สวัสดีค่าเพื่อนๆ SistaCafe ที่น่ารักทุกคนน ♥
วันนี้เราได้มีโอกาสไปทำผมสีใหม่ที่ Schwarzkopf มาค่ะ นั่นคือสี ' Ash Grey Ombre ' นั่นเองงง เป็นสีที่เราใฝ่ฝันมานานมากๆ ค่ะ เพราะไม่เคยทำได้ซะที 555 เชื่อว่าคงมีเพื่อนๆ หลายคนเล็งไว้ว่าอยากทำผมสีนี้สักครั้ง วันนี้เราจึงจะมาบอกเคล็ดลับตั้งแต่ต้นยันจบของการทำสีผมนี้เลยค่ะ ว่าพื้นสีผมแบบไหนทำแล้วถึงจะสวย ควรฟอกสีผมกี่รอบ หรือหลังทำผมสีแล้วจะดูแลยังไงบ้างที่จะให้สีผมติดทนนาน งั้นเราไปดูกันเลยค่าา ^___^
ก่อนทำสีผมควรมีพื้นสีผมแบบไหน?
เพื่อนๆ คงคิดใช่มั้ยคะ ว่ายิ่งเราย้อมสีผมอ่อนเท่าไหร่ ก็จะฟอกสีผมง่ายขึ้นเท่านั้น แต่นั่นเป็นความคิดที่ผิดเลยค่ะ ( อ้าว นี่เราเข้าใจผิดมาตลอดเหรอเนี่ย T^T!! ) สีผมที่เหมาะในการฟอกสีผมที่สุดคือสีผมดำตามธรรมชาติของเรานั่นเองค่ะ แม้หากเรามีสีผมดำธรรมชาติ จะเข้มแค่ไหนก็ถือว่าเป็นพื้นสีผมที่เหมาะแก่การฟอกสีผม เพราะถ้าหากเราย้อมสีผมสีอื่นไปแล้ว แม้จะเป็นสีน้ำตาลอ่อน มันจะเหมือนมีเลเยอร์ของสีทับสีผมจริงเราไว้ ทำให้เวลาฟอกสีผมแล้วอาจจะไม่ได้สีผมตามที่ต้องการได้ค่ะ
ยิ่งใครย้อมสีผมเอง หรือใช้น้ำยาย้อมผมที่ไม่ได้คุณภาพ พอฟอกสีผมจะเห็นได้ชัดเลยค่ะว่าสีผมไม่เท่ากัน ทำให้ยากต่อการย้อมสีผมในขั้นตอนถัดไปค่ะ หากใครอยากย้อมสีผมชัดๆ สวยๆ สีสม่ำเสมอก็แนะนำว่าต้องเป็นสีผมธรรมชาตินะคะ ^^

Before: ย้อมสีผมสีน้ำตาลเอง มีผมดำงอกออกมาเล็กน้อย
After: ฟอกสีผม 3 รอบ และย้อมผมสีเทา ( +แม่สีน้ำเงิน ) 1 รอบ
After นี่จะสังเกดได้เลยค่ะว่าปลายผมของเราสีไม่เท่ากัน เนื่องจากพื้นสีผมก่อนย้อมสีของเราเป็นสีน้ำตาลที่ย้อมเองค่ะ ฮือออ พลาดมาก ไว้ทำผมคราวหน้าไม่พลาดแน่นอนค่ะ
Step 1 : เริ่มต้นด้วยการฟอกสีผมให้อ่อน
และอีกหนึ่งฮีโร่ของเราในวันนี้คือ Fibreplex ของ Schwarzkopf ค่ะ เพราะมันคือสารบำรุงที่ใส่ไว้ตั้งแต่การฟอกสีผมเลย สิ่งนี้เองที่ช่วยบำรุงให้ผมของสาวๆ เสียน้อยลงค่ะ ดีต่อใจมว๊ากก ♥
ช่างทำผมแปะแผ่นฟอยล์ไว้เพื่อช่วยกระตุ้นให้เกิดความร้อนและช่วยให้น้ำยาฟอกสีผมทำงานได้เร็วขึ้นค่ะ เราฟอกสีผมทั้งหมด 3 รอบ รอบละ 30-40 นาทีก่อนล้างออกค่า
ผ่านการฟอกสีผมไป 3 รอบ สีผมอ่อนลงมากเลย
ล้างน้ำยาฟอกผมออกให้เรียบร้อยก่อนเข้าสู่ขั้นตอนถัดไปค่า
Step 2 : ย้อมสีผมเทา
ผสมสีเตรียมย้อมสีผมแล้วค่า
แหม่ เห็นเส้นผมตัวเองแล้วแอบหิวมาม่าเลย 555
ย้อมทีละปอยผมนะคะ ปอยผมที่ยังไม่ได้ย้อม ก็ใช้กิ๊บหนีบไว้ก่อน
นวดๆ ให้สีเกาะติดเส้นผมดียิ่งขึ้น
หลังจากทาทั่วหัวแล้วก็จะรอประมาณ 30 นาทีค่า
พอครบเวลา ช่างก็จะสระผมและใส่ครีมนวดบำรุงผมค่ะ //ขั้นตอนนี้แลดูผมดำธรรมชาติมากเลยค่ะ 555
Step 3 : ไดร์ & เซ็ตผม
ว้าวๆ สีผมเริ่มมาแล้ว
หลังไดร์ผมก็เซ็ตผมอีกสักเล็กน้อย
Finish Look!!
