-2-



เช้าวันใหม่เริ่มขึ้นพร้อมๆกับเสียงโวยวายของห้องข้างๆอีกครั้ง

"“อื้อ หนวกหูจริง คนจะหลับจะนอน" สิ้นเสียง สาวน้อยตาคมจากไทยนามอิงก็ผล็อยหลับไปอีกครั้งจนกระทั่งเสียงนาฬิกาปลุกเจ้ากรรมดังขึ้นเพื่อบอกให้เจ้าของของมันลุกขึ้นไปแต่งตัวไปโรงเรียนได้แล้ว

เหมือนเช่นทุกๆเช้าที่ไทย อิงไม่เคยคิดที่จะเร่งรีบไปโรงเรียนเหมือนเช่นคนอื่นๆทำกันหากแต่เธอเลือกที่จะไปตอนก่อนจะเข้าโฮมรูมแบบฉิวเฉียดอยู่เสมอๆ

วันนี้ในคาบแรกเป็นชั่วโมงพละ เหล่านักเรียนทั้งหลายจึงอาศัยช่วงเวลาโฮมรูมเช้าเริ่มเปลี่ยนชุดพละกัน(ในห้องเรียน)

“กึกๆๆ”

"“หือ เปิดไม่ออก...จริงสิวันนี้เรียนพละนี่นา เค้าเปลี่ยนเสื้อกันในห้องเรียนเลยรึไงกัน”" อิงยืนพูดกับตัวเองอยู่หน้าห้อง แต่เพียงครู่หนึ่งก็มีคนเปิดประตูออกมา

ครืดดด”“"อ๊ะ นี่เธอเองหรอ นึกว่าวันนี้จะไม่มาซะแล้ว นู่น เค้าเปลี่ยนเสื้อกันจะเสร็จหมดแล้วย่ะ รีบๆไปเปลี่ยนเลยไป เดี๋ยวจะทำให้คนอื่นต้องโดนทำโทษเอา"”

คนที่เปิดประตูออกมาคือคุมินั่นเอง เธอทำหน้าเชิดๆใส่อิงแล้วเดินไปเอาของที่ล็อกเกอร์ โดยที่ไม่สนว่าตัวเองก็ยังใส่เสื้อผ้าไม่เรียบร้อยดี ทำเอาอิงต้องเสตามองไปทางอื่นอย่างช่วยไม่ได้นี่ไม่คิดจะปิดๆกันมั่งรึไงนะ หรือว่าคนญี่ปุ่นเค้าเห็นเป็นเรื่องปกติกัน? อิงคิดในใจก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้อง เธอไม่รอช้าที่จะเปลี่ยนเป็นชุดพละอย่างเร็ว...ถึงเร็วมาก ทำเอาเพื่อนๆในห้องหันมามองหน้าอิงแบบไม่อยากจะเชื่อสายตา ก็เจ้าหล่อนเล่นใส่ชุดพละทับเอาไว้ข้างในเครื่องแบบมาโรงเรียนซะงั้นน่ะชั่วโมงพละ...

“"ในเทอมแรก เราจะเรียนวอลเล่ย์บอลกันนะคะนักเรียน แล้วเทอมสองค่อยเรียนอย่างอื่นกัน แต่เรียนอะไรนั้นครูจะอุบไว้ก่อนให้ลุ้นเล่นๆนะจ๊ะ"” ครูพละตัวใหญ่ ร่างบึ้ก แต่ใจเป็นหญิงกล่าวเสียงห้าวที่เจ้าตัวพยายามบีบให้เล็กลงกับเหล่านักเรียนทั้ง2ห้อง "“เอาล่ะจ้ะ จับคู่วอร์มกันได้แล้ว เอ่อ หนูอิงใช่มั้ยจ๊ะ หนูจับคู่กับเลขที่ก่อหน้าหนูเลขที่นึงนะจ้ะ เอ ดูซิ ใครเอ่ย... อ้อ คู่กับมิยาโมโตะซังนะจ้ะ เอ้า ทุกคนอย่ามัวแต่อืดอาด เอ้า 1 2 3..." ”ครูพละใจหญิงหันไปบอกอิงแล้วจึงหันมาสั่งเด็กๆอย่างสบายใจ

ในช่วงแรกที่ต้องวอร์มอัพกันนั้น ไม่รู้ว่าฟ้าจงใจแกล้งเธอหรือไม่ เพราะคุมิ แทนที่จะได้คู่กับนัทสึกิเหมือนปกติ กลับต้องมาคู่กับอิงแทนซะนี่

“"1 2 3 4..."” เสียงเหล่านักเรียนที่กำลังวอร์มอัพอยู่ดังไปทั่วโรงยิม

ทั้งที่คู่อื่นๆนั้นคุยกันอย่างสนุกสนานระหว่างวอร์ม แต่คู่ของอิงและคุมิกลับมีแต่ความเงียบเข้าครอบคลุม ทำให้คนชอบคุยอย่างคุมินั้น อดที่จะโมโหไม่ได้“"นี่ อย่าเอาแต่เงียบสิยะ พูดอะไรซะมั่ง เป็นใบ้รึไง เมื่อวานก็เห็นเอาแต่นั่งหลับ ไม่ก็มองออกไปข้างนอก“" คุมิหันไปวีนใส่อิงที่เอาแต่นิ่งเงียบไม่ปริปากใดๆออกมา

อันที่จริง เธอเองก็ไม่เข้าใจนักว่าทำไมถึงต้องหงุดหงิดกับอีแค่คนคนเดียวที่ไม่เข้ามาคุยกับเธอ แล้วทำไมเธอต้องมาสนใจคนพรรค์นี้ด้วยนะ ก็ในเมื่อเค้าไม่พูดกับเรา เราก็ไม่เห็นต้องเดือดร้อนนี่นาท่าแล้วท่าเล่าที่ทั้งสองผลัดกันทำ แล้วจู่ๆท่ามกลางความเงียบระหว่างคนทั้งคู่ อิงที่ตั้งใจจะชวนคุมิคุยตามที่อีกฝ่ายต้องการจึงคิดหาเรื่องพูด พลันสายตาของเธอก็มองเห็นสิ่งที่เธอคิดว่าหน้าจะใช้เป็นเรื่องคุยได้

"...อกเล็กๆอย่างเธอนี่น่ารักดีนะ”" อิงที่กำลังจับหลังให้คุมิ จู่ๆก็พูดขึ้นมา แถมยังเป็นเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องซะงั้น ทำเอาอีกฝ่ายหันขวับมาหาทันที

"หา? นี่เธอหยามกันเหรอ ของเธอใหญ่นักใช่มั้ย แล้วทำไมถึงมาพูดเรื่องนี่ ตรงนี้ ในเวลานี้กัน?"” คุมิที่ถูกจี้ใจดำส่งเสียงแว้ดลั่นโรงยิมออกมา แต่เพียงครู่เดียวเธอก็เงียบเสียงลงเพราะนึกขึ้นได้ว่าอีกฝ่าย กำลังมองเธออยู่จากข้างบน หมายความว่าเธอถูกเห็นหน้าอกไปเต็มๆ หน้าของเธอจึงเปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างช่วยไม่ได้

"อ๊ะ หน้าแดงด้วย น่ารักจัง..."” อิงพูดลอยๆขึ้นมาอีก แต่เสียงนั้นก็ดังพอที่คุมิจะได้ยิน

"“อึก...เชอะ..."” สาวน้อยไม่สามารถเถียงต่อได้จึงได้แต่เชิดหน้างามหนีไปมองทางอื่น แต่ในใจลึกๆ เธอกลับรู้สึกดีนิดๆที่ในที่สุดอิงก็เป็นฝ่ายชวนเธอคุยก่อน'บ้าน่ะ ทำไมเราต้องมาดีใจกับอีแค่ยัยนั่นพูดกับเราแค่นี้ด้วยนะ แถมอีกเรากำลังจะแก้แค้นที่บังอาจเมินเราด้วยไม่ใช่รึไง' เธอคิดพร้อมกับส่ายหน้าไปมาอยู่คนเดียว ทำเอาคนอื่นมองมาด้วยความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น

เพราะเสียงของเจ้าหล่อนที่โวยใส่อิงน่ะเบาๆซะที่ไหน ทีนี้เพื่อนๆก็เริ่มสนใจว่าคนสวยประจำห้องจะเริ่มแผลงฤทธิ์ขึ้นมาอีกหรือไม่ แต่ก็ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นอีก เพราะหลังจากที่เห็นอิงพูดพึมพำกับเธอแค่สองสามคำ สาวสวยก็หยุดโวยแถมยังหน้าแดงอีกต่างหาก ภาพที่เห็นสร้างรอยยิ้มให้กับเพื่อนๆห้องเดียวกันขึ้นมา เพราะต่างก็โล่งอกที่จะมีคนมาปราบจอมโวยวายประจำห้องได้ซะที เห็นหน้าหวานซะขนาดนี้ ใครจะคิดล่ะ ว่าสาวเจ้าจะขี้วีนระดับบริทนีย์ยังอาย นางร้ายนางอิจฉายังหลบ

"ปี้ดดดดด เอาล่ะจ้ะ วอร์มแค่นี้ล่ะ เดี๋ยวเรามาเริ่มหัดเสิร์ฟลูกกันดีกว่า แบ่งครึ่งกันแล้วไปเสิร์ฟมือล่างกันเลยนะจ๊ะ"…” ครูพละร่างใหญ่สั่งเด็กๆหลังจากเห็นว่าวอร์มร่างกายกันพอแล้ว

ขณะที่ทุกคนกำลังซ้อมเสิร์ฟลูกกันอยู่นั่นเอง จู่ๆก็มีลูกบอลพุ่งมาทางคุมิอย่างแรง แม้คุมิจะหันมาเห็นลูกบอลนั้นทัน แต่เธอก็ได้แต่ยืนหลับตาปี๋ รอรับความเจ็บที่จะเกิดขึ้นกับใบหน้าสุดหวงของเธอ

'พ่อจ๋า แม่จ๋า ถ้าหนูเสียโฉมไปอย่าลืมหาหมอเก่งๆมาศัลยกรรมให้ลูกด้วยนะ เอาให้สวยกว่านี้ไปเลยยิ่งดี' เธอภาวนาในใจด้วยความกลัวที่จะเสียโฉมอย่างรุนแรง จากนั้นเธอก็ได้ยินเสียงใครบางคนตะโกนมาว่า

“"หลบไป!”"

3 วินาทีผ่านไป... ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเธอเลยแม้แต่น้อย เธอจึงลืมตาขึ้นมาและพบว่าเจ้าของเสียงที่เตือนเธอนั้นก็คืออิงนั่นเอง อิงเข้ามายืนบังข้างหน้าเธอพร้อมทั้งรับลูกบอลไว้ได้อย่างสวยงาม

"“เป็นอะไรมั้ย..." อิงหันหลังมาหาและก้มหน้าลงมาถามคุมิ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มมีแววห่วงใยแฝงอยู่ หากแต่น้ำเสียงที่พูดกับเธอนั้นกลับเป็นแค่เสียงเรียบๆเนิบๆตามแบบของเธอเอง

คุมิส่ายหน้าดิก เธอรู้สึกงงกับการกระทำของคนตรงหน้า

อะไรของของเค้านะ เดี๋ยวก็เงียบ แต่นึกจะพูดก็พูดขึ้นมาดื้อๆ แล้ว เมื่อกี้อิงยืนอยู่ห่างจากเราพอสมควรเลยนี่นา หรือว่าเค้าจะวิ่งเข้ามาช่วยเราโดยเฉพาะ ไม่ใช่มั้ง คงแค่วิ่งมารับลูกตัวเองแล้วบังเอิญเข้ามารับบอลได้ผิดลูกต่างหาก.. แล้วถ้าอย่างนั้นเค้าจะบอกให้เราหลบทำไมล่ะ“"ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว คราวหลังระวังหน่อย เล่นกันทั้งห้องสนามมันแคบ เดี๋ยวชั้นเข้ามารับให้ไม่ทันขึ้นมาแล้วจะยุ่ง" อิงพูดกับเธอเบาๆ แล้วก็เดินจากไปซ้อมต่อที่อีกมุมอยู่เงียบๆ ท่ามกลางความฮือฮาของเหล่าเพื่อนร่วมชั้น

"เท่จัง..."”"“ใช่ๆ นี่ถ้ามีคนเข้ามาช่วยชั้นแบบนั้นบ้างนะ หูย รักตายเลย”" ฯลฯ”ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันถึงท่าทีที่อิงกระทำไปเมื่อครู่ แน่นอนว่านักเรียนอีกห้องหนึ่งที่เรียนอยู่ด้วยก็เห็นด้วยเช่นกัน ด้วยมาดนิ่งๆ ดูเย็นชาของอิง บวกกับสีผิวและดวงตาที่ไม่เหมือนใครในที่นั้น ทำให้เธอดูดีมากในสายตาของคนอื่นๆ และเหตุการณ์นั้นก็ส่งผลให้วันต่อๆมา ภายระดับชั้นม.5 ก็มีการตั้งแฟนคลับของอิงขึ้นอย่างลับๆเวลาล่วงเลยผ่านไป แม้จะไม่ชอบ แต่คุมิก็ต้องจำใจกลับบ้านพร้อมกับอิงเพราะว่าบ้านของทั้งสองดันอยู่ที่เดียวกันซะนี่ แต่ทุกครั้งอิงก็ไม่เคยคิดปริปากเริ่มบทสนทนาเลยแม้แต่น้อยแล้วไหนจะพวกแฟนคลับของอิงอีกล่ะ ส่งสายตาอาฆาตมาที่ชั้นอยู่ได้ ไม่ได้อยากจะอยู่ด้วยซักหน่อย โอ๊ย อย่างนี้มัน มัน... เราจะทำอะไรได้เนี่ย คุมิได้แต่คิดปลงๆ**********************เช้าวันหนึ่ง หลังจากที่เริ่มมีการสอบย่อยวิชาภาษาอังกฤษไปได้หนึ่งอาทิตย์..."“มิยาโมโตะซัง สอบย่อยครั้งที่แล้วเธอได้คะแนนไม่ดีเอามากๆเลยนะ แล้วอย่างนี้เธอจะเรียนจบได้มั้ยเนี่ย อย่าลืมว่าเธอมีสอบวัดความรู้ภาษาอังกฤษปลายเทอม2นะ น่ากลัวจะซ้ำชั้นเอานะเธอน่ะ เอาอย่างนี้นะ ครูเห็นว่าเธอกับอิงซังน่ะอยู่บ้านใกล้กัน งั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปครูจะให้อิงซังช่วยติวให้ก็แล้วกัน แล้วถ้ายังไงเธอลงโทษได้ตามสบายเลยนะจ๊ะ”"จู่ๆครูประจำชั้นของพวกเธอก็เข้ามาสั่งให้อิงมาติวให้เธอซะอย่างนั้น สำหรับคุมิแล้ว นี่เป็นดั่งกำแพงสูงที่เธอไม่รู้ว่าจะผ่านไปได้หรือไม่ เพราะเงื่อนไขของโรงเรียนนั้นคือต้องสอบความรู้ภาษาอังกฤษระดับ3ให้ผ่านภายในม.6 แต่นี่แค่ระดับ 6-7 ซึ่งเป็นของม.ต้น เธอยังจะตายเอาซะให้ได้'โอย นี่แค่ไปกลับด้วยกันทุกวันก็อึดอัดจะแย่ นี่ยังต้องมาให้ยัยนี่ติวให้อีก กรรมของชั้นจริงจริ๊ง ทำไมคนสวยต้องโชคร้ายด้วยนะ เซ็งๆๆ' เด็กสาวคิดในใจด้วยความหงุดหงิด แต่ยังคงสีหน้ายิ้มเอาไว้เพื่อแสดงภาพลักษณ์ของเด็กดีให้ครูเห็นไว้ก่อน"“อ้อ แล้วถ้าหากสอบครั้งนี้คะแนนไม่ดีขึ้นล่ะก็ ครูจะต้องให้เธอมาเรียนพิเศษกับครูทุกเย็นแล้วล่ะนะ ยังไงก็ฝากด้วยนะจ้ะ อิงซัง”" ครูสาวพูดยิ้มๆแต่น้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความเย็นเยียบ เป็นใครโดนทำอย่างนี้เข้าก็ไม่แคล้วต้องยอมทำตามโดยดุษฎีซะทุกรายไปอิงหันมายิ้มให้น้อยๆ พร้อมกับยื่นมือเข้ามาจับมือของเธอเป็นสัญญาณว่าต่อไปนี้ขอฝากตัวด้วยนะ ทำเอาคุมิหน้าแดงแปร้ดขื้นมาทันทีอิงโน้มหน้าเข้ามาข้างใบหูของเธอพร้อมกับกระซิบเสียงแผ่วเบาแต่ดังพอที่คุมิจะได้ยิน“"ไม่ต้องห่วงนะ ชั้นจะดูแลเธอให้ดีที่สุด เธอจะต้องสอบผ่านอย่างแน่นอนชั้นสัญญา ชั้นจะใช้ทุกวิธีเพื่อช่วยเธอ"'อึ๊ย สัญญาอะไรของเธอน่ะ แล้วดูแลที่ว่าหมายความว่าไงนะ คุมิได้แต่หลับตาคิดที่จริงเธอไม่อยากจะคิดเลยว่าคำว่าดูแลของอิงนั้นจะแปลว่าอะไรแน่ ก็อิงน่ะ คิดอะไรเหมือนคนอื่นเป็นที่ไหนกัน ไม่แน่ว่าอาจจะจับเธอมัดกับเก้าอี้ ใช้แส้ฟาดบังคับข่มขู่ เอาเทียนไขลน หยึย แค่คิดก็เสียวแล้ว' คุมิหรี่ตามองอิงอย่างไม่ไว้ใจ แต่พอเจอว่าอีกฝ่ายอยู่ใกล้ตัวเองแค่ไหน เธอก็รู้สึกร้อนที่ใบหน้าขึ้นมาอีกครั้ง"“แน่ะๆ หน้าแดงอีกแล้ว คิดอะไรอยู่น้า รึว่าคิดว่าเราจะทำอะไรยัยอกไข่ดาวอย่างเธอรึไง" อิงได้ทีจึงผละออกจากเธอ แล้วหันมาพูดหยอกคนตัวเล็กกว่าเล่นราวกับได้ของเล่นชิ้นใหม่“ปึด”เสียงแห่งความอดทนหมดลง และแล้ว คุมิที่ทนไม่ไหวกับคนตรงหน้าก็ออกแรงวิ่งไล่เจ้าหล่อนทันที“"ยัยบ้าๆ ๆ ๆ ใครจะไปคิดแบบนั้นกันยะ อย่าอยู่เลยวันนี้!" สิ้นเสียง สาวสวยก็ไม่เหลือมาด เธอพุ่งเข้าใส่เป้าหมายดุจนางพยาเหยี่ยวแต่แล้วก็ต้องชะงักเพราะเสียงเพื่อนรักซะก่อน“"เอ้าๆ หมดกันมาดคนงามแห่งห้อง5 นี่ถ้ามีคนห้องอื่นมาเห็นเขานี่เค้าจะว่ายังไงกันน้า อ้ะ แย่ล่ะสายแล้ว ต้องรีบเข้าชมรมแล้วล่ะ แล้วเจอกันๆ”" นัทสึกิพูดดักคอคุมิไว้ได้ทันก่อนที่จะเกิดมวยขึ้นที่ห้องเรียน นี่ล่ะนะ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอคบกับคุมิมานานล่ะก็ คงไม่มีใครรู้วิธีหยุดจอมวีนคนนี้ยามโมโหลงได้อย่างแน่ แต่เจ้าตัวก็ไหวตัวทัน รีบตัดบทวิ่งหนีไปที่ห้องชมรมอย่างรวดเร็วเพราะรู้ว่ารายต่อไปที่จะโดนวีนใส่ก็คือเธอนั่นเอง และก็ไม่ผิดคาดเมื่อเธอได้ยินเสียงคุมิโวยวายใส่เธอตามหลังมาเบาๆหลังจากที่เธอออกจากห้องมาได้ไม่นานนักอิงยืนมองเพื่อนสนิททั้งสองและยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว ที่จริงแล้วเธอก็ดีใจไม่น้อยที่ครูสั่งให้เธอช่วยติวคุมิ เพราะนั่นหมายความว่าเธอจะได้มีโอกาสใกล้ชิดหญิงสาวขี้วีนที่เธอกำลังสนใจอยู่ แม้จะไม่เข้าใจตัวเองเท่าไหร่นักว่าทำไมเธอถึงได้สนใจคุมิมากเป็นพิเศษเช่นนี้...