ผ่านไปแล้วสำหรับงานเลือกตั้งBNK48หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า' BNK48 6th SINGLE SENBATSU GENERAL ELECTION' ซึ่งจัดในวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยถือว่าเป็นงานใหญ่ที่สุดของ BNK48 นับตั้งแต่วงดังกล่าวถือกำเนิดขึ้นในไทยเมื่อ 2 ปีที่แล้ว
งานนี้ถือว่าเป็นการวัดใจระหว่างเมมเบอร์กับโอตะ เพราะเป็นงานที่เปิดโอกาสให้เหล่าโอตะได้โหวตเมมเบอร์ที่ตัวเองชื่นชอบเข้าไปเป็น' เซมบัตสึ 'เพลงหลัก โดยเซมบัตสึนั้นถ้าพูดให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ' ตัวจริง 'หรือสมาชิกแถวหน้า หรือสมาชิกหลักในการออกงานในซิงเกิ้ลใหม่ ซึ่งจะการเป็นเซมบัตสึก็จะทำให้เมมเบอร์เองได้มีโอกาสแสดงแถวหน้าเสมอและได้รับงานมากขึ้น ( เซมบัตสึคือเมมเบอร์ที่ได้คะแนนโหวตลำดับที่ 1-16 เมมเบอร์ที่ได้อันดับที่ 1 หรือชนะการเลือกตั้ง จะได้เป็นเซนเตอร์ของเพลงหลัก )
ในขณะที่อันเดอร์ หรือเมมเบอร์ที่ได้รับเลือกในอันดับที่ 17-32 ก็จะได้แสดงในเพลงรอง และเมมเบอร์คนที่ได้ลำดับที่ 17 ก็จะเป็นเซนเตอร์ในเพลงรองด้วย
แต่สมาชิกในวงมีถึง 51 คน จึงต้องมีการแข่งขันกันชิงตำแหน่งดังกล่าว ซึ่งในไทยนั้น ให้เวลาแข่งขันเพียง 2 เดือน โดยเปิดให้เหล่าโอตะลงคะแนนได้ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2561 – 22 มกราคม 2562 นั้น ซึ่งคะแนนโหวตจากสาวก BNK48 มาจาก 2 วิธี ได้แก่
1. การซื้อซีดีพรีออเดอร์ซิงเกิ้ลที่ 5' BNK Festival 'แล้วนำโค้ดไปโหวตในเว็บไซต์ โดยมีจำนวนทั้งหมด 300,000 แผ่น
2. การซื้อ Music card edition เพื่อที่จะเป็นโค้ดโหวตแบบดิจิทัล ไม่จำกัดจำนวน
ในที่สุดก็ได้ผู้ชนะแบบไม่พลิกโผ คือ
' เฌอปราง อารีย์กุล '
กัปตันวงนั่นเอง ด้วยคะแนนที่มากถึง
84,195 โหวต
การแข่งขันแมทช์ใหญ่นี้ให้อะไรกับคนดู? ให้อะไรกับเมมเบอร์นอกจากอันดับและรางวัลบ้าง? ถ้าใครได้ชมการประกาศผลผ่านแอปพลิเคชั่นTrueIDจะสัมผัสได้ถึงสิ่งต่อไปนี้ค่ะ
#1 ลึก ๆ ของผู้ชนะ ( เพื่อน ) บางทีก็เหงา ว้าเหว่ มากกว่าดีใจ
ในช่วงที่เฌอปรางต้องกล่าวความรู้สึกหลังจากได้รับตำแหน่งแล้ว สิ่งที่สะกิดใจคนดูหลายคนก็คือ เฌอกล่าวว่า" ถ้าเราได้ที่ 1 จะมีใครยินดีกับเรามั้ยอะ? "ประโยคสั้น ๆ ที่สะท้อนถึงความกลัว... กลัวว่าเพื่อนจะไม่รัก หรือเข้าใจผิดว่าเฌอทำทุกทางแม้กระทั่งไม่สนใจเพื่อนเพื่อให้ได้ตำแหน่งนี้มา
