สวัสดีจ้ะเพื่อนๆ ถ้าให้ขวัญพูดถึงคาเฟ่สัตว์เลี้ยงจริงๆ ในบ้านเราตอนนี้ก็มีเยอะขึ้นทุกวันเลยเนอะ หลายๆ ที่ก็ถูกใจบ้าง ผิดหวังบ้าง ( ก็แหม.. บางที่ก็หวงน้องๆ เหลือเกิน จะจับจะกอดทีก็แทบกระดิกตัวไม่ได้เลย แถมอาหารก็งั้นๆ จะไม่ให้เฟลได้ไงอ่ะ )
แต่ๆๆๆๆๆๆ!!! วันนี้ขวัญขอพาเพื่อนๆ ไปเจอกับคาเฟ่น้องหมาแห่งหนึ่ง ไปไม่ยาก ไปไม่ไกล อยู่ใจกลางเมืองนี่เอง แถมที่สำคัญขวัญขอคอนเฟิร์มความฟินในการเล่นกับน้องหมา เพราะเค้าไม่มีกั๊ก ไม่มีหวง แถมพนักงานน่ารักมากๆ เอาใจใส่และเป็นมิตรกับเรามากๆ
ตามขวัญมาเที่ยวด้วยกันเลย กับที่นี่ " Dog in Town - Dog Lovers' Cafe & Dog Hotel " ณ ใจกลางเมืองที่เอกมัยซอย 6 นี่เองค่า

มุมบาร์สำหรับสั่งอาหารและชมสินค้าต่างๆ ใครสนใจเมนูไหนก็พุ่งตัวไปหาพี่เค้าได้เลย
น้องหมาที่นี่มีหลากหลายสายพันธุ์มากเลยล่ะ ส่วนใหญ่เป็นพันธุ์ต่างประเทศที่เราไม่ค่อยจะได้เห็นกันบ่อยๆ ตอนที่ได้เห็นน้องๆ วิ่งออกมาจากในร้านเล่นเอาพวกเราตื่นเต้นไปตามๆ กันเลยล่ะค่ะ เพราะน้องๆ น่ารักมากกกกกกก~ พันธุ์ที่ตัวใหญ่ก็ตัวใหญ่ขนฟูน่ากอด ส่วนน้องๆ ที่ไซส์เล็กลงมาหน่อยก็ขี้เล่นมากๆ เลยล่ะค่ะ
หลังจากที่ได้เข้าไปทำความรู้จักแล้ว ถึงรู้ว่าน้องๆ เค้ามีชื่อเล่นที่เก๋ไก๋สไลเดอร์สุดๆ เลยเธ้อ! เพราะแต่ละตัวมีชื่อเหมือนสถานีรถไฟฟ้าค่ะ ไม่ว่าจะเป็น อโศก เพลินจิต ชิดลม นานา ปุณณวิถี อารีย์ สุรศักดิ์ แบริ่งและพร้อมพงศ์ อื้อหือ.. แต่ละตัว! พอจำชื่อแต่ละตัวได้ปุ๊บ ก็ท่องชื่อสถานีบีทีเอสได้ครบพอดี เง้อออ~

หนุ่มหล่อตัวแรกของบ้าน " ชิดลม "

คอร์กี้น้อยแต่ตัวก็ไม่น้อยเท่าไหร่แล้ว ตุ้ยนุ้ยน่ารักสุดๆ " พร้อมพงษ์ " จ้า

น้องน้อยแต่ตัวไม่น้อย จะตามพี่ๆ ทันละจ้า " แบริ่ง "

นอนสวยๆ สง่าๆ อยู่ตรงนี้แบบอินดี้ ก็ " อารีย์ " นี่แหละค่ะ

ดูท่าทางจะมีใครมาทานขนมล่อหน้าล่อตา " นานา " อยู่แน่ๆ .. จ้องตาไม่กระพริบเลย

หนู " เพลินจิต " ลูกขาาา~ ตื่นมาเล่นด้วยกันก๊อนนน~!!

