บทที่ 3

...ท่านพี่...

เสียงนี้มัน ...

มิกซ์ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ภาพเบื้องหน้าดำสนิท เขาหันมองรอบตัวไปมาพร้อมครุ่นคิดอย่างหนัก เขามาอยู่ในสถานที่อันมืดมิดแห่งนี้ได้อย่างไร แต่คิดเท่าไหร่ความทรงจำและความนึกคิดค่อยเลือนหายมากเท่านั้น

มิกซ์รู้สึกได้ถึงพลังอันหนักอึ้งตรงแขนขวา เขาค่อย ๆ หันไปมองอย่างช้า ๆ ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตื่นตระหนก เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นกลางหน้าผาก ใบหน้าเริ่มซีดเซียวเมื่อสายตาเหลือบเห็นหมอกสีขาวจืดจางเกาะแขนขวา หัวสมองเริ่มตื้อตัน ขาทั้งสองเริ่มอ่อนแรง ขนหางฟูฟ่องตั้งชันด้วยความกลัวสุดขีด แต่ใบหน้ากลับนิ่งเฉย ใครอยากจะให้รู้ว่าเจ้าชายสุดแสนจะเพอร์เฟคอย่างเขากลับกลัวผีเป็นที่สุด ใครรู้เข้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกัน

“... จะ ...”

“ว้ากกกกกก ! ไม่เอ๊า ! อย่ามายุ่งกับข้า ! ไปให้โพ้นนนนน !”

มิกซ์สะบัดแขนขวาสุดแรงเกิดพร้อมหลับตาปี๋ ไม่กล้ามองสิ่งใดทั้งสิ้ง หวังอย่างเดียว เอาผีตัวนี้ออกไปให้พ้นตนแค่นั้นพอ แต่น้ำหนักนั้นยังคงอยู่ มิกซ์สะบัดแรงและเร็วขึ้นโดยไม่หันกลับไปมองอีกเป็นครั้งที่สงอ เสียงกรีดร้องดังขึ้นเป็นระยะ น้ำเสียงแฝงไปด้วยความโกรธแค้นและสะอึกสะอื้น ด้วยความกลัวสุดขีดจนขนลุกไปทั่วทั้งตัว มิกซ์ใช้กำลังเฮือกสุดท้ายสะบัดหมอกสีขาวออกไปจนแขนขวากลับมาเป็นอิสระดังเดิม เขาค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมอง น้ำตาไหลพรากด้วยความดีใจอย่างสุดซึ้ง แต่เขากลับรู้สึกได้ถึงรังสีอำมหิตบางอย่าง คราวนี้เขารวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีมองตรงไปยังทางที่พลังนั้นส่งมา

“เจ้า !"

“เอ่อคือ ..."

หัวใจมิกซ์กองลงไปอยู่ตาตุ่มเมื่อรู้ว่าหมอกสีขาวนั้นไม่ใช่ผี แต่เป็นโมเน่นั่นเอง ใบหน้านางโกรธแค้นราวภูเขาไฟที่กำลังปะทุ ผมชมพูมุกพันกันยุ่งเหยิงและปรกหน้า นัยน์ตาเขียวมรกตเต็มไปด้วยความโกรธแค้นจับจ้องมายังเขาไม่วาง ขณะนี้เขารู้แล้วว่าสิ่งที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่ผี แต่เป็นผู้หญิงตรงหน้าเขานั่นเอง

“เจ้า ... ทานูกิอ้วน ...”

“อ่าคือ ... ข้า ... ข้า ... ข้าขอโทษ !”

“ไม่ให้อภัย !"

