วย

คือเรื่องเนื้อสัมผัสต้องยกให้เค้า

จริงๆ คุณภาพแอบเทียบเท่าเลย แต่ Derclema อาจไม่ได้เห็นผลลัพธ์ชัดเจน รวดเร็วเหมือน Biotherm แต่ก็แอบสูสีได้ในหลายๆ จุด โดยเฉพาะในเรื่องความอ่อนโยน ไม่แพ้ ไม่ระคายเคืองเลย และราคาที่ถูกกว่าBiotherm ด้วย

ความข้นของผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 ตัวเทียบกัน

รูปภาพ:

มาดูเนื้อสัมผัสเทียบกันดีกว่าค่ะ ความมันเอย การซึมเข้าผิวเอย

รูปภาพ:

Derclemaชนะเรื่องการซึมเข้าผิวค่ะ ซึมเร็ว ไม่เหนอะหนะ ไม่เหนียวผิว

รูปภาพ:

ขอสรุปมาเป็นตารางให้สาวๆ ชมแล้วกันเนอะ

รูปภาพ:

สรุปเลยแล้วกันเนอะ แอบสูสีกันเลยค่ะ แม้ขนาดและราคาจะแตกต่างกันบ้าง แต่ผลลัพธ์ก็ใกล้เคียงกัน บีว่าBiothermจะช่วยผลัดการอักเสบของสิวแบบเห็นได้ชัด แรกๆ ใช้ผิวจะมีสิวขึ้นบ้าง พอใช้ไปสักพักหน้าเนียนเลย ส่วนDerclemaบีชอบที่อ่อนโยน ใช้แล้วสบายผิว ช่วยเรื่องความกระจ่างใสแบบชัดเจนดีค่ะ

ส่วนเรื่องราคา แน่นอนว่า Derclema ชนะ เพราะถูกกว่าพอสมควรเลยแต่จะเทียบด้านราคามากไม่ได้ เพราะบีรู้สึกว่าคุณสมบัติบางอย่างเค้าก็แตกต่างกันทั้งสองตัวนะ

ทิ้งท้ายเลย บีชอบมากทั้งสองตัว แม้มีบางจุดที่ไม่ชอบเช่นเรื่องกลิ่น แต่ผลลัพธ์ก็ดีมากๆ ทั้งคู่ค่ะ

สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่นะคะ

บทความที่เกี่ยวข้อง