มนุษย์เรานั้นมีสิทธิและเสรีภาพ ถึงแม้ว่าจะรักกันแต่คู่รักก็ต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะคบกันมานานแค่ไหนก็จะมีเรื่องบางเรื่องที่เราไม่ควรก้าวก่ายคนรัก อย่างที่ทราบกันดีค่ะว่าคู่รักก็คือคนสองคนที่มาจากต่างครอบครัว อีกฝ่ายเคยเป็นคนแปลกหน้าสำหรับเรามาก่อน หลังจากนั้นถึงเวลาผูกหัวใจทั้งสองดวงไว้ด้วยกัน แต่บางครั้ง เวลาก็ผูกแค่หัวใจ ความรู้สึกและความรักเข้าด้วยกันเท่านั้น แต่ไม่ได้ผูกความเชื่อ นิสัยและความชอบส่วนตัว
ด้วยเหตุผลนี้ การให้เกียรติกันจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับคนมีคู่ วันนี้เราจึงนำ
'4 สิ่งที่คนรักกันไม่ควรขอ'
มาฝากกันค่ะ มาดูกันซิว่า 4 สิ่งที่ว่านั้นจะมีอะไรบ้าง
1. อย่าขอให้แฟนเลิกคบกับเพื่อน
เป็นเรื่องที่ยอมรับได้ค่ะถ้าหากว่าเราจะรู้สึกไม่สบายใจที่แฟนคบกับเพื่อนแย่ๆ อย่างเช่น เพื่อนที่เอาแต่ชวนแฟนเราไปเมา เพื่อนที่ชอบหาเรื่องมาให้หรือเพื่อนที่ชอบยืมเงินแต่ไม่คืน ถ้าเป็นเพื่อนนิสัยไม่ดีเหล่านั้น เราสามารถเปิดอกพูดกับแฟนได้เลยว่ามันไม่โอเคนะ ถ้าจะคบกับเพื่อนแบบนี้ ในกรณีนี้ แฟนน่าจะเข้าใจค่ะว่าเราเป็นห่วง
แต่ถ้าคุณไม่สบายใจที่แฟนจะมีเพื่อนสนิทต่างเพศหรือเพื่อนที่ไปเที่ยวด้วยกันบ่อยๆ คุณไม่ควรจะสั่งห้ามแฟนว่าอย่าไปเที่ยวกับเพื่อนพวกนั้นอีกเพราะมันฟังดูไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย ลองคิดกลับกันค่ะว่าถ้าเรามีเพื่อนที่สนิทกันอยู่ดีๆ แล้วจู่ๆ แฟนก็มาสั่งให้เราเลิกคบ เราก็คงรู้สึกไม่ดีใช่มั้ยล่ะคะ คุณต้องเอาเหตุผลเป็นที่ตั้งไม่ใช่อารมณ์ อย่าหวงแฟนหรือสั่งให้แฟนเลิกคบกับเพื่อนเพียงเพราะอารมณ์ส่วนตัวของคุณ
2. อย่าขอให้แฟนเปลี่ยนความเชื่อที่เขามี
ถ้าขอให้แฟนเปลี่ยนจากความเชื่อผิดๆ ให้กลายเป็นสิ่งที่ถูกต้อง อันนั้นเป็นเรื่องที่ดีมากๆ เลยค่ะ แต่การขอให้เขาเปลี่ยนความเชื่อที่เกี่ยวกับศาสนาหรือศีลธรรมมันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนเกินไปและคุณไม่ควรขอเลย หากแฟนของคุณนับถือศาสนาคนละศาสนากับคุณ แน่นอนว่าความเชื่อย่อมแตกต่างกันอยู่แล้ว แต่อย่าลืมนะคะ ว่าก่อนที่จะมาเจอกันนั้น คุณและแฟนต่างก็เป็นคนแปลกหน้ากันมาก่อน เขามีความเชื่อของเขา คุณเองก็มีความเชื่อของคุณ ฉะนั้น ไม่ควรไปร้องขอให้เขาเปลี่ยนความเชื่อปุบปับ แต่ถ้าความเชื่อไหนที่คุณไม่เห็นด้วยก็ควรคุยกันด้วยเหตุผลน่าจะเวิร์คกว่านะคะ
