1. SistaCafe
  2. แต่งตัวตามหลักโหราศาสตร์ How to เพิ่มเสน่ห์เพื่อแรงดึงดูด สายมูต้องลอง!

แน่นอนว่าการรู้ Personal Color หรือ Under Tone ของตัวเองจะยิ่งช่วยทำให้การแต่งตัวได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เพราะเราจะรู้ได้เลยว่าสีแบบไหนนั้นเหมาะกับตัวเอง สีนั้นใส่แล้วทำให้ขับผิว ผิวดูผ่อง ดูกระจ่างใส แต่อีกสีที่ทำให้ผิวหมองคล้ำ ดูเหลือง ไม่สดใส เป็นต้น ดังนั้นเราก็จะสามารถเลือกหรือเลี่ยงสีนั้นๆ ได้ แต่ในหลักของการแต่งตัวตามหลักโหราศาสตร์นั้นจะมีข้อแตกต่างกันออกไปเล็กน้อยแต่มีความใกล้เคียงกับหลักการหาสีอย่าง Personal Color แต่การแต่งตัวตามหลักโหราศาสตร์นั้นเน้นสไตล์การแต่งตัวว่าเหมาะกับแต่งแบบไหน สีควรไปในทิศทางไหน ซึ่งโดยรวมคือการเลือกสีและสไตล์เพื่อการดึงดูดความมีเสน่ห์ตามหลักสายมูนั่นเอง ซึ่งเราจะสามารถรู้ถึงข้อมูลหรือหลักการหาว่าเราต้อง แต่งตัวตามหลักโหราศาสตร์ ยังไง ไปดูกันได้เลย!


✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿


12 กลุ่มดาวจักราศี

ในท้องฟ้านั้นมีดวงดาวหลากหลายล้านดวงเต็มท้องฟ้าไปหมด ถ้ามีการอ้างอิงจากแผนที่ดาวแล้วนั้น เราจะเจอกลุ่มดาวต่างๆ มากมายและยังเป็นกลุ่มดาวจากราศี (Zodiac) ที่เป็นอีกหนึ่งกลุ่มดาวที่เราจะได้เห็นกันบ่อยๆ แต่ไม่สามารถเห็นครบทุกเดือน เพราะว่ากลุ่มดาวนี้นั้นจะเป็นกลุ่มดาวที่ปรากฏแตกต่างกันตามช่วงเวลาหรือระยะเวลาของเดือน

  • Aries กลุ่มดาวแกะ (ราศีเมษ) 13 เม.ย. - 13 พ.ค.

เป็นกลุ่มดาวกลุ่มแรกในกลุ่มดาวจักรราศี นั่นก็คือกลุ่มดาวแกะตัวผู้ประจำราศีเมษ โดยจุดสังเกตของกลุ่มนี้คือมีดาวที่สว่างจ้าอยู่สามดวง และรูปร่างคล้ายสามเหลี่ยมมุมป้าน แต่กลุ่มดาวแกะจะมีให้เห็นชัดเจนและอยู่เหนือศรีษะในตอน 3 ทุ่ม ของวันที่ 10 ธันวาคมในทุกปี


  • Taurus กลุ่มดาววัว (ราศีพฤษภ) 14 พ.ค. - 12 มิ.ย.

กลุ่มดาววัวหรือดวงดาวประจำกลุ่มราศีพฤษภ ซึ่งคนไทยจะเห็นดาวกลุ่มนี้เป็นกลุ่มดาวธง แต่เจ้ากลุ่มดาวธงที่ว่าก็คือกลุ่มดาววัวนั่นเอง ขึ้นอยู่กับมุมมองที่เราเห็นว่าดูเหมือนธงแต่ก็อาจจะมีการมองแล้วคล้ายหน้าวัวได้ด้วยเช่นกัน


  • Gemini กลุ่มดาวคนคู่ (ราศีเมถุน) 14 มิ.ย. - 14 ก.ค.

