สวัสดี สาวๆ

SistaCafe

และ

เมอร์รี่คริสต์มาส

ล่วงหน้านะคะ

สาวๆ รู้ไหมคะ ว่าธรรมเนียมของเทศกาลแห่งความอบอุ่น อย่างเทศกาล

คริสต์มาส

ไม่ได้มีแค่ในต่างประเทศแถบยุโรปเท่านั้น แต่ปัจจุบัน มีอยู่หลายๆ แห่งเลยค่ะ ที่มีธรรมเนียมคริสต์มาสได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายมากๆ


สำหรับวันนี้เราเลยขอเสนอ ทั้งของขวัญที่ประเทศอื่นๆ นิยมให้กัน และธรรมเนียมที่แตกต่างกันของแต่ละประเทศจะน่าสนใจแค่ไหน ส่องกันเลยเนอะ

1. เนเธอร์แลนด์

รูปภาพ:https://d27k8xmh3cuzik.cloudfront.net/wp-content/uploads/2018/10/cover-christmas-netherland.jpg

เด็ก ๆ ในเนเธอร์แลนด์จะได้รับของขวัญจากซานตาคลอส

ในวันที่ 5 ธันวาคม

สาวๆ หลายคนอาจจะทำหน้างง เอ๊ะ วันนี้ยังไม่ใช้วันคริสต์มาสซะหน่อย ก็ถือเป็นความแตกต่างที่น่าสนใจมากๆ เลยค่ะ

โดยมีเงื่อนไขว่าหากเด็กๆ วางแครอทเอาไว้ เขาจะได้รับของขวัญจากซานต้านั่นเองค่ะ

นอกจากนี้จะมีการจัดเล่นเกม ซึ่งมีบทกวี และปริศนาคำทาย ให้พวกเขาตีความเพื่อให้ได้รับของขวัญจากซานต้าอีกด้วย

2. ญี่ปุ่น

รูปภาพ:https://www.compathy.net/magazine/wp-content/uploads/2016/11/16309695510_0f05cf9304_z.jpg

คริสต์มาสในญี่ปุ่นไม่ถือว่าเป็นการเฉลิมฉลองทางศาสนา แต่เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขวันคริสต์มาสอีฟจะมีการเฉลิมฉลองมากกว่าคริสต์มาสเลยก็ว่าได้ ถือเป็นวันที่แสนโรแมนติกโดยคู่รักจะนัดพบกันและแลกเปลี่ยนของขวัญ เด็กญี่ปุ่นเองก็จะได้รับของขวัญคริสต์มาสของตัวเองซ่อนเอาไว้ใต้หมอนอีกด้วย' Merry Christmas ' ของญี่ปุ่นคือ ' Meri Kurisumasu '

3. รัสเซีย

รูปภาพ:https://www.all4women.co.za/wp-content/uploads/2017/07/19/34980138_m-750x458.jpg

ไม่ใช่เรื่องปกติที่จะให้ของขวัญในวันคริสมาสต์ในประเทศรัสเซียเพราะว่าในความเป็นจริงประเทศรัสเซียมีการเฉลิมฉลองปีใหม่ตามธรรมเนียมรัสเซียในวันที่ 6 เดือนมกราคมและวันหยุดของประเทศอีกด้วยวันนี้เป็นวันศักดิ์สิทธิ์ มีคนไปโบสถ์และมีการช็อปปิ้ง โดยมีการเฉลิมฉลองกับสมาชิกในครอบครัวและที่บ้าน

อย่างไรก็ตามคนรัสเซียก็ให้ของขวัญคริสต์มาสกับคนในประเทศอื่นๆ โดยยึดเอาธรรมเนียมโลกเป็นหลัก นั่นก็คือวันที่ 31 เดือนธันวาคมนั่นเองค่ะ

4. ไอร์แลนด์

รูปภาพ:https://www.rfa.org/english/news/china/xmas-12202017113540.html/china-xmas-dec-2016.jpg

เช่นเดียวกับทั่วโลก ชาวไอริชจะฉลองวันด้วยการใช้เวลากับคนที่รักให้ของขวัญและเพลิดเพลินกับอาหารอร่อย เช่น พายคริสต์มาส  นอกจากนี้ยังมีอาหารที่ชื่อว่า Ale เป็นอาหารว่าง เด็กๆ มักรอเช้าวันคริสต์มาสเพราะว่าจะถึงเวลาที่พวกเขาได้รับอนุญาตให้แกะของขวัญคริสต์มาส ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พิเศษที่สุดเลยก็ว่าได้นะคะ

5. จีน

รูปภาพ:https://www.rfa.org/english/news/china/xmas-12202017113540.html/china-xmas-dec-2016.jpg

คริสมาสต์ไม่ได้เป็นที่นิยมในจีนมากเท่าไรนัก เพราะว่าในประเทศจีนเนื่องจากจีนมีเพียง 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่นับถือศาสนาคริสต์แต่คนจีนก็มีธรรมเนียมการเฉลิมฉลอองปีใหม่อยู่เหมือนกัน นั่นก็คือวันตรุษจีน วันนี้ถือเป็นวันที่มีการฉลองอย่างเป็นวงกว้างซึ่งส่วนใหญ่แล้ว เราคนไทยก็จะคุ้นเคยอยู่เช่นกันใช่ไหมคะ เพราะว่าตรุษจีนจะมีการฉลองแบบง่ายๆ เช่นการใส่ซองแต๊ะเอียให้นั่นเอง

6. เยอรมนี

รูปภาพ:http://culturalawareness.com/wp-content/uploads/2015/12/German-Christmas-6.jpg

เด็กเยอรมันมักจะเขียนจดหมายขอของขวัญที่พวกเขาต้องการโดยส่งไปให้ซานตาคลอสและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าซานตาคลอสจะนำมาให้ในวันที่ 24 ธันวาคมนั่นเองค่ะดังนั้นเดือนธันวาคมในเยอรมนีจึงเป็นเทศกาลที่ให้ของขวัญเป็นอย่างมากในเยอรมนี และก็ไม่น่าแปลกใจอะไรที่เทศกาลวันคริสต์มาสจะเป็นเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ของเยอรมันนั่นเอง

7. อิตาลี

รูปภาพ:https://www.romeapartments.com/wp-content/uploads/fga-cityguide-upload/cgp/350/350_635610663867836573.jpg

การเฉลิมฉลองคริสมาสต์ของอิตาลีจะเริ่มต้นแปดวันก่อนวันคริสต์มาส ซึ่งจะเริ่มต้นด้วยการสวดอ้อนวอนขอพรในโบสถ์เด็กอิตาลีเชื่อว่าหญิงชราชื่อ ' Befana ' จะนำของขวัญคริสต์มาสมาให้พวกเขา เและเด็ก ๆ ก็จะแขวนถุงเท้าไว้ข้างเตาผิงเพื่อให้ Befana สามารถนำของขวัญของเธอไปวางไว้ข้างๆ ในคืนคริสต์มาสนั่นเองค่ะ

และนี่ก็คือธรรมเนียมของคริสต์มาสในแต่ละประเทศนั่นเองค่ะ สาวๆ คนไหนได้สาระความรู้กันไปแล้วก็อย่าลืมไปเล่ากันต่อด้วยนะคะ

สำหรับปีใหม่และคริสต์มาสปีนี้ก็ขอให้สาวๆ มีความสุขทุกคนกันเลยค่ะสวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าเลย บ๊ายบายค่ะ