บางวันก็มีฟีลไม่อยากโปะรองพื้นหนาๆ อยากให้หน้าได้พักบ้าง แต่ถ้าไม่แต่งหน้าเลยแล้วออกจากบ้านก็ขาดความมั่นใจไปอีก หลายครั้งเราเลยเลือกที่จะใช้ครีมกันแดดที่ผสมรองพื้นหรือครีมกันแดด สีเบจ มาเป็นตัวช่วย ทากันแดดแล้วก็โปะแป้งฝุ่นทับซะ ก็ปกปิดริ้วรอยได้แล้วล่ะ


วันนี้เลยถือโอกาสมีรีวิวครีมกันแดดผสมรองพื้น ที่เคยใช้และกำลังใช้อยู่ มีทั้งหมด 6 ตัว มาเริ่มเลยดีกว่า


ครีมกันแดดที่เราเอามารีวิวมีทั้งหมด 6 ตัวนี้เลย

1.    SmoothE Physical White Babyface UV Expert (สี beige)

2.    MinusSun Facial Sun Protection SPF40 PA+++ (สี Ivory)

3.    CutePress UV Expert Protection White & Matte Sunscreen SPF50+ PA++++

4.    OrientalPrincess Perfect Matte UV Protection For Face SPF50+ PA+++

5.    Anessaface sunscreen bb spf50++ pa+++

6.    SkinfoodAloe sun bb cream spf50+ pa+++

รีวิว 6 ครีมกันแดดผสมรองพื้น

1.Smooth E Physical White Babyface UV Expert SPF52/ PA+++

รูปภาพ:

กันแดดของสมูทอีตัวนี้เป็นตัวที่ใช้อยู่ปัจจุบันและคงจะซื้อต่อยาวๆจริงๆ รุ่นนี้จะมี 2 สีนะ คือเนื้อครีมกันแดดสีขาวและเนื้อครีมกันแดดสีเบจ เทสสีเบจแล้วดูกลืนกับสีผิวได้มากกว่าเลยเลือกสีเบจมา (จริงๆ คือจะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาลงรองพื้น)


มาดูในส่วนของแบรนด์บ้างตัวนี้เป็นกันแดดแบบ Physical Sunscreen คือจะสะท้อนรังสียูวีออกจากผิวหนัง 100% และ non-chemical 100% อ่อนโยนเหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย มีส่วนผสมของ melawhite และ alpha arbutin ที่ช่วยลดเลื่อนริ้วรอยให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น


ความคิดเห็นส่วนตัวหลังจากใช้ :ขนาดหลอดกะทัดรัดเป็นหลอดฝาหมุน เนื้อครีมจะเข้มข้น ค่อนข้างมีความแน่นเลย คือบีบออกมานิดเดียว สามารถเกลี่ยได้ทั่วใบหน้า ถึงตอนบีบออกมาจะดูเนื้อหนักหน่อย แต่เวลาเกลี่ยบนผิวแล้วก็ไม่ได้ดูหนา หนักจนรู้สึกรำคาญ ทาเสร็จผิวโดยรวมก็ดูเนียน สม่ำเสมอขึ้น หน้าไม่ลอย ไม่เทา ระหว่างวันก็ไม่เป็นคราบด้วย กลิ่นก็ดีนะ สะอาดๆ หอมอ่อนๆ ตามสไตล์สมูทอี  อีกอย่างคือด้วยความที่เราผิวแห้ง กันแดดตัวนี้พอทาแล้วก็รู้สึกว่าผิวหน้าชุ่มชื่นดี ทุกวันนี้เราเลยใช้เป็นทั้งกันแดด ทั้งเมคอัพเบสไปในตัวเลย


ประสิทธิภาพการกันแดด:ดีมาก เวลาออกแดดกลับมาไม่แสบหน้า ผิวไม่ค่อยหมองเลยด้วย

2.Minus Sun Facial Sun Protection SPF40 PA+++ (สี Ivory)

รูปภาพ:

