7 ความจริง ชีวิตการทำงาน ไม่ต่างกับ The Face Thailand
ใครว่า The Face Thailand SS 2 เป็นเพียงแค่รายการ ?...ชีวิตการทำงานจริงก็แซ่บแบบนี้แหละ!!
เผยแพร่: 24 พ.ย. 2558 09:00 น.
Views: 14,236
รหัสบทความ: 4725
แซ่บมากกกกก ก.ไก่ ล้านตัว สำหรับเรียลลิตี้เฟ้นหานางแบบThe Face Thailand Season 2ที่เข้ามาสู่ช่วงกลางๆ แล้ว ไม่น่าพลาดสักตอนเลย เพราะเราต่างก็ลุ้นว่า ใครกันนะที่จะสตรองที่สุด ได้เป็น The Face ตัวจริงในที่สุด บางคนก็ดูไปด่าไป ( อินจัด 555+ ) บางคนก็ว่า มันก็รายการที่มีสคริปต์รายการหนึ่ง ซึ่งไม่ว่า จะคิดกันอย่างไรก็ตาม ถือว่า ประสบความสำเร็จมาก ที่สามารถดึงดูดใจคนดูให้วิพากษ์วิจารณ์กันได้มากเป็นหมื่นเป็นแสนคน ( นับจากยอดฟอลโลวเพจ ที่ทะลุไป 400k แล้ว!! )
พี่อาร์ตเคยรวบรวมประโยคเด็ดไว้ในบทความ
ไปแล้ว บางคนอาจจะยังงงว่า มันใช้ได้จริงหรอ ในชีวิตการทำงาน ?!? บางคนอาจจะยังนึกไม่ออกในภาพรวม บางคนอาจจะงงว่า พี่อาร์ตพูดอะไรวกวน 555+ดังนั้น ในบทความนี้ พี่อาร์ตขออิงประสบการณ์เป็นข้อๆ ตามประสาสาววัยทำงานให้อ่านกันง่ายขึ้น รู้สึกว่า เรียลลิตี้นี้มันก็น่าดู น่าคิดตามมากขึ้น น้องๆ ที่กำลังเรียนอยู่ จะได้เตรียมตัวสู่ตลาดแรงงานได้สตรองขึ้นเนาะ : ))( ความจริงแล้ว แต่ละวีคก็มีประโยคเด็ดเยอะแยะเลย กว่าจะตามหมดซีซัน พี่คงตายก่อน 555+ )
#1 เมื่ออยู่ในโหมดเรียนรู้ จงเปิดรับให้มากที่สุด มีสมาธิให้มากที่สุด
ถ้าจะสังเกตให้ดี ช่วง Master Class ในรายการจะเป็นช่วงที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าแข่งขันได้เรียนรู้มากที่สุด มันไม่ใช่ช่วงที่จะต้องมาซอฟต์ใส เอาสนุกแต่เพียงอย่างเดียว นี่คือ โอกาสที่เมนเทอร์จะเอาใจใส่เรามากที่สุด และขอให้เราโฟกัสให้ถูกประเด็นที่สุด ( อย่างใน Ep.6 ถ้าดูผิวเผินเราก็จะงงว่า เจนี่ ซึ่งเป็นเมนเทอร์พิเศษมาโหนผ้าทำไม ? เกี่ยวอะไรกับการเดินแบบ ? แต่ถ้าใครตาคมจะเห็นว่า เมนเทอร์ต้องการสอนเรื่องสมาธิในการเดินแบบ และถ้าสังเกตลึกไปอีก สาเหตุที่กวางชนะMaster Classหลายวีคติดกัน นั่นก็เพราะกวางตั้งใจฟัง จนสามารถตีโจทย์แตกได้ )
การทำงานก็ไม่ต่างกันถ้าอยู่ในช่วงทดลองงาน หรือเปิดโอกาสให้เราได้อภิปรายซักถามได้เต็มที่ ก็อย่าปล่อยโอกาสล่วงเลยไป พยายามจับประเด็นให้ได้ด้วยตัวเองว่า เขาต้องการแบบไหน ? เราควรทำยังไงถึงจะเข้าแก๊ป ? ไม่มีใครหรอกที่จะต้องคอยบอก คอยสอนเราตลอดไป ถ้าเราไม่เรียนรู้ซะเลย มันก็ยากที่จะพัฒนา และเมื่อไม่พัฒนา ก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไรที่เราจะโดนคัดออก ไม่ผ่าน!!!
#2 มีความคิดเป็นของตัวเองให้ได้ อย่าเชื่ออะไรเมนเทอร์มาก
เป็นเรื่องดี ที่เราจะนอบน้อมต่อผู้อาวุโส หรือผู้รู้ด้วยการเปิดใจรับทุกอย่างที่เขาสอนแต่!!บางครั้งแล้วเมนเทอร์ก็เหมือนแกล้งเรา แนะนำอะไรที่ผิดๆ ตลกๆ ใช้ไม่ได้จริง อีกทั้งเมนเทอร์ก็ใช่ว่า จะเป็นคนที่ถูกต้อง 100% เสมอไป ( แม้จะมีประสบการณ์การันตีก็ตาม ) ดังนั้น สิ่งที่เราพึงทำก็คือ เราไม่จำเป็นต้องเชื่อทุกอย่างที่เมนเทอร์สอน แต่จงฟังทุกอย่างแล้วนำมาคิดเอง ประยุกต์เอง ชั่งน้ำหนักเอาเองว่า เหตุผลแบบไหนน่าจะโอเคกว่า เราถึงจะ' เป็นงาน 'ได้ไวขึ้น เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวสำหรับคนอื่นๆ
#3 อย่าหวั่นไหวในคำดุหรือคำชม
แยกอารมณ์งานกับอารมณ์ส่วนตัวให้ขาดออกจากกัน สิ่งที่ผู้ใหญ่ดุหรือชม นั่นคือ การวิจารณ์งานที่เป็นไปตามเนื้อผ้า หน้าที่ของเราในฐานะผู้น้อยก็ต้องมองให้ออกว่า เราผิดจริงรึเปล่า ? ศักยภาพเราอยู่ในระดับไหน ? มีอะไรควรเพิ่มหรือลด ? อย่าอ่อนไหวง่าย อย่าเก็บไปคิดมากจนไม่เป็นอันทำอะไรPlay Hard, Work Hard !
