Hi!!! ค่า สาวซิสที่น่ารักก น่าเลิฟฟฟ ของเราทุกคน

' ปัญหาผิว ' นี่เรื่องอันดับต้นๆ ที่ทำผู้หญิงอย่างเรานอยด์เหมือนกันนะ ถึงไม่ได้เป็นสายบิวตี้ สายแฟชั่นจ๋าๆ ก็คงไม่มีใครอยากผิวแห้ง หยาบกร้าน จับทีนึกว่ากระดาษทรายหรอกใช่ไหมล่ะ?

นึกถึงหน้าหนาวที่ทำผิวแห้ง เป็นขุยจนเลือดออกสิ แค่แตะเบาๆ ยังร้องซี๊ดเพราะแสบมาก!

ยิ่งใครเป็น ' สาวผิวแห้ง ' บางทีซัมเมอร์แดดร้อนๆ ผิวแห้งหน้าตาเฉย ทาโลชั่นบางทีก็เอาไม่อยู่ จะทำยังไงดีเนี่ย ไม่กล้าใส่เปิดไหล่ ขาสั้นแล้วจ้า Y^Y

ต้องบอกก่อนว่า แสงแดดนี่แหละ ทำให้ผิวแห้งง่าย! เพราะรังสียูวีจากแสงแดด จะดูดความชุ่มชื้นจากผิวเราไปจนหมด ยิ่งไลฟ์สไตล์ทำกิจกรรมกลางแจ้งบ่อย กินอาหารแย่ๆ ผิวก็ยิ่งเสียไวขึ้น


ถ้าอยากผิวดีขึ้น ควรแก้ที่ต้นตออย่าง ' อาหารการกิน ' นี่แหละ ถ้ากินถูกชนิด ผิวก็อิ่มน้ำได้โดยไม่ต้องประโคมทาโลชั่นเยอะเลย อะ ไปดูกันว่ามีอะไรบ้าง

1. น้ำเปล่า

รูปภาพ:https://instagram.fbkk7-2.fna.fbcdn.net/vp/8e4250f618599680ea8306ec256b53af/5DD610A9/t51.2885-15/e35/s1080x1080/66210473_334985760746851_349486128661180563_n.jpg?_nc_ht=instagram.fbkk7-2.fna.fbcdn.net

ข้อแรกไม่ต้องนึกถึงสิ่งอื่นไกลเลย ' น้ำเปล่า ' ที่ดื่มอยู่ทุกวันเนี่ยแหละ ดื่มเข้าไปเยอะๆ เลยค่ะซิส ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นอิ่มน้ำได้ดีและไวที่สุดแล้ว

ทั้งฟื้นฟูเซลล์ผิวที่แห้งกร้าน รักษาสภาวะสมดุลในร่างกาย ชะลอริ้วรอยก่อนวัย ทำให้เซลล์ทั้งหมดทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าเธอดื่มน้ำไม่พอ ปัญหาผิวต่างๆ จะตามมาเป็นขบวน แน่นอนว่ารวมผิวแห้งกร้านด้วย!

ดังนั้น เราแนะนำให้สาวๆ ดื่มน้ำอย่างน้อย 3 ลิตร หรือ 8 แก้วต่อวัน ( ถ้าออกกำลังกายเยอะ ก็ควรดื่มเยอะกว่านั้นอีก ) เพื่อรักษาความสมบูรณ์ของเซลล์บนร่างกายนะคะ =w=

2. อะโวคาโด

รูปภาพ:https://instagram.fbkk7-2.fna.fbcdn.net/vp/5064a9cb5fe526f04cbb9b086be0cc7c/5DCDFAF0/t51.2885-15/e35/s1080x1080/62223076_2362045280723159_2578168872543962766_n.jpg?_nc_ht=instagram.fbkk7-2.fna.fbcdn.net

แม้จะราคาแพง และรสจืดๆ มันๆ ไปหน่อย แต่ ' อะโวคาโด ' เขามีคุณสมบัติสุดเริ่ดที่คุ้มค่ากับการจ่ายเงิน! เพราะอะโวคาโดบด 1 ถ้วย มีวิตามิน C E A K ในปริมาณที่สูงมาก ไม่นับโฟเลตและกรดไขมันโอเมก้า 3ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื้อในชั้นใต้ผิว ให้ผิวชุ่มชื้นอิ่มน้ำ ลดความหยาบกร้านของผิว ลดริ้วรอย จับแล้วนุ่มนิ่มฟินๆ เหมือนผิวเด็กเลยค่ะแบบกิน >>กินเปล่าๆ ใช้ช้อนควักจากผลเลยก็ได้ หรือบดเป็นซอสข้นๆ ใส่สลัด สมูทตี้ กัวคาโมเล่ ( ซอสจิ้ม )แบบมาส์ก >>บดอะโวคาโด 1/4 ผล เติมโยเกิร์ตรสธรรมชาติกับน้ำผึ้งลงไป คนให้เข้ากัน แล้วกิน! อ๊ะไม่ใช่ ให้พอกบนผิวที่แห้งกร้าน ทิ้งไว้ 20 นาทีแล้วเช็ดออกด้วยผ้าชุบน้ำอุ่น ก็เตรียมผิวนุ่มได้เลยจ้า