โมเน่ประกบมือเป็นวงกลมกลางหน้าอกพร้อมขยับปากร่ายเวทมนตร์บางอย่าง สายตายังคงจับจ้องมิกซ์ไม่วาง แสงสีขาวนวลเริ่มก่อตัวขึ้นด้านในวงกลมทีละน้อย ความหนาวเหน็บเริ่มปกคลุมแทนที่ความมืดมิด ปีกผีเสื้อเปล่งประกายแสงสีขาวสว่างจ้าจนมิกซ์ไม่อาจมองกลับได้ แสงสีขาวในมือรวมตัวกันกลายเป็นก้อนน้ำแข็งขนาดเล็ก เพียงแค่เสี้ยววินาที ก้อนน้ำแข็งกลับกลายเป็นแสงสีขาวเย็นยะเยือกส่องตรงมายังมิกซ์ด้วยความเร็วสูง มิกซ์ไม่สามารถหลบแสงนี้ได้ทันท่วงที ทำให้เขารับพลังนี้เข้าเต็มเปา โมเน่ยิ้มเริงร่าด้วยความปลื้มปิติ

แต่โชคกลับไม่เข้าข้างโมเน่ พลังนั้นไม่สามารถสร้างบาดแผลหรือแม้แต่รอยขีดข่วนให้กับมิกซ์ได้

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น ! ไม่จริง !”

“ถามข้าแล้วข้าจะไปถามใคร ตาข้าแล้วสินะ”

มิกซ์แสยะยิ้มเริงร่าราวผู้ชนะ เขาก้าวเท้าเดินตรงเข้าหาโมเน่อย่างแน่วแน่ โมเน่ตื่นตระหนกพร้อมร่ายเวทมนตร์น้ำแข็งใส่มิกซ์อย่างต่อเนื่อง แต่พลังเหล่านั้นกลับไม่ส่งผลอะไรต่อมิกซ์แม้แต่นิดเดียว เขายังคงเดินตรงเข้ามาหาโมเน่อย่างไม่ลดละ โมเน่ต่างหากกลับสั่นเทาไปด้วยความกลัว

มิกซ์หยุดอยู่ตรงหน้าโมเน่ มือทั้งสองข้างจับไหล่ของโมเน่ไว้แน่นจนนางร้องโอดครวญออกมาเล็กน้อย เสียงร้องกลับกระตุ้นให้เขาอยากแกล้งโมเน่มากยิ่งขึ้น ยื่นใบหน้าเข้าใกล้จนสามารถรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ของอีกฝ่าย หัวใจโมเน่กลับเต้นแรงขึ้นทุกขณะที่มิกซ์เข้าหา ใบหน้าเริ่มแดงระเรื่อด้วยความอาย ดวงตากลมโตมองเข้าไปยังนัยน์ตาสีเทาขาวตรงหน้าไม่วางตา หัวใจโมเน่เต้นแรงมากยิ่งขึ้นทุกขณะที่ริมฝีปากอีกฝ่ายเข้าหา

เขายื่นมือข้างหนึ่งขึ้นสัมผัสแก้มโมเน่อีกครั้ง ทำให้โมเน่สะดุ้งเฮือกและผละออกเล็กน้อย น้ำตาดวงใสไหลรินลงอาบแก้ม ดวงตาหยาดเยิ้มและแววตาไร้ทางสู้ของโมเน่ทำให้มิกซ์ถึงกับสะดุ้งเฮือก นี่เขาทำอะไรผิดไปงั้นหรอ เขาหยุดคิดไตร่ตรองชั่วขณะ จากนั้นจึงใช้นิ้วปาดน้ำตาอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน โมเน่หลับตาลงอย่างช้า ๆ ขนตางอนยาวเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตา มิกซ์ยื่นมืออีกข้างเข้าลูบไล้แก้มแดงเลือดฝาดของโมเน่เพื่อปาดน้ำตาให้ แต่คราวนี้นางไม่ยอมอีกแล้ว โมเน่หันหน้าไปอีกข้างเพื่อหนีฝ่ามืออันอบอุ่นนั้น น้ำตายังคงไหลเป็นทางไม่ขาดสาย

“ไม่จริงใช่ไหม ..."

