เลิกพึ่งคลินิกรักษาสิว...ดูแลผิวหน้าให้ปังด้วย สกินแคร์เวชสำอาง ที่เห็นผลลัพธ์จนร้องว้าว!

สวัสดีค่ะ มาเล่าถึงปัญหาผิวหน้าเราก่อน คือเราเป็นคนหน้ามัน รูขุมขนกว้างมาก มีปัญหาสิวอุดตัน และสิวอักเสบขึ้นอยู่บ่อยๆ เคยไปคลินิกรักษาสิวที่ดังๆ หลายที่ หมดเงินไปเยอะมากแต่ก็ยอมรับว่าช่วงที่ไปหน้าดีขึ้นเยอะ แต่พอหยุดไปคลินิก สิวก็กลับมาพรึ่บพรั่บ จนได้ลองเปลี่ยนมาใช้สกินแคร์ที่เป็นเวชสำอางแทน เป็นยังไงไปดูกันค่ะ!!

จุดเปลี่ยนคือพี่คนสนิทเขาทำงานด้านสกินแคร์ แนะนำว่าให้เราลองเปลี่ยนมาใช้ครีมที่เป็นเวชสำอางดู เพราะพวกนี้ไม่มีสเตียรอยด์เหมือนยาตามคลินิกบางที่ มันอาจจะไม่สามารถหยุดสิวได้ในทันที แต่ในระยะยาวแล้วเป็นผลดีมากกว่า เสียเงินน้อยกว่าเวลาไปคลินิกด้วย

ก็เลยตัดสินใจลองเปลี่ยนมาใช้พวกเวชสำอางรักษาสิวที่มีวางขายทั่วไปตามเคาน์เตอร์แบรนด์ดูค่ะ ทดลองอยูู่หลายแบรนด์มากอย่างยูเซอรีนก็เคยใช้ได้ผลค่อนข้างดีพอสมควร คือสิวลดน้อยลง แต่ก็ยังไม่ได้ถึงกับหายไปจนรู้สึกว้าวเท่าไหร่จนในที่สุดเราก็ได้พบกับชุดปราบสิวที่เหมาะกับผิวเราจริงๆ สักที บอกเลยค่ะว่า มันเริ่ด!!

อ่ะ ไปดูสภาพหน้าสดที่พังๆ กันก่อนค่ะ ว่าหยุดไปคลินิกรักษาสิวแล้วเป็นยังไง

1 .คลีนซิ่งของ Cetaphil

ใช้เพราะคุณหมอผิวหนังแนะนำให้ใช้ใช้แล้วก็รู้สึกว่าอ่อนโยนต่อผิวดี ล้างแล้วผิวไม่แห้งตึงแต่บางคนอาจจะไม่ชอบที่มันล้างแล้วเหมือนล้างไม่ออก เพราะมันจะมีความลื่นๆ ค้างอยู่ที่ผิว ซึ่งส่วนตัวเราชอบนะเพราะรู้สึกว่าผิวไม่สูญเสียน้ำ แต่บางคนจะติดว่าล้างหน้าแล้วต้องถูผิวแล้วดังเอี๊ยดอ๊าดเพราะคิดว่าสะอาดดี 5555

2 .Clinda M แต้มสิว

อันนี้เภสัชกรที่ร้านขายยาแนะนำมา บอกว่าเหมาะสำหรับสิวอักเสบ ส่วนตัวใช้ทาสิวอักเสบ และสิวอุดตันที่เราบีบออกแล้ว ถ้าแต้มสิวอักเสบทั่วไปก็ไม่รู้สึกอะไรนะ แต่ถ้าแต้มสิวที่ถูกบีบแล้วนี่บอกเลยว่าแสบปรี๊ดมากกกกก  แต่ต้องทนเพื่อความสวย 555

ตัวนี้จะมีฤทธิ์ช่วยฆ่าเชื้อ และช่วยรักษาสิวได้ดีจริงๆ ค่ะ ที่สำคัญราคาถูกมากกกกก

...

ดีต่อใจ

3. SHO-Mineral White complex Serum

ตัวนี้คนรู้จักแนะนำมาบอกว่าเป็นเวชสำอางที่คนผิวแพ้ง่ายใช้ได้ ครั้งแรกที่ใช้รู้สึกได้ถึงความบางเบา เกลี่ยง่าย ซึมเร็ว แต่ก็ยังไม่ค่อยมั่นใจว่ารูขุมขนจะกระชับขึ้นได้จริงอย่างที่เคลมรึเปล่า เพราะก็เคยลองมาหลายแบรนด์ ส่วนตัวก็ยังไม่เคยใช้ผลิตภัณฑ์ยี่ห้อไหนที่เห็นผลเรื่องนี้ชัดเจน

