เมื่อก่อนคบกันใหม่ๆ

ะอ้อนยังไงก็น่ารัก

ขอเรื่องยากแค่ไหนก็จัดให้ได้ทั้งนั้น แต่เดี๋ยวนี้สิ พอจะขออะไรซักอย่างก็ไม่ได้ดั่งใจ

มีปัญหาต้องการเคลียร์ให้เข้าใจ ก็กลายเป็นทะเลาะกันไปอีก

เราว่าเราก็ไม่ได้พูดอะไรแปลกประหลาดนะ ก็พูดตามประสาแฟนสาวผู้น่ารัก

ไหงโดนพ่อหนุ่มตัวดีตอกกลับเข้าให้ได้ล่ะเนี่ย

เชื่อว่า

สาวๆ หลายคนอาจต้องเคยเจอกับสถานการณ์ที่พูดไม่ออกบอกไม่ถูก

แบบนี้กันบ้างแหละนะ ที่เป็นแบบนี้นั้นก็เพราะว่า

หนุ่มๆ โดยพื้นฐานแล้วมักจะแตกต่างกับผู้หญิง

ฉะนั้น ถ้าหากมีเรื่องอะไรที่อยากคุยอยากเคลียร์

มันก็ต้องมีกลยุทธิ์กันนิดหน่อย

และนี่ก็คือ

กฎ


3 ข้อ ที่ควรนึกถึง เมื่อต้องคุยกับแฟนหนุ่ม

คุยแบบไหน

คุยยังไงให้แฟนเข้าใจได้แบบไม่ต้องทะเลาะ

เลื่อนลงไปดูกันเลยจ้า


กฎข้อที่ 1 # รับฟังอย่างแท้จริง

รูปภาพ:https://media.giphy.com/media/OndFjaEH9dzry/giphy.gif

ก่อนที่เราจะขออะไรสักอย่างให้ได้ดั่งใจตัวเองก่อนอื่นให้นึกถึงคนที่เราจะขอเป็นอันดับแรก ถ้าหากคุณอยากให้แฟนหนุ่มให้เกียรติความรู้สึกของคุณและสิ่งที่คุณต้องการแล้วล่ะก็ต้องทำให้เขารู้สึกปลอดภัยและสบายใจที่ได้แชร์ความรู้สึกกับคุณซะก่อน และการที่จะทำให้เขาเกิดความรู้สึกแบบนั้นได้ก็คือการรับฟังซึ่งจะทำให้เขารู้สึกว่าคุณนั้นสนใจในสิ่งที่เขาพูดอย่างแท้จริงไม่ได้เอาแต่จะระบายอยู่ฝ่ายเดียว


ถ้าจะให้พูดให้ชัดๆ ล่ะก็

ผู้ชายเขาก็เหมือนกับผู้หญิงอย่างเรานี่แหละ

เขาก็ต้องการความรู้สึกที่ว่า

เห้ย..โอเคนะ เธอรู้สึกแบบนี้เหรอ

เมื่อใดก็ตามที่เขารู้สึกแบบนั้นได้

ขาก็จะรับฟังคุณและรู้สึกให้เกียรติคุณตามมาด้วย

แต่ถ้าเมื่อใดก็ตามที่เขารู้สึกว่า

คุณไม่ได้ฟังที่เขาพูดซักนิด

เอาแต่ความคิดตัวเองอยู่คุณเดียว

เมื่อนั้นเขาก็จะปิดโสตประสาทตัวเอง

และปฏิเสธทุกสิ่งอย่างที่เข้ามาในหูอย่างแน่นอน


รูปภาพ:https://media1.tenor.com/images/00f34c2238c44354f3c68ad73861fde8/tenor.gif

ฉะนั้น

ถ้าหากคุณต้องการคุยกับเขาในเรื่องที่พูดได้ยา

ก็ให้ใช้จิตวิญญาณของนักเจรจาต่อรองผู้มีวาทศิลป์ซะ ควรจะเข้าใจว่า

เขาก็มีเหตุผลและความรู้สึกของเขาเองเหมือนกัน

และเลือกรับฟังทางที่คุณทั้งคู่ต่างยอมรับ ซึ่งการที่เรารับฟังเขาอย่างแท้จริงนี่แหล

