ใช้ตามรีวิวเค้าว่าดีเราเลยลอง...ลองแล้วดีเลยบอกต่อ (ฉบับมนุษย์ผิวผสม)

เราเป็นคนที่มีผิวผสมค่อนไปทางผิวมัน คือจะมันตรงช่วงหน้าผากและ T- Zone ส่วนบริเวณแก้ม ใต้ตา จะแห้งมาก เป็นสิวอุดตันง่าย แถมผิวแพ้ง่ายอีก ช่วงไหนดูแลไม่ดีก็จะลอกเป็นขุยๆ แต่งหน้าไม่ติด แงงงง น่าเศร้ายิ่งนัก เป็นคนผิวผสมแบบนี้ชีวิตลำบากเข้าไปอีกกกกก! เวลาจะซื้อ Skincare ทีวุ่นวายมาก เลือกแล้วเลือกอีก อันนั้นก็มันไป อันนี้ก็แห้งไป อันนี้ใช้แล้วแพ้ ลองผิดลองถูกมาก็เยอะ เสียเงินไปก็มาก TT

หน้าเดียวกันแต่ต้องดูแลต่างกัน วันนี้เลยจะพาไปดู Skincare ระดับเทพ ที่ได้ลองมาแล้ว อะไรดี อะไรเวิร์ค อยากบอกต่อ สูตรสำหรับสาวผิวผสมโดยเฉพาะ มาเริ่มที่ตัวแรกกันเลยค่ะ!!!

1. Origins: Plantscript Anti-aging treatment lotion tonique anti-vieillissement

เริ่มที่ตัวนี้เลยค่ะ จากแบรนด์ Origins ตัวนี้เป็นโลชั่นเช็ดทำความสะอาดผิวหน้า สีขาวแบบน้ำนมเข้มข้น เนื้อเหลวๆ มีส่วนผสมหลักๆ คือ Anogeissus ดอกมะลิ และว่านหางจระเข้ สามารถใช้เทลงสำลี แล้วเช็ดให้ทั่วหน้า แต่เราใช้วิธีเทลงกับมือ แล้วทา หรือตบๆ ลงบนผิวหน้าโดยตรงเลยจ้า (กลัวไม่สวย 5555) ใช้เตรียมความพร้อมผิวหน้าก่อนการแต่งหน้าและยังเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวหน้าได้อีกด้วย

สำหรับโลชั่นตัวนี้ชอบตรงที่ซึมไวมากกกกกก เพราะเนื้อโลชั่นเป็นน้ำ ทาๆ ตบๆ ไปกับผิว ใช้แรกๆ ก็ยังรู้สึกเฉยๆ แต่พอใช้ไปสักพัก ผิวหน้าชุ่มชื่้นขึ้นมาก ผิวหน้าเรียบเนียน รูขุมขนเล็กลง ผิวหน้าดูเปล่งปลั่งขึ้นแบบธรรมชาติ  ริ้วรอยใต้ตาดูจางลง เห็นชัดเลยว่าแต่งหน้าง่ายขึ้น แถมอีกอย่างคือ ขวดนึงถือว่าใช้ได้คุ้มอยู่ เป็นตัวนึงที่น่าสนใจเลยน้า

2. Mamonde: Micro Mask to Foam

มาถึงหมวดล้างหน้ากันบ้าง ตัวนี้มีคนบอกต่อๆ มาว่าดี เค้าว่าดีเราก็ต้องลองสิจ๊ะ! โฟมล้างหน้าตัวนี้มีส่วนประกอบ สำคัญจากดอกบัว และโคลนจากธรรมชาติ ที่ช่วยล้างสิ่งสกปรกบนใบหน้าได้อย่างหมดจด!!!

ตัวนี้ถึงกับต้องเอามารีวิว เพราะวิธีใช้มันสนุกดีนะคะ ชื่อบอกว่า Mask to Foam วิธีใช้ก็คือทาเป็นมาส์กทิ้งไว้ประมาณ 3 นาที จากนั้นใช้น้ำลูบๆ มาร์กที่ทาไว้ ก็จะกลายเป็นโฟมลื่นๆ นวดๆ ไปเรื่อยๆ กลิ่นหอมอ่อนๆ นวดหน้าไปเพลินๆ แล้วล้างน้ำออกให้สะอาด หลังล้างหน้าถึงกับอึ้ง! เพราะหน้าไม่แห้งตึงเลย แถมสะอาดเกลี้ยง บอกลาคราบมาสคาร่า คราบอายไลเนอร์ที่เป็นแบบกันน้ำ สะอาดจริงแบบไม่ต้องออกแรงเยอะ เป็นการทำความสะอาดผิวหน้าอย่างล้ำลึก ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า เรียกได้ว่า ทั้งมาส์กหน้าและล้างหน้าแบบ 2 in 1 ใครที่แต่งหน้าทุกวันน่าจะชอบ อย่าลืมไปลองกันนะคะ รับรองจะต้องเลิฟค่าาา

