ฮาโหลสาวๆ เรากลับมาอีกแล้วพร้อมเทรนด์แฟชั่น และเทคนิคการแต่งตัวให้สนุกเช่นเคย โดยวันนี้เรามาแนะนำสาวๆ เรื่องการเลือกนาฬิกาแบบไหนให้เหมาะกับตัวเองมากที่สุด ที่สำคัญต้องใส่ไปไหนก็ได้ แมทท์เข้ากับทุกชุด เพราะนาฬิกาแต่ละเรือนก็ไม่ใช่ถูกๆ ใช่ไหมล่ะ จะให้ซื้อกวาดทุกเรือนก็คงไม่ใช่ ดังนั้นเรามาดูวิธีเลือกนาฬิกาให้คุ้มค่าคุ้มราคากันดีกว่าค่ะ
เอาหล่ะๆ อย่าให้เสียเวลา เรารับไปดูดีกว่ามีวิธีเลือกนาฬิกาแบบไหน และอย่างไรบ้าง ไปค่ะ!

ขนาดของข้อมือ
อันดับแรกที่ต้องดูเลยก็คือขนาดข้อมือของเธอนั้นเอง เพราะหากเราเลือกขนาดหน้าปัดไม่สัมพันธ์กับขนาดของข้อมือจะทำให้เธอดูลีบเล็ก หรือใหญ่เวอร์จนน่าเกลียดได้เลยที่เดียว โดยคำแนะนำคือถ้าเธอเป็นคนข้อมือเล็ก ( คนตัวเล็กไม่ได้แปลว่าข้อมือจะเล็กนะคะ หากเธอเป็นคนที่กระดูกค่อนข้างใหญ่ก็ถือว่าข้อมือใหญ่ได้เช่นกันค่ะ ) แนะนำให้เลือกหน้าปัดนาฬิกาที่มีขนาดเล็ก ให้สาวๆ ลองใส่เทียบกับข้อมือของตนเอง โดยหน้าปัดไม่ควรใหญ่เกินข้อมือนะคะ

นอกจากนี้สาวข้อมือเล็กยังควรเน้นหน้าปัดที่เป็นทรงกลม หลีกเลี่ยงนาฬิกาที่หน้าปัดมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้านะคะ เพราะจะทำให้ข้อมือของเธอดูเล็กลงไปอีกหลายเท่าตัว แทนที่จะเพิ่มความหรูหราจะกลายเป็นเด็กไม่มีข้าวกินไปนะคะ ดังนั้นเลือกดูดีๆ นะคะ
ส่วนสาวที่มีข้อมือใหญ่ บอกเลยว่าสบายใจหายห่วง เพราะไม่ว่าเธอจะใส่นาฬิกาแบบไหนก็ดูดี จะใหญ่จะเล็กก็แล้วแต่ความชอบ ส่วนทรงหน้าปัดก็ยังสามารถเลือกได้ทุกรูปทรงจะทรงกลม ทรงสี่เหลี่ยมก็ใส่ได้หมด แต่ถ้าอยากให้แขนดูเรียวๆก็เน้นที่เป็นทรงสี่เหลี่ยมนะคะ
สายนาฬิกาก็สำคัญ
ในส่วนของสายนาฬิกานั้นจะขึ้นอยู่กับสไตล์และกิจกรรมของตัวสาวๆ เอง โดยสายเหล็กเหมาะกับสาววัยทำงาน และสาวสไตล์มินิมอล เน้นความเรียบหรูดูแพง ใส่เมือไหน่ก็ไม่มีตกยุคแน่นอน ข้อดีของสายเหล็กคือ ทนทาน ดูแลง่าย แต่ข้อเสียคือจะมีน้ำหนักขึ้นมากกว่าสายอื่นๆ นะคะ

