สวัสดีค่ะสาวๆ วันนี้เรามีอะไรจะมาเล่าให้ฟังค่ะนั่นก็คือประสบการณ์การไปเที่ยวกาญจนบุรีแวะเที่ยวน้ำตกเอราวัณของเรา พร้อมกับพักที่บ้านกกกอดโดยสำหรับการรีวิวบ้านกกกอด เราขอแยกไปอีกบทความหนึ่งนะคะ เพราะรูปเยอะมากๆโดยบทความนี้จะพาแวะไปเที่ยวน้ำตกเอราวัณก่อน แพลนคร่าวๆ ของเราก็คือไปกาญจนบุรีวันเสาร์ตอนเช้า แวะเที่ยวน้ำตกเอราวัณ แล้วก็นั่งรถกาญจนบุรี เอราวัณลงที่แยกโป่งปัด เพื่อไปที่บ้านกกกอดเอาล่ะ ทราบแพลนคร่าวๆ ของเราแล้ว Let's Go

เราออกเดินทางโดยนั่งรถตู้จากจังหวัดที่เราอยู่ไปที่กาญจนบุรี ซึ่งจากจังหวัดของเรา มันก็ไกลอยู่นะ ตอนแรกคิดว่าใกล้ๆ สัก 2 ชั่วโมง พอนั่งจริงๆ ก็ราวๆ 3 ชั่วโมงเลยล่ะ เราว่าไกลเอาการเลย เราไม่เคยนั่งรถตู้ไปกาญเองมาก่อน ครั้งนี้เป็นครั้งแรกก่อนไปก็กังวลสารพัดนะ รถตู้จะมารับไหม เราจะไปเองถูกไหม บลาๆ สรุปก็สามารถมาถึงขนส่งกาญได้โดยสวัสดิภาพแต่เวียนหัวนิดๆ เพราะเราเป็นคนเมารถตู้ รถตู้ที่นั่งแล้วเหมือนเล่นกระดานโต้คลื่นในทะเลยิ่งเมาไปใหญ่นั่นเองค่ะ

รูปภาพ:

ไปถึง บขส. กาญฯ ก็มองหารถสาธารณะที่ไปเอราวัณก่อนเลย เพราะเราตั้งใจจะไปน้ำตกเอราวัณก่อน แล้วค่อยกลับมาที่รีสอร์ตที่จองไว้

ตอนแรกก็มองหาสักพัก แต่ก็เจอป้าย กาญจนบุรี - เอราวัณ สภาพรถแบบว่าหวานเย็นมาก วินเทจสุดๆ สีฟ้าเข้มๆ เราก็จองตั๋วแล้วก็ไปหาข้าวกิน พยายามเลือกที่ดูสะอาดหน่อย เพราะไม่อยากอาหารเป็นพิษจนป่วย เที่ยวไม่สนุกกินข้าวเสร็จก็ได้เวลารถออกพอดี ราวๆ เที่ยงวัน

รูปภาพ:

รถออกตอนเที่ยง เราก็นั่งรถไปชมวิวเมืองกาญไป ได้ผ่านสุสานสัมพันธมิตรด้วย สวยดี มองข้างนอกก็ชัดเจนดี เออดีจัง ไม่ต้องเข้าไป 555 รถช้ามากๆ เป็นรถหวานเย็น เราก็นึกในใจว่าเมื่อไรจะไปถึงเอราวัณเนี่ย

ทางสองข้างพอผ่านเมืองแล้ว ก็กลายเป็นต้นไม้สองข้าง ที่น่าสังเกตก็คือมีดอกไม้ลักษณะเหมือนผกากรอง สีเหลืองปนส้ม ขึ้นเต็มสองข้างทางไปหมด แรกเราก็นึกว่าเค้าปลูก แต่มันขึ้นเยอะเกิน ท่าทางจะเป็นต้นไม้สามัญของที่นี่มั้ง