3. Fresh Umbrian Clay Mattifiying Serum

เป็นแบรนด์ที่อยากใช้มานานแล้ว เลยลองหยิบตัวนี้มา เป็นสูตร Normal to Oily Skin มาลองกันว่า คนผิวผสมแบบเราจะเอาอยู่มั้ย? มีส่วนผสมแร่ธาตุที่อยู่ในโคลน ช่วยปรับผิวสวยและกระจ่างใส มีส่วนผสมของขิง ช่วยให้รูขุมขนเล็กลง มีสารสกัดจาก Meadowsweet ช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ

ตัวนี้เป็นเซรั่ม สีเนื้ออ่อนๆ เนื้อเซรั่มไม่เหนียวเลย ซึมไปกับผิวได้ไวมาก ทาแล้วทาครีมกันแดดซ้ำได้ ไม่รู้สึกหนักหน้า แต่งหน้าต่อได้เลย สำหรับคนผิวผสมอย่างเราๆ จะทาอะไรบนหน้าก็ต้องเลือกให้ดี เพราะเซรั่มตัวนี้ทาแล้วหน้าไม่มันระหว่างวัน รูขุมขนเล็กลง หน้าเรียบเนียนขึ้น

4. Hada Labo Arbutin Whitening Lotion

มาถึงแบรนด์ฮอตฮิตจากญี่ปุ่น แบรนด์นี้สาวๆ คงรู้จักกันดี ไม่มีในสิสต์ของสาวผิวผสมไม่ได้เลยนะคะ เค้ามีให้เลือกมากมายหลายสูตร หลายสภาพผิว วันนี้เลือกสูตรที่เป็น Whitening แถบสีเหลือง สำหรับผิวธรรมดาถึงผิวมัน แถบสีแดงสำหรับคนผิวแห้ง มีส่วนประกอบของ อาร์บูตินและวิตามินซี ช่วยเรื่องผิวกระจ่างใส เนื้อโลชั่นใสๆ ใช้ทาๆ ตบๆ หลังล้างหน้า ซึมลงสู่ผิวค่อนข้างเร็ว ทาหน้าได้ ทาคอก็ดี ผิวดูอิ่มฟูขึ้น อิ่มน้ำแบบสุขภาพดี

สำหรับแบรนด์นี้ชอบตรงที่ส่วนประกอบจะไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มีน้ำหอม ลดโอกาสการแพ้ระคายเคืองไปได้เลย โลชั่นตัวนี้ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่น ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอยิ่งขึ้น ใช้ไปสักพักเริ่มมีคนทักว่าหน้าใสขึ้น ค่อนข้างโอเคเลยสำหรับมนุษย์ผิวผสม เพราะหน้าไม่มันระหว่างวัน ลองไปเลือกกันดูได้เลยนะคะ แบรนด์นี้เค้ามีอยู่หลายสูตร แถมขวดนึงใช้ได้นานอีกด้วย จัดได้ว่าเลิศจ้าาา

5. Aesop: In Two Minds Facial Hydrator

เห็นขวดเรียบๆ แต่ประโยชน์เพียบนะจ๊ะ! เอสอปแบรนด์ฮิตจากออสเตรเลีย ตัวนี้น่าสนใจมาก ตรงที่เค้าคิดค้นสูตรมาเพื่อสาวผิวผสมอย่างเราๆ โดยเฉพาะ! ไม่ต้องไปงมสูตรที่ไหนอีกแล้ว เพราะเค้าคิดมาให้แล้ว ด้วยส่วนประกอบของโรสแมรี่ ลาเวนเดอร์ และโมร็อคแคน คาโมมายล์ ซี๊ด ออยล์ และอะซาอิ เบอร์รี่ ส่วนประกอบเหล่านี้จะช่วยบำรุง ให้ความชุ่มชื่นกับผิวอย่างล้ำลึก เสริมโคงสร้างผิวให้แข็งแรง แถมตัวนี้ยังมีสารสกัดจากน้ำมันมะพร้าว เวลาทาจะรู้สึกเย็นๆ ชุ่มชื่นดีค่ะ อัดแน่นไปด้วยส่วนประกอบที่มีประโยชน์ขนาดนี้ รีบไปลองกันซิจ้ะะะะ!