น้องขนฟูตัวขาวจั๊วะนี้ชื่อ " อโศก " จ้า

จริงๆ อายุก็ยังไม่มาก แต่เห็นขนสีเทาๆ แล้วก็อดเรียก คุณลุง "สุรศักดิ์ " ไม่ได้ค่ะ ฮ่าๆๆ
คาเฟ่ Dog in Town แห่งนี้เปิดมาประมาณหนึ่งปีได้แล้วค่ะ ที่นี่นอกจากจะเปิดบริการเป็นคาเฟ่ที่ให้ทุกคนได้ไปฟินกับน้องหมาสุดน่ารักแล้ว เค้าก็มีบริการในส่วนของโรงแรมน้องหมาด้วยล่ะ ใครที่จะไม่อยู่บ้านต้องไปต่างจังหวัดหรือต่างประเทศก็สามารถพาน้องหมาที่รักมาฝากที่นี่ก็ได้นะ ( ราคาคืนละ 450 บาทเท่าน้านน ) แต่อย่าลืมนำอาหารของตัวเองมาด้วยนะจ๊ะ
ภายในร้านมีการตกแต่งสไตล์ลอฟต์โทนสีเทาดำแบบเก๋ไก๋ ในส่วนของด้านหน้าร้านมีที่นั่งที่เป็นบาร์ให้มองออกไปสนามด้านนอก ถัดมาอีกฟากของร้านมีที่นั่งที่ยกจากพื้นพร้อมโต๊ะญี่ปุ่นเรียงกันให้เลือกนั่ง ตรงนี้สามารถทานอาหารไป นั่งห้อยขาเล่นกับน้องหมาได้ด้วย

ตกแต่งสไตล์ลอฟต์ แบบปูนเปลือย มีคำพูดเก๋ๆ ของคนดังเกี่ยวกับน้องหมาบนกำแพง

มุมด้านหน้าร้านเป็นบาร์ให้ลูกค้าได้นั่งมองออกไปสนามหญ้าหน้าร้าน

ก่อนจะเล่นกับน้องๆ อย่าลืมทำความสะอาดมือของเราด้วยเจลแอลกอฮอล์ก่อนด้วยนะจ๊ะ

ถัดมาอีกฝั่งหนึ่งเป็นโต๊ะเตี้ยเรียงยาวเผื่อลูกค้าที่นั่งสไตล์ชิลล์ๆ นั่งแถวนี้น้องๆ เค้ามาจอยได้ เล่นกันสนุกเลยล่ะ

การตกแต่งบนเพดานร้านก็ใช้ลูกเล่นหลอดไฟหลายๆ สไตล์ เก๋ไก๋ ดูเพลินเลยค่ะ

มุมด้านในสุดของร้านก็มีโซนที่เป็นโซฟา สามารถนั่งกันได้หลายๆ คนเลยค่ะ
ในส่วนเมนูก็มีให้เลือกค่อนข้างหลากหลายเลยทีเดียว เราว่าที่นี่ต่างจากคาเฟ่อื่นๆ ตรงที่ที่อื่นจะเน้นของหวาน ขนม น้ำ แต่ที่นี่เค้ามาสายอาหารหนักเลย แถมเมนูแต่ละอย่างเห็นแล้วก็พาลน้ำลายไหลสุดๆ โดยวันนี้ที่เราสั่งมาคือ Spaghetti Tom Yam Cream Seafood, Taro Cheese Burger, Milk Cake, Choco Banana, Blue Lemon Strawberry Jelly Soda

มาแล้วกับเมนูแรก พี่เค้าบอกเลยว่าใครมาก็ต้องสั่ง กับ Spaghetti Tom Yam Cream Seafood ( 215 บาท )

ลองทานกันเลย เส้นสปาเก็ตตี้เค้านุ่มกำลังดี ซอสกลมกล่อมเข้ากันกับอาหารทะเล จานนี้ให้คะแนนเต็มเลยค่ะ