3. กล้วย

รูปภาพ:https://instagram.fbkk7-2.fna.fbcdn.net/vp/75c86199ad5f6cfc3a3325b74c665ac2/5DE3036C/t51.2885-15/e35/58409047_348869712649584_6452573074250437865_n.jpg?_nc_ht=instagram.fbkk7-2.fna.fbcdn.net

กล้วยผลสีเหลืองๆ รสชาติหวานหอมเนื้อนุ่มที่กินอยู่ทุกวันเนี่ย ประโยชน์เขาไม่กล้วยสมชื่อนะจ๊ะ วิตามินเยอะมาก! ทั้ง A B C D คอปเปอร์ ซิงค์ เหล็ก วิตามิน B Complex และกากใยอาหารต่างๆ อีกมากมายช่วยลดริ้วรอย ผิวชุ่มชื้นอิ่มน้ำ กากใยในกล้วยยังช่วยดีท็อกซ์สารพิษ เสริมสร้างเซลล์ผิวใหม่ แค่กินกล้วยเป็นประจำ ผิวก็เนียนนุ่ม โกลว์ได้ง่ายๆ เลยล่ะค่ะ

แบบกิน >>

กินกล้วย 1-2 ผลต่อวัน จะปอกกล้วยกินเปล่าๆ เลยก็ได้ หรือนำไปผสมขนม เครื่องดื่มต่างๆ เช่น สมูทตี้ แพนเค้ก มัฟฟิน เค้ก หรือบิใส่ในซีเรียล กราโนล่าก็ได้เช่นกันค่ะ

แบบมาส์ก >>

บดกล้วย 1/2 ผลให้เละ เติมน้ำผึ้งและโยเกิร์ตรสธรรมชาติอย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ พอกให้ทั่วถึงกันทั้งผิวหน้า ทิ้งไว้ 20 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ผิวนุ่มเนียนใสแน่นอน

4. อะโลเวร่า ( ว่านหางจระเข้ )

รูปภาพ:https://instagram.fbkk7-2.fna.fbcdn.net/vp/5a97c02b188428d44229de076b2f0931/5DE1A86A/t51.2885-15/e35/s1080x1080/64432744_158012791999526_8828778410788443061_n.jpg?_nc_ht=instagram.fbkk7-2.fna.fbcdn.net

เจ้าพืชที่คล้ายหนวดปลาหมึก ตัดออกมาเป็นเจลใสๆ นี่แหละ มีประโยชน์กับสุขภาพ ยิ่งนำไปพอกผิวแห้ง ผิวยิ่งนุ่มชุ่มชื้น โดยอะโลเวร่าจะประกอบไปด้วยไลปิด น้ำ วิตามิน A C E B12 และแร่ธาตุต่างๆ เช่น ซิงค์ ทองแดง โพแตสเซียม แมกนีเซียม แคลเซียม และกรดอะมิโนอีกมากมายช่วยต้านอนุมูลอิสระ เชื้อแบคทีเรีย สังเคราะห์คอลลาเจน ลดการอักเสบ ชะลอริ้วรอยตามวัย เยียวยาแผลสด และป้องกันผิวจากรังสียูวีด้วยนะแบบกิน >>คั้นเป็นน้ำว่านหางจระเข้ สามารถดื่มได้ แต่เลือกที่มียี่ห้อรับรองได้จะดีกว่า หากทำเองอาจเสี่ยงมีพิษได้ค่ะ

แบบทา ( คนนิยมกว่าเยอะ ) >>บดเจลใสให้ละเอียด แล้วพอกบนผิวหนัง 20 นาทีแล้วเช็ดออกด้วยผ้าชุบน้ำอุ่น ผิวจะใสขึ้นจนรู้สึกได้เลยค่ะ

5. น้ำมันมะพร้าว

รูปภาพ:https://instagram.fbkk7-2.fna.fbcdn.net/vp/29dfe00185fb33008aef4b780e4cd8c6/5DEA6A5F/t51.2885-15/e35/54511217_355185248420692_4226095601332004822_n.jpg?_nc_ht=instagram.fbkk7-2.fna.fbcdn.net