ะ ที่จะทำให้แฟนของคุณรู้สึกปลอดภัย สบายใจที่จะเปิดอก

และตอบสนองกับสิ่งที่คุณต้องการได้อย่างจริงใจที่สุด


กฎข้อที่ 2 # ห้ามติเตียน

รูปภาพ:https://pa1.narvii.com/6331/6a17e875b3628338623dd4391936aeb5591cdb3b_hq.gif

ในข้อที่ 2 นี้ ถือว่าเป็นกฎเหล็กที่ต้องรู้

เพื่อรักษาความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับแฟนให้ไปด้วยกันได้ดีได้อย่างยาวนาน

การวิพากษ์วิจารณ์ซึ่งกันและกันถือว่าเป็นข้อห้ามที่ไม่ควรทำแบบสุดๆ


โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเพศชาย

ที่มักจะมั่นใจในความเป็นผู้นำของตัวเองด้วยแล้วเนี่ย

การที่สาวๆ ชอบเผลอแขวะ

หรือประชดประชันเขา ถือว่าเป็นอะไรที่พลาดสุดๆ ไปเลยนะ


ยามที่ผู้หญิงรู้สึกว่ามีอะไรสักอย่างที่ควรเปลี่ยนแปลงในความสัมพันธ์นี้พวกเธอมักจะเผลอพูดจาในเชิงติเตียนแฟนหนุ่มอย่างไม่รู้ตัวเช่น 'ลองทำอะไรให้มันดูโรแมนติกมากกว่านี้ดีมั้ย' ตอนที่เราพูดเราก็แค่อยากจะเสนอแนะให้ความสัมพันธ์ดีขึ้น แต่สิ่งที่ผู้ชายได้ยินก็คือ' เธอนี่เป็นแฟนที่ทึ่มจริงๆ เล้ยยย 'อะไรประมาณนี้ ซึ่งมันจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ชายรู้สึกอยากห่างเหินกับคุณมากขึ้นเพราะรู้สึกว่า ถ้าต้องได้ยินอะไรแบบนี้บ่อยๆคงหมดความมั่นใจตัวเองไปแน่ๆฉะนั้น ขอตีตัวถอยออกมาก่อนที่จะโดนด่าไปมากกว่านี้ดีกว่า


รูปภาพ:https://media.giphy.com/media/mjzJuSxReNkbe/giphy.gif

ยามที่ผู้หญิงรู้สึกว่ามีอะไรสักอย่างที่ควรเปลี่ยนแปลงในความสัมพันธ์นี้พวกเธอมักจะเผลอพูดจาในเชิงติเตียนแฟนหนุ่มอย่างไม่รู้ตัวเช่น ' ลองทำอะไรให้มันดูโรแมนติกมากกว่านี้ดีมั้ย ' ตอนที่เราพูดเราก็แค่อยากจะเสนอแนะให้ความสัมพันธ์ดีขึ้น แต่สิ่งที่ผู้ชายได้ยินก็คือ' เธอนี่เป็นแฟนที่ทึ่มจริงๆ เล้ยยย 'อะไรประมาณนี้ ซึ่งมันจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ชายรู้สึกอยากห่างเหินกับคุณมากขึ้นเพราะรู้สึกว่า ถ้าต้องได้ยินอะไรแบบนี้บ่อยๆคงหมดความมั่นใจตัวเองไปแน่ๆฉะนั้น ขอตีตัวถอยออกมาก่อนที่จะโดนด่าไปมากกว่านี้ดีกว่า


คุณอาจจะคิดว่าการติของเรานั้น ก็คือการติเพื่อก่อซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เขารู้สึกมีความพยายามที่จะเปลี่ยนสิ่งที่เป็นอยู่ให้ดีขึ้นได้แต่จริงๆ แล้วมันก็มีอีกหลายวิธีที่จะสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้เขารู้สึกอยากทำอะไรก็ตามที่เป็นอยู่ให้มันดีขึ้นได้โดยไม่ต้องติเลยนะและสิ่งนั้นก็อยู่ในกฎข้อต่อไปของเรานี่แหละค่ะ


กฎข้อที่ 3 # ขอบคุณก็บอกว่าขอบคุณ

รูปภาพ:https://media.giphy.com/media/onqa4qnw7ksco/giphy.gif

เพศชายเป็นเพศที่โหยหาการได้รับการยอมรับมากกว่าผู้หญิงไม่ว่าจะเป็นความคิด การลงมือทำ การตัดสินใจทำอะไร ถ้าได้รับการยอมรับและเชื่อมั่นเขาจะรู้สึกว่าคุณค่าของตัวเองเพิ่มมากขึ้นซึ่งสาวๆ อย่างเรา ก็ควรจะช่วยเขาในจุดนี้ด้วยโดยการสังเกตถึงสิ่งที่เขาพยายามทำให้เราและทุกครั้งที่เรามีความสุขก็ให้เอ่ยปากขอบคุณเขาด้วยไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ยังไง ก็บอกเขาไปเถอะถ้าเขารู้ว่าคุณชอบสิ่งที่เขาทำให้ เขาจะรู้สึกว่าเขาก็เป็นส่วนหนึ่งของคุณคุณเติมเต็มเขา และเขาก็เติมเต็มคุณเช่นกัน


บางคนไม่เคยทำมาก่อนก็อาจจะรู้สึกเขินๆ อายๆ หน่อยแต่ไม่จำเป็นต้องอายหรือไป กลัวว่าเขาจะคิดว่าเราเฟคหรืออะไรหรอกนะใช่ว่าจะเป็นคนอื่นไกลที่ไหน ก็แฟนเราเองถ้ารักก็บอกว่ารักเมื่อรู้สึกซาบซึ้งก็บอกให้เขารับรู้ไว้นอกจากจะไม่เสียหายแล้วยังเป็นผลดีอีกต่างหากนะ เมื่อเขาได้รับรู้ว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งที่เขาทำให้คุณมีความสุขเขาก็ยิ่งรู้สึกอยากทำให้คุณมีความสุขมากขึ้นไปอีกด้วย


รูปภาพ:https://thumbs.gfycat.com/CriminalNeighboringJaeger-size_restricted.gif

จงจำไว้ว่าการแสดงความรู้สึกซาบซึ้งใจ ก็เหมือนเป็นการเติมเชื้อเพลิงให้กับชายหนุ่มทำให้เขารู้สึกว่าอยากจะอยู่เคียงข้างคุณตลอดไปเมื่อเราได้อยู่ใกล้กับคนที่ทำให้รู้สึกมั่นใจในตัวเองใครๆ ก็อยากอยู่ด้วยจริงมั้ยล่ะฉะนั้น ให้เริ่มแสดงออกถึงความรู้สึกขอบคุณแล้วคุณก็จะได้พบกับอีกร่างหนึ่งของแฟนหนุ่มที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อความสัมพันธ์ระหว่างคุณสองคนอย่างแท้จริง


สรุปความสั้นๆ ได้ว่า ถ้าหากคุณอยากให้เขาทำตามที่เราต้องการก่อนอื่นคุณก็ต้องรับฟังเขาอย่างจริงใจซะก่อนและอย่าเผลอทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นฝ่ายผิดจนรู้สึกความมั่นใจ และเมื่อใดก็ตามที่เขาทำถูกแล้ว ก็บอกเขาให้รับรู้ไว้ด้วย เขาจะได้เข้าใจ นอกนั้นก็คือการให้เกียรติและแสดงความรู้สึกขอบคุณเขานี่แหละค่ะ

ถ้าหากเราทำครบทั้ง 3 ข้อนี้ จะทำให้เขารู้สึกว่าเขาเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ความสัมพันธ์ไปในทางที่ดีได้ ทำให้คุณมีความสุขได้ ทีนี้ถ้าสาวๆต้องการจะให้เขาเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างให้ดีขึ้นก็ไม่ยากแล้วล่ะค่ะ