กันแดดตัวนี้มีเนื้อครีมสีเนื้อในส่วนของแบรนด์ ตัวนี้เป็นกันแดดแบรนด์ไทยที่ดังมากเลย เป็นกันแดด double protection ที่ทั้งสะท้อนรังสียูวี และดูดซับรังสียูวีไว้ไม่ให้ซึมเข้าสู่ผิว ตัวนี้ไม่มีแอลกอลฮอล์นะ แต่มีส่วนผสมของน้ำหอมด้วย


ความคิดเห็นส่วนตัวหลังจากใช้ :ตัวนี้เนื้อมันจะออกเป็นแบบเนื้อมูสทาแล้วมันจะเคลือบๆ หน้าหน่อย เนื้อกันแดดหนักนะ แต่ซึมเข้าผิวดีในระดับหนึ่งและกลืนไปกับผิวได้ดี แต่แอบรู้สึกว่าหน้าไม่ค่อยชุ่มชื่นเท่าไหร่ ตรงข้างๆ แก้ม มีเป็นขุยๆ ด้วย เราคิดว่าเหมาะกับคนที่ผิวธรรมดาและผิวผสมมากกว่า อีกอย่างตัวนี้เราใช้ได้ประมาณ 2 อาทิตย์เองมั้ง เพราะว่ามันล้างออกยากพอสมควร ล้างไม่สะอาดสิวอุดตันบุกอีก


ประสิทธิภาพการกันแดด:ปานกลางด้วยความที่ SPF น้อยกว่าเพื่อนด้วย แต่ถ้าไม่ออกแดดทั้งวันก็เอาอยู่อยู่นะ

3.Cute Press UV Expert Protection White & Matte Sunscreen SPF50+ PA++++

รูปภาพ:

ตัวนี้ก็มี2 สีเหมือนกันคือ light beige กับ natural beige คือตอนเราลองแล้วคิดว่าสี light beige เหมาะดี เพราะช่วยให้ผิวเราสว่างขึ้นมาอีกนิดนึง

ข้อมูลของแบรนด์ตัวนี้จะเป็นโลชั่นกันแดดเนื้อบางเบา ไม่มีน้ำหอมและแอลกอฮอล์ กันน้ำกันเหงื่อและคุมมันได้นานถึง 8 ชั่วโมง


ความคิดเห็นส่วนตัวหลังจากใช้:ตัวนี้จะเป็นเนื้อโลชั่นต้องเขย่าให้เข้ากันก่อนแล้วค่อยเทออกมาใช้ เนื้อจะเหลวหน่อย เวลาเกลี่ยเลยง่าย ทาไปพอกันแดดเซตตัวก็จะให้ความแมท แต่เราว่าเรื่องปกปิดยังไม่ค่อยแต่ส่วนตัวเราคิดว่าซึมเข้าผิวค่อนข้างช้าเลย และยังปกปิดไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกรอยดำ รอยแดงที่เข้มก็จะยังเห็นอยู่ ต้องเอาคอนซิลเลอร์ลงทับ


ประสิทธิภาพการกันแดด:ดีระดับนึง ถ้าไม่ออกแดดแรงมากก็หน้าไม่หมองเลย

4.Oriental Princess Perfect Matte UV Protection For Face SPF50+ PA+++

รูปภาพ:

ครีมกันแดดคุมมันได้นาน 8 ชั่วโมง ที่มีส่วนผสมที่สกัดจากธรรมชาติ ปกป้องทั้ง UVA และ UVB ไม่มีแอลกอลฮอล์ด้วย


ความคิดเห็นส่วนตัวหลังจากใช้ :ตัวนี้จะเป็นกันแดดเนื้อน้ำนม ต้องเขย่าให้เข้ากันก่อนใช้เวลาทาเกลี่ยง่ายนะ ด้วยความที่เป็นน้ำเหลวๆ หน่อย แต่เราว่าซึมข้าสู่ผิวค่อนข้างช้า ต้องใช้เวลาระดับนึง พอกันแดดเซตตัวแล้วก็รู้สึกว่าหน้าสว่างขึ้นมานิดนึง แต่ยังคิดว่าปกปิดไม่ดีเท่าที่ควร อาจจะเป็นเพราะว่าเนื้อค่อนข้างเบามากก็ได้


