รูปภาพ:

ยู้ววฮูวว … สวัสดีค่ะทุกคน กลับมาเจอกันคราวนี้กับภารกิจ ท้าพิสูจน์..ไพรเมอร์ในกรุของเมย์

สืบเนื่องจากช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ได้มีเวลาเก็บห้อง เก็บโต๊ะเครื่องสำอางที่รกทั้งหลายแหล่ของเมย์

ซึ่งก็นานที ปีหนมาก กก กว่าได้เก็บได้ทำ และก็เลยได้ค้นพบว่า เอ้อ… ฉันมีไพรเมอร์ในกรุอยู่

ไม่ใช่น้อยเลยนะเนี่ย วันนี้ก็เลยอยากจะมารีวิว มาพิสูจน์กัน ว่าอันไหนจะรอด อันจะร่วง

ตามมาดูกันเลยค่า …. ….

( เดี๋ยวก่อนอื่นขอบอกลักษณะผิวหน้าของเมย์ก่อนเนอะ เมย์เป็นคนผิวแห้ง ค่อนไปทางแห้งมาก

จะมีบางช่วงที่หน้ามันบริเวณ T Zone บ้าง ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาของการดูแลผิว ณ ช่วงเวลานั้นๆ )

มาเริ่มกันที่ตัวแรกเลยดีกว่า

เมย์ไล่จากราคาน่ารักๆ ไปจนถึงราคาที่อาจทำให้กระเป๋าตังฟีบก็แล้วกันเนอะ 555

รูปภาพ:รูปภาพ:

MAYBELLINE  BABY SKIN Pore Eraserไพรเมอร์เนื้อเจล กึ่งซิลิโคนใส ที่มาพร้อมกับราคาสุดแสนจะน่ารักตัวเนื้อใส เกลี่ยง่าย แต่ก็แอบแห้งไวมาก สำหรับคนผิวแห้งอย่างเรา คือต้องรีบเกลี่ยหน่อยไม่งั้นจะเกลี่ยยากอยู่  ในเรื่องของการช่วยอำพรางรูขุมขนนั้น ก็ทำได้ดีประมาณนึงแต่ก็ไม่ได้แบบ ว้าว ว อะไรขนาดนั้นหลังจากใช้คู่กับรองพื้น :ตัวนี้สามารถช่วยให้ลงรองพื้นได้ง่าย ไม่รู้สึกหนักหน้าเรื่องรูขุมขน ก็ยังพอมีให้เห็นชัดอยู่ เป็นจุดๆ โดยเฉพาะช่วงร่องแก้ม หรือในส่วนที่หน้าแห้งมากๆแต่ในส่วนอื่นก็ถือว่าช่วยเบลอรูขุมขนได้ดีในระดับนึง  ระหว่างวัน เครื่องสำอางติดทนดีจะมีหลุดบ้าง แห้งเป็นคราบบ้าง ก็เฉพาะในส่วน ที่แห้งมากๆ โดยรวมถือว่า ก็คุ้มค่า สมราคา

รูปภาพ:รูปภาพ:

wet n wild Coverall Primer base de teint

ไพรเมอร์ราคาน่ารักอีกตัวจาก wet n wild

ตัวนี้เนื้อจะเป็นสีขาว ออกไปทางเจลมากกว่าซิลิโคนเล็กน้อย

ส่วนตัวเมย์ไม่ค่อยชอบกลิ่นของตัวนี้สักเท่าไหร่นะ โอเคแหละที่ตัวนี้

นางไม่มีน้ำหอม แต่คือกลิ่นมันซิลิโคนแรงมากอะ กลิ่นแบบออกกาวหน่อยๆ

แต่ตัวเนื้อเกลี่ยง่าย ไม่มีความเหนอะหนะ

หลังจากลงรองพื้น :ลงรองพื้นได้ง่ายขึ้น ช่วยกระจายแสงบนใบหน้าได้ดี

ในแง่ของการอำพรางรูขุมขน ก็ทำได้ค่อนข้างดี แต่ยังแอบมีคราบความผิวแห้งอยู่นิดๆ

โดยเฉพาะช่วงจมูก ระหว่างวันถือว่าคุมมันได้ดี หน้าไม่หลุด ไม่ลอก

ถึงแม้ผิวจะดูแห้งไปนิดๆ แต่ก็ยังถือว่าใช้ได้อยู่

รูปภาพ:รูปภาพ:

Benefit the PORE fessional Pro Balm to Minimize

มาถึงไพรเมอร์ตัวดังจาก Benefit กันบ้าง ตัวนี้เนื้อจะลื่นๆ แบบซิลิโคนสีครีมๆ

กลิ่นหอม ชวนน่าหลงใหล ... ตัวเนื้อเกลี่ยง่าย แต่แห้งไวมากกก มากแบบเกลี่ยปุ๊ป แห้งปั๊บ

สัมผัสหลังทาคือแห้งสนิท แห้งแบบ นี่ยังเกลี่ยไม่ถึงไหนเลยอะ แห้งแล้ว 5555

แล้วคือกลายเป็นนี่ไม่ชอบ... เพราะเราเป็นคนผิวแห้ง ยิ่งช่วงไหนหน้าแห้งมากใช้ตัวนี้คือไม่รอด

แต่ถ้าคนผิวมันหรือผิวผสม น่าจะเหมาะกับตัวนี้มากกว่า

หลังลงรองพื้น :เมย์ว่าตัวนี้ช่วยอำพรางรูขุมขนได้ดี ในเรื่องการคุมมันในช่วงที่

หน้ามันบริเวณ T-zone คือทำได้ดีมาก หน้าไม่เป็นคราบ แต่ข้อเสียของตัวนี้คือ

เมย์ว่ามันยังไม่เหมาะกับคนที่ผิวแห้งมากๆอย่างเมย์เท่าไหร่ คือถ้าช่วงไหนหน้าแห้งมาก

เมย์ใช้ตัวนี้ไม่ได้เลย มันเบลอรูขุมขน คุมมัน แต่มันไม่ได้ให้ความชุ่มชื้นกับผิว

เลยทำให้หน้าแห้งไปจนบางครั้งเป็นคราบ และกลายเป็นทำให้เห็นจุดบกพร่องบนใบหน้าชัดขึ้น

แถมยังกลัวจะอุดตันเพราะเป็นเนื้อแบบซิลิโคนอีก

รูปภาพ:รูปภาพ:

ILLAMASQUA Hydra Veil

ไพรเมอร์รูปแบบกระปุก ปุ๊กลุคแบบเดียวที่เรามี 555+

เนื้อเจลใส ที่มาในรูปแบบคล้ายๆวุ้น หรือเจลลี่

เนื้อเจลคืนรูปตามสภาพที่มันอยู่ เมื่อทาบนผิวจะแตกตัวเป็นน้ำ

สบายผิวมาก ทาแล้วหน้าไม่แห้ง แต่ก็ไม่ได้เหนียว ให้ความรู้สึกเหมือนเวลาเราลงครีมบำรุงผิวทำนองนั้น

หลังลงรองพื้น :เราชอบฟินิสลุคของไพรเมอร์ตัวนี้มากกว่าตัวอื่นๆนะ เมย์ว่าเค้าช่วย

ในเรื่องเบลอรูขุมขน อย่างสาวผิวแห้งแบบเมย์ได้ดีมาก ด้วยเนื้อเจลที่ให้ความสดชื่นและชุ่มชื้น

ทำให้ได้ความฉ่ำวาวแบบงานผิวออกมา

ระหว่างวันหน้าไม่มัน ไม่เป็นคราบแห้งเลย เครื่องสำอางยังติดทน เลิศมาก

รูปภาพ:รูปภาพ:

Laura mercier foundation primer – oil free

ตัวนี้มาเป็นแบบเนื้อครีม เลยทำให้เกลี่ยง่าย แรกๆมีความหนึบๆบนผิว

แต่แห้งไวอยู่ เลยไม่ทำให้รู้สึกเหนอะหน้าอะไร ด้วยเนื้อครีมสีเขียว

ตัวนี้เลยช่วยปรับสภาพผิวหน้า จุดแดงบนใบหน้าได้ค่อนข้างดี

แต่ก็แอบไม่ชอบกลิ่นนิดๆ นะ เพราะมันมีเหมือนกลิ่นซิลิโคนอ่อนๆอยู่

หลังลงรองพื้น :ตัวนี้เรื่องอำพราง หรือเบลอรูขุมขน สำหรับเมย์ เมย์ว่ายังไม่ค่อยเท่าไหร่

ด้วยช่วงรอยใต้ตา ร่องแก้ม ก็ยังแอบเห็นเส้น หรือรูขุมขนชัดอยู่ ลุคที่ได้จะออกมา

ดูแมทๆ แต่ก็ไม่ทำให้ผิวดูแห้งมาก ระหว่างวันคุมมันได้ประมาณนึง ตกบ่ายมีช่วงทีโซนมันบ้าง