เสร็จเรียบร้อยแล้วค่าา สีผมใหม่ของเราา
หลายคนอาจจะรู้สึกว่าสีผมของเราออกไปทางสีน้ำเงินนั้น เนื่องจากโทนสีเทาจะเป็นโทนสีที่หลุดง่ายมากๆ ช่างจึงย้อมผมเป็นสีเทาน้ำเงินเข้มให้เรา เพื่อเวลาที่เราสระผมไปเรื่อยๆ พอเวลาผ่านไป เราก็จะได้สีเทาที่สวยพอดีนั่นเองค่ะ ^^
วิธีการดูแลผมทำสี
เพื่อการรักษาดูแลสีผมของเราให้สวยสุขภาพดี สีติดผมเราไปนานๆ เรามาดูเคล็ดลับการดูแลผมดังนี้เลยนะคะ
1.) ใข้ผลิตภัณฑ์สำหรับผมทำสีโดยเฉพาะ เช่น Color Freeze ของ Schwarzkopf ที่มีแชมพูสำหรับคนทำผมสีเทาโดยเฉพาะ โดยแชมพูจะเป็นเนื้อสีฟ้า ทำให้สีผมของเราติดทนอยู่ได้นานขึ้น แถมกลิ่นหอมมากๆ เลยค่ะ
2.) ไม่ควรสระผมทุกวัน ควรสระผมสัก 2 วันครั้ง หรือวันเว้นวันค่ะ หากไม่ไหวจริงๆ ( เข้าใจสภาพอากาศเมืองไทย 555 ) หากเหนียวหัวจนทนไม่ไหว แนะนำให้ทำความสะอาดด้วยทิชชู่เปียกแบบไร้น้ำหอมและแอลกอฮอล์ หรือล้างด้วยน้ำเย็นหรืออุณหภูมิห้องไปก่อนนะคะ
3.) ไม่สระผมทั้งหัว ให้สระผมแค่หนังศีรษะ ส่วนปลายผมให้ทาครีมนวดเคลือบสีผมไว้เลยค่ะ ครีมนวดจะช่วยปิดเกล็ดผม ไม่ให้แชมพูมาชำระล้างสีออกไป
4.) หลีกเลี่ยงความร้อนของไดร์เป่าผมและเครื่องหนีบผม เนื่องจากความร้อนจะทำให้ผมของเราเสียและสีผมหลุดเร็วมากขึ้นค่ะ ซึ่งอุณหภูมิที่พอเหมาะคือ 160-180 องศานะคะ
สำหรับวันนี้ต้องขอขอบคุณ Schwarzkopf มากๆ สำหรับสีผมสวยๆ ความรู้ต่างๆ ที่ได้รับในวันนี้ และการต้อนรับอย่างดี และขอบคุณ SistaCafe มากๆ ที่ทำให้ได้มีโอกาสได้ไปทำผมสวยๆ นะคะ
สำหรับเพื่อนๆ คนไหนมีแพลนอยากทำสีผม อยากเปลี่ยนลุค ก็ห้ามพลาดสีผม ' Ash Grey Ombre ' เลยนะคะ บอกเลยค่ะว่าปีนี้โทนสีเทามาแรงจริงๆ แถมทำแล้วสวยชิคมากๆ เลยค่าา
ขอบคุณทุกๆ ท่านที่ติดตามอ่านกันจนจบนะคะ ไว้พบกันใหม่ในบทความหน้านะคะ บ๊ายบายค่าา ^___^// ♥
Comments