แต่เพราะเฌอยังแคร์เพื่อน และอยากให้เพื่อนมีส่วนร่วมกับรางวัลนี้ จึงทำให้พูดสิ่งนี้ออกมาจากก้นบึ้งของจิตใจ
ในขณะเดียวกัน เมื่อเมมเบอร์คนอื่น ๆ ได้ยินคำพูดดังกล่าวก็ไม่ลังเลที่จะเข้าไปกอด ปลอบใจ ขอเล่นคทาด้วย เพราะรู้ดีว่าเฌอก็ไม่มีข้อติใด ๆ ที่จะไม่ควรค่าแก่การได้ นี่คือรางวัลที่เหมาะสมกับความพยายามและทุ่มเทของเฌอที่สุดแล้ว ไม่ใช่ฐานะกัปตันวง แต่เพราะเฌอทุ่มเททุกอย่างจริง และเพราะเฌอเป็นเฌอแบบนี้ โอตะถึงเทใจให้อย่างไม่กังขา เพื่อน ๆ ถึงเข้าไปกอดได้อย่างไม่ลังเล เพื่อไม่ให้เฌอรู้สึกเสียใจหรือโดดเดี่ยว
การแข่งขันท่ามกลางคนที่เหมือนเพื่อน พี่น้อง ก็มีทั้งลำบากใจและประทับใจปนกันแบบนี้ :)
#2 ในขณะที่เราเข้มแข็ง กลั้นน้ำตาที่ผิดหวัง ยังมีคนเสียใจแทนเรา
ในจังหวะที่ประกาศอันดับที่ 9 เป็นชื่อ' ปัญ 'ภาพที่เห็นได้ชัดเจนคือเจ้าตัวนิ่งที่สุด ร้องไห้น้อยที่สุด แต่คนที่ใจสลายไม่แพ้โอตะก็คือเพื่อน ๆ เมมเบอร์ เช่น เจนนิษฐ์ มิวสิค ที่ถึงกับร้องไห้เสียใจแทนเพื่อนที่อันดับตกลงมา แม้จะเลื่อนจากผลประกาศอันดับไม่เป็นทางการ ( หรือที่เรียกกันว่าผลด่วน ) จากอันดับที่ 7 มาเป็น 9 และแม้ว่าจะยังไม่หลุดจากเซมบัตสึ แต่ก็อดเสียใจไม่ได้สำหรับคนที่คาดหวังมากว่าต้องได้อันดับที่ดีกว่านี้ โอตะต้องทุ่มเทให้ถึงฝันกว่านี้
อันดับที่ตกลงมานี้ นอกจากจะเป็นบทเรียนให้ปัญได้เรียนรู้ความไม่ประมาทในการแข่งขัน ยังเป็นบทเรียนที่มีคุณค่าต่อใจว่า หากทำเต็มที่แล้วก็ไม่ควรเสียใจไป น่าซึ้งใจเสียอีก ที่ความผิดหวังของเรายังมีคนเสียน้ำตาไปกับเรา เห็นคุณค่าของเราที่ควรจะได้ดีกว่านี้
#3 ปาฏิหาริย์เป็นจริงเพราะทุกคนช่วยกัน
นอกจากอันดับของปัญที่ตกลงไป อีกสิ่งที่เซอร์ไพรส์โอตะไม่น้อยก็คือ อันดับของ' เจน 'ที่ไต่มาถึงอันดับ 6 จากเมมเบอร์ที่ไม่เด่นอะไรเลย แต่เพิ่งจะมีแววน่ารัก มีเสน่ห์สะดุดตาตั้งแต่ภาพยนตร์สารคดี' Girls Don't Cry 'และ' เจนนิษฐ์ 'ที่หลายคนคาดว่าน่าจะได้อันดับที่ 4-5 แต่ในวันประกาศผลได้รับอันดับที่ 2
ซึ่งเจนนิษฐ์เองก็ไม่คาดคิดว่าตัวเองจะมาไกลขนาดนี้ เพราะในสัปดาห์ก่อนก็ยังไลฟ์ด้วยความกดดัน แอบน้ำตาซึมเล็ก ๆ จากงานที่ถาโถมเข้ามาจนทำอะไรแทบไม่ทัน บวกกับความคาดหวังของโอตะที่อยากให้ทำนั่นทำนี่ ซึ่งในขณะนั้น เจนนิษฐ์เองก็เอ่ยปากเองว่าอาจจะไม่ได้ทำตามที่โอตะคนนั้นคนนี้บอก เพราะลำพังงานของวงและงานถ่ายภาพยนตร์ที่ทำอยู่นี้ก็ทำเอาตารางชีวิตแน่นเอี๊ยดมากพอแล้ว
