สาวซิสต้าที่อยู่ในสถานะ

" มีคู่ "

คบกันมานานหลายเดือนหลายปี เคยรู้สึกสงสัยไหมว่า หนุ่มข้างกายรักเธอจริงๆ หรือเปล่า อยากใช้เวลาทั้งหมดที่เหลืออยู่ในชีวิต เพื่อจับมือเดินเคียงข้างไปกับเธอบ้างไหม หรือเธอเป็นเพียงคนคั่นเวลา

ฮือออ ร้องไห้หนักมาก

( // อ้าว ดราม่าซะงั้น )

ยิ่งถ้าเธออยู่ในวัยทำงาน เรียนจบแล้ว หลายคนก็วาดฝันถึงงานแต่งงานที่มีความสุขกับคนที่ใช่ ตั้งใจทำงานสร้างเนื้อสร้างตัว เพื่อมีครอบครัว มีลูกน้อยวิ่งเล่นทั่วบ้าน แต่หนุ่มๆ ส่วนใหญ่มักความรู้สึกช้า บางคนใช้เวลาหลายปีกว่าจะเริ่มคิดเรื่องแต่งงานจริงจัง ซึ่งทำให้เธอหัวเสีย และหงุดหงิดได้ง่าย

วันนี้เรามีบทความดีๆ จาก Lovepanky กับ " 14 สัญญาณที่บอกว่า เขาอยากใช้ชีวิตร่วมกับเธอ " ถ้าเขาเริ่มมีสัญญาณตามนี้ แปลว่า มีลุ้นแน่นอน! ไปอ่านกันเลยดีกว่า


#1 เขาเอาใจ / ตามใจเธอ


รูปภาพ:http://noonasoverforks.com/wp-content/uploads/2014/08/fated-to-love-you-ep-13-5.jpg

เธออาจจะเถียงกับเราว่า " การที่เขาตามใจหรือเอาใจสาวๆ อาจจะเพราะเขาแค่เป็นสุภาพบุรุษ พ่อแม่สั่งสอนมาดีก็ได้นะ " ก็อาจจะใช่ แต่เราอยากกระซิบว่า ผู้ชายน่ะ ไม่คอยตามใจหรือเอาใจคนที่ไม่ได้ชอบหรือรักหรอกนะ! ถ้าอยู่ในคนหมู่มากแล้วเขาคอยช่วยเธอนิดๆ หน่อยๆ เช่น หยิบน้ำให้ นั่นไม่นับ แต่ถ้าคอยมาตามรับตามส่ง ซื้อขนมมาให้ไม่ขาด เธอบ่นอยากไปไหนก็รีบเคลียร์ตารางงานพาเธอไปทันที นั่นแหละใช่เลย

ถ้าเขา " พยายาม " ที่จะทำให้เธอมีความสุข เอาอกเอาใจทุกอย่าง ( เรียกว่าจะขัดทีนึงต้องแทบยกมือกราบ ) แปลว่า เขาแคร์ความรู้สึกเธอสุดๆ และอยากจะมีเธอไว้ในชีวิตนานๆ ค่ะ


#2 เขาแอบบอกใบ้เป็นนัยๆ ว่า " อยากมีลูก "


รูปภาพ:http://i630.photobucket.com/albums/uu26/dramabeans/drama/2014/FTLY/FTLY_20/ftly20-00453.jpg

ข้อนี้อาจจะเกินวัยสำหรับสาวมัธยมหรือมหาวิทยาลัย แต่หากเธอเป็นสาวออฟฟิศและมีแฟน ลองสังเกตข้อนี้ดูค่ะ! หากคุยกันเมื่อไหร่ เขาก็มักวนกลับมาเรื่องแต่งงานตลอดเวลา เผลอๆ ก็แอบแยบ บอกใบ้ว่า " ตัวเอง เราจะมีลูกสักกี่คนดีล่ะ ", " ชายคน หญิงคนดีไหม ต้องซื้อบ้านหลังใหญ่นะ ลูกจะได้วิ่งเล่นสะดวก " คำพูดนี้แปลว่า เขาคิดจะจริงจังกับเธอ

หนุ่มๆ บางคนก็ขี้อาย ไม่กล้าพูดคำว่า " อยากมีลูก " กับเธอได้อย่างเต็มปาก แต่ถ้าเขาคุยกับเธอเรื่องแต่งงานในอนาคตในฐานะ " สามีภรรยา " และ " แม่ของลูก " ได้อย่างไหลลื่น ไม่ติดขัดหรือกระอักกระอ่วนใจ แปลว่า เขายอมรับเธอขึ้นอีกชั้นหนึ่งแล้วล่ะ


#3 เขาใช้คำสรรพนามว่า " เรา "


รูปภาพ:http://i630.photobucket.com/albums/uu26/dramabeans/drama/2014/FTLY/FTLY_19/ftly19-00240.jpg

เมื่อหนุ่มๆ คนไหนเริ่มต้นประโยคด้วยสรรพนามเหมารวมว่า " เรา " แทนที่จะบอกว่า " ผม " แปลว่าเขาเริ่มคิดว่าเธอเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขาแล้ว! ไม่ว่าประโยคนั้นจะอยู่ในรูปปัจจุบันหรืออนาคตที่จะถึงก็ตามที ถือเป็นสัญญาณดีๆ ที่บ่งบอกว่า เขาคิดกับเธอเป็น " อันหนึ่งอันเดียวกัน "

" เราน่าจะไปเที่ยวที่นี่กันสักครั้งนะ ", " เรามาช่วยกันเก็บเงินซื้อรถคันนี้กันเถอะ ", " อย่าซื้อคอนโดที่นี่เลย เรามีเงินไม่พอหรอก " เรียกว่ าทุกสถานการณ์ในชีวิต เขาเหมาเธอเข้าไปอยู่ในนั้นแทบทั้งสิ้น แปลว่า เขาเริ่มเห็นเธอในฐานะ " คู่ชีวิต " ( ซึ่งมากกว่าคำว่า แฟน ) แล้วล่ะค่ะ


#4 เขาพูดถึงเรื่องราวในอนาคตบ่อยๆ

รูปภาพ:http://www.koreandramafashion.com/wp-content/uploads/2014/09/04-Fated-to-Love-You-Episode-20-End-Review-Korean-Drama-Fashion.jpg

สัญญาณอีกข้อหนึ่งที่ชี้ชัดว่า เขาอยากแต่งงานกับเธอคือ เขาพูดถึงเรื่องราวใน " อนาคต " อยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ' ฉลองปีใหม่อีกสองปีข้างหน้าด้วยกัน ' หรือ ' อีกสิบปีเราจะไปเที่ยวที่ไหนดี ' หรือ ' ถ้าหลานของเรารับปริญญาเมื่อไหร่ ต้องมาถ่ายรูปด้วยกันนะ ( ตอนนี้หลานเพิ่งเรียนชั้นประถม ) ' คำถาม คำชวนทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่า ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เธอก็จะยังอยู่ในชีวิตเขาเสมอ

ผู้ชายส่วนใหญ่มีนิสัย " รักอิสระ " และไม่อยากให้ใครเข้ามาอยู่ในชีวิตโดยไม่จำเป็น ถ้าเขาชอบนำเธอมาอยู่ในบทสนทนา รวมเธออยู่ในแวดวงครอบครัว สถานการณ์ และเทศกาลต่างๆ ในชีวิตของเขา ( พูดอย่างหน้าชื่นตาบานอีกต่างหาก -.- ) แปลว่า เขารู้สึกสบายใจเวลาอยู่กับเธอ และตั้งใจจะทำให้ตัวเองเหมือนกาวเหนียวๆ ติดตามเธอไปทุกที่

ไม่ต้องทำเป็นเบ้ปากหรอกน่า เรารู้ว่าเธอก็ดีใจใช่ไหมล่ะ!


#5 เธอและเขาแบ่งปัน " ความสนใจ " ซึ่งกันและกัน

รูปภาพ:https://jediprincess.files.wordpress.com/2014/11/fz9jtum.jpg

คู่รักหลายคู่เหมือน " จิ๊กซอว์ " ที่มาเติมเต็มสิ่งที่ขาดของกันและกัน แม้จะมีรสนิยม วิถีชีวิตไม่ตรงกันเลยแต่ก็กลับมาลงเอยกันได้ อย่างไรก็ตาม คำว่า จิ๊กซอว์นั่นหมายถึงว่า " ต้องมีบางอย่างที่เข้ากันได้ " ไม่อย่างนั้นจะต่อกันติดได้อย่างไร!

การพูดคุย หรือทำกิจกรรมแลกเปลี่ยนความสนใจของกันและกัน เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการทำความรู้จัก สนิทสนมกับตัวตนของฝ่ายตรงข้ามได้เร็วที่สุด ( ตราบใดที่อีกฝ่ายพูดความจริง ) เช่น รายการโทรทัศน์ที่ชอบ ประเภทภาพยนตร์หรือหนังสือที่ชอบ กีฬาโปรด หรือกิจกรรมยามว่าง เหล่านี้ล้วนทำให้เธอตัดสินใจได้ว่า คู่ของเธอจะสามารถ " ไปกันรอด " ได้หรือเปล่า

หากเขาแน่ใจแล้วว่าเธอคือ " คู่ชีวิต " รสนิยมตรงกัน และสามารถเดินเคียงข้างกันไปได้นานๆ เขาจะชวนเธอไปทำกิจกรรมร่วมกันในวันหยุดสุดสัปดาห์ วันหยุดเทศกาล หรือวันนึกอยากจะชวน =w= เพราะเขารู้ว่า เธอจะตอบรับคำชวนนั้นและใช้เวลาด้วยกันได้อย่างมีความสุขนั่นเองค่ะ


#6 เธอและเขาแบ่งปัน " สมบัติ / ทรัพย์สิน " ของกันและกัน

รูปภาพ:http://noonasoverforks.com/wp-content/uploads/2014/08/fated-to-love-you-gun-cup.jpg

ถ้าเขาคิดจะใช้ชีวิตร่วมกันกับเธอแล้วล่ะก็...การแบ่งปันหรือแชร์ " ทรัพย์สินส่วนตัว " กันบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา! ไม่ว่าจะเป็นการรวมเงินกันซื้อของแพงๆ อย่างหนึ่งแล้วใช้ร่วมกัน เช่น โทรทัศน์ เครื่องเสียง ไอแพด หรือคอมพิวเตอร์ บางคู่อาจข้ามขั้นถึงกับเซ็นสัญญาค้ำประกันให้อีกฝ่าย กู้บ้านผ่อนรถด้วยกันก็มีค่ะ นั่นหมายความว่า เขาอยากให้เธอเข้ามาอยู่ในชีวิตไงล่ะ

บางคนอาจไปเปิด " บัญชีร่วม " ที่มีชื่อของเขาและเธอสองคน หรืออาจจะแค่ซื้อของขวัญให้ใครสักคนร่วมกันก็ได้ การกระทำนี้ทำให้เห็นว่า เขาอยากให้เธออยู่ในชีวิตเขาอย่างถาวรไงล่ะ

คำเตือน! ระวังผู้ชายประเภท " หลอกเอาเงิน " ด้วยการบอกรัก และบังคับให้เธอเซ็นชื่อค้ำประกันใดๆ นะคะ หากยังไม่แน่ใจหรือคิดจะลงหลักปักฐานกับเขาจริงๆ เพราะอาจจะถูกทิ้ง และกลายเป็นหนี้อยู่คนเดียวก็ได้


#7 ครอบครัวของเขายินดีต้อนรับเธอเป็น " ลูกสะใภ้ "

รูปภาพ:https://aigooyobo.files.wordpress.com/2014/07/6_ftly_171.png

ข้อนี้แหละที่ทำให้เธอใจชิ้นได้มากที่สุด ถ้าคนที่บ้านของเขายอมรับเธอแล้ว อะไรๆ ก็ง่ายไปหมดนั่นแหละ ยิ่งถ้าเขาสนิทกับครอบครัวล่ะก็...พ่อแม่พี่น้องของเขานี่แหละจะเป็น " กองเชียร์ " ที่ช่วยเร่งความสัมพันธ์ให้ไปถึงฝั่งฝันเร็วขึ้น เพราะพวกเขาอยากได้เธอเป็น " ลูกสะใภ้ " ยังไงล่ะ

ในทางกลับกัน ถ้าเธอไม่ถูกชะตา ไม่ชอบหน้าคนที่บ้านของเขา เก็บความรู้สึกไม่อยู่ และเผลอไปหน้าบึ้ง เบ้ปากรัวๆ ใส่พ่อแม่ของเขาตอนเจอกันครั้งแรก อย่าหวังว่า จะมีโอกาสครั้งต่อไป! เธอจะถูกหมายหัวขึ้นบัญชีดำ และขีดฆ่าชื่อออกจากคำว่า " ส่วนหนึ่งในครอบครัว " ทันที ( แม่แอบไปกระซิบกับลูกชายว่า อย่าพาผู้หญิงคนนี้เข้าบ้านอีกนะ! )

อยากให้ความรักราบรื่น ทำตัวน่ารัก เรียบร้อย หัวอ่อนเชื่อฟังผู้ใหญ่เข้าไว้! เท่านี้ทางก็สะดวกปร๋อ เหมือนได้ก้าวเข้าสู่ความเป็น " ครอบครัว " ไปครึ่งหนึ่งแล้วล่ะค่ะ


===================================

เป็นอย่างไรบ้างกับ 7 สัญญาณแรกของคุณผู้ชาย ตรงกับแฟนของเธอบ้างหรือเปล่านะ >< ไม่ว่าจะเป็นการคอยเอาอกเอาใจ ตามใจเธอ พูดถึงเรื่องราวในอนาคตที่มีเธอร่วมด้วยอยู่เสมอ แอบแยบๆ ว่าอยากมีลูก แบ่งปันความสนใจและของส่วนตัวซึ่งกันและกัน และท้ายที่สุดคือ ครอบครัวของเขายินดีต้อนรับเธอ นั่นคือสิ่งที่อธิบายคำว่า " เปิดไฟเขียว " ได้ดีสุดๆ  ( อย่างน้อยก็มีแนวร่วมแล้วล่ะ )

สำหรับบทความชิ้นนี้ขอลาไปก่อน มาพบกันใหม่คราวหน้าอีก 7 สัญญาณสุดท้ายกับ " 14 สัญญาณที่บอกว่า เขาอยากใช้ชีวิตร่วมกับเธอ " ในภาค 2 นะคะ แล้วเจอกัน ^^

===================================

บทความที่เกี่ยวข้อง