สวัสดีค่ะสาวๆ
Sista
Cafe
สายชิคทุกท่าน อากาศร้อนอบอ้าว แถมครึ้มฝนตลอดเวลาแบบนี้จะมัวมาทำตัวละลาย เปียกเหงื่อ เปื่อยแดดกับฝนไปกับอุณหภูมิอันร้อนระอุของโลกไม่ได้นะ
เราต้องทำตัวให้ฮอตปรอทแตกกันยิ่งกว่าด้วยการตามมาใช้ชีวิตชิคๆ เช็คอินที่
4
ร้านอาหารและร้านขนมหวานสุดเก๋
กันดีกว่า จะมีร้านไหนที่สาวๆ พลาดไป หรือมีอะไรอัปเดตใหม่ๆ ที่ต้องตามไปเช็คอินกันอีกรอบ งานนี้บอกเลยว่าถ้าไม่ปักหมุดไว้ พลาดของดีไปจะเสียใจนะเออ
1. ร้าน Hokkai -Don @ Siam Paragon
มาเริ่มกันที่ร้านแรก ขอปักหมุดที่ร้านอาหารญี่ปุ่นใจกลางเมืองอย่างร้าน
Hokkai - Don
สาขา Siam Paragon
นั่นเอง ชื่อร้านก็บอกอยู่แล้วว่า
ฮอกไกดง
ดังนั้นความพิเศษของที่นี่จึงเป็น
แหล่งรวมซูชิ ซาชิมิ และข้าวหน้าปลาดิบต่างๆ ในสไตล์ฮอกไกโดแท้ๆ
แถมยังการันตีความสดใหม่ของวัตถุดิบที่ใช้ ด้วยการนำเสนอรสชาติฮอกไกโดอย่างพิถีพิถัน นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น
ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งคือการดีไซน์ร้านแบบเปิดและตั้งใจออกแบบให้เป็นรูปเรือ แลดูสะดุดตาและยังทำให้ลูกค้ารู้สึกราวกับว่าได้นั่งรับประทานวัตถุดิบนั้นกันแบบสดๆ บนเรือที่กำลังแล่นอยู่กลางทะเลแบบนั้นเลยล่ะ
2. ร้าน Nippon Kai @ Siam Paragon
มาแวะอีกร้านใกล้ๆ กันที่
Nippon Kai
ร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังที่มุ่งเน้นนำเสนอรสชาติความอร่อยในสไตล์ญี่ปุ่นแบบที่ถูกปากถูกใจคนไทยสุดๆ ไฮไลท์ของที่นี่ก็คือการเสิร์ฟอาหารสดๆ ปรุงส่งตรงจากมือกุ๊กชั้นยอด ที่สำคัญ
Nippon Kai
ยังเป็นผู้นำและศูนย์กลางจำหน่ายอาหารสดและสินค้าคุณภาพดีให้กับภัตตาคารญี่ปุ่นและโรงแรมที่มีชื่อเสียงชั้นนำในประเทศไทยด้วย
เอาเป็นว่าถ้าใครเคยลองแล้วก็จะต้องเห็นด้วยและฟินไปกับรสชาติและความดีงามนั้น แต่ถ้าใครยังไม่เคยไปลองก็เตรียมตัวเตรียมตังค์ไปเปย์กันได้เลย เพราะกินแล้วก็จะอยากกินอีกเรื่อยๆ แบบที่ไม่ต้องกลัวเสียดายเงินเลยล่ะค่ะ
3. คาเฟ่ Hello Kitty House #สยามสแควร์