อาจจะเพราะความทุ่มเทนี้ โอตะจึงเห็นใจ พร้อมใจกันส่งพลังดันให้เจนนิษฐ์ทะยานสู่อันดับ 2 อย่างน่าเหลือเชื่อ โดย 1 ในคำกล่าวของเจนนิษฐ์ที่กินใจหลายคนก็คือ' ปาฏิหาริย์ของหนูคือทุก ๆ คน 'อันดับ 2 ไม่ได้มาเพราะดวงจริง ๆ แต่เพราะทุกคนที่ยังรักเจนนิษฐ์พร้อมใจกันดันขึ้นมาให้เป็นจริงได้ :)
( อยากให้มีโอกาสได้ฟังคำพูดของเจนนิษฐ์หลังรับโล่อันดับค่ะ บอกได้เลยว่ากินใจ มีวุฒิภาวะอย่างไม่น่าเชื่อจริง ๆ ว่านี่คือคำพูดของเด็กสาวอายุไม่ถึง 20 ปีเชียวนะ หาฟังได้แบบชัด ๆ ในแอพฯ TrueID จ้า )
#4 การเป็นตัวของตัวเองไม่ใช่เรื่องที่แย่อะไร
สิ่งที่ฮือฮามากที่สุดของงานนี้ก็คือ ช่วงที่โมบายล์ออกมากล่าวสุนทรพจน์หลังได้รับอันดับที่ 4 ซึ่งช่วงที่โมบายล์ดีใจมากจนร้องไห้ พูดไม่เป็นภาษา ลิ้นพันกันไปหมด ถูกชาวเน็ตตัดต่อนำไปล้อเลียนกันอย่างมากจนเข้าขั้น Bully กันก็มี
อาการตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูก พูดไม่รู้เรื่อง โมบายล์เองก็ยอมรับว่าเป็นปัญหาของเธออย่างมาก และเธอเองก็พยายามจะฝึกทุกวันแล้ว จนร้องไห้ทุกวันก็มี แต่ก็ไม่รู้จะแก้อย่างไรให้ดีขึ้น แต่ก็อยากให้แฟน ๆ ได้รู้ว่าเธอก็พยายามแล้ว
สำหรับโมบายล์อาจจะเป็นปมอะไรสักอย่างที่คนที่ไม่เข้าใจหยิบมาล้อ แต่สำหรับโอตะหรือคนที่ติดตามเธอมาอย่างดี จะรู้กันว่านี่ก็คือเอกลักษณ์ของเธออย่างหนึ่งที่น่ารัก ขำ ๆ ดี คล้ายกับเป็นลายเซ็นของเธอไปแล้ว
และสำหรับอันดับที่ 4 ที่ได้รับมานั้น ก็แสดงให้เห็นว่า ข้อเสียบางอย่างก็ไม่มีผลต่อความนิยมเลย การเป็นตัวของตัวเองด้านอื่น ๆ เช่น ความมุ่งมั่นในการฝึกซ้อมพัฒนาตัวเอง, ความเอาใจใส่แฟนคลับทั้งไทยทั้งญี่ปุ่น นี่ต่างหากที่คุณค่าของเด็กสาววัย 16 คนนี้อย่างแท้จริงที่หลายคนมองเห็น และพร้อมใจกันส่งพลังให้เธอได้อันดับดี ๆ โอกาสดี ๆ กับเขาบ้าง ถ้าไม่อคติกันเกินไป ตัวตนของเด็กสาวคนนี้น่าจับตามองจนไม่แปลกใจเลยว่า เหตุใดจึงได้รับความนิยมอันดับต้น ๆ เลย : )
#5 สิ่งที่ฉายแววไม่แพ้ความพยายาม คือความดีงามที่มีอยู่ สักวันต้องมีคนเห็นค่า
