รูปภาพ:

สวัสดีค่าาา เพื่อนๆ ชาว SistaCafe

ช่วงนี้อากาศประเทศไทยกำลังร้อนฉ่าา มีสาวๆ คนไหนที่กำลังประสบปัญหาเครื่องสำอางเยิ้มหรือแต่งหน้าไม่ติดทน จะประโคมเครื่องสำอางกี่ตัวก็เป็นขุย ลอก ตกร่อง แถมยังจะหน้าหมองระหว่างวัน อ้าวๆ เกิดปัญหาแบบนี้แล้วจะแก้กันยังไงดี?

ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าการแก้ปัญหาด้วยการประโคมเครื่องสำอางทับลงไปตรงจุดที่มีปัญหานั้นเพื่อกลบให้มิด วิธีนี้ถือว่า ผิด เพราะหลายคนยังไม่เข้าใจผิวของตัวเองให้มากพอ ทั้งที่จริงแล้วปัญหาผิวอาจจะเกิดจากพฤติกรรมบางอย่างของเราเองด้วยซ้ำ!

วันนี้เราจึงจะจูงมือชวนเพื่อนๆ มาศึกษาไปพร้อมกันว่าอาการเครื่องสำอางไม่รักดีดังที่กล่าวมานั้น สาเหตุเกิดจากตรงไหนและวิธีแก้ปัญหาคืออะไร มาดูกันเลยยย

1.หลีกเลี่ยงการใช้น้ำอุ่นล้างหน้า

สาวๆ คนไหนที่ขี้หนาวจนไม่อยากล้างหน้าด้วยน้ำเย็นเฉียบกันบ้างจึงเปลี่ยนวิธีมาล้างด้วยน้ำอุ่นแทน ขอเสียงหน่อยจ้า ซึ่งต้องขอโทษกันไว้ตรงนี้เลยที่จะต้องทำร้ายจิตใจกัน เพราะการที่ใช้น้ำอุ่นล้างหน้านั้น ทำให้ผิวของเราสูญเสียความชุ่มชื้นไปได้ง่ายๆ เลยล่ะ ผิวหน้าของเราค่อนข้างบอบบางและแพ้ง่าย แถมยังจะมาโดนความร้อนผ่านใบหน้าโดยตรง ความร้อนก็ชะเอาความชุ่มชื้นไปซะหมด จึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวแห้งกร้าน ขาดสมดุลและการใช้น้ำอุ่นล้างหน้ายังเป็นการคลายรูขุมขนให้เปิดออก ส่งผลให้รูขุมขนกว้างอีกต่างหาก เวลาแต่งหน้าไปก็จะได้ Finish Look ที่เหมือนผิวส้มยังไงยังงั้น

แต่เห็นผลเสียน่ากลัวขนาดนี้ แท้จริงแล้วน้ำอุ่นก็ยังมีข้อดีคือช่วยให้ผ่อนคลาย กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต แต่ก็จะต้องใช้สลับกับการล้างด้วยน้ำเย็นหรือน้ำอุณหภูมิปกติปิดท้าย เพื่อกระชับรูขุมขน และรักษาผิวไม่ให้แห้งจนเกินไปด้วย

รูปภาพ:https://s0.bukalapak.com/uploads/attachment/46456/shutterstock_440166886.jpg

2. ไม่ใช้ผ้าขนหนูเช็ดหน้า


หลังจากล้างหน้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องเช็ดหน้าให้แห้งเพื่อลงสกินแคร์กันต่อ แต่หลายคนก็ยังใช้วิธีเช็ดหน้าด้วยผ้าขนหนูอยู่ ซึ่งผ้าขนหนูนั้นเป็นสิ่งที่ค่อนข้างอับชื้น และหมักหมมแบคทีเรียที่เราได้ซับมันเก็บไว้ ใครจะไปคิดว่าผ้าขนหนูนั้นจะเป็นสาเหตุหลักที่ทำร้ายผิวของเราได้เหมือนกัน

ดังนั้นการใช้ผ้าขนหนูเช็ดหน้าถือว่าผิดควรเปลี่ยนมาใช้กระดาษทิชชู่สำหรับเช็ดหน้าโดยเฉพาะ เพราะใช้ครั้งเดียวสามารถทิ้งได้เลย ไม่ต้องกังวลเรื่องความอับชื้นและสิ่งสกปรกที่หมักหมมอยู่กับผ้าขนหนูเอง แต่การเช็ดก็ต้องระวังเรื่องน้ำหนักมือนะ ห้ามเช็ดแบบถูเอาสะใจเด็ดขาด แค่ซับเบาๆ ก็เพียงพอแล้ว