3. อย่าขอให้แฟนล้างจานหรือทำความสะอาดให้โดยที่คุณไม่ทำอะไรเลย
เมื่อคนเรารักกัน การได้ทำสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ให้อีกฝ่ายก็เป็นเรื่องดีๆ ที่ทำให้ทั้งคุณและแฟนประทับใจ คุณอาจจะซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารไว้ทานกับแฟน หรืออาจจะทำงานบ้านเพื่อให้แฟนพอใจ ยกเว้นเสียว่าวันไหนที่คุณยุ่งจริงๆ แล้วแฟนของคุณว่างก็วานให้เขาช่วยได้เลย ไม่แปลกค่ะที่คู่รักจะช่วยกันล้างจานหรือทำความสะอาดด้วยกัน เรื่องพวกนี้มันไม่ใช่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่งแต่เป็นสิ่งที่ควรทำร่วมกัน
ท่องไว้ค่ะว่าเขาคือคนรักไม่ใช่คนทำความสะอาด ดังนั้น คุณไม่ควรขอให้แฟนเป็นฝ่ายทำงานบ้านเพียงคนเดียว ทั้งผู้หญิงและผู้ชายเลยค่ะ
ไม่ว่าคุณจะเป็นเพศไหนก็ไม่ควรโยนภาระไปให้อีกฝ่าย แม้ว่าคุณจะไม่เก่งงานบ้านเอาเสียเลย แต่สิ่งเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่นล้างจานที่ตัวเองทานไว้หรือนำผ้าไปซักก็คงไม่ใช่เรื่องเหนือบ่ากว่าแรงใช่มั้ยล่ะคะ ยกเว้นเสียแต่ว่าคุณจะงานยุ่งเหลือเกินแล้วแฟนใช้เวลาอยู่ที่บ้านมากกว่า ในกรณีนี้ ก็ขึ้นอยู่กับคุณสองคนว่าจะตกลงเรื่องการทำความสะอาดยังไงดี
4. อย่าขอให้แฟนล้มเลิกความฝันของเขาซะ
หากจะพูดกันตามจริงแล้ว คนเราล้วนมีความฝันกันทั้งนั้น ฝันที่ว่าไม่ได้หมายถึงการเห็นภาพในเวลานอนหลับเพียงอย่างเดียว แต่หมายถึงความตั้งใจที่จะทำเป้าหมายที่มุ่งมั่นไว้ให้สำเร็จ แน่นอนค่ะว่าแฟนของคุณคงมีความฝันสักอย่างหนึ่ง เขาอาจจะอยากเป็นนักดนตรี เป็นนักธุรกิจอนาคตไกลหรือเปิดร้านกาแฟสักร้าน หน้าที่ของคุณคือให้กำลังใจเขา แม้ว่าคุณจะคิดว่าความฝันของแฟนจะเป็นไปได้ยากเสียเหลือเกิน แต่ถ้าความฝันของเขาไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็อย่าเพิ่งขอให้เขาล้มเลิกเลยนะคะ ขอให้เขาได้ลองพยายามอย่างสุดกำลังเสียก่อน และถ้าหากว่าฝันนั้นไม่อาจเป็นจริงได้ คุณก็จะเป็นยาปลอบใจขนานดีที่จะบรรเทาความเจ็บช้ำให้เขาค่ะ
และทั้งหมดนี้คือ
'4 สิ่งที่คนรักกันไม่ควรขอ'
นั่นเองค่ะ สังเกตได้ว่าข้อห้ามแต่ละข้อนั้นตั้งอยู่บนพื้นฐานของความให้เกียรติทั้งนั้นเลย เพราะความรักไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของความรู้สึกแต่เป็นเรื่องของสติด้วย ดังนั้น ก่อนที่จะพูดหรือทำอะไรก็ควรคิดถึงความรู้สึกของคนรักด้วยนะคะ ถ้าคุณให้เกียรติคนรักของคุณได้ รับรองเลยว่าชีวิตคู่ของคุณจะยืนยาวแน่นอน
