รูปภาพ:http://www.somemood.co.kr/web/**2019/06/0610/%EC%9B%B0%EB%A1%9C%EC%9A%B0%EB%AF%B8%EB%8B%88%EB%A9%80%EC%9B%90%ED%94%BC%EC%8A%A4/1-6.jpg

▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ดูแลไม่ดี รังแคก็ถามหา ไม่ใส่ใจให้ดี รังแคก็มาทัก แง!! ไม่เอารังแค ไม่เอารังแคได้มั้ยมันเสียความมั่นใจใช่มั้ยเวลาที่เราสังเกตเห็นรังแคที่หัวบ้าง บ่าบ้าง ยิ่งถ้าใส่เสื้อสีเข้มๆ นะ อือหือ!! ชัดสุดแบบนี้ปล่อยไว้ไม่ได้นะ เป็นรังแคมันไม่โอ ถ้าคนข้างเห็นเข้า มีแต่แย่กับแย่▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣

รูปภาพ:http://skindiseases.ru/wp-content/uploads/%D0%BF%D1%80%D0%B8%D1%87%D0%B8%D0%BD%D1%8B%20%D0%BF%D0%BE%D1%8F%D0%B2%D0%BB%D0%B5%D0%BD%D0%B8%D1%8F%20%D0%BF%D0%B5%D1%80%D1%85%D0%BE%D1%82%D0%B8.jpg

รังแคเกิดจากอะไร ??

หลายคนก็น่าจะรู้อยู่แล้วแหละว่ารังแคเกิดขึ้นมาได้ยังไง แต่เราก็อยากจะย้ำให้รู้อีกสักรอบ รู้มั้ยว่าสาเหตุของการเกิดรังแคมีเยอะมาก!แต่วันนี้เราจะขอหยิบข้อหลักๆ ที่คาดว่าทุกๆ คนน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้มาฝาก1.การมีผิวและหนังศีรษะที่แห้งก็จะก่อให้เกิดการผลัดผิวที่เร็วขึ้น จนกลายเป็นตกสะเก็ดหลุดลอกออกมาเป็นแผ่นๆ นั่นเอง2. ไม่ค่อยสระผมเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดรังแค เพราะเมื่อไม่สระผมจะทำให้เกิดการสะสมของน้ำมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้วบนหนังศีรษะเพิ่มขึ้น จนนำมาซึ่งการสะสมของรังแคที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย3. การใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมที่มีส่วนผสมของสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองกับหนังศีรษะ จึงส่งผลให้เกิดรังแคตามมานอกเหนือจากที่ว่ามานี้ ก็จะมีในเรื่องของเชื้อรา ขาดสารอาหารบางประเภท ความเครียด สภาพอากาศ และอื่นๆสามารถไปหาอ่านเพิ่มเติมกันได้เลย ถ้ารู้สาเหตุแล้วเสต็ปต่อไปก็มาดูวิธีการดูแลหนังศีรษะ เพื่อแก้ปัญหารังแคกัน!

1. ใช้แชมพูยาขจัดรังแค

รูปภาพ:https://cms.kapook.com/uploads/tag/22/ID_21338_599d6175cd4d2.jpg

อย่างที่เพื่อนๆ รู้กันดีบางครั้งรังแคก็สามารถเกิดจากแชมพูที่เราใช้ได้เหมือนกันไม่ใช่ว่าแชมพูไม่ดี แต่อาจจะเกิดมาจากอาการแพ้สารบางชนิดที่อยู่ในแชมพูนั้นก็ได้ ฉะนั้นสำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่กำลังประสบปัญหารังแคบุก แนะนำว่าให้หยุดใช้แชมพูที่คุณกำลังใช้อยู่ตอนนี้แล้วหันมาใช้แชมพูยาขจัดรังแคโดยเฉพาะเท่านั้นตอนนี้พอเป็นรังแค อย่าเพิ่งสนใจอะไร โปรดหันมาแคร์หนังศีรษะก่อนค่ะโดยควรเลือกใช้แชมพูขจัดรังแคสูตรอ่อนโยนหรือแชมพูที่มีส่วนผสมของยาเป็นยาที่มาในรูปแบบของแชมพูที่จะช่วยในเรื่องของการฆ่าเชื้อราและแบคทีเรียบนหนังศีรษะของเรานั่นเองแต่ในส่วนของผลลัพธ์ที่ได้ก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้แต่ละคนนะ บางคนใช้ตัวนี้แล้วดี บางคนใช้ตัวนั้นแล้วดีกว่างี้ ไม่เหมือนกันอย่างพี่เราอะลองมาหลายตัวก็ไม่เวิร์ค กว่าจะเจอตัวที่ตอบโจทย์จริงๆ ก็ลองมาเยอะเหมือนกัน ฉะนั้นลองไปหาตัวที่เหมาะกับหนังศีรษะของตัวเองดูจริงๆ มีให้เลือกเยอะมาก ทั้งแบบยา แบบสมุนไพร ลองไปหามาใช้กันดูนะ