' น้ำมันมะพร้าว ' ชื่อนี้ได้ยินกันมาช้านานเป็นพันๆ ปีแล้ว โดดเด่นสุดๆ ในการบำรุงผิวและเส้นผม แถมราคาก็เอื้อมถึง ซื้อใช้ได้ไม่ต้องกลัวเปลือง มีกรดไขมันจำเป็นที่ไม่มีในน้ำมันชนิดอื่น เมื่อกินในปริมาณที่เหมาะสม จึงช่วยลดน้ำหนักและโรคเบาหวานประเภท 2 ได้แถมเป็นแหล่งของวิตามิน E และ K, กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและเชิงซ้อน กรดไขมันอิ่มตัว และโปรตีน ต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านอนุมูลอิสระและการอักเสบต่างๆ ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น เปล่งประกาย หรือที่เรียกว่า ' ผิวเด้ง ' นั่นเองค่ะ

แบบกิน >>

กิน 2-3 ช้อนโต๊ะแบบเพียวๆ หรือถ้ากินไม่ไหวก็ผสมน้ำสลัดแทนน้ำมันมะกอก, ผสมในกาแฟก็ยิ่งได้คุณค่ากับร่างกายมากขึ้น

แบบทา >>

ทาน้ำมันมะพร้าวบนผิวที่แห้ง ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง หรือจะทาก่อนนอนข้ามคืนไปเลยก็ได้ ตื่นเช้ามาก็ล้างออกด้วยน้ำอุ่น และเจลอาบน้ำสูตรอ่อนโยน เท่านี้ผิวก็นุ่มใสกิ๊งแล้วว

6. ปลาชนิดต่างๆ

รูปภาพ:https://instagram.fbkk7-2.fna.fbcdn.net/vp/73473e0e890cdbae255adce04785d255/5DCF703E/t51.2885-15/e35/s1080x1080/66435522_135338604348757_1218127169090350973_n.jpg?_nc_ht=instagram.fbkk7-2.fna.fbcdn.net

ปลาน้ำเย็นทั้งหลาย อย่างปลาค็อด ปลาแซลมอน ปลาทูน่าและปลาเฮอร์ริ่ง มีประโยชน์ต่อสุขภาพสุดๆ เป็นแหล่งของกรดไขมันโอเมก้า 3 และ 6 เท่าๆ กัน แค่กินก็ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย ดีท็อกซ์สารพิษ และกักเก็บความชุ่มชื้นใต้ผิวได้ชะงัด ทำให้ผิวนุ่มเนียน โกลว์แบบไม่ต้องปัดไฮไลท์ซะอีกยังไม่นับว่ามีโปรตีน วิตามินและแร่ธาตุอีกร้อยแปด ทำให้เซลล์เต่งตึง ร่างกายทำงานดีขึ้น ที่สำคัญ ช่วยชะลอความแก่ ถ้ากินปลาตั้งแต่เด็กๆ เมื่ออายุมาก เธอจะหน้าเด็กกว่าคนวัยเดียวกันค่ะ //วางเงินค่าโบท็อกซ์แล้วไปกินปลาซะ!!แบบกิน >>เลือกปลาสดๆ จากตลาดแล้วนำไปปรุง ไม่ต้องลอกหนังปลาออก นั่นแหละกรดไขมันชั้นเลิศ! จะนำไปย่าง ต้ม อบ หรือทำแกงก็ได้หมด แต่ถ้าใครเหม็นกลิ่นปลา ทนไม่ไหวจริงๆ จะกินเป็นอาหารเสริมน้ำมันปลา ( fish oil ) แบบแคปซูลก็ได้ค่ะ ^^

7. แตงกวา

รูปภาพ:https://instagram.fbkk7-2.fna.fbcdn.net/vp/4855a311893becd8f37cddeec5520111/5DCF4FC6/t51.2885-15/e35/66318714_2453134428240168_2114856929872201113_n.jpg?_nc_ht=instagram.fbkk7-2.fna.fbcdn.net

ใครชอบกินแตงกวาสดๆ เตรียมบอกลาผิวแห้งๆ เกรอะๆ ได้เลย! เพราะในแตงกวา 1 ผล มีทั้งน้ำ, วิตามิน A C และ K, โฟเลต, แคลเซียม, แมกนีเซียม, โพแตสเซียม, ซิงค์, เซเลเนียม, ฟอสฟอรัส, กรดไขมันโอเมก้า 3 และกากใยอาหารแตงกวามีปริมาณน้ำสูงมาก จึงทำให้ผิวเต่งตึง อิ่มน้ำได้สุดๆ และยังเป็นแหล่งของซิลิกา ที่เป็นส่วนประกอบของกล้ามเนื้อและกระดูก ทำให้ผิวยิ่งเฮลตี้กว่าเดิมค่ะแบบกิน >>สไลซ์แตงกวาเป็นแว่นๆ โรยเกลือ แล้วกินเป็นของว่างได้เลย! หรือจะผสมในสลัด แซนด์วิช ซุป น้ำผัก หรือแค่แช่ในน้ำเปล่าเป็น infused water ก็ยังได้

