ฮาโหลสาวๆ

อย่างที่เราบอกไปแล้วว่ากำลังจะไปเที่ยวเกาหลี คุณพระ มีความเตรียมตัวมากเวอร์

ดังนั้นวันนี้เราก็เลยุพาสาวๆ ไปรู้จักเจ้ากิมจิที่เราทานกันบ่อยๆ นี้กัน

ซึ่งพอพูดถึงอาหารเกาหลีอย่างแรกที่ใครๆ คิดถึงก็คือ " กิมจิ " ใช่ไหมคะ ดังนั้น

เราจึงเอาสูตรทำกิมจิได้เองที่บ้านแบบง่ายๆ มาฝากกันด้วย

เผื่อว่าไปเที่ยวคราวนี้จะเจอโอปป้า แล้วต้องแต่งงานจะได้มีพื้นฐาน แม่สามีปลื้มแน่นอน เอาล่ะ... ดังนั้นอย่ามัวรอช้า รีบไปดูกันเลยดีกว่ามีจะสูตรแบบไหนกันบ้าง ไปดูกันเลย!

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/79/a8/46/79a846bc145c06bcfa1fd31d18c01da6.jpg

ประวัติกิมจิ

ก่อนอื่น เรามาดูกันก่อนดีกว่าค่ะว่ากิมจิมีที่มาที่ไปอย่างไร มีการพบหลักฐานเกี่ยวกับกิมจิ จากตำรารักษาโรคทางภาคตะวันออกของประเทศที่ชื่อว่า " ฮันยักกูกึบบัง " ( Hanyakgugeupbang )

โดยราชวงศ์โซซอน มีการทำกิมจิเพื่อใช้ถวายต่อกษัตริย์

ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 3 ชนิด

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/13/1a/99/131a99a7a071c9f9d61076d81d660b21.jpg

3 ชนิดนั้นได้แก่


ชอทกุกจิ

( Jeotgukji ) เป็นกิมจิทำจากกะหล่ำปลีผสมกับปลาหมัก

คุกดูกิ

( kkakdugi ) เป็นกิมจิทำจากหัวผักกาด และอย่างสุดท้ายคือ

โชซอน มูซางซานชิก โยรีเจบ็อบ

( Joseon massangsansik yorijebeop ) เป็นกิมจิน้ำตามตำราอาหารของราชสำนักโชซอน มีลูกแพร์เป็นส่วนผสม ใช้ทำก๋วยเตี๋ยวเย็นโดยเฉพาะ หูย...

แสดงว่ากิมจิมีพัฒนาการมากๆ

เพราะปัจจุบันไม่ได้มีแค่ 3 อย่างนี้เท่านั้น แต่มีเยอะมาก หลากหลายประเทศสุดๆ ที่สำคัญคือแต่ละบ้านก็มักจะมีสูตรเป็นของตัวเองด้วย

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/8a/b7/77/8ab77740bdc6129d9db85c3e7609c3a4.jpg

สูตรกิมจิ-ส่วนผสม

โดยกิมจิที่เราจะเอามาฝากกันวันนี้ก็คือ

" Tong Baechu Kimchi "

หรือ

กิมจิผักกาดขาว

นั่นเอง เพราะนอกจากจะหาวัตถุดิบได้ง่ายแล้ว ยังถือเป็นกิมจิต้นตำรับที่ใครๆ ก็คิดถึงเป็นอันดับแรก โดยสูตรที่เราอามาบอกนี้กินได้เยอะประมาณ 10 ที่

ที่สำคัญอย่างที่เราทราบกินดีว่าอาหารกิมจินั้นแคลอรี่น้อยมากๆ

เป็นเครื่องเคียงก็ได้ ทานจริงจังก็ได้ ดังนั้นเราไปดูส่วนผสมกันก่อนเลยค่ะ

รูปภาพ:https://i1.wp.com/www.streetsmartkitchen.com/wp-content/uploads/How-to-Make-Kimchi-2.jpg?w=1000&ssl=1

1. ผักกาดขาวขนาดใหญ่  1 ลูก ( ประมาณ 900 - 1100 g )

2. หัวแรดิชขนาดเล็ก   1 ลูก ( ประมาณ 600 g )

3. หัวหอมหั่นบางๆ      2  ลูก

4. เกลือทะเลแบบหยาบ ( 천일염 Cheonilyeom ) 3 ช้อนโต๊ะ

5. เกลือสำหรับโรยระหว่างใบกะหล่ำปลี 4  ช้อนชา

ุ6. น้ำ 9 ถ้วย  ( 240 มล. x 9 = 2.16 ลิตร )7. น้ำ 1 1/2 ถ้วย + เกลือทะเล 3 ช้อนโต๊ะ ทำเป็นน้ำเกลือ

สูตรกิมจิ-วิธีทำ

รูปภาพ:https://kimchimari.com/wp-content/uploads/2016/04/brining-cabbage-for-easy-kimchi-1024x678.jpgรูปภาพ:https://kimchimari.com/wp-content/uploads/2016/04/cut-radishes-1024x678.jpg

เริ่มต้นด้วยการหั่นผักกาดขาวผ่าครึ่งหลังจากนั้นตั้งหม้อขนาดใหญ่ใส่น้ำสะอาด 9 ถ้วย เกลือทะเล 1 1/2 ถ้วย คนจนเกลือละลายหลังจากนั้นก็นำแรดิชมาดองในน้ำเกลือเป็นเวลา 3 ชั่วโมงอย่าลืมพรมน้ำเกลือบางส่วนลงด้านบนของกะหล่ำปลีด้วยนะคะและโรยเกลือระหว่างใบเน้นที่ส่วนที่หนาที่สุดของผักกาดขาว ทาไปทามาประมาณ 3 รอบ หมุนผักกาดขาวทุกๆ ชั่วโมง แล้วก็พักไว้ วิธีเช็คว่าผักกาดขาวของเราได้ที่แล้วก็คือ ลองดูว่าผักกาดขาวที่ดองไว้นั้นงอได้ง่ายโดยไม่ต้องใช้แรง โดยเฉพาะส่วนที่หนาที่สุดนะคะ

รูปภาพ:https://kimchimari.com/wp-content/uploads/2016/04/easy-kimchi-seasoning-1024x678.jpgรูปภาพ:https://kimchimari.com/wp-content/uploads/2016/04/chili_paste-for-kimchi-1024x678.jpg

ขั้นตอนต่อมาก็คือ การเตรียมน้ำซอสสำหรับการปรุงกิมจิ

โดยใช้เครื่องปั่นจะได้ทำได้รวดเร็วขึ้น ใส่หัวหอม กระเทียม ขิง ปั่นให้เข้ากัน หลังจากนั้นใส่หัวหอม กระเทียม ขิง ที่ซอยไว้ลงในชาม ใส่ผงพริกแดง สาหร่ายทะเล น้ำตาล และเมล็ดพริก คนให้เข้ากัน เพียงเท่านี้เราก็ได้ซอสสำหรับปรุงกิมจิแล้วค่ะ

รูปภาพ:https://kimchimari.com/wp-content/uploads/2016/04/cutting-cabbage-for-kimchi-1024x678.jpgรูปภาพ:https://kimchimari.com/wp-content/uploads/2016/04/easy-kimchi-mixed-c.jpg

อย่างสุดท้ายก็คือนำผักกาดขาวมาล้างโดยการแช่ในน้ำ ทำซ้ำประมาณ 2 ครั้ง หลังจากนั้นก็นำผักกาดขาวมาหั่นเป็นชิ้น ( ไม่ต้องเล็กมากนะคะ )หลังจากนั้นก็หาถ้วยขนาดใหญ่มาใส่ผักกาดขาว หัวหอมแล้วราดน้ำซอสที่เตรียมไว้ ค่อยๆ ทาทีละใบให้เข้ากันหลังจากนั้นก็นำไปดองไว้ในแก้วหรือภาชนะพลาสติกขนาดใหญ่นะคะ ทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องเป็นเวลา 2 วันหรือมากกว่านั้นใส่ในตู้เย็น แค่นี้ก็กินได้แล้วค่ะ

รูปภาพ:https://kimchimari.com/wp-content/uploads/2016/04/easy-kimchi-in-bottle-c.jpg

เป็นอย่างไรบ้างคะสำหรับอาหารน่าทานที่เอามาฝากกันวันนี้ หวังว่าสาวๆ คงจะชอบกั

นนะคะ วันหยุดว่างๆ ก็อย่าลืมเอาไปทำทานกันนะคะ

อาล่ะ...ครั้งหน้าเราจะมีอะไรมาฝาก ก็อย่าลืมติดตามกันด้วยนะคะ ส่วนวันนี้ไปก่อนแล้วค่ะ บาย