“เจ้าหมายความว่ายังไง" มิกซ์เอียงคอเล็กน้อยแสดงความสงสัย แต่ก็ยังไม่เข้าใจความหมายคำพูดสุดท้ายนั้นอยู่ดี

น้ำตายังคงไหลรินไม่ขาดสาย โมเน่หันหลังเพื่อหลบซ่อนความอ่อนแอของตนเอง ตัวสั่นเทาด้วยเสียงสะอื้น มือทั้งสองกำแน่นข้างตัว ภาพตรงหน้าทำให้ใจของมิกซ์อยากปกป้องหญิงสาวใจจะขาด แต่แม้เขาจะพยายามเข้าใกล้หญิงสาวมากแค่ไหน นางกลับเดินหนีและปิดกั้นตัวตนมากเท่านั้น

“ฮึก !"

“...” ข้าว่าข้าก็ไม่ได้ทำอะไรกับนางร้ายแรงน่ะ แต่ทำไมข้ารู้สึกผิดหนักแบบนี้เนี่ย !

ทั้งห้วงมิติมีแต่เสียงสะอื้นอย่างน่าสงสารของโมเน่ และความหนาวเย็นยะเยือกราวป่าช้าจากพลังน้ำแข็งเมื่อครู่ มิกซ์มองตรงไปยังแผ่นหลังสั่นเทาของร่างบางตรงหน้า

โมเน่สะดุ้งเฮือกเมื่อมีไออุ่นแผ่ซ่านและกำลังโอบล้อมตัวเองอยู่ นางอยู่ภายในอ้อมกอดอันอบอุ่นของมิกซ์ เขาซบใบหน้าลงบนไหล่ของโมเน่และถอนหายใจเป็นระยะ

...ไม่เป็นไรนะ...

โมเน่หน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย เพราะนางรู้สึกได้ถึงลมอุ่น ๆ ข้างใบหู เขากระซิบข้างหูเธอนั่นเอง โมเน่รีบหันหลังควับทันควัน มิกซ์ไม่ทันตั้งตัว ทำให้ใบหน้าของทั้งสองใกล้ชิดจนรู้สึกได้ถึงลมหายใจของอีกฝ่าย โมเน่หน้าแดงก่ำอีกครั้ง แต่ครั้งนี้แดงมากกว่าเดิมจนคล้ายกับลูกมะเขือเทศ มิกซ์เห็นหญิงสาวเขินอายตรงหน้าอดไม่ได้ที่จะแกล้ง เขาเลื่อนมือลงประสานตรงเอวของโมเน่อย่างอ่อนโยน รอยยิ้มกว้างผุดขึ้น แววตาอ่อนโยนมองตรงไปยังนัยน์ตาของโมเน่ไม่วาง ริมฝีปากค่อย ๆ เลื่อนไปยังหญิงสาวตรงหน้าอย่างช้า ๆ จนนางไม่อาจทนมองดูสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ ในเมื่อนางหนีไปไหนไม่ได้อยู่แล้ว นางจึงได้แต่ปลงกับสถานการณ์นี้และหลับตาลงอย่างช้า ๆ

โมเน่รู้สึกได้ถึงไออุ่นตรงเปลือกตาข้างหนึ่ง มิกซ์กำลังจุมพิศเพื่อปลอบประโลมโมเน่ด้วยวิธีของเขา น่าแปลกที่ใจของโมเน่กลับสงบและรู้สึกปลอดภัยอย่างบอกไม่ถูก น้ำตาไหลรินลงอาบแก้มอีกครั้ง มิกซ์ปาดน้ำตาด้วยการใช้ลิ้นของเขาตวัดน้ำตาเหล่านั้นแล้วกลืนลงลำคอ จากนั้นจึงบรรจงจุมพิศที่หน้าผากโมเน่อย่างแผ่วเบา

“ท่านพี่ !"