#4 คนที่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีที่สุด มีโอกาสชนะมากที่สุด
ถ้าสังเกตให้ดีในรอบMaster Classและรอบแคมเปญ เราจะยิ่งประจักษ์เข้าไปอีกว่า ความสวยไม่ช่วยอะไร สติต่างหากที่สำคัญที่สุด ต่อให้ได้ชุดไม่สวย โดนกรรมการโห่ โดนเมนเทอร์วีนใส่ คนที่แน่วแน่ โฟกัสที่หน้าที่ของตัวเองเสมอ ไม่หลุดจนกว่าจะเสร็จแคมเปญ มีโอกาสสูงมากที่จะไม่โดนคัดเข้าไปห้องดำ
การทำงานก็เช่นกัน ต่อให้เราเตรียมตัวมาดีแค่ไหน มันก็ต้องมีเหตุการณ์เฉพาะหน้า เป็นอะไรก็ได้ที่นอกเหนือจากที่เราคิดไว้ รอดหรือรุ่ง วัดกันที่สติเท่านั้น' ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว 'แล้วเราจะจบอย่างสวยๆ
#5 ชัยชนะไม่ได้เป็นของเราคนเดียว
ถึงแม้รายการจะเฟ้นหาผู้ชนะเพียง 1 คน แต่ก็อย่าลืมว่า กว่าจะไปถึงจุดนั้นก็ต้องอาศัยTeamworkทั้งในส่วนของเมนเทอร์ที่คอยให้คำแนะนำ และเพื่อนร่วมทีมที่จะคอยช่วยเหลือกันตลอด
ในชีวิตการทำงานจริงก็เช่นกัน หลายสถานการณ์เราต้องยอมรับว่า เราคนเดียวไม่ใช่คนที่มีพลังมากมายอะไร ต้องหัดยอมคนบ้าง อาศัยการทำงานเป็นทีมบ้าง เมื่องานสำเร็จแล้วไม่ใช่มีแค่เราคนเดียวที่ยิ้ม มันถือว่าเป็นเรื่องที่อบอุ่นใจดีนะ:)
#6 การที่เราแพ้ ไม่ได้แปลว่าทุกอย่างพังหมด
บางทีแล้วมันก็แค่' เราดีไม่พอ 'หรือ' คนอื่นดีได้มากกว่าเรา 'ใช่ว่าเราจะไม่มีดีอะไรเลย ถ้ายังอยากไปต่อ ไม่จำเป็นต้องล็อคตัวเองไว้หนทางใดหนทางหนึ่งแต่เพียงอันเดียว ( อย่างเช่นคนที่โดนคัดออกแต่ละสัปดาห์ ถึงแม้ไม่ได้เป็น The Face ก็ใช่ว่าจะออกไปแล้วไม่มีผลงานอีกเลยนี่นา ) เก็บสิ่งดีๆ ที่ได้รับ ไปพัฒนาตัวเองให้ดีกว่านี้ แล้วเราจะมีชีวิตที่ดีเอง
#7 อย่าดราม่าถ้ายังอยากอยู่ต่อ
คำพูดคือ สิ่งหนึ่งที่แสดงทัศนคติของคนพูดได้ดีว่า' แก้ตัว 'หรือ' มีเหตุผล 'อย่าใช้ความน่าสงสารมาร้องขอโอกาส การทำงานควรโฟกัสที่เนื้องานตามจริง ยอมรับคำตัดสิน ยอมรับว่า นี่คือเกม ถึงแม้จะไม่เข้าใจในตอนนี้ เวลาผ่านไป เห็นอะไรมากขึ้น คิดอะไรได้มากขึ้น เดี๋ยวก็เข้าใจเอง
#8 มันก็แค่เกม อย่าอินมาก !
บางคนคงจะพอเห็นภาพหลุดบ้างแล้วว่า เมนเทอร์บีกับเมนเทอร์คริสกอดกันดีใน IG ภาพปาร์ตี้อะไรสักอย่าง ซึ่งสังคมการทำงานอื่นๆ ที่ไม่ใช่วงการบันเทิงก็ประมาณนั้นแหละค่ะคุณน้อง ย้ำอีกรอบว่าPlay Hard Work Hardเรื่องงานเราใส่กันเต็มที่ ทั้งชม ทั้งวิจารณ์ แตกคอกันไปข้าง พอเลิกงานก็ตัดสวิทช์ เปลี่ยนโหมดมากินเลี้ยงกัน ขอโทษขอโพยกันก็มีให้เห็นตั้งมาก นี่แหละวิถีของมืออาชีพ เล่นใหญ่ในทุกโหมดชีวิตให้คุ้มๆ !
ยังเหลืออีกหลายสัปดาห์ ยังไงก็ติดตามกันต่อไปเนอะ อย่าเพิ่งด่วนสรุปอะไรมาก เดี๋ยวจะไม่สนุกซะก่อน สิ่งที่เราเห็น บางทีก็อาจไม่ใช่อย่างที่เราคิดก็ได้ อาจจะมีอะไรพลิกล็อคก็เป็นไปได้ ^^
