" หมอดู "ไม่ว่าจะศาสตร์ไหนก็ตาม คือนักทำนาย หรือนักพยากรณ์ คล้าย ๆ กับการพยากรณ์อากาศนั่นแหละ เพียงแต่การดูดวงก็คือการทำนายอนาคตของเรา และการทำนายนั้น ย่อมคลาดเคลื่อนได้บ้าง เพราะอนาคตเป็นสิ่งที่ไม่มีใครล่วงรู้ได้เลย หมอดูแต่ละศาสตร์ล้วนใช้วิชาของตนเองประกอบกับ" ความน่าจะเป็น "
ถึงแม้จะมีความสามารถพิเศษล่วงรู้อนาคตได้ แต่ก็ใช่ว่าหมอดูจะรู้ทุกเรื่อง และใช่ว่าหมอดูจะดูได้ทุกเรื่องนะ เขามีกฎเหล็กอยู่พอสมควร!
#1 ห้ามถามเรื่องความตาย
แม้หมอดูคนนั้นจะรู้ เห็นเค้าลาง แต่ก็เลือกที่จะไม่ทักลูกดวง ( ผู้เข้ารับการทำนายดวง ) ว่าใครจะตายเมื่อไหร่ แบบไหน เพราะถือว่าเป็นการผูกกรรมต่อกันที่ทำให้ผู้ฟังไม่สบายใจ วิตกกังวล จดจ่อกับความตาย คนที่ป่วยอยู่แทนที่จะมีกำลังใจต่อสู้ กลับยอมตายเพราะเสียกำลังใจไปง่าย ๆ
เท่าที่หมอดูพอจะทำได้มากที่สุดก็คือ การเตือนว่าให้ระวังรักษาสุขภาพ และหมั่นทำบุญในแบบที่ลูกดวงสะดวก ไม่เดือดร้อนถึงกับเป็นไฟท์บังคับว่าต้องแก้กับหมอไหน สำนักไหน แล้วเรียกเงินแพง ๆ แบบนี้คือหลอกลวงชัวร์ ๆ
#2 อย่าถามเด็กที่เพิ่งเกิด
นอกจากเรื่องความตาย ตรงข้ามกันนั้นการเกิดก็ไม่ควรเป็นเรื่องที่ถาม เช่น ถามว่าเด็กในท้องดีหรือไม่?, ถามว่าเด็กโตมาแล้วจะเป็นคนแบบไหน? เพราะนี่ก็คือการสร้างกรรมให้ลูกดวงมัวแต่พะวงว่าลูกจะเป็นตามคำทำนายหรือไม่? แทนที่จะเลี้ยงดูให้ดีที่สุดเท่าที่คนเป็นผู้ปกครองจะพอมีกำลัง สมมติหมอดูทักว่าเด็กคนนี้โตมาแล้วจะทำให้พ่อแม่ลำบาก คนเป็นพ่อแม่ก็ทุกข์ใจจากวาจาของหมอดูไปอีกที่เชื่อว่าจะเป็นอย่างนั้นจริง ๆ บาปกรรมค่ะ เขาถึงถือเป็นกฎเหล็กว่าต่อให้รู้ก็จะไม่บอกเช่นกัน
#3 ถามเรื่องเนื้อคู่
ความรักถือว่าเป็นเรื่องยอดฮิตที่หมอดูทุกคนต้องเจอเสมอ แต่คำถามที่หมอดูไม่สามารถตอบได้ก็คือ" คนที่หนูคบเป็นคู่แท้ไหมคะ? ", " เขาคิดยังไงกับหนูคะ? ", " เขาเป็นเนื้อคู่ของหนูรึเปล่าคะ? "ที่หมอดูไม่ตอบ เพราะไม่อยากให้คำพูดไปทำให้ลูกดวงคิดมาก พอคิดมากก็อาจทำให้ความรักแย่ลงได้ เป็นการทำกรรมต่อลูกดวงด้วยวาจาที่แย่พอ ๆ กับการทายอนาคตเด็กที่เกิดและทายความตายให้ลูกดวง
สิ่งที่หมอดูพอจะตอบได้ก็คือ ความรักช่วงนี้ต้องระวังอะไร, สถานการณ์ความรักเป็นอย่างไรบ้างในช่วงนี้ และอย่างมากสุดก็คือการแนะนำให้ทำบุญวิธีต่าง ๆ ที่จะเสริมดวงคู่รัก ถ้าหมอดูคนไหนบอกวิธีผูกดวง เสริมเสน่ห์ ทำเสน่ห์ อย่าหลงเชื่อเด็ดขาดค่ะ เพราะการเล่นของไม่ทำให้ใครดีขึ้นแบบยั่งยืน การใช้เล่ห์กลมนต์คาถาช่วยได้เพียงชั่วครู่ สุดท้ายก็ฝืนชะตาไม่ได้
#4 อาศัยการถามฟรีอยู่บ่อยครั้ง