ร้านถัดมาขอขยับมาฝั่งตรงข้ามพารากอน มาที่คาเฟ่ฝั่งสยามสแควร์วัน จริงๆ คาเฟ่นี้ใครๆ ก็ต้องรู้จัก เพราะที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ร้านเก๋ๆ ขนมอร่อยๆ พร้อมบรรยากาศสุดหวานแบ๊วที่ตั้งอยู่ในย่านสุดชิคอย่างสยามสแควร์เท่านั้น แต่Hello Kitty Houseถือเป็นคาแรคเตอร์คาเฟ่หนึ่งของแบรนด์Sanrioด้วย
ด้วยรูปร่างหน้าตาน่ารักของคิตตี้ ความคุมโทนสีชมพูและธีมของร้านที่คงคอนเซ็ปต์ความเป็นคิตตี้เอาไว้ในทุกอณูร้าน Hello Kitty Houseจึงคว้าหัวใจสาวๆ สายแบ๊วไปได้เต็มๆ ใครได้ไปก็คุมหัวใจตัวเองกันให้ดีระวังจะอ่อนแอ พ่ายแพ้ต่อผลิตภัณฑ์น่ารักๆ แบ๊วๆ ในร้านจนห้ามใจไม่อยู่ ต้องสอยมาสะสมไว้ให้สมกับที่เป็นสาวกคิตตี้ตัวจริงเลยล่ะ
สำหรับร้านนี้เค้ามีโซนที่นั่งเป็นคาเฟ่ เหมาะมานั่งชิลล์ นั่งทำงาน หรือเป็นสถานที่รวมตัวแก๊งเพื่อนกันได้ด้วย ตามไปเช็คดูสิ่งอำนวยความสะดวกกันเลย
4. ร้าน Japan Station #ISETAN @Central World
มากันที่ร้านสุดท้าย ตามเรามาเช็คอินที่
Japan Station
เป็นร้านขนมหวานในห้างญี่ปุ่นอย่าง
ISETAN @ Central World
โซน food merket ชั้น 5 ค่ะ สไตล์ของขนมญี่ปุ่นแบรนด์นี้จะเป็นขนมญี่ปุ่นแบบโมเดิร์น ผสมกับความฟิวชั่นสไตล์วัยเรา ไม่ว่าจะเป็น Omotcheese รสต่างๆ, Hokkaido Sweet Potato หรือมันหวานฮอกไกโด, รวมถึงเบเกอรี่ในตำนานสไตล์ญี่ปุ่นก็หาได้จากที่นี่ เอาเป็นว่ามาถึงร้านนี้แล้วต้องรู้สึกเหมือนมาถึงญี่ปุ่นแน่ๆ ค่ะ
เทรนด์ใหม่แห่งการใช้จ่าย : เปย์ยังไงให้เช็คอินครบได้ทุกร้านภายในวันเดียว
ยังไงล่ะ อยากได้โน่น อยากได้นี่ อยากได้นั่นกันไปหมดเลยใช่ม้า .. แอบบอกต่อเล็กน้อย สาวๆ สังเกตกันมั้ยว่าการไปเติมเต็มไลฟ์สไตล์เก๋ๆ ในครั้งนี้แต่ละร้านเค้ารับชำระด้วยบัตรเครดิตกันด้วย
เพราะฉะนั้นวันนี้เราเลย
แทบไม่ต้องกังวลเรื่องทรัพย์จางหรือเงินสดขาดมือเลย เพราะทั้ง 4 ร้านสุดเก๋เค้ารับชำระเงินด้วยบัตรVisa payWave( บัตรวีซ่า เพย์เวฟ )
กันด้วยค่ะ
ที่บอกว่าชีวิตดี๊ดีก็เพราะสาวๆ ไม่ต้องกังวลกับการพกเงินสดเยอะๆ หรือกลัวว่าจะทำเงินหล่นหาย หรือแม้กระทั่งกลัวว่าเงินสดที่ติดไว้จะไม่พอเลย แค่เพียงพกบัตร Visa payWave ใบเดียวหรือพกแค่สมาร์ทโฟนหนึ่งเครื่องแล้วแจ้งกับแคชเชียร์ว่าต้องการชำระเงินด้วยบัตรวีซ่า เพย์เวฟ แคชเชียร์ก็จะป้อนยอดรวมสินค้าทั้งหมดเข้าสู่เครื่องอ่านบัตรวีซ่าเพย์เวฟค่ะ