ยิ่งลึกเข้าไปยิ่งเย็นขึ้นเรื่อยๆ ได้ยินเสียงจากราวไพร สลับกันไร่อ้อยและไร่มันสำปะหลัง เราชอบสังเกตธรรมชาติสองข้างทาง ต้นไม้ที่คนท้องถิ่นปลูก อาชีพที่เขาทำ เราว่ามันเป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในการเดินทางที่เราไม่เคยได้รู้มาก่อนถ้ายังนั่งอยู่บ้าน

รูปภาพ:

สักพัก รถก็ผ่านเขื่อนท่าทุ่งนา เราประทับใจเส้นทางช่วงนี้ที่สุดเพราะวิวสวยมากจริงๆ พื้นน้ำสะท้อนแสงแดดระยิบระยับ ถัดจากเขื่อนท่าทุ่งนาไปแล้วก็เป็นแม่น้ำแคว ซึ่งก็สวยอีก ความสวยบรรยายไม่ได้เลย แถมเราก็ถ่ายรูปไม่ทันด้วย เป็นคุ้งน้ำมีต้นไม้ขึ้นสองข้างทาง และน้ำใสมาก มีสายหมอกลอยบนผืนน้ำนิดๆ งดงามจับตา แม้ว่าจะเป็นช่วงกลางวันแต่ก็ยังสวยอยู่ดี

ผ่านเขื่อนท่าทุ่งนาไปอีกนิด เป็นเหมือนช่องเขาขาด สองข้างทางเป็นหน้าผา ทิวทัศน์ตระการตา แบบนี้ก็ไม่เคยเห็นอีกเช่นกัน จุดนี้ถ่ายรูปไม่ทัน เสียดายมาก

รูปภาพ:

รถวิ่งขึ้นลงเขาด้วยความเอื่อยเฉื่อย แต่ก็เข้าใจ เพราะรถเก่ามากแล้ว ระหว่างนี้มีรถบิ๊กไบค์แซงไปเป็นระยะๆ นอกเรื่องนิด เส้นทางนี้มีแกงค์บิ๊กไบค์เยอะมากๆ ขับไปไม่เว้นกันเลย คือเข้าใจว่าเส้นทางมันสวยด้วย ก็เลยเป็นที่นิยมในที่สุดก็มาถึงน้ำตกเอราวัณ รถจอดตรงทางเข้าน้ำตก ตรงนี้มีจุดบริการนักท่องเที่ยว ขายเสื้อ ขายของที่ระลึก โปสการ์ด มีรถกอล์ฟให้บริการไปถึงน้ำตกชั้นที่ 1 ด้วย แต่เราเลือกที่จะเดินข้อมูลเล็กน้อยของน้ำตกเอราวัณ

ชั้นที่ 1 ไหลคืนรังชั้นที่ 2 วังมัจฉาชั้นที่ 3 ผาน้ำตกชั้นที่ 4 อกนางผีเสื้อชั้นที่ 5 เบื่อไม่ลงชั้นที่ 6 ดงพฤกษาชั้นที่ 7 ภูผาเอราวัณบริเวณน้ำตกชั้นที่ 1 - 4 จะมีปลาพลวง ( ปลาตระกูลปลาตะเพียน ลำตัวสีน้ำตาลเขียวเกล็ดโต มีหนวดยาว 2 คู่ ) แหวกว่ายอยู่เป็นจำนวนมากอันเป็นลักษณะเด่นอีกอย่างหนึ่งของน้ำตกแห่งนี้ค่ะ

หลังจากเดินเข้ามาแล้ว เราก็พบว่าเส้นทางระยะต้น ค่อนข้างเดินสบายเชียวล่ะ ถนนลาดยางปูพื้นอย่างดี ป่าค่อนข้างโปร่ง เราไปถึงสักบ่ายโมงครึ่งแต่ก็ยังไม่ร้อนอบอ้าว มีกลิ่นอายความชื้นอยู่รอบๆ ซึ่งเราก็เดินไป ระหว่างทางมีคนเดินสวนออกมาทั้งนั้นเลย เราก็แอบหวั่นใจเล็กน้อยว่า ข้างบนไม่ใช่คนไปหมดแล้วนะ ไม่อยากเดินวังเวงคนเดียว