แม้' รินะ 'จะเป็นคนญี่ปุ่น สัญชาติเดียวกับวงพี่สาว' AKB48 'เช่นเดียวกับ' มิโอริ 'แต่ก็ใช่ว่าจะได้รับความนิยมในทันทีทันใด อาจจะได้เปรียบบ้างในแง่ของการแกะท่าเต้น จดจำทำนอง ซึ่งเคยผ่านหูผ่านตามาแล้วบ้าง เพียงแต่ต้องปรับตัวใหม่กับภาษาและวัฒนธรรมไทยเท่านั้น
รินะก็เหมือนพี่สาวของวง แต่ละซิงเกิ้ลผ่านไปก็ไม่เคยได้รับเลือกให้มีโอกาสได้อยู่แถวหน้าบ้าง ไม่เคยได้รับรางวัลอะไรใหญ่ ๆ ให้ชื่นใจบ้าง แต่ก็ไม่เคยย่อท้อที่จะทำหน้าที่เอนเตอร์เทนโอตะกันต่อไป ( นางคือสายฮาของวงคนหนึ่งเลย ขอบอก 555 ) ทำหน้าที่เป็นพี่สาวที่ดี คอยสอนเมมเบอร์ในวงเต้น สอนภาษา ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับเมมเบอร์ในงานต่าง ๆ ( หากใครติดตาม จะเห็นว่ารินะคอยประกอบเมมเบอร์เวลาขึ้นเวที ช่วยหยิบของให้ ช่วยจูงไป อย่างงานเด่นสุดก็งาน world senbatsu พอประกาศชื่อเฌอปรางกับมิวสิค รินะก็ร้องไห้ดีใจไปด้วย )
ความดีงามที่โอตะหลายคนเห็น เพื่อน ๆ ในวงรัก ทำให้เกิดภาพประทับใจขึ้นในวันเลือกตั้ง BNK48 ก็คือ ทันทีที่ประกาศชื่อรินะ คนทั้งฮอลล์ต่างตะโกนเรียกชื่อรินะอย่างพร้อมเพรียงกันไม่แบ่งบ้าน ไม่แบ่งด้อม เมมเบอร์คนอื่น ๆ กรูเข้ามากอดแสดงความยินดีด้วย หรือจะเรียกง่าย ๆ ก็คือ ทุกคนกรูเข้ามาแสดงความยินดีในรางวัลที่รินะควรได้เสียที หลังจากเป็นเจ๊ดันอยู่ตั้งนาน ไม่เพียงแต่ความทุ่มเท ขยัน พยายามเท่านั้น หากแต่ความดีงามและความมีน้ำใจที่เป็นจุดเด่นในตัวเธอก็มีผลต่อความนิยมนี้ด้วย : )
#6 คนที่อยู่ตรงกลาง บางทีก็โดนละเลย
แม้จะเป็นสายฮามาตลอด แต่วันประกาศผล
' ปูเป้ '
ก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวความในใจสักหน่อยว่า เวลามีการแข่งขันทำนองนี้ สิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือ คนมักจะชื่นชมสนใจเมมเบอร์ตัวท็อป และเห็นใจ คนระดับอันเดอร์ แต่คนที่อยู่ระดับกลางมักจะถูกลืมเสมอ และการแข่งขันในครั้งนี้ เธอก็รู้ดีว่ามันต้องเป็นแบบนั้น ( และเธอก็อาจจะเป็นคนระดับกลางอยู่เหมือนเดิม ) แต่ก็ยังอยากจะลงแข่งขันอยู่ดี ไม่รู้ทำไม
#7 เพื่อนแท้คือเพื่อนที่พร้อมร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน
นอกจากช็อตที่เมมเบอร์ทุกคนดีใจที่รินะมีชื่อ 1 ใน 32 คน เมมเบอร์บางคนเสียใจที่ปัญอันดับร่วง อีกช็อตมิตรภาพที่น่าประทับใจสุด ๆ ไม่แพ้กันก็คือ' น้ำใส-นิ้ง '