แต่ก็ไม่ได้เยอะ โดยรวมคือเครื่องสำอางติดทนดีอยู่ มีหลุดบ้างเล็กๆ น้อยๆ

บริเวณหน้าผากและปลายจมูก โดยรวมยังรู้สึกเฉยๆกับตัวนี้

รูปภาพ:รูปภาพ:

CHANEL Le Blanc De Chanel Multi Use Illuminating Base

เป็นเบสเนื้อเหลวที่สุดที่มีในกรุ ออกแนวเนื้อลิควิดสีขาว มาในขวดแก้ว

สวยหรูดูแพง ก็แพงจริงๆแหละ 555+ ตัวเบสจะช่วยปรับสภาพผิวให้ดูเนียนสว่างขึ้น

และมีมิติ มีการเล่นแสงมากขึ้น เนื้อเบสหอม มมม เกลี่ยง่าย ช่วยลดขนาดรูขุมขนได้ดี

หลังลงรองพื้น :ตัวนี้ทำออกมาได้ผิวที่ให้ผิวดูฉ่ำน้ำ และปรับให้ผิวดูสว่างขึ้นมากกว่าตัวอื่นๆ

ช่วงครึ่งวันแรกนี่คือได้ผิวออกมาสวยเลย แต่พอตกบ่ายขนาดผิวแห้งแบบเมย์ก็ยังแอบเริ่มมีความมันมีความเยิ้มเหมือนกันนะ เลยทำให้หน้าดูดรอบลงนิดนึงอะถือว่าเรื่องคุมมันยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่โดยรวมเรื่องความเนียนความเบลอรูขุมขนก็ทำได้ดีอยู่นะ แต่เราว่าเหมาะกับการถ่ายรูปแบบ แป๊ปๆมากกว่าถ้าให้อยู่ทั้งวันสำหรับเมย์ยังไม่ตอบโจทย์ ยิ่งกับคนผิวมันแล้ว ตัวนี้อาจจะเอาไม่อยู่

รูปภาพ:รูปภาพ:

MAC PREP + PRIME Natural Radiance BASE

ตัวนี้จริงๆ ของเค้ามีทั้งหมด 2 สีนะ ถ้าจำไม่ผิด ถือสีเหลือง(เนื้อ) กับ สีชมพู

ส่วนของเมย์ที่ใช้ตัวนี้ จะเป็นเจลสีเหลืองหรือสีเนื้อ ที่จะช่วยเตรียมผิวก่อนแต่งหน้าและบำรุงผิว

ไปด้วยในตัว ตัวเจลบางเบา ไม่หนักหน้า เกลี่ยง่าย มีความชิมเมอร์นิดๆ ให้ผิวดูโกว ดูสว่าง

หลังลงรองพื้น :ตัวนี้เป็นอีกตัวที่ให้ฟินิชลุคที่เป็นงานผิวๆ นางมีความเนียน มีความโกว

ให้กับผิว ก็คงจะมาจากตัวชิมเมอร์ที่นางใส่ลงไปนั้นแหละ แต่ไม่เงาเท่ากับตัวของชาแนลและก็ไม่ได้ดูฉ่ำน้ำขนาดอิลลามาสก้านะ เป็นแบบอยู่กึ่งกลางระหว่างสองอันนี้ผ่านไปครึ่งวันแอบมีความมันอยู่ ถ้าต้องอยู่ข้างนอกนานๆ อาจจะต้องมีซับมงซับมันกันบ้างบริเวณทีโซน โดยเฉพาะช่วงจมูก แต่โดยรวมตัวนี้ก็ยังถือว่าใช้ได้สำหรับสาวผิวแห้งแบบเมย์ (ถ้าใครชอบความโกวหน่อยนะ)

รูปภาพ:รูปภาพ:

NARS PORE & SHINE CONTROL PRIMER

ตัวเนื้อครีมสีขาว มีความหอม แบบน้ำหอมมากกว่าตัวอื่นๆ เนื้อเกลี่ยง่าย แห้งไว

ช่วยปกปิดรูขุมขนได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว หลังลงผิวสักครู่จะรู้สึกได้เลยว่า ตัวเนื้อจะแห้งไปกับผิว

ให้ผิวสัมผัสแบบแป้ง ที่ไม่มีความเหนียวเหนอะหนะ หรือความมันอยู่เลย

หลังลงรองพื้น :ช่วยปกปิดรูขุมขนบนใบหน้าได้ค่อนข้างดี อาจจะมีบ้างช่วงจมูก และร่องแก้ม

ที่ยังแอบเห็นร่องรอยอยู่ ได้ผิวที่เนียนแบบแมท ไม่มีความมันวาว หรือเงาแบบงานผิวเกาหลีแต่อย่างใด ตัวเนื้อไม่หนัก ไม่เหนอะหน้า เพราะนางคุมมันได้ก็ค่อนข้างดีตลอดทั้งวันเราว่าตัวนี้สำหรับคนผิวมันน่าจะชอบ แต่สำหรับผิวแห้งแบบเมย์เมย์ว่าตัวเนื้อทำให้หน้าแห้งไปนิดระหว่างวัน เลยอาจทำให้หน้ายิ่งดูแห้งเข้าไปอีก

ทีนี้มาลองพิสูจน์กันดูดีกว่า

ว่าผลของไพรเมอร์หรือเบสแต่ละตัวจะเป็นยังไง เมื่ออยู่บนกระดาษซับมัน

^__________________^

รูปภาพ:รูปภาพ:

เป็นยังไงกันบ้างคะ ได้เห็นข้อแตกต่างของไพรเมอร์แต่ละตัวกันไปแล้ว

จากข้างบนจะเห็นได้เลยเนอะ ว่าตัวที่มีความมันออกมาน้อยที่สุด 3 ตัวตามลำดับ

นั้นก็คือ

1. ILLAMASQUA

ตัวนี้นอกจากจะมีความมันน้อยที่สุดแล้ว อย่างที่บอกไปว่านอกจะช่วยให้

ผิวเราออกมาสวยฉ่ำน้ำ ดูชุ่มชื้นสุขภาพดีแล้ว เค้ายังช่วยฟรีซผิวให้ดูสดใส

ได้ยาวตลอดทั้งวันมากกว่าตัวอื่นๆ เรียกได้ว่า เป็นงานผิวที่แท้ทรูเลยทีเดียว

สาวผิวแห้งแบบเมย์ เลยยกรางวัลที่ 1 ให้กับตัวนี้เลยจ้าาา

2. MAC

ตัวนี้มีความมันออกมานิดๆ ถ้าเทียบกับตัวอื่นแล้วก็ถือว่าน้อยมาก

ได้ความลุคผิวโกว ผิววิ้งกันไป ถ้าใครชอบ แต่ตัวนี้เนื้อของนางจะเป็นเหมือน

ซิลิโคนนิดๆ เวลาทำความสะอาด อาจจะต้องทำความสะอาดดีๆกันหน่อย

จะได้ไม่อุดตันรูขุมขนนะจ๊ะ สาวๆคนไหนที่ชอบผิวกึ่งมัน กึ่งแมท ก็ต้องตัวนี้เลย

3. wet n wild

ถูกและดียังมีให้เห็น คำๆนี้ยังใช้ได้อยู่จริงจริ้งง ง

ด้วยราคาที่น่ารัก และคุณภาพที่เกินราคา อาจจะติดแค่เรื่องของกลิ่นนิดนึง

ที่แรงไปหน่อย แต่ด้วยความที่นางสามารถคุมมันได้ดี เมื่อเทียบกับหลายๆแบรนด์

ที่ราคาแรงแล้ว ก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว แถมยังได้งานผิวที่เนียนไม่แพ้ตัวอื่นๆเลยน้า

ซึ่งจะเห็นได้เลยนะว่าตัวที่เหลือนี่คือมีความมันออกมาเยอะมาก กก ก

สำหรับส่วนตัวเมย์แล้วเนี่ย อย่างที่บอกว่าเมย์เป็นคนที่ผิวค่อนข้างแห้งอยู่แล้ว

บางตัวที่มีความมันนิดๆ หน่อยๆ สำหรับเมย์ก็เลยยังไม่ค่อยรู้สึกอะไรเท่าไหร่

เพราะก็ไม่อยากให้หน้าดูแห้งจนเกินไป ยังไงใครที่สนใจหรือกำลังเลือกหาไพรเมอร์คู่ใจกันอยู่

เมย์ก็หวังว่า รีวิวเล็กๆ น้อยๆ ของบทความนี้ จะพอเป็นทางเลือกให้เพื่อนๆ ได้ลองหาไพรเมอร์

ที่เหมาะสมกับสภาพผิวหน้าของตัวเองกันได้ง่ายขึ้นเนอะ

วันนี้ไปก่อนแล้ว พบกันใหม่ตอน เก็บห้องครั้งหน้า 5555

สวัสดีค่า ^^