2. หลังสระผมควรเช็ดผมให้แห้งทุกครั้ง

รูปภาพ:https://www.kizuna-towny.com/cms/wp-content/uploads/2018/10/74_top_02.jpg

สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่ผมยังไม่ทันแห้งก็นอนแล้ว ระวังให้ดีๆ เชื้อราจะถามหา! วิธีดูแลตัวเองวิธีที่สองหลังสระผมควรเช็ดผมให้แห้งทุกครั้งอาจจะใช้ผ้าขนหนูค่อยๆ ซับเบาๆ ที่ผมให้แห้ง หรือปล่อยให้แห้งเองตามธรรมชาติก็ได้แต่ถ้ารู้สึกว่าฉันต้องการให้ผมแห้งเร็วๆ จะได้รีบนอนสามารถใช้ไดร์เป่าผมได้ แต่! ให้ปรับไดร์เป่าผมแบบลมเย็นหรือให้ความร้อนออกมาอ่อนลงหน่อยเพราะความร้อนของไดร์เป่าผมจะทำให้หนังศีรษะแห้ง ซึ่งก็เป็นสาเหตุของการเกิดรังแคเช่นกัน ที่ต้องเช็ดผมให้แห้งก็เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงความอับชื้นที่อาจจะเป็นต้นเหตุการเกิดของเชื้อรานั่นเองทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงการขยี้ผมแรงๆ ด้วยนะจ๊ะ

3. แคร์ผมก่อน อย่าเพิ่งใช้สารเคมีกับหนังศีรษะ!

รูปภาพ:https://volosu.com/wp-content/uploads/2017/07/okrashivenie.jpg

ชอบทำสีผมกันนักใช่มั้ย!รู้มั้ยว่ามันเสี่ยงต่อการทำร้ายหนังศีรษะขนาดไหนความทนทานของหนังศีรษะของแต่ละคนไม่เหมือนกันนะ บางคนหนังศีรษะทนเก่ง โดนสารเคมีแค่ไหนก็ยังไหว แต่บางคนครั้งเดียวก็เยินจนไม่รู้จะกู้ยังไงการทำสี การยืด การดัดผม หรือการใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ล้วนมีส่วนผสมที่เป็นอันตรายต่อหนังศีรษะและเส้นผมฉะนั้นถ้าอยากดูแลหนังศีรษะให้ดีๆ ไม่อยากให้มีรังแคตามมาในภายหลัง ควรลดการใช้สารเคมีเหล่านี้ซะ เพราะถ้าเราใช้เค้ามากๆ อาจจะทำให้เกิดสารเคมีสะสมได้ซึ่งอาจก่อให้เกิดความระคายเคืองแก่หนังศีรษะและยังเป็นปัจจัยเสริมทำให้เกิดรังแคเพิ่มขึ้นอีกด้วยไม่ดีเลยจริงๆ ไม่ดีเลย!!