ทั้งน้ำใสและนิ้ง ได้รับการประกาศชื่อไล่เลี่ยกันในฐานะกลุ่มอันเดอร์ ซึ่งหลังจากที่น้ำใสลงไปคุกเข่าขอโทษกับดราม่าที่เกิดขึ้นเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ นิ้งที่อยู่ข้าง ๆ แต่ยังไม่ถึงคิวตัวเองกล่าวสุนทรพจน์ ก็รีบเข้าไปคว้าแขนเพื่อนให้ลุกขึ้น ตะโกนปลุกใจข้าง ๆ เพื่อน' แกต้องสู้สิ '
เมื่อถึงคิวที่นิ้งต้องพูดบ้าง นอกจากจะพูดดีใจกับอันดับทีได้ นิ้งยังไม่นิ่งนอนใจที่จะกล่าวขอความเห็นใจจากโอตะและผู้ชมคนอื่น ๆ ด้วย เพื่อให้น้ำใสได้มีโอกาสปรับปรุงตัวอีกครั้ง เธอยืนยันว่าเพื่อนรักเครียดมากตั้งแต่ก่อนขึ้นคอนเสิร์ตจนเธอเองก็ไม่สบายใจด้วย
#8 ความพยายามไม่เคยทำร้ายสักคนที่ตั้งใจ
' แนทเทอรีน 'คืออีกตัวอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดว่า ความพยายามไม่เคยทำร้ายใคร จากเด็กสาวที่ไม่เคยติดเซ็มบัตสึเพลงหลักเลย ในที่สุดก็มาคว้ามาได้ เพราะความทุ่มเทอย่างถึงที่สุด
ในบรรดาเมมเบอร์รุ่น 2 แนทเทอรีนเป็นสมาชิกเพียงคนเดียวที่พยายามสร้างสตอรี่ให้ตัวเอง ทั้งสายฮา สายบอล ตลอดจนการฝึกซ้อมอย่างหนัก โดยมีเดิมพันคือความเป็นเด็กขี้โรค ที่เดี๋ยวป่วย เดี๋ยวไม่สบาย และการเรียนที่เรียนถึงโรงเรียนมัธยมที่ขึ้นชื่อว่าแข่งขันด้านการเรียนกันสูงมาก ในที่สุดแนทเทอรีนก็สามารถบาลานซ์ทุกอย่างได้ และคว้าตำแหน่งเซ็มบัตสึไปได้
เธอจึงเป็นตัวอย่างให้เห็นว่า' หน้าตาอย่างเดียวไม่มีผลเท่าความพยายาม 'เธออาจไม่ใช่คนที่สวยที่สุด และความสำเร็จก็ไม่ได้วัดผลจากหน้าตาเสมอไป หากพอจะทำอะไรได้ก็ทำไปให้สุด แล้วผลลัพธ์จะออกมาเอง : )
'...รู้ทั้งรู้ว่าเขาใช้อะไรตัดสินใจ ต้องน่ารักใช่ไหมที่ใครเขาเป็นกัน ฉันขอแค่ให้เขาลองมองที่ข้างใน คงจะดีถ้ามีใจให้กับฉัน... 'ท่อนนี้ของเพลง' คุกกี้เสี่ยงทาย 'อธิบายการแข่งขันได้ดีเลยค่ะว่า พวกเธอก็อยากให้หลายคนมองเข้ามาที่ข้างในมากกว่าการตัดสินจากภายนอกไปต่าง ๆ นานาบ้างใครที่ยังไม่เคยเปิดใจกับวงไอดอลนี้ พี่อาร์ตอยากให้ลองสักนิด เริ่มจากการดูคลิปกล่าวสุนทรพจน์ของเมมเบอร์แต่ละคนในงานเลือกตั้ง BNK48 นี้ก็ได้ แล้วจะรู้สึกชื่นชมพวกเธอขึ้นมาเลยว่า เด็กสาวแต่ละคนเก่งและแกร่งขนาดไหนที่ต้องแบกรับภาระหลายเรื่องไว้ ภายใต้ความสดใสที่มีทั้งคนชื่นชมและอคติ ดูแล้วจะได้แรงบันดาลใจดี ๆ กลับไปจริง ๆ ค่ะว่า พวกเธอยังสู้กับเรื่องยากเกินวัยหลายเรื่องได้เลย ถ้าเราเจอปัญหาบ้าง เราต้องยิ้มสู้กันไปสิ ^^