รูปภาพ:

เคราะห์ดี เดินไปพอเหงื่อซึมๆ หลังก็เห็นน้ำตกแล้ว  ชั้นที่ 1 จะมีคนมานั่งปิคนิกกันมากมาย กินส้มตำ ไก่ย่าง อารมณ์เหมือนเราไปชายทะเลแถวบ้านเราอะไรงี้

เราก็เดินเลยชั้นที่ 1 ไปชั้นที่ 2 ระยะทางไม่ไกลจากกันมาก แป๊บเดียวก็ชั้นที่สองแล้ว ซึ่งชั้นนี้คนเล่นน้ำกันเยอะสุด คงเพราะเดินทางมาถึงง่ายๆ ก็ได้เจอน้ำใสแล้ว ชั้นนี้มีปลาเต็มเลย มองเห็นปลาว่ายในน้ำ เลยชื่อ " วังมัจฉา "

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

เราก็เดินไปเรื่อยๆ เพื่อไปดูชั้นที่ 3 4 5 ระหว่างชั้นสองกับสาม ไม่ยากเท่าไรนัก แต่ชั้น 3 ไป 4 และ 4 ไป 5 รู้สึกว่าถ้าคนไม่ค่อยแข็งแรง จะเหนื่อยแน่นอน แต่ด้วยความที่เราออกกำลังกายบ่อยๆ ก็เลยรู้สึกว่าไม่เหนื่อยมาก ( อวด 55 )

คือบันไดมันสูงและค่อนข้างชันมากๆ แล้วก็ดูเหมือนจะทอดยาวไปไม่มีที่สิ้นสุด เราเห็นคนเดินหอบกันเพียบเลย แฮ่กๆ แบบนี้เลย เราเองถึงไม่เหนื่อย แต่พอถึงชั้น 5 เราก็พอก่อน เพราะกลัวไปไม่ทันรถเอราวัณออก เดี๋ยวมีเวลาที่รีสอร์ตน้อย

รูปภาพ:รูปภาพ:

เราว่าน้ำตกก็สวยนะ เราชอบชั้นที่ชื่อว่าอกนางผีเสื้อที่สุด เพราะน้ำใสเป็นสีฟ้าพาสเทล ส่วนชั้น 5 น้ำตกไหลเรื่อยๆ มีหลายขั้น แต่ความสวยและความชอบส่วนตัวเรายกให้อกนางผีเสื้อ หรือคือชั้นที่ 4 นั่นเอง

รูปภาพ:รูปภาพ:

พอถึงชั้นที่ 5 เราก็ถ่ายรูปชั้นที่ 5 แล้วลงก่อน เพราะค่อนข้างเย็นแล้ว ขาลงใช้เวลาแป๊บเดียว เราลงมาตอน 14.30 น. แวะซื้อโปสการ์ดเอาไว้เขียนหาเพื่อนทางจดหมาย แล้วก็ขึ้นรถ แล้วก็นั่งรอจนรถออก พอรถออกเราก็ชมวิวอย่างเพลิดเพลิน รู้สึกว่าตัวเองชอบเที่ยวแบบหวานเย็นอย่างนี้มากกว่า ไม่ต้องเก็บแต้มเที่ยวให้เยอะแยะ ดูนั่นนี่ระหว่างทางไป สนุกมากๆ

และนี่ก็คือทริปการเดินทางไปน้ำตกเอราวัณ เดี๋ยวตอนต่อไปเราจะมาเล่าและรีวิวการไปพักที่บ้านกกกอดนะคะ เพราะบทความนี้ก็ค่อนข้างจะยาวแล้ว เดี๋ยวจะเบื่ออ่านกันเสียก่อนเนอะ เอาล่ะ ไว้พบกันใหม่ที่รีวิวบ้านกกกอดนะคะ บายๆ ค่ะ