1. SistaCafe
  2. โมจิ โมจิ หวานๆ หอมๆ อร่อย ทำเองได้ง๊าย ง่าย ไม่ต้องบินไกลไปถึงญี่ปุ่น

ฮาโหลสาวๆ



ถ้าพูดถึงประเทศญี่ปุ่นขนมหนึ่งอย่างที่เรานึกถึงนั้นก็คือ

"โมจิ"

ใช่ไหมค่ะ มันทั้งหอม ทั้งนุ่ม เคี้ยวแล้วเพลิ๊น เพลิน ซึ่งด้วยความที่คิดถึงขนมนี้เลยก็ไปค้นหาสูตรเด็ดมา นำสูตรขนมสุดอร่อยนี้มาฝากกันค่ะ

แต่จะให้เอาสูตรโมจิธรรมดาก็คงไม่ได้ วันนี้เลยขอนำเอา ไอศครีมโมจิ มาฝากกัน

ค่ะ

กินดับอากาศร้อนๆ ของบ้านเราได้เป็นอย่างดี

ที่สำคัญทำไม่ยากด้วย เอาล่ะคะ ถ้าพร้อมแล้วเราไปดูกันก่อนดีกว่าว่าเจ้าขนมสุดอร่อยนี้มีที่มาที่ไปยังไง ไปดูกันเลยค่ะ




#ที่มาของโมจิ


"โมจิ”นั้นมีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน

และแพร่หลายไปยังประเทศญี่ปุ่นและประเทศเกาหลีในช่วงศตวรรษที่10 ซึ่งชาวญี่ปุ่นเรียกว่า”โมจิ” ส่วนเกาหลีเรียกว่า”ต็อก” เข้าใจไม่ผิดหรอกค่ะ ต๊อกที่อยู่ใน "ต๊อกโบกี" นั้นล่ะคะ

โมจินี้มีลักษณะทำมาจากข้าวที่นำไปนึ่งและตำจนเป็นก้อนแป้งเหนียวๆ นุ่มๆ ที่เราทานกันอยู่นี่นี้และค่ะ

โดยคนญี่ปุ่นนิยมรับประทาน "โมจิ”เพื่อให้พลังงาน สร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย




ปกติคนญี่ปุ่นจะ

นำมาแบ่งเป็นก้อนเล็กๆ พอดีคำแล้วทานคู่กับน้ำตาลผสมกับแป้งถั่วเหลืองหรือโชยุผสมกับหัวไชเท้าบดละเอียด

เห็นในการ์ตูนอยู่บ่อย "โมจิ” หรือที่คนญี่ปุ่เรียกว่า "ไดฟุกุ" นี้เป็นอาหารว่างหรือขนมยอดนิยมและมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย

ส่วนใหญ่คนญี่ปุ่นมักจะกินตอนหน้าเทศกาลต่างๆ

เช่น ปีใหม่ เป็นต้น




สาเหตุที่เป็นเช่นนั้น เพราะ

แต่เดิมชาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่าโมจิเป็นขนมมงคลจะใช้ในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา

และประเพณีสำคัญๆของญี่ปุ่นเท่านั้น โหย...มีความเป็นมา จนกระทั้งถึงช่วงปลายศตวรรษที่ 18 “โมจิ” จึงแพร่หลายมากขึ้น เพราะทำกินเองได้ที่บ้าน ต่อมา "โมจิ" ก็ได้ถูกพัฒนาอย่าต่อเนื่อง แต่ที่เราจะพาไปทำทานกันวันนี้ก็คือ

"ไอศกรีมโมจิ"

นั้นเอง เอาล่ะ ดังนั้นเราไปดูส่วนผสมกันเลยดีกว่าค่ะ




ส่วนผสมอาจจะดูเยอะสักหน่อยนะคะ แต่ทำไปยากไม่ต้องห่วงค่ะ โดย

อัตราส่วนนี้ทำได้ทั้งหมด 12 ชิ้นด้วยกันนะคะ

ใครที่ต้องการจะทำไปแจกเพื่อน หรือทำไปให้แฟนก็อย่าลืมเพิ่มอัตราส่วนเข้าไปด้วยนะคะ โดยใช้เวลาทำทั้งหมดประมาณ 30-45 นาที เอาล่ะ ( ทั้งเตรียมและทำจริง ) ถ้าพร้อมแล้วไปดูวิธีทำกันเลยค่ะ



#วิธีทำไอศกรีมโมจิ


ขั้นตอนแรกหลังจากที่รวบรวมส่วนผสมทั้งหมด ก็คือการเตรียมไอศครีมค่ะ เพื่อนำมาสอดไส้ข้างในโมจิ

โดยแนะนำให้ใช้ที่ตักไอศกรีม ตักมันเป็นลูกๆ ขนาดไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป

โดยนำไปวางลงบนซิลิโคนคัพเค้ก แล้วนำพวกมันไปแช่แข็งทันทีนะคะ




หลังจากนั้นก็มาเริ่มต้นทำโมชิกันได้เลยค่ะ นำ

ส่วนผสมที่เป็นของแห้งอย่างแป้งข้าวเหนียวและน้ำตาลเทลงในชามขนาดกลาง

และผสมด้วยกัน

หลังจากนั้นใส่น้ำลงไปแล้วคนผสม

ให้เข้ากัน แล้วพักไว้โดยใช้พลาสติกฝิดบาง ๆ ( อย่าให้แน่นเกินไป ) นะคะ




นำแป้งที่ผสมไว้เข้าไมโคเวฟแล้วเปิดไฟใช้ด้วยความร้อนสูง ( 1200w ) เป็นเวลา 1 นาที

หลังจากนั้น

นำออกและใช้ไม้พายยางคนผสมกัน

หลังจากนั้นก็ปิดฝาอีกครั้ง

และทำซ้ำ แต่ลดเวลาลง

เหลือ 1 นาที และ 30 วินาที ทำจนกว่าแป้งจะสุกนะคะ โดยให้สังเกตที่สีของโมจิว่ามันจะเปลี่ยนจากสีขาวเป็นเกือบโปร่งแสง นั้นก็สามารถหยุดได้แล้วค่ะ




หลังจากโมจิสุกเรียบร้อยก็ให้ปิดที่ด้านบนด้วยกระดาษไข โดย

แนะนำให้เตรียมแป้งข้าวโพดไว้ด้านบนโมจิ เพื่อไม่ให้มันติดมือ เมื่อมันเย็นลงเล็กน้อยเธอก็สามารถกระจายมันลง ใช้ที่นวดแป้งคลี่มันออกเป็นแผ่นบางๆ

วางลงบนแผ่นอบขนาดใหญ่ แช่เย็นประมาณ 15 นาที จนกว่าโมจิจะเซตตัวนะคะ




เมื่อเซตตัวเรียบร้อยก็นำ

โมจิจากตู้เย็นและตัดวงกลมด้วยเครื่องตัดคุกกี้


เมื่อได้เป็นแผ่นก็นำไอศกรีมที่ได้มาวาง

เคล็ดลับคือ ให้วางห่อพลาสติกบนจานแล้วคลุมด้วยแป้งจากด้านบน หลังจากนั้นวางไอศกรีมลงไป หยิบสี่มุมของพยาสติกรวมกัน ปั้นโมจิให้เป็นลูก เมื่อทำเสร็จก็นำเข้าตู้เย็น สักสองสามชั่วโมง แค่นี้ก็พร้อมทานแล้วค่ะ




เป็นยังไงคะสูตรที่เราเอามาฝากกันวันนี้หวังว่าจะอร่อยและมีความสุขกับโมจิที่เรานำมาฝากกันนะคะ บาย



เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้

🔮 ดูดวงกับ SistaCafe ผ่าน Line Official !
รูปภาพสำหรับป๊อปอัพลอย:1