รูปภาพ:https://dantricdn.com/thumb_w/600/2017/mat-2-1485801859914.jpg

3.ทาสกินแคร์ทันทีหลังล้างหน้าเมื่อล้างหน้าเรียบร้อยแล้ว ก็ควรจะบำรุงผิวหน้าด้วยสกินแคร์ทันที เพราะระหว่างที่ผิวหน้าเราหลังล้างหน้านั้นเป็นช่วงที่พร้อมที่สุดในการรับสารบำรุง การลงสกินแคร์ควรลงจากเนื้อผลิตภัณฑ์ที่เหลวที่สุดก่อน เช่น เอสเซนส์ เซรั่มบำรุง หรือสาวๆคนไหนหน้าแห้งจนทำให้หน้าลอกเป็นขุย มีปัญหาเรื่องการแต่งหน้าแล้วเครื่องสำอางเป็นคราบ ก็สามารถใช้เป็นมาส์กหน้าบำรุงก่อนการแต่งหน้าก็ได้แต่ที่สำคัญสำหรับขั้นตอนนี้ก็คือ ทุกขั้นตอนต้องค่อยเป็นค่อยไป เพราะการที่เรารีบลงสกินแคร์แบบไม่ยั้งภายในเวลาไม่กี่นาทีล่ะก็ เครื่องสำอางมันก็ต้องเยิ้มเป็นธรรมดาค่ะคุณทั้งหลาย ลองนึกภาพเราเอาสีน้ำมันทาบนผนังโดยไม่ต้องรอสีก่อนหน้านี้แห้ง ทุกอย่างมันก็จะรวมกันหมด กลายเป็นสีประหลาด การลงสกินแคร์และลงเครื่องสำอางก็เป็นเฉกเช่นเดียวกัน ค่อยๆลงรอให้ซึมก่อน แล้วค่อยลงขั้นตอนถัดไปสำหรับคนที่ไม่มีเวลา อยากจะใช้เวลาแต่งหน้าภายในไม่กี่นาที หรือท้าทายตัวเองแต่งหน้าภายใน 5 หรือ 10 นาที ทางเราขอแนะนำให้ลดขั้นตอนการบำรุงผิวลง เปลี่ยนมาใช้เพียงแค่ตัวที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวันเช่นเอสเซ้นส์และกันแดดเพื่อย่นเวลา ไม่เช่นนั้นอาจจะต้องแวะเติมหน้าระหว่างวันแน่นอน

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/originals/d2/1d/1a/d21d1ad937ee7488c5e35bfc98721c72.jpg

4.หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ลองหยิบผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดผิวหน้าหรือบำรุงผิวที่ใช้อยู่ขึ้นมาอ่านฉลากกันหน่อย ว่ามีส่วนผสมเป็นแอลกอฮอล์หรือเปล่า ยิ่งตัวที่เคลมว่าซึมเร็วนี่แหละตัวฉกาจเชียวละ การใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียมาคู่กัน ข้อดีของมันก็ทำให้ตัวผลิตภัณฑ์ซึมซาบได้รวดเร็ว หรือทำความสะอาดใบหน้าได้หมดจด แต่ก็จะมาพร้อมกับการทำลายเซลล์ผิว ดึงเอาน้ำมันที่กักเก็บไว้ใต้ผิวหนังออกไป ทำให้ผิวขาดน้ำได้เหมือนกัน ซึ่งเป็นการทำลายผิว โดยเฉพาะสาวผิวแห้งและผิวแพ้ง่ายควรจะงดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมประเภทนี้ดังนั้นการเลือกผลิตภัณฑ์ต่างๆให้ตรงกับสภาพผิวของเรานั้นสำคัญ และการหลีกเลี่ยงส่วนผสมประเภทแอลกอฮอล์นั้นก็สำคัญเช่นเดียวกัน แต่ก็ไม่ต้องวิตกกังวลจนเกินไป เพราะยังสามารถใช้ได้บ้าง เพียงแค่สลับกับการบำรุงเติมน้ำให้กับผิว แต่ถ้าหากหลีกเลี่ยงได้ก็จะช่วยให้หน้าเราไม่แห้งจนลอกเป็นขุยได้

รูปภาพ:https://media-spiceee.net/uploads/content/image/1057824/large_13.jpg

5.ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวันหลายคนมักจะลืมข้อนี้ไปเลย นั่นก็คือการดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน การดื่มน้ำไม่จำเป็นต้องดื่มเฉพาะเวลากระหายหรือหลังมื้ออาหารเท่านั้น แต่การดื่มน้ำสามารถดื่มได้ตลอดทั้งวัน แต่ต้องใช้วิธีจิบเอานะ เพราะหากดื่มรวดเดียวเป็นแก้วละก็เดี๋ยวจะจุกจนเดินไม่ไหว การดื่มน้ำช่วยให้ผิวชุ่มชื้นได้เช่นเดียวกัน แถมยังเป็นการผิวสวยจากภายในด้วย ลองดื่มน้ำให้ครบวันละ 8 แก้วขึ้นไปดูสิ แล้วจะรู้ว่าหน้าใสนั้นเป็นอย่างไร

รูปภาพ:https://s.hdnux.com/photos/44/54/16/9618310/3/920x920.jpg

6.ไม่จ้องจอนานเกินไปสำหรับข้อนี้คงจะทำได้ยาก ก็แหม โลกโซเชียลมันเรียกร้องนี่นา ไหนจะเกมส์เอย แชทกับเพื่อนๆเอย แสนจะสนุกแล้วทำไมต้องเลิกเล่น? คำตอบก็คือแสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือจอมือถือนั้นประกอบไปด้วยแสงสีฟ้า (Blue Light) ซึ่งเป็นรังสียูวีชนิดหนึ่ง นอกจากจะมีผลอันตรายต่อดวงตาแล้ว ยังมีผลต่อผิวหน้าอีกด้วย ถ้าไม่อยากหน้าเหี่ยวก็คงจะต้องลดชั่วโมงการอยู่หน้าจอลงบ้าง การรับแสงสีฟ้าอย่างต่อเนื่องในแต่ละวันจึงเป็นการกระทำที่ควรจะลดลง อย่างน้อยวันละสองชั่วโมง และลดลงมาเรื่อยๆแสงสีฟ้า หากสวมแว่นกรองแสงก็จะปกป้องดวงตาได้ แล้วใบหน้าของเราละ จะใช้อะไรมาป้องกัน แน่นอนว่ายังมีวิธีป้องกันสำหรับคนที่ตัดใจไม่ลงและคงไม่ยอมกับโลกโซเชียล เราสามารถป้องกันการถูกทำลายผิวด้วยการใช้ครีมกันแดด เพราะถึงแม้ว่าจะไม่ได้สัมผัสแสงแดดโดยตรง แต่รังสีจากหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือมือถือ ก็สามารถทำร้ายผิวเราได้ไม่ต่างกัน ดังนั้นการป้องกันไว้ก่อนย่อมดีเสมอ

รูปภาพ:http://www.marieclaire.ru/images/th/0/1110/2427/1000@745@1110242715d8fe70ddac673d8edfd79c-MDFmZTM5Nzc1NA.jpg

7.พักผ่อนอย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง

การพักผ่อนก็เป็นอีกปัจจัยหลักที่ทำให้ผิวเราดูแย่ เพราะเมื่อเราพักผ่อนน้อย ผิวหน้าก็โทรม ไหนจะสิวขึ้น รอยคล้ำใต้ตา รูขุมขนกว้าง และอีกหลายปัญหาผิว เพราะฉะนั้นสาวๆทั้งหลาย รู้ตัวแล้วก็รีบปรับเวลานอนกันเสียใหม่ เครื่องสำอางและสกินแคร์ที่ลงทุนกับผิวหน้าไปจะได้ไม่สูญเปล่า

หลังจากที่ทราบสาเหตุและแนวทางแก้ไขกันไปแล้ว ก็อย่าลืมนำไปปรับใช้กันนะคะ จะได้ไม่ต้องมาแก้ปัญหาที่ปลายเหตุด้วยการประโคมสกินแคร์และเครื่องสำอางลงไปอย่างที่ไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วปัญหามันอยู่ที่ผิวของเราตั้งแต่แรก ดังนั้นการดูแลตัวเองไม่ใช่แค่เรื่องการแต่งหน้าให้เป๊ะเพียงอย่างเดียวเท่านั้นนะ

สำหรับวันนี้ต้องลากันไปก่อนแล้ว คราวหน้าจะนำเกร็ดเคล็ดลับอะไรมาฝากกันอีก ฝากติดตามกันด้วยจ้า <3