ในตลาดนัดหมอดู ( โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ เช่น กลุ่มเฟซบุ๊ก ) มักจะมีหมอดูแต่ละเจ้าเปิดโอกาสให้ถามฟรี ( เช่น ถามฟรีคนละ 1 คำถาม แลกกับไลก์+แชร์, ถามฟรี 3 คำถามแลกกับการทายปริศนาบางอย่าง, ดูฟรีคนละ 1 คำถาม 10 ท่านแรก ) เพื่อเป็นการโปรโมทและทำความรู้จักกันเบื้องต้น ( คล้ายกับสินค้าอื่น ๆ ที่เปิดให้มีตัวทดลอง ( Tester ) ใครพึงพอใจจะใช้แบบจุใจค่อยเสียเงิน ) ซึ่งการดูดวงแบบนี้ อาจช่วยได้ในกรณีที่เรามีแค่คำถามสั้น ๆ แต่ไม่อยากเสียเวลามาก
แต่สำหรับคนที่ขี้งก หรือเป็นประเภทอยากคุยยาวให้กระจ่างแจ้ง มันก็ไม่โอเคเท่าไหร่ที่เซ้าซี้รบกวนหมอดูให้ทำนายเราฟรีบ่อย ๆ เพราะประการแรก หมอดูก็คือธุรกิจอย่างหนึ่ง การมาขอดูฟรีบ่อย ๆ ก็เป็นเรื่องที่ค่อนเสียมารยาท และอีกประการสำคัญก็คือ หมอดูทุกคนมีครู มีวิชาอยู่กับตัว จึงได้มีการตั้งค่าบริการที่เรียกว่า ' ค่าครู ' เพื่อนำเงินไปทำบุญให้กับครูบาอาจารย์ของหมอดูและเจ้ากรรมนายเวรของลูกดวง ( การดูดวงแต่ละครั้งต้องใช้วิชาความรู้ ใช้บุญบารมีอย่างสูงในการติดต่อกับครูบาอาจารย์ เพื่อให้อาจารย์ถ่ายทอดความรู้และพลังให้ไม่ขาด อีกทั้งคุ้มครองไม่ให้เจ้ากรรมนายเวรล่วงเกินหมอดู ถ้าไม่มีเงินทำบุญให้ ก็เหมือนสัญญาณในการถ่ายทอดดวงอ่อนลง หมอดูอาจเจ็บป่วย โดนของเข้าตัวได้ )
#5 ถามเรื่องเดิม ๆ ซ้ำ ๆ
ไม่ใช่กฎเหล็กอะไร แต่เป็นมารยาทที่ควรมี เพื่อไม่เป็นการรบกวนหมอดูเกินไป อีกทั้งการดูแต่เรื่องเดิม ๆ บ่อย ๆ เดี๋ยวเรื่องที่เราวิตกกังวลอยู่ก็เป็นจริงตามที่เอาคำตอบแต่ละครั้งมารวมกัน ชีวิตของเรา ปล่อยให้ตัวเองเองลิขิต ดูดวงได้ แต่อย่าให้ดวงทำเราเป็นคนย้ำคิดย้ำทำให้เสียสุขภาพจิต
#6 ถามดะในสภาพจิตใจที่แปรปรวน ไม่นิ่ง
หมอดูอาจเป็นที่พึ่งทางใจได้ แต่ไม่ใช่ที่พึ่งหลักที่เราต้องนึกถึงอันดับแรก ในสภาวะที่เรากำลังเสียใจ เป็นทุกข์จากสิ่งใดก็ตามแบบหนักมาก ( เช่น เพิ่งโดนบอกเลิกมาสด ๆ ร้อน ๆ ) อย่าแก้ปัญหาด้วยการไล่ถามหมอดูหลาย ๆ สำนัก เพียงแค่หาคำตอบให้ได้ว่าสิ่งที่เผชิญอยู่นี้คืออะไรกันแน่? การดูดวงทั้ง ๆ ที่สภาพจิตใจยังไม่นิ่งพอ จะทำให้เราได้ผลทำนายที่หลากหลาย ไม่แน่นอน ( ตามสภาพจิตใจเราขณะนั้น อย่าลืมค่ะ การดูดวงหมอดูจะสื่อกับจิตเราด้วย ) และฟุ้งซ่านกว่าเดิมได้ ไปทำใจร่ม ๆ สงบ ๆ ปรึกษาเพื่อนสนิท ปรึกษาครอบครัวจะดีกว่าจ้ะ หมอดูค่อยเอาไว้ตอนที่ใจนิ่งสุด ๆ แล้วยังไม่สาย
แม้ชีวิตเราส่วนหนึ่งจะถูกกำหนดโดยดวง แต่ความเป็นจริงแล้วตัวเราเองสามารถออกแบบได้ว่าจะให้ชีวิตเดินไปในทิศทางไหน ดูดวงพอขำ ๆ พอให้เห็นทิศทางคร่าว ๆ ได้ค่ะ แต่อย่ายึดติดจนชีวิตจริงเป๋ มิฉะนั้นจะกลายเป็นงมงาย วิตกกังวล จมกับความทุกข์ที่มัวแต่คิดว่าดวงจะเป็นไปตามปากคนอื่นหรือเปล่า? ความสุขเราเลือกได้ด้วยตัวเองจ้า