กลุ่มดาวคนคู่ที่ประจำราศีเมถุนมักจะเห็นอยู่กลางท้องฟ้าเวลา 3 ทุ่ม ของวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ในทุกปี ซึ่งดาวกลุ่มนี้นั้นจุดสังเกตทคือจะมีดาวที่สว่างจ้า 2 ดวงใกล้กัน และจะอยู่ใกล้ๆ กับกลุ่มดาววัว โดยดาวสว่างจ้าทั้งสองดวงนั้นหรือที่เรารู้จักในชื่อของดาวฤกษ์ มีชื่อว่าพอลลักและแคสเตอร์ โดยที่คนโบราณทั่วไปจะมองเป็นคู่แฝด แต่ชาวอาหรับนั้นจะเห็นเป็นนกยูง 2 ตัว ชาวอียิปต์จะมองเป็นต้นไม้ใหญ่ 2 ต้น และชาวฮินดูจะมองเป็นเทพเจ้า 2 องค์ นั่นก็ขึ้นอยู่กับความเชื่อที่แตกต่างกันในแต่ละกลุ่มคน


  • Cancer กลุ่มดาวปู (ราศีกรกฏ) 15 ก.ค. - 16 ส.ค.

สำหรับกลุ่มดาวกลุ่มที่สี่นั้นมีชื่อกลุ่มดาวปูประจำราศีกรกฎ เป็นกลุ่มดาวที่หายากที่สุดในบรรดา 12 กลุ่มดาวจักรราศี โดยวิธีหากลุ่มดาวนี้จะต้องหากลุ่มดาวคนคู่และกลุ่มดาวสิงโตก่อน และเมื่อเจอทั้งสองกลุ่มดาวนั้นก็จะหากลุ่มดาวฤกษ์ที่เกาะกลุ่มกันแปดดวงที่ประกอบเป็นตัวปู ในความน่าสนใจของกลุ่มดาวปูคือจะเห็นกลุ่มดาวเดินหน้าและถอยหลังตามการเคลื่อนที่ของดวงอาทิตย์ หรือเรียกว่า Tropic of Cancer และจะเห็นกลุ่มดาวปูชัดเจนในช่วงวันที่ 22 มิถุนายนทุกปี โดยในวันนี้นั้นก็ยังเป็นวันที่มีกลางวันยาวกว่ากลางคืนอีกด้วย


  • Leo กลุ่มดาวสิงโต (ราศีสิงห์) 17 ส.ค. - 16 ก.ย.

กลุ่มดาวราศีสิงห์หรือกลุ่มดาวสิงโต เป็นหนึ่งในกลุ่มดาวที่หลายคนรู้จักและสะดุดตามากที่สุด เพราะดาวสิงโตนั้นเป็นกลุ่มดาวที่เก่าแก่ตามที่มีการบันทึกมา โดยที่กลุ่มดาวสิงโตนั้นจะเริ่มเห็นตั้งแต่ช่วงค่ำและจะอยู่เหนือหัวตอน 3 ทุ่ม ในวันที่ 10 พฤษภาของทุกปี ซึ่งความเชื่อของคนอียิปต์เชื่อว่านั่นคือ ตัวสฟิงส์ที่ส่วนหัวเป็นของหญิงพรหมจารีย์ (ราศีกันย์) ร่วมกับส่วนหัวของสิงโต (ราศีสิงห์)


  • Virgo กลุ่มดาวหญิงสาวพรหมจารี (ราศีกันย์) 17 ก.ย. - 16 ต.ค.

กลุ่มดาวหญิงพรหมจารีย์ หรือกลุ่มดาวราศีกันย์ เป็นกลุ่มดาวที่อยู่ระหว่างดาวสิงโตและกลุ่มคั่นชั่ง โดยที่กลุ่มดาวนี้นั้นจะมีดาวฤกษ์ที่ชื่อว่า สไปกา() แปลว่ารวงข้าว ซึ่งความสำคัญในวิชาดาราศาสตร์คือเป็นจุดตัดของเส้นศูนย์สูตรท้องฟ้า และเส้นอีคลิพดิคจุดที่ 2 ด้วย มักจะเห็นชัดในวันที่ 23 กันยายนในทุกปี และเวลากลางวันกับกลางคืนเท่ากัน


  • Libra กลุ่มดาวคันชั่ง (ราศีตุล) 17 ต.ค. - 15 พ.ย.

กลุ่มดาวราศีตุลหรือกลุ่มดาวคันชั่ง เป็นกลุ่มดาวที่มีรูปร่างคล้ายกับสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนอยู่ทางทิศตะวันตก(ด้านขวามือ) ของกลุ่มดาวแมงป่อง ซึ่งสมัยก่อนนักดาราศาสตร์ถือว่าการที่ดวงอาทิตย์โคจรเข้ามาอยู่ในกลุ่มดาวราศีตุล วันที่ 23 กันยายน จะเป็นวันที่กลางวันกับกลางคืนเท่ากัน หมายถึงความเสมอภาคแห่งท้องฟ้านั่นเอง

  • Scorpio กลุ่มดาวแมงป่อง (ราศีพิจิก) 16 พ.ย. - 15 ธ.ค.