เสียงอ่อนหวานปริศนาดังมาจากข้างหลังโมเน่พร้อมแสงสีขาวโอบล้อมร่างทั้งสองเอาไว้ เงาปริศนาตรงกลางแสงเข้าใกล้ทั้งสองมากยิ่งขึ้น เผยให้เห็นหญิงสาวใบหน้าอ่อนวัย ดวงตากลมโตดั่งลูกแก้ว นัยน์ตาสีเทาเหมือนมิกซ์อย่างกับแกะ ผมลอนใหญ่สลายเทียมเท้า สีเขียวชะอุ่มเหมือนใบหญ้า สวมเดรสสั้นสีเขียวตองเข้ารับกับสีผมได้เป็นอย่างดี แต่ทุกย่างก้าวของนางกลับแผ่รัศมีอันน่าสะพรึงกลัวให้กับมิกซ์เป็นอย่างมาก มิกซ์จำต้องปล่อยโมเน่ตรงหน้าและก้าวถอยหลังไปประมาณสามก้าวก่อนจะเอ่ยปาก

“อูน่า ! งั้นแสดงว่าที่นี่ก็ !”

“ใช่ ! ที่นี่เป็นโลกของข้า ! อีกอย่าง ท่านทำอะไรเพื่อนข้าเนี่ย ! นางกลัวตัวสั่นไปหมดแล้วนะ !”

“อูน่า ! ! !” โมเน่วิ่งโผเข้ากอดอูน่าอย่างเต็มรักพร้อมร้องไห้ไม่หยุด

“โอ๋ ๆ ขวัญเอยขวัญมา...”

อูน่าลูบหัวโมเน่ไปมาเหมือนลูบหัวเด็กทารกให้หยุดร้องไห้ มิกซ์ได้แต่มองภาพตรงหน้าแล้วส่ายหัวไปมา เพราะเขาไม่รู้ว่าเขาทำอะไรผิด ทำไมโมเน่ถึงร้องไห้เป็นเด็กขี้แยได้มากขนาดนี้

“วิธีเรียกของเจ้ายังแปลกไม่เปลี่ยน ถึงแม้เจ้าจะเป็นน้องสาวข้า แต่ทำแบบนี้... ถ้าข้าหัวใจวายตายไปทำไงล่ะ”

“คนอย่างท่านพี่ไม่ตายด้วยเรื่องแบบนี้หรอกค่ะ ! แต่ข้าไม่เข้าใจว่าทำไมท่านถึงพาโมเน่มาที่นี่ด้วย” อูน่าค้อนใส่พี่ชายพร้อมยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ จนมิกซ์ถึงกับขนหางตั้งชัน

“ข้าจับมือนางไว้ พวกเราเลยมาอยู่ที่นี่กัน" มิกซ์อธิบายพลางหันหน้าไปอีกข้างเพื่อหลบซ่อนความเขินอายของตนเอง “ว่าแต่ เจ้าเรียกข้ามามีอะไรงั้นหรอ ?”

“ข้ารู้วิธีช่วยเอมี่แล้วค่ะ !"

สิ้นเสียงสุดท้าย มิกซ์เบิกตากว้าง รอยยิ้มค่อย ๆ ปรากฎบนใบหน้า แววตาเต็มไปด้วยความปลื้มปิติ แต่ก่อนที่จะอธิบายวิธีการทั้งหมด อูน่ากวักมือเรียกพี่ชายตนเองเป็นสัญญาณให้เดินตรงไปยังแสงสีขาวนั่นอย่างเร่งด่วน เพราะถ้าทั้งสองยังคงยืนอยู่ในมิติแห่งนี้ จะทำให้ทั้งสองพลัดหลงไปยังอักมิตินึงได้อย่างง่ายดายนั่นเอง อูน่าโอบโมเน่ผู้อ่อนแรงจากการกระทำของมิกซ์ไว้แน่นและเดินคู่เข้าไปยังแสงพร้อมกัน

“ข้าบอกเจ้าแล้ว... คำทำนายข้าไม่ผิดหรอก" อูน่ากระซิบเข้าข้างหูของโมเน่

“ไม่จริง ! ข้าจะเปลี่ยนชะตาข้าให้ดู !”