แบบมาส์ก >>ลอกเปลือกแตงกวา ขูดเป็นฝอยๆ ใส่น้ำผึ้งและเจลอะโลเวร่า อย่างละ 1 ช้อนชา คนให้เข้ากัน ทาลงบนผิวหน้า ทิ้งไว้ 20 นาทีแล้วเช็ดออกด้วยผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่น

8. ชาคาโมมายล์

รูปภาพ:https://instagram.fbkk7-2.fna.fbcdn.net/vp/aa3555103e5b3988515008cf75675954/5DC7BEE1/t51.2885-15/e35/26285476_186061301981821_1203846845936173056_n.jpg?_nc_ht=instagram.fbkk7-2.fna.fbcdn.net

บางคนน่าจะรู้จักดอก ' คาโมมายล์ ' เป็นอย่างดีอยู่แล้ว ด้วยหน้าตาน่ารักกุ๊กกิ๊ก เหมาะกับการปลูกในสวนดอกไม้ หรือตกแต่งในงานปาร์ตี้ แต่สาวๆ รู้ไหมว่า มันยังมีประโยชน์กับสุขภาพด้วยนะ!เพราะมีทั้งวิตามิน A, โฟเลต และแร่ธาตุอื่นๆ อีกมากมาย และยังมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ กู้ผิวแห้งๆ คันยิบๆ ให้ชุ่มชื้น แค่ดื่มชาคาโมมายล์ ก็ช่วยดีท็อกซ์สารพิษได้ง่ายๆ ทำให้เซลล์ในร่างกายทำงานได้ดีแบบกิน >>ดื่มชาคาโมมายล์ 1 แก้วแทนกาแฟได้เลย จะดื่มแบบร้อน หรือแบบเย็นๆ ใส่น้ำแข็งก็ได้ ถ้าไม่ชอบรสขมๆ ก็เติมมะนาว ขิง หรือน้ำผึ้งเพิ่มรสชาติได้แบบอื่นๆ >>นำถุงชาคาโมมายล์แช่ในน้ำอุ่น วางบนผิวหนัง ก็ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นได้ หรือถ้าบ้านใครมีอ่างอาบน้ำ ก็โยนถุงชาลงไปเลย แล้วผสมน้ำผึ้ง กับน้ำมันมะพร้าว ลงไปแช่ในอ่างได้ฟินๆ อาบเสร็จผิวนุ่มฟินเวอร์ชัวร์ๆ

9. น้ำมันมะกอก

รูปภาพ:https://instagram.fbkk7-2.fna.fbcdn.net/vp/001fb935cee667164ecb709d0b96d502/5DE55EA8/t51.2885-15/e35/66450151_189279022065286_5189815705619758572_n.jpg?_nc_ht=instagram.fbkk7-2.fna.fbcdn.net

น้ำมันมะกอก ถูกใช้มาตั้งแต่สมัยโบราณโดยคนอียิปต์ โดยใส่เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง เพราะเป็นแหล่งของกรดไขมัน ช่วยรักษาความเต่งตึงของผิวชั้นนอก เยียวยาบาดแผล ต้านการอักเสบและต่อต้านอนุมูลอิสระ ไม่ให้ผิวเสีย หยาบกร้าน รอยแผลดูจางลง ผิวชุ่มชื้นขึ้นข้อดีคือน้ำมันชนิดนี้มีเนื้อเบา ไม่หนืดข้นเท่าน้ำมันมะพร้าว กลิ่นก็ไม่ฉุน ทำให้กิน / ทาง่าย  ใครไม่ชอบกลิ่นน้ำมัน เริ่มจากมะกอกก็ดีค่ะ ><แบบกิน >>ผสมในน้ำสลัด ( ควรเป็นแบบบริสุทธิ์พิเศษ หรือ extra virgin เพื่อประโยชน์สูงสุด แต่จะแพงหน่อย ) หรือไปผัด ทอดอาหารชนิดอื่นๆ ก็ได้นะคะ

แบบทา >>ผสมน้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ, นม 2 ช้อนโต๊ะ และน้ำผึ้งอีก 1 ช้อนโต๊ะ ให้เข้ากัน แล้วทาลงบนผิวหนังที่แห้งกร้