กลุ่มดาวแมงป่องหรือกลุ่มราศีพิจิก เป็นกลุ่มดาวที่มีรูปร่างคล้ายชื่อที่ตั้งมากที่สุด เพราะการเรียงตัวมีรูปร่างคล้ายกับแมงป่องมีทั้งส่วนหัว หาง หรือแม้กระทั่งจงอยก็เหมือนกัน ซึ่งกลุ่มดาวนี้จะถูกยกให้เป็นกลุ่มดาวที่สวยที่สุดในบรรดากลุ่ม 12 ราศี ดาวฤกษ์ที่ชื่อว่า Antares ได้เป็นหัวใจสำคัญของกลุ่มดาวนี้ ซึ่งกลุ่มดาวแมงป่องจะขยับมาให้เห็นอยู่เหนือศีรษะเวลา 3 ทุ่ม ในวันที่ 20 กรกฎาคม ของทุกปี


  • Sagittarius กลุ่มดาวคนยิงธนู (ราศีธนู) 16 ธ.ค. - 13 ม.ค.

กลุ่มดาวประจำราศีธนูคือ กลุ่มดาวคนถือธนู กลุ่มดาวกลุ่มนี้นั้นอยู่ในแนวทางช้างเผือกโดยคนถือธนูนั้นได้ชื่อว่าเป็นกลุ่มดาวที่ผู้ฆ่ากลุ่มดาววัว เพราะเมื่อกลุ่มดาวคนถือธนูขึ้นกลุ่มดาวก็จะตก และเมื่อกลุ่มดาววัวขึ้นมา กลุ่มดาวคนถือธนูก็ตกลงไปสลับกันทุกที


  • Capricorn กลุ่มดาวมกร หรือแพะทะเล (ราศีมังกร) 14 ม.ค. - 12 ก.พ.

กลุ่มดาวในกลุ่มดาวจักรราศีกลุ่มที่ 10 คือกลุ่มดาวแพะทะเล ประจำราศีมังกร ซึ่งกลุ่มดาวนี้จะอยู่ตรงข้ามกับกลุ่มดาวราศีปู เป็นกลุ่มดาวที่ไม่มีดาวที่สว่างจ้าจึงสังเกตได้ง่าย แต่เมื่อรวมตัวกันแล้วจะเห็นเป็นรูปร่างคล้ายสามเหลี่ยมที่มีฐานโค้ง และจะเห็นอยู่เหนือศรีษะตอน 3 ทุ่ม ของวันที่ 20 กันยายน โดยกลุ่มดาวแพะทะเลนั้นเป็นกลุ่มดาวที่สำคัญและมีความสำคัญต่อนักดาราศาสตร์และนักภูมิศาสตร์มากเช่นกัน


  • Aquarius กลุ่มดาวคนแบกหม้อน้ำ (ราศีกุมภ์) 13 ก.พ. - 13 มี.ค.

กลุ่มดาวคนแบกหม้อน้ำ เป็นกลุ่มดาวประจำราศีกุมภ์ที่อยู่ถัดจากกลุ่มดาวแพะทะเลไปทางทิศตะวันออก (ขวามือ) โดยกลุ่มดาวนั้นจะประกอบไปด้วยดาวที่มีแสงน้อยประมาณ 13 ดวง และดวงอาทิตย์จะผ่านกลุ่มดาวในช่วงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 13 มีนาคม และจะอยู่บนท้องฟ้านานมากถึง 10 ชั่วโมง

  • Pisces กลุ่มดาวปลาคู่ (ราศีมีน) 14 มี.ค. - 12 เม.ย.

กลุ่มดาวปลา เป็นกลุ่มดาวสุดท้ายในกลุ่มดาวจักรราศี และอยู่ประจำราศีมีน เป็นกลุ่มดาวที่ค่อนข้างหาได้ยากและเป็นที่อ้างถึงในหมู่นักดาราศาสตร์ เพราะในวันที่ 21 มีนาคมเป็นวันที่ดวงอาทิตย์เคลื่อนที่เข้ามาในราศีนี้ แต่ในทางของโหราศาสตร์สากลถือว่าวันที่ 21 มีนาคม เป็นวันที่ดวงอาทิตย์เริ่มเข้าสู่ราศีเมษ แต่โดยจริงๆ แล้ววันที่ 21 เป็นวันที่ Ecliptic ตัดเก็บเส้นศูนย์สูตร ดวงอาทิตย์ก็จะเริ่มโคจรเข้ามาอยู่ในกลุ่มดาวคู่ตัวนี้ และค่อยๆ เคลื่อนที่ไปทางทิศตะวันออก และในวันที่ 21 มีนาคมก็จะถือว่าเป็นวันที่เริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิทำให้ช่วงเวลากลางวันและกลางคืนเท่ากันอีกด้วย


วิธีดูการแต่งตัวแบบโหราศาสตร์


Venus = Your Style

Mars = How You Deal with Problems


การดูหลักโหราศาสตร์ของสากลโดยเฉพาะเซ้นต์เรื่องการแต่งตัว จะดูที่ดาวศุกร์หรือ Venus เพราะในดาวศุกร์นั้นเป็นแหล่งรวมพลังงานทั้ง 5 ที่สามารถนำไปสื่อในเชิงของความสวยความงาม หรือเกี่ยวกับการค้นหา อีกทั้งดาว venus มักจะถูกพูดถึงในเรื่องของความสวยความงามเป็นหลักซึ่งจะแสดงในสิ่งที่เรามีออกมา และสามารถนำออกไปใช้ในชีวิตประจำวันของเราได้


ซึ่งเราสามารถเข้าไปตรวจดูได้ที่เว็บไซต์ https://cafeastrology.com

หรือต้องการคำอธิบายเพิ่มเติมสามารถดูได้จากคลิปไวรัลนี้ได้เลย

>> https://vt.tiktok.com/ZS2BKY8NP/ <<


✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿


แต่งตัวตามโหราศาสตร์


Venus in Aries

Bold fashion

Sporty chic

Statement Outfit


Venus in Taurus

Luxury Fashion

Sensual Style

Earthy Chic


Venus in Gemini

Eclectic Fashion

Playful Style

Versatile


Venus in Cancer

Feminine Fashion

Vintage Style

Soft Pastels


Venus in Leo

Dramatic Fashion

Glamorous Style

Bold Outfits


Venus in Virgo

Sophisticated Fashion

Classic Style

Clean Lines


Venus in Libra

Romantic Fashion

Soft Hues

Flowy Dresses


Venus in Scorpio

Sensual Fashion

Dark Glamour

Edgy Outfits


Venus in Sagittarius

Bohemian Fashion

Adventurous Style

Bold Prints


Venus in Capricorn

Sophisticated Fashion

Timeless Style

Structured Outfits


Venus in Aquarius


Avant-Garde

Quirky Style

Futuristic Outfit


Venus in Pisces

Dreamy Fashion

Ethereal Style

Soft Pastels


✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿


สรุป

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ หลายคนอาจจะตรงกับสไตล์ที่เรากำลังแต่งกันอยู่ ซึ่งการใช้ศาสตร์การแต่งตัวตามโหราศาสตร์ตะวันตกก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้สาวๆ หาสไตล์ที่เข้ากับตัวเองดู เพราะตามหลักของโหราศาสตร์คือการดูที่ดาว Venus ซึ่งดาววีนัสหรือดาวศุกร์นี้เป็นอีกตัวแปรหนึ่งที่มักจะพูดถึงเรื่องความสวยความงาม และการดึงสิ่งที่เรามีออกมาใช้ ใครที่รู้สึกว่าอยากลองแต่งก็สามารถหาสไตล์เพิ่มจากที่ยกตัวอย่างมาได้ บอกเลยว่านี่เป็นเพียงการแต่งตัวส่วนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งใครที่รู้สึกว่าไม่ชอบและไม่ใช่ตัวเองก็สามารถไม่เลือกแต่งตามได้ เพราะไม่ใช่สิ่งที่ผิดอะไร การแต่งตัวคือการขึ้นอยู่กับความมั่นใจของผู้ใส่เสียส่วนใหญ่ ใครชอบแบบไหนแล้วรู้สึกเป็นตัวเองมากกว่าก็สามารถเลือกแต่งแบบนั้นได้ สุดท้ายคืออย่างที่ว่าเป็นเพียงศาสตร์ทางเลือกให้กับสาวๆ ที่เป็นความเชื่อว่าแต่งแบบนี้แล้วจะดึงดูดเสน่ห์ หรือความน่าสนใจเท่านั้นเอง


ขอขอบคุณรูปภาพประกอบจาก : Pinterest






บทความอื่นๆ ที่แนะนำ






เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้