สายหนัง เหมาะกับสาวที่สายชิลล์ ใส่ง่ายๆ สบายๆ ไม่เหมาะกับสาวที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง เพราะเวลาโดนน้ำหรือมีเหงื่ออาจจะทำให้มีกลิ่นได้ ข้อดีของสายหนังคือใส่แล้วนุ่มสบาย ไม่ทำร้ายผิว ดังนั้นหากคุณชอบใส่นาฬิกาสายหนังควรต้องดูแลเป็นพิเศษนะคะ อย่าให้โดนน้ำมากจนเกินไป

สายยาง หรือ สายเรซิ่น เหมาะสำหรับสาวที่ชอบทำกิจกรรมเยอะๆ สาวลุยๆ นี้เหมาะสุดๆ เพราะสายแบบนี้จะมีน้ำหนักเบา ข้อดีคือเวลาโดนน้ำแล้วจะไม่เหม็นเหมือนกับสายหนัง แต่อาจจะไม่ค่อยเหมาะกับวัยทำงานนะคะ เพราะมันอาจจะดูเด็กไปนิดนึง

เลือกระบบให้เหมาะสม
ขั้นตอนต่อมาก็คือเลือกระบบของนาฬิกาให้เขากับสไตล์ของตัวเอง คนที่ชอบความคลาสสิค เรียบหรูดูแพง ใส่เมื่อไหร่ก็ไม่มีตกยุคแนะนำให้เลือกเป็นแบบ Analog รับรองว่าไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปีนาฬิกาแบบเข็มก็ยังคงได้รับความนิยมอยู่เสมอค่ะ

แต่สำหรับสาวทันสมัย ชอบความแฟชั่น และความรวดเร็ว นาฬิกาแบบตัวเลขดูจะเหมาะกับคุณมากกว่านะคะ เน้นความกระฉับกระเฉง สะดวก ดังนั้นแนะนำให้เลือกแบบ Digital นะคะ

เลือกโทนสีให้เหมาะกับสีผิว
การเลือกสีนาฬิกาก็สำคัญนะคะ เพราะมันช่วยทำให้เธอดูขาวขึ้นได้อย่างน่าประหลาด โดยสำหรับสาวที่มีผิวสีน้ำผึ้ง หรือพบมากในสาวไทยส่วนใหญ่ แนะนำให้เลือกสีเข้มๆ นิดนึง เช่น สีน้ำตาลอมแดง สีชมพูหม่น สีฟ้าอมเขียว สีชมพูอมส้ม ก็ช่วยขับให้ผิวเธอดูเปล่งปลั่งมากขึ้นนะคะ

สำหรับสาวผิวแทน ควรเลือกนาฬิกาโทนสีกลางๆ ไม่อ่อนและไม่เข้มจัดจนเกินไป เช่น สีน้ำตาล สีม่วง สีเขียวเข้ม สีเทา เพราะจะทำให้ผิวของคุณดูสว่างขึ้นนะคะ ซึ่งตรงข้ามกับสาวผิวขาวเหลือง หรือขาวอมชมพู ที่ควรเลือกนาฬิกาสีโทนอ่อน เช่น สีขาว สีโกโก้อ่อน สีฟ้าอ่อน สีทอง เพราะสีเหล่านี้จะช่วยขับให้ผิวของคุณดูมีออร่ายิ่งขึ้น

สุดท้ายคือ สาวที่มีผิวขาวซีด ควรเลือกนาฬิกาสีเข้ม เช่น น้ำเงินเข้ม แดงเข้ม สีน้ำตาลไหม้ สีเหลืองอมน้ำตาล เพราะจะทำให้ผิวของคุณดูเข้มขึ้น และไม่ซีดเป็นผีจูออนนะคะ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับเคล็ดลับที่เอามาฝากกันวันนี้ชอบไหมเอ่ย? แต่อย่างที่บอกทุกครั้งว่าไม่ว่าเราจะมีเทคนิคดีแค่ไหน แต่ถ้าเธอไม่มั่นใจใส่อย่างไรก็ไม่สวย ดังนั้นอยากใส่อะไรก็ใส่ไปเถอะ เอาที่ใส่แล้วมั่นใจนะคะ

Comments