หากใครกำลังมองหาของหวานเย็นๆ เนื้อเนียนๆ ละมุนๆ

" บัตเตอร์สก็อตพุดดิ้ง "

น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี เพราะด้วยรสชาติของซอสบัตเตอร์สก็อตที่หอมมีเอกลักษณ์ และรสสัมผัสเด้งดึ๋งๆ ของไข่ที่ผสมในเนื้อขนม และความเข้มข้นของนมและวิปครีมที่เป็นตัวชูโรงให้พุดดิ้งชนิดนี้มีความอร่อยไม่เหมือนใคร ลองแล้วรับรองจะติดใจอยากรู้กันแล้วว่าทำยังไง  ไปดูส่วนผสมกันค่ะ!

รูปภาพ:http://p-fst2.pixstatic.com/55e84e84dbfa3f1a5e0005a6/_w.540_s.fit_/Butterscotch-Pudding--2.jpg

ส่วนผสม

รูปภาพ:http://p-fst2.pixstatic.com/55e7aa2fdbfa3f7cf80016a1/_w.540_s.fit_/HT-Butterscotch-Pudding1.jpg

แป้งข้าวโพด 1/4 ถ้วย

เกลือครึ่งช้อนโต๊ะ

นมสด 2 ถ้วยครึ่ง

ไข่แดง 3 ฟองใหญ่

เนยจืด 1/4 ถ้วย  ( 4 ช้อนโต๊ะ )

น้ำตาลทรายแดง 3/4 ถ้วย

เฮฟวี่ครีม 1 ถ้วย

วนิลา 1 ช้อนชา

ขั้นตอนการทำ

1. ผสมแป้งข้าวโพดเข้ากับเกลือในถ้วยผสมใบใหญ่ เทนมตามลงไปแล้วคนให้เข้ากัน จนกลายเป็นเนื้อเดียว

รูปภาพ:http://p-fst2.pixstatic.com/55e7aa30dbfa3f0a1c0069ea._w.540_s.fit_.jpg

2. เทไข่แดงลงไปแล้วตีให้เข้ากัน

รูปภาพ:http://p-fst2.pixstatic.com/55e7aa48dbfa3f1d14005fb9._w.540_s.fit_.jpg

3) ทำซอสบัตเตอร์สก็อต โดยการนำเนยใส่ลงในกระทะก้นลึก  เปิดไฟโดยใช้ความร้อนปานกลาง  เมื่อเนยละลายแล้วก็ใส่น้ำตาลทรายแดงตามลงไป คนเร็วๆ ให้น้ำตาลละลายแล้วเคี่ยวต่อไปจนเหนียว

รูปภาพ:http://p-fst2.pixstatic.com/55e7aa40dbfa3f7732006a5e._w.540_s.fit_.jpgรูปภาพ:http://p-fst1.pixstatic.com/55e7aa3fdbfa3f4e9d006288._w.540_s.fit_.jpgรูปภาพ:http://p-fst2.pixstatic.com/55e7aa47dbfa3f7732006a5f._w.540_s.fit_.jpg

เมื่อเริ่มมีควันขึ้นเล็กน้อย ก็แปลว่าซอสได้ที่แล้ว ให้ยกลงจากเตาเลยค่ะ

รูปภาพ:http://p-fst1.pixstatic.com/55e7aa3cdbfa3f1ff7006480._w.540_s.fit_.jpg

4. เทเฮฟวี่ครีมลงในหม้อซอสบัตเตอร์สก็อต ค่อยๆ คนอย่างช้าๆ จนเมื่อส่วนผสมเริ่มเข้ากันดี  ก็ให้ยกขึ้นตั้งบนเตาอีกครั้ง คราวนี้ใช้ไฟอ่อนๆ

รูปภาพ:http://p-fst1.pixstatic.com/55e7aa4bdbfa3f1e2c005fcf._w.540_s.fit_.jpg

คนไปเรื่อยๆ จนส่วนผสมข้นและงวดลง

รูปภาพ:http://p-fst2.pixstatic.com/55e7aa54dbfa3f17ca0064d1._w.540_s.fit_.jpg

5. ยกซอสลงจากเตา แล้วเทซอสทั้งหมดลงในถ้วยที่ผสมแป้ง นม ไข่ เข้าไว้ด้วยกัน แล้วคนให้เข้ากัน ที่ต้องยกออกมาเทข้างนอก ก็เพื่อเป็นการปรับอุณหภูมิส่วนผสมก่อน หากเทชามนมลงไปในกระทะโดยตรง ไข่อาจจะสุกก่อนได้ค่ะ

รูปภาพ:http://p-fst2.pixstatic.com/55e7aa76dbfa3f64f2001c2c._w.540_s.fit_.jpg

6. เทส่วนผสมกลับลงไปในกระทะอีกครั้ง ยกขึ้นตั้งไฟ ใส่วานิลลาลงไป ใช้ไฟกลางๆ  ระหว่างอยู่บนเตาก็คนไปเรื่อยๆ

รูปภาพ:http://p-fst2.pixstatic.com/55e7aa7cdbfa3f64f2001c2f._w.540_s.fit_.jpg

จะมีฟองเดือดปุดๆ ขึ้นมาบนผิวขนม ต้มต่อไปอีก 2 นาทีแล้วยกลง

รูปภาพ:http://p-fst1.pixstatic.com/55e7aa6edbfa3f6f63006358._w.540_s.fit_.jpg

7. กรองเนื้อขนมผ่านกระชอน  เพื่อให้เนื้อออกมาเนียนมากขึ้น

รูปภาพ:http://p-fst2.pixstatic.com/55e7aa57dbfa3f24690030c9._w.540_s.fit_.jpg

8. นำกระดาษไขมาปิดหน้าขนม  เพื่อไม่ให้หน้าขนมเป็นฟิล์มแข็งๆ  จากนั้นนำเข้าตู้เย็นแช่ต่อไปอีก 3 วันเพื่อความอร่อย แต่ถ้าใครรอไม่ไหว 1 ชั่วโมงก็กินได้แล้วค่ะ

รูปภาพ:http://p-fst2.pixstatic.com/55e7aa5edbfa3f64f2001c28._w.540_s.fit_.jpgรูปภาพ:http://p-fst1.pixstatic.com/55e7aa7ddbfa3f4f0e000d23._w.540_s.fit_.jpg

9. นำเอาออกมาจากตู้เย็น  แล้วใช้ไม้ตีไข่  คนๆ ให้เข้ากันอีกครั้ง  ขนมก็จะกลายเป็นเนื้อครีมเข้มข้นพร้อมทานแล้วค่ะ แหม่ อาจจะหลายขั้นตอนหน่อย  แต่รับรองผลที่ออกมาคุ้มค่ากับการรอคอยแน่นอน

รูปภาพ:http://p-fst2.pixstatic.com/55e7aa2cdbfa3f1890006106._w.540_s.fit_.jpg

เสร็จแล้ว น่าทานไหมคะ?

รูปภาพ:http://p-fst1.pixstatic.com/55e84e85dbfa3f796a001024._w.540_s.fit_.jpg

เป็นอีกเมนูดีๆ ที่อยากให้ลองทำ ตอนนี้พะยูนน้อยต้องขอลาไปก่อน สวัสดีค่าา ^^