อีกเมนูหนึ่งที่ดีงามไม่แพ้กันนั่นก็คือ Taro Cheese Burger ( 275 บาท ) ขนมปังเผือกกับเนื้อเบอร์เกอร์หนานุ่มที่สาวๆ สามารถเลือกได้ว่าจะสั่งเป็นหมูหรือเนื้อ เสิร์ฟพร้อมเฟรนช์ฟรายส์โรยผงปาปริก้า ฟินสุด!
ที่นี่ไม่รับจองโต๊ะนะจ๊ะ เพราะจะมีลูกค้าแวะเวียนเข้ามาที่ร้านทั้งวันเลยล่ะ ไม่ว่าจะเป็นช่วงบ่ายหรือช่วงเย็น วันหยุดหรือวันธรรมดา เรียกว่าฮอตฮิตมากเลยล่ะเธอ นอกจากนี้เค้าไม่ได้จำกัดเวลาการนั่งด้วย เพราะฉะนั้นใครมาก่อนก็ได้เลือกโต๊ะก่อน ได้เล่นกับน้องหมาก่อนนะจ๊ะ อิอิ
อ้อ! แต่ทางร้านขอความร่วมมือนิดดดดดนึงนะจ๊ะ นั่นก็คือหากมาเล่นกับน้องๆ ที่ร้าน จะนั่งนานเท่าไหร่ก็ได้ แต่รบกวนสั่งอาหารอย่างน้อยคนละ 1 รายการด้วยน้า ( ไม่รวมน้ำเปล่านะจ๊ะ ) จะได้เล่นกับน้องๆ ไปแล้วไม่หิวกิ่วไปนะ เอาจริงๆ ว่าเท่าที่เรากวาดสายตาดูเมนูแต่ละอย่างแล้วเนี่ย สั่งคนละรายการเดียวน่าจะไม่พอด้วยซ้ำไป! ><

จากที่เดินไปดูหน้าตู้เค้กมา ที่นี่ไม่ค่อยเน้นของหวานเท่าไหร่นะคะ แต่อันนี้ดูดีน่าโดนเลยสั่งมาสักหน่อย กับเมนู Milk Cake ( 135 บาท ) นั่นเอง

เนื้อเค้กเนียนละมุน หอมกลิ่นนมและช็อกโกแลตมากๆ ค่ะ

ของคาว ของหวาน ก็ล้วนดีงาม มาถึงตาเครื่องดื่มกันบ้าง บ่ายๆ ร้อนๆ แบบนี้ขอจัด Blue Lemon Strawberry Jelly Soda ( 115 บาท ) กับ Choco Banana ( 155 บาท ) เย็นฉ่ำให้ชื่นใจซะหน่อย
ร้านเปิดตั้งแต่ 11.00 - 20.00 น. แต่เสาร์อาทิตย์จะปิด 21.00 น. ให้ได้นั่งกันยาวๆ เพลินๆ ไปอีก และที่ร้านจะปิดทุกวันอังคารที่ 3 ของเดือน เอาเป็นว่าถ้าใครจะไปก็ขอให้เช็ควันดูดีๆ จะได้ไม่ไปเสียเที่ยวนะ

ขอถ่ายรูปด้วยหน่อยนะพี่เพลินจิต~~

เห็นเรามีขนมแล้วรุมเรากันใหญ่เลยเจ้าพวกนี้

พร้อมพงษ์ยังไม่อิ่มอีกหรอ?? กินไปเยอะแล้วนะเราอ่ะ

งูยยยย.. นอนเล่นกับอารีย์ดีกว่า~~ แลดูสบายจังเลย!

นานา : เมื่อไหร่จะได้ออกไปวิ่งเล่นข้างนอกกันนะ ชิดลม ชิดลม : นั่นสิ รอไปก่อนนะนาย