ลองใช้แล้วคือเลิฟมากกกกกก เป็นเนื้อครีมที่เบามาก ซึมเข้าสู่ผิวได้เร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ กลิ่นหอมอ่อนๆ ตัวนี้มีสารสกัดจากน้ำมันมะพร้าว ทาแล้วก็รู้สึกเย็นๆ สบายหน้าดีค่ะ ทาก่อนแต่งหน้าได้แบบไม่หนักเกินไป ควบคุมความมันระหว่างวันได้ดีโดยเฉพาะช่วง T-Zone ส่วนที่ผิวแห้งก็ชุ่มชื่นขึ้นมาก ตัวนี้ใช้ไปสักพักแล้ว รู้สึกเห็นผลมาก คือผิวหน้าดีขึ้นจริงๆ สิวอุดตันลดลง ส่วนที่แห้งลอกเป็นขุยๆ ก็หาย ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้นจริงๆ สาวๆ ที่มีปัญหาผิวหน้ามัน หรือผิวขาดน้ำเหมาะมาก สาวๆ ห้ามพลาดเลยจ้าาา!

6. Aesope: In Two Minds Facial Toner

อีกตัวที่สอยมาพร้อมกันคือโทนเนอร์ ซึ่งสำคัญมากสำหรับคนที่แต่งหน้าทุกวัน เป็นการเตรียมผิวก่อนแต่งหน้า และใช้ทำความสะอาดผิวหน้าหลังจากล้างเครื่องสำอาง แต่โทนเนอร์หลายๆ ตัวที่ใช้มา ทำหน้าพังยับเยิน TT ใช้แล้วผิวหน้าแห้งตึง ลอกเป็นขุยๆ หรือสิวขึ้นกระจาย แต่ตัวนี้ พอดีกับสภาพผิว คือหน้าไม่แห้งเกินไป ผิวตรงไหนที่แห้ง ก็ไม่แสบ ไม่ระคายเคืองเลย ขจัดสิ่งสกปรกบนใบหน้าได้ดีเยี่ยม สิวอุดตัน สิวผด รอยแดง ก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัดเจน

จัดหน้าสดๆ ให้ดูกันไปเลยจ้าาา โนคิ้ว โนรองพื้น (ปรับแสงนิดหน่อย) อันนี้เป็น Before – After หลังจากใช้ Aesop ทั้ง 2 ตัว เพราะเริ่มใช้พร้อมๆ กัน อยากกรี้ดดัง ให้กับผลลัพธ์จ้าาาา ผลคือสิวแดงๆ บริเวณคางจางไป ริ้วรอยแห้งๆ ใต้ตา คือดีขึ้นมากๆ ผิวบริเวณข้างจมูกก็ไม่เป็นขุยแล้ว รูขุมขนเล็กลง สังเกตได้เวลาแต่งหน้า บ๊ายบาย Primer บอกลารองพื้นหนาๆไปได้เลยจ้าาาาาา เรียกได้ว่า Aesop เอาใจไปเลยกับผลิตภัณฑ์ในไลน์ ‘In two Minds’ ที่คิดค้นสูตรเพื่อคนผิวผสมโดยเฉพาะ สาวๆ ไปลองกันได้นะจ้ะ

จบไปแล้วสำหรับการรีวิวผลิตภัณฑ์สำหรับมนุษย์ผิวผสม ที่เหมือนจะวุ่นวายในการเลือก Skincare ลองไปเลือกๆ กันดูนะคะ แต่อย่างไรก็ตามก่อนซื้อผลิตภัณฑ์ อย่าลืมทดสอบการแพ้ของเราก่อนนะคะ หรืออ่านส่วนประกอบว่ามีสารตัวไหนที่เราแพ้มั้ย จะได้สวยใสกันทุกคนนะคะ วันนี้ลากันไปก่อน เจอกันใหม่นะค้าาาาา