4. เกาทำไม ไม่เกา ไม่แกะแบบนั้นซิ

รูปภาพ:https://kurio-img.kurioapps.com/18/08/09/96af0d90672f76a7177384bf5237b961.jpeg

เวลาที่เราเป็นรังแค มันจะรู้สึกคันยุบยิบๆ ใช่มั้ย มันอดไม่ให้เกาไม่ได้หรอก คันแล้วก็ต้องเกาซิ Stop!! หยุดเกาเดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะเกาเพราะคันหรือเกาหัวเวลาสระผมเกาแรงๆ แบบนั้นไม่ได้นะการเกาแบบจัดหนักจัดเต็มแบบนั้น จะทำให้หนังศีรษะที่บอบบางยิ่งบอบช้ำเข้าไปใหญ่และอาจส่งผลต่อการเกิดรังแคมากขึ้นกว่าเดิมด้วยดังนั้นให้ค่อยๆ สระผมเบาๆ เพื่อคืนความอ่อนนุ่ม ชุ่มชื้นและฟื้นบำรุงเส้นผมอย่างอ่อนโยน แล้วเวลาคันหัว ก็ไม่ต้องไปเกาจนเลือดซิบขนาดนั้น แค่ถูเบาๆ ก็พอแคร์หัวตัวเองบ้างเพื่อนแล้วใครที่ชอบแกะหัว หยุดเลย มันเสี่ยงที่จะทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นอักเสบและเสี่ยงต่อการเป็นแผลติดเชื้อด้วยเพราะฉะนั้นอะไรที่มันจะทำให้หนังศีรษะของเราระคายเคือง หยุดไม่เกา ไม่แกะ เท่านี้ก็ช่วยขจัดรังแคให้หมดไปได้แล้ว

5. หมั่นรักษาความสะอาดอุปกรณ์ที่ใช้กับผม

รูปภาพ:https://cdn.bioguia.com/embed/d0a8441c2377efa308dce3daebf2fb1526477256/26.jpg

สระผมมาหอมๆ สะอาดๆ เจอหวีสกปรกๆ เข้าไป ที่สระมาสูญเปล่าเลยจ้าหวีหรืออุปกรณ์ที่ใช้กับผม ก็เป็นอีกสามารถของจุดกำเนิดเชื้อราบนหนังศีรษะฉะนั้นเราควรหมั่นทำความสะอาดเค้าสักหน่อย พวกหมอนที่เรานอนหนุนทุกวันๆ หรือแม้แต่หมวกกันน็อกก็เหมือนกันควรทำความสะอาดอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้งเพื่อช่วยลดการสะสมของเชื้อราวิธีก็ไม่ยากนะ อย่างหวีก็แค่ล้างแล้วแงะเส้นผมที่มันติดหวีออก เสร็จแล้วเอาไปตากแดด พวกปลอกหมอน หมอนหนุ่นเอาไปซัก มันมีวิธีทำความสะอาดเยอะแยะที่เพื่อนๆ สามารถทำเองได้ง่ายๆ นี่เป็นการดูแลเบื้องต้นความสะอาดเป็นสิ่งที่สำคัญมากถ้าไม่อยากเป็นเชื้อราหรือรังแค ความสะอาดต้องยืนหนึ่งนะจ๊ะ

6. กำจัดรังแคด้วยสูตรจากธรรมชาติ

รูปภาพ:https://farm4.staticflickr.com/3777/10075293883_7875dbf48a_b.jpg

วิธีดูแลหนังศีรษะอีกหนึ่งวิธีงบน้อยแค่ไหน ก็สามารถใช้วิธีนี้ได้นอกจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างที่เราบอกเพื่อนๆ ไปก่อนหน้านี้แล้ววิธีนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีกำจัดรังแคในแบบธรรมชาติๆ ที่ได้ผลดีอย่างไม่น่าเชื่อเราหยิบวัตถุดิบจากธรรมชาติที่เป็นตัวช่วยเริ่ดๆ ในการกำจัดรังแคมาฝาก เอาแบบเบาะๆ แค่น้ำจิ้มๆ ทั้งหมด3 อย่างเป็นของที่เพื่อนๆสามารถหาซื้อได้ง่ายๆไปดูกันดีกว่าค่ะว่ามีอะไรบ้าง

รูปภาพ:https://www.vladtime.ru/uploads/posts/2018-06/1529826077_oliveoil_inline.jpg

น้ำมันมะกอก

:


เพียง

แค่

ชโลมน้ำมันมะกอกให้ทั่วศีรษะก่อนนอนและหมักทิ้งไว้ข้ามคืน

แล้วใช้แชมพูสระผมในตอนเช้าตามปกติ ก็จะ

ช่วยบำรุงหนังศีรษะให้ชุ่มชื้นและขจัดรังแคไปพร้อมๆ กัน

แต่ถ้ารู้สึกว่า

ฉันไม่ชอบหมักผมแล้วนอน เดี๋ยวหมอนเลอะ!