ประสิทธิภาพการกันแดด:ดีใช้แล้วเวลาออกแดดหน้าไม่หมอง

5.Anessa face sunscreen bb spf50++ pa+++

รูปภาพ:

ซื้อมาลองใช้เพราะว่าเคยใช้ตัวanessa สีทองแล้วโอเคอยู่ ตัวนี้ข้อูลของแบรนด์บอกว่านอกจากกันแดดแล้ว ยังช่วยเรื่องความชุ่มชื่นในระดับสูงด้วย ตัวนี้มี 2 สีเหมือนกันคือ light กับ natural ตัวที่เราเอามารีวิวเป็นสี natural ค่ะ ( เพื่อนหิ้วมาจากญี่ปุ่นให้ผิวสี 555555 เราจะเอาสี light ต่างหาก )


ความคิดเห็นส่วนตัวหลังจากใช้ :ด้วยความที่มันเป็นสี nature ซึ่งเหมาะกับคนที่ผิวสีเข้มขึ้นมาหน่อยบางทีเวลาใช้เราเลยผสมกับกันแดด anessa สีทองนั่นแหละ เนื้อบีบีคือสีเข้มมาก แต่ความเนียนคือดีมาก เสียดายตรงที่กันแดด anessa กลิ่นแอลกอฮอล์แรงไปหน่อย และตัวนี้ค่อนข้างแห้งเร็ว เวลาที่บีบมาต้องรีบเกลี่ย ไม่งั้นแห้งไวเวอร์


ประสิทธิภาพการกันแดด: ดี แต่กลิ่นแอลค่อนข้างแรง

6.Skinfood Aloe sun bb cream spf50+ pa+++

รูปภาพ:

ตัวนี้คนขายบอกไม่ใช่กันแดดเนื้อรองพื้นแต่เป็นบีบีครีมว่านห้างจระเข้ ที่ผสมสารกันแดดลงไป เราเลยรวมเอาเองว่านี่คือหนึ่งในกันแดดเนื้อรองพื้นในคอลเลคชั่นของเราด้วย ตัวนี้ก็มี 2 เฉดสีให้เลือก คือสี light beige และ natural beige ซึ่่งที่เราเลือกมาคือสี light beige จ้า


ข้อมูลของแบรนด์ตัวนี้หาได้น้อยมาเอาจากที่พนักงานบอกละกันนะ ว่าเป็นบีบีที่ผสมว่านหางจระเข้ ช่วยเรื่องความชุ่มชื่นทำให้ผิวไม่แห้งกร้าน ปกปิดริ้วรอย กันน้ำและกันแดดได้ด้วย


ความคิดเห็นส่วนตัวหลังจากใช้ :แพ็กเกจจิ้งเป็นหลอด ฝาหมุน เนื้อครีมมีคนแน่น และมีกลิ่นหอม ตามสไตล์สกินแคร์เกาหลีที่มีความมุ้งมิ้งอ่ะ เวลาทาลงผิวแล้วเกลี่ยง่ายระดับนึง แต่ว่าซึมช้าต้องใช้เวลาสักพักเลย ทาแล้วจะมีความกลืนกับผิวและปกปิดได้ดีเลย แต่เราคิดว่าหน้าออกจะวอกไปหน่อยนึง ( ตามสไตล์สาวเกาหลี ) เลยไม่ค่อยได้ใช้บ่อยเท่าไหร่


ประสิทธิภาพการกันแดด:ปานกลาง


สุดท้ายๆเราลองบีบและเกลี่ยเนื้อครีมมาเปรียบเทียบให้ดูจ้า

รูปภาพ:

หวังว่าจะเป็นข้อมูลสำหรับเพื่อนๆที่สนใจจะลองหาซื้อครีมกันแดดผสมรองพื้นกันนะ ยังไงก็ลองเข้าไปเทสที่ช้อปก่อนก็ได้แล้วค่อยเลือกตามที่เหมาะสมกับผิวมาใช้ หน้าจะได้สวยใสปิ๊งสู้แดดเมืองไทยได้ // บายยยยยยย