อยากได้บอลมั้ยพี่ชิดดด มาๆ ขอมือก่อนๆ!
แอบกระซิบบอกกฎในการเล่นกับน้องๆ เค้านิดนึงละกันเนาะ อย่างแรกก็คือ อย่านำอาหารของเราให้น้องหมาทานเด็ดขาดเลย เพราะอาหารคนย่อมไม่เหมาะกับท้องไส้ของน้องๆ เค้าอยู่แล้ว ต่อให้เค้าอ้อนขนาดไหนก็ห้ามใจอ่อนนะคะ! >< ถ้าอยากให้อาหารจริงๆ ทางร้านมีบริการอาหารสุนัขให้ป้อนเล่นกับน้องได้นะ
ต่อมาคือ ห้ามเพื่อนๆ อุ้มน้องหมาขณะยืนอยู่ นั่นเองค่ะ ที่ห้ามนี่ไม่ได้เพราะหวงไม่อยากให้เล่นกับเค้านะ แต่หลายๆ คนยืนอุ้มแล้วไม่สามารถรับน้ำหนักตัวของน้องๆ ไหว หรือบางทีน้องหมาเค้าไม่ชินก็จะดิ้นๆๆ ตกลงมาได้ ที่ห้ามก็เพื่อป้องกันไม่ให้น้องหมาบาดเจ็บนั่นเองจ้า
และสุดท้ายก็คือ ห้ามน้ำสัตว์เลี้ยงที่บ้านมาที่ร้าน จ้ะ จริงๆ แล้วแต่ก่อนทางร้านอนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงมาเล่นที่ร้านได้ แต่หลังๆ มานี้น้องๆ เริ่มโตขึ้นมาก ไม่ใช่น้องหมาตัวเล็กๆ เหมือนแต่ก่อนแล้ว เริ่มหวงเจ้าของเริ่มหวงที่ ถ้ามีสัตว์แปลกปลอมเข้ามาก็จะกัดกันได้ สรุปคือไม่เอามาเลยจะดีกว่าจ้า ^^
เอาเป็นว่าถ้าพี่ๆ ที่ร้านบอกหรือแนะนำอะไรก็อย่าเพิ่งโกรธไปละกันเนาะ น้องๆ ที่ร้านก็เหมือนคนในครอบครัวคนหนึ่งนั่นเอง เล่นกับเค้าอย่างทะนุถนอมและความรัก จะได้มีน้องหมาน่ารักๆ ไว้เล่นด้วยกันไปนานๆ นะคะ ♥

เป็นไงพี่แบริ่ง อยากมาวิ่งข้างนอก ร้อนแล้วใช่มั้ยล่า

ขอถ่ายรูปกับนานาหน่อยน้าาา

จุ๊บด้วยๆๆ #นานานี่ร้ายนักนะ ขโมยจุ๊บเราด้วย!
การเดินทางไป Dog in Town คาเฟ่นี่ไปไม่ยากเลยค่ะ ถ้าเพื่อนๆ เอารถส่วนตัวไปก็วิ่งเส้นเอกมัยจนถึงซอย 6 ( ซอยข้างบิ๊กซีเอกมัย ) ตรงไปเกือบสุดซอยจะเห็นป้ายร้านให้เลี้ยวขวาตรงไปเลย ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือจ้ะ แต่เอาจริงๆ เราแนะนำให้ไปโดยบีทีเอสแล้วไปลงสถานีเอกมัยจากนั้นต่อพี่วินมาก็สะดวกดีนะคะ เพราะที่จอดรถบริเวณร้านไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ อาจจะต้องมีการแย่งชิงและใช้เทคนิคการจอดขั้นสูงนิดนึง ฮ่าๆๆ
ใครต้องการแผนที่ Google Map เพื่อไปร้านก็ตามลิงก์นี้ไปเลย! : https://goo.gl/maps/eEc1f4cdzCk

เรียกได้ว่าวันนี้ฟินแรงค่ะทุกคน! อาหารอร่อย แถมน้องๆ ก็น่ารักทุกตัว กอดเพลินไปเลย! ใครที่เป็นแฟนคลับน้องหมา อยากจะกอด อยากจะหอม หรือพักผ่อนกับเพื่อนๆ หรือคนรู้ใจฟินๆ ก็ลองไปกันดูที่ Dog in Town Cafe เอกมัยซอย 6 นะคะ รีบไปด้วยล่ะ ไม่งั้นถ้าร้านเต็มล่ะก็อดเล่นกับน้องๆ แน่ๆ เลย วันนี้ขวัญลาไปก่อนนะคะ บ๊าย บาย~~
Comments