เพื่อนๆ สามารถใช้แชมพูที่มีส่วนผสมของน้ำมันมะกอกแทนได้ เอาที่สะดวกได้เลยค่ะ

รูปภาพ:http://www.healthandtrend.com/wp-content/uploads/2017/08/coconut-oil-lime-juice-stops-gray-hair.jpg

น้ำมะนาวและน้ำมันมะพร้าว

:


ให้นำส่วนผสมทั้ง 2 อย่างนี้มาผสมลงในน้ำอุ่น คนให้เข้ากัน แล้วนำไปชโลมลงบนศีรษะจนทั่ว นวดคลึงไปพร้อมๆ กัน หมักทิ้งไว้ประมาณ 20 - 30 นาที แล้วสระผมออกด้วยแชมพูตามปกติ

น้ำมะนาวจะช่วยกำจัดเชื้อราที่ทำให้เกิดรังแค

ส่วน

น้ำมันมะพร้าวจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่หนังศีรษะได้

ซึ่งจะส่งผลทำให้ปัญหารังแคลดลงค่ะ

รูปภาพ:http://www.wemall.com/blog/wp-content/uploads/2017/04/%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B9%89.jpg

ว่านหางจระเข้

:

วุ้นในว่านหางจระเข้

สามารถบรรเทาอาการอักเสบของต่อมไขมันบริเวณหนังศีรษะ อันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดรังแคขึ้นได้

และยัง

ช่วยบำรุงสุขภาพเส้นผมให้แข็งแรง

อีกด้วย เพียงแค่นำวุ้นว่านหางจระเข้แบบสดๆ หรือใช้แบบเจลสำเร็จรูปมาชโลมให้ทั่วศีรษะเป็นประจำ ก็จะช่วยขจัดปัญหารังแคได้แล้ว

7. ดูแลเองไม่หาย แนะนำว่าให้ไปพบแพทย์

รูปภาพ:https://s.isanook.com/he/0/ud/1/6061/comb-hair.jpg

สุดท้ายนี้ ถ้าเราดูแลตัวเองอย่างดีแล้ว ใช้ทั้งแชมพูกำจัดรังแคโดยเฉพาะ รักษาความสะอาดอย่างดีทำมันทุกวิธีแล้ว แต่รังแคก็ยังไม่โบกมือลาเราไปไหนอันนี้เริ่มน่าเป็นห่วงควรรีบไปพบแพทย์ด่วนแน่นอนว่าค่าใช้จ่ายอาจจะมหาศาลนิดนึง แต่การรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะปลอดภัยและทำให้เราทราบถึงสาเหตุของปัญหาที่เรากำลังเผชิญอยู่ได้ดียิ่งกว่ามานั่งเดาสุ่มเองแต่ถ้าใครที่รู้สึกว่าตังค์ไม่พอจ้ะลองใช้วิธีที่เราหยิบมาแชร์ให้ดูก่อนหน้านี้ก็ได้ ถ้ามันไม่หายหรือเบาบางลงจริงๆ เก็บตังค์ค่ะ แล้วไปหาหมอปรึกษาเรื่องหนังศีรษะกัน

รูปภาพ:http://www.somemood.co.kr/web/**2019/06/0604/%EC%96%B8%EB%8D%94%EB%82%98%EC%8B%9C%EC%B4%AC%EC%98%81%EB%B6%84/1-1.jpg

▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ ▣ในเมื่อไม่มีความมั่นใจเวลาที่เป็นรังแค งั้นเรามาสร้างความมั่นใจกัน ด้วยการกำจัดรังแคให้หมดไป ด้วยวิธีง่ายๆ เพียงแค่เพื่อนๆ หันมาแคร์หนังศีรษะของตัวเองบ้าง เท่านี้ ! เราก็สามารถเพิ่มความมั่นใจแบบไร้รังแคได้แล้วค่ะ ลองทำตามวิธีที่เราหยิบมาฝากดูนะสำหรับวันนี้ บ๊ายบาย