ฉันตื่นขึ้นมาด้วยความคิดที่ว่า วันนี้ของฉันจะเป็นยังไง จะสดใสหรือเศร้าหมองกันนะ ฉันเฝ้าถามกับตัวเองแบบนี้ในทุกเช้า ฉันได้แต่ภาวนาว่าวันนี้ของฉันจะสดใสเหมือนสายรุ้งหลังฝนตกแต่ทว่าความเป็นจริงนั้นเราไม่สามารถใช้ชีวิตตามแบบที่เราหวังได้ ฉันคิดว่าชีวิตคนเราก็ไม่ได้มีอะไรมาก ในช่วงของแต่ละอายุ คนเราก็ใช้ชีวิตที่แตกต่างกันไป อย่างเช่น ในวัยเด็ก ในแต่ละวันก็คงตื่นเช้า ไปเรียน กลับบ้าน นอน แล้วก็ตื่นขึ้นมาใหม่ ส่วนวัยที่เริ่มโตขึ้นก็คงจะอายุประมาณ20 ขึ้นไป ที่ต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น ทำอะไรด้วยตัวคนเดียวมากขึ้น ได้คิดและตัดสินใจในเรื่องที่มันยาก ได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง เป็นตัวของตัวเองแต่มันก็เหนื่อยนะ เพราะในแต่ละวันเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าวันนี้หรือวันพรุ่งนี้ชีวิตเราจะเป็นยังไง ไม่รู้ว่าต้องเจอกับอะไรบ้าง ตอนเด็กๆเราชอบมักจะพูดว่า"ฉันอยากโตแล้ว อยากใช้ชีวิตเหมือนคนอื่นๆแล้ว" แต่พอโตมาเราก็อยากกลับไปเป็นเด็ก เพราะอะไรน่ะหรอ เพราะว่าการโตเป็นผู้ใหญ่มันเหนื่อยน่ะสิ เหนื่อยที่ต้องเผชิญกับผู้คนที่ผ่านเข้ามา บางคนก็เจอคนดีๆแต่กับบางคนนั้น…เห้อ ฉันถึงบอกไงว่าชีวิตในวัยเด็กน่ะมันสนุกที่สุดแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ต้องเติบโตขึ้นเรื่อยๆอยู่ดี ใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองอยากใช้เถอะนะ อยากทำอะไรก็ทำเลย สิ่งไหนที่เธอทำแล้วมีความสุข เธอทำมันไปเลย ใช้ชีวิตของเธอให้เต็มที่ มีความสุขกับมันมากๆ เธอมันเจ๋งที่สุดแล้ว ฉันจะคอยอวยพรให้ทุกๆวันของเธอมันสดใสเหมือนสายรุ้งหลังฝนตก
สักวันฉันจะสดใสเหมือนสายรุ้งหลังฝนตก
ฉันคอยเฝ้าถามตัวเองในทุกๆวัน ว่าวันนี้ของฉันจะเป็นยังไง จะสดใสเหมือนสายรุ้งหลังฝนตกหรือเศร้าหมองเหมือนวันที่มีพายุฝนกันนะ ฉันคอยภาวนาให้วันนี้ของฉันมันดีแต่ใครจะรู้ว่าในแต่ละวันเราจะเจออะไรบ้าง คำภาวนาจะเป็นจริงมั้ย
รหัสบทความ: 200863
เผยแพร่: 6 พ.ค. 2567 13:43 น.
นักเขียน
ผู้เข้าชม
82