หลังใช้มาได้ 1 เดือน ประทับใจมากกกก คือส่องกระจกแล้วเห็นว่าเห้ย!!รูขุมขนกระชับขึ้นสิวอักเสบที่ปกติจะขึ้นเป็นเม็ดใหญ่ๆ มันขึ้นเป็นเม็ดที่มีขนาดเล็กลงแต่ก็ยังไม่ถึงกับสิวหายอะไรขนาดนั้น อีกเรื่องที่เห็นผลคือ ผิวกระจ่างใสขึ้น คือมันไม่ได้ขาวนะ แต่รู้สึกได้ว่าหน้าไบรท์ขึ้น ไม่หมองคล้ำหมือนปกติแต่เรื่องริ้วรอยยังไม่ค่อยเห็นผล หลังจากที่ดี และไม่แพ้ ก็เลยใช้อย่างต่อเนื่องอีกหลายขวดเลย

ผลลัพธ์ที่ได้คือรูขุมขนเล็กลงจริงๆ หน้ามันน้อยลง แต่ในขณะเดียวกันหน้าก็ไม่แห้งเหมือนไวท์เทนนิ่งยี่ห้ออื่นๆ ที่เคยใช้มาคือปกติเวลาใช้ไวท์เทนนิ่งทั่วไปก็ต้องทาควบคู่กับมอยส์เจอไรเซอร์ ด้วยเพื่อไม่ให้ผิวแห้ง แต่ SHO นี่ไม่ต้องเลย ตัวเดียวจบ เพราะนางให้ความชุ่มชื้นด้วยในตัวเดียวเลย ชอบตรงเน้!! เหมาะกับคนขี้เกียจๆ อย่างเราที่ไม่ชอบมาใช้อะไรหลายขั้นตอนให้ยุ่งยาก เป็นสิวอักเสบน้อยลง

อย่างก่อนหน้านี้เวลาเป็นประจำเดือน สิวอักเสบมาทีเป็น สิบๆเ ม็ด ช่วงนี้อย่างมากก็ไม่เกิน 5 เม็ด ซึ่งก็ถือว่าดีขึ้นระดับนึงเลย คนเป็นสิวเหมือนกันน่าจะเข้าใจ ว่าแค่จำนวนที่มันลดลดแม้เล็กน้อยก็สร้างความ Happy ให้มนุษย์สิวอย่างเราได้มากขนาดไหน 5555

4. แป้งศรีจันทร์

ตัวที่ใช้คือ ตลับฝาสีฟ้า จริงๆ ตัวนี้จะใช้ได้ 2 แบบ คือทาบนผิวเหมือนแป้งทั่วไป หรือจะผสมน้ำแล้วทาก็ได้ แต่ส่วนตัวจะทาแบบไม่ผสมน้ำ เพราะขี้เกียจ 555

ปกติจะใช้ทาแทนแป้งฝุ่นในตอนกลางวัน พราะช่วยควบคุมความมันได้ดีและตอนกลางคืนจะชอบใช้แต้มตามหัวสิวอักเสบ หรือสิวที่หัวหลุดออกใหม่ๆ ชอบมากเวลาที่ทาไว้ตรงสิวหลังกดหัวสิวออก คือตื่นมาตอนเช้าแผลจะแห้งดีมาก ยิ่งใช้คู่กับ Clinda M ยิ่งช่วยให้สิวยุบได้เร็วขึ้น เป็นแป้งที่คุ้มค่าราคาไม่แพง

เอาจริงๆ ก็อาจจะคล้ายๆ กับผงพิเศษที่ทุกคนรู้จักกันดี แต่ส่วนตัวชอบอันนี้มากกว่า เพราะเคยใช้ผงพิเศษแล้วตื่นเช้ามา หมอนนี่เหลืองเป็นคราบไปหมดเลย 555

นี่คือผลลัพธ์หลังจากใช้ไป1 เดือนผิวหน้าดีขึ้นชัดเจนมาก หน้าปัง มั่นใจขึ้นเยอะค่ะ ปลื้มใจ ไม่ต้องแต่งหน้ากลบสิว โบ๊ะหนาๆ อีกต่อไป แค่แต่งหน้าเบาๆ ก็มั่นใจล่ะ อิอิ

ขอให้มนุษย์สิวทุกคนผ่านจุดนี้ไปได้และมีผิวหน้าที่ใสไร้สิวนะคะ ปล.ห้ามใช้ครีมที่มีสารปรอทและสเตียรอยเด็ดขาด เห็นผลเร็วจริง สิวยุบจริง แต่ผลที่ตามมาจะกู้หน้าเดิมไม่กลับนะคะ อย่าคิดจะลองเชียว!!!วันนี้ขอตัวลาไปก่อนน้าาา บ๊ายบายค่า