*จุดสังเกตสัญลักษณ์ Visa payWave จะเป็นรูปสัญญาณ 3 ขีดในแนวตั้งบัตรวีซ่า เพย์เวฟจะใช้ได้กับเครื่องอ่านบัตรที่มีสัญลักษณ์เดียวกัน และการชำระเงินด้วยบัตรเพย์เวฟใช้กับเครื่องอ่านบัตรวีซ่าเพย์เวฟโดยเฉพาะและการชำระเงินต่อครั้งจะไม่เกิน 1,500 บาทนะคะเพราะมากกว่านั้นต้องมีลายเซ็นเพื่อความปลอดภัยและอุ่นใจในการใช้งานค่ะ
ไม่ใช่แค่เพียง
บัตรวีซ่า เพย์เวฟ
แต่ถ้าใครมี
สมาร์ทโฟน (ซัมซุง)
ก็สามารถใช้การชำระเงินแบบ contactless ได้ด้วยนะ การใช้จ่ายด้วยบัตรวีซ่าผ่านสมาร์ทโฟน หรือ
Mobile Payment
สามารถใช้ได้แล้วในสมาร์ทโฟนซัมซุง
เป็นช่องทางใช้จ่ายที่สะดวกยิ่งขึ้น
แค่แตะสมาร์ทโฟนที่เครื่องรับบัตรแล้วสแกนลายนิ้วมือก็ใช้จ่ายได้เลย เพียงผูกบัตรวีซ่าเข้ากับสมาร์ทโฟนหนึ่งเครื่อง สามารถเก็บข้อมูลบัตรได้สูงสุดถึง 10 ใบ และการใช้ Mobile Payment จะต้องสแกนนิ้วมือยืนยันตัวตนทุกครั้ง ก่อนการใช้จ่ายใดๆ ด้วยนะคะ
สำหรับ Mobile Payment ของวีซ่าเลือกใช้นวัตกรรมเพื่อความปลอดภัยโดยเฉพาะVisa Token Service (VTS)นั่นคือการใช้Encrypted tokenนวัตกรรมรหัสล็อคข้อมูลของบัตรอย่างเลขหน้าบัตร 16 หลัก และข้อมูลสำคัญอื่นๆ (ข้อมูลของผู้ถือบัตรจะถูกเก็บอยู่ใน Token) ที่ใช้แบบใช้ครั้งเดียว และเปลี่ยนใหม่ทุกครั้ง ถึงแม้ว่าจะโดนขโมยไปก็ไม่สามารถนำไปใช้ได้ เป็นการตัดความเสี่ยงของการโดนโจรกรรมข้อมูลได้เป็นอย่างดีค่ะ
ถ้าเห็นว่าคาเฟ่หรือร้านอาหารไหนมีสัญลักษณ์Visa payWaveหรือสัญลักษณ์ของสัญญาณ 3 ขีดในแนวตั้งแบบในรูปล่ะก็ดีใจได้เลยเพราะที่ร้านนั้นมีการรับชำระเงินด้วยบัตรวีซ่า เพย์เวฟค่ะ ส่วนใครที่เพิ่งรู้จักสัญลักษณ์นี้ก็เมมไว้ในใจได้เลยว่านี่แหละคือเทรนด์ใหม่ในการใช้จ่ายของร้านชิคๆ เค้าล่ะ
และนี่ก็คือ4 คาเฟ่และร้านอาหารน่าเช็คอินที่อยากแนะนำให้สาวๆ ไปใช้ชีวิตแบบมีสไตล์กันในช่วงฤดูฝนนี้ คราวนี้ก็ไม่ต้องห่วงว่าการใช้จ่ายจะสะดุด และไปใช้ชีวิตชิคๆ ในวันพักผ่อนกันแบบเต็มอิ่มได้เต็มที่ แค่เลือกไลฟ์สไตล์ให้เข้ากับตัวเองก็ประหยัดเวลาได้มาก แถมยังเหลือเวลาไปทำเรื่องสำคัญอื่นๆ ได้อีกตั้งเยอะ#มันก็จะสะดวกๆ เพิ่มขึ้นอีกนิด แถมชิคๆ กันได้ไม่น้อยแบบนี้เลยล่ะค่ะ
Cr. ขอบคุณรูปภาพจาก pantip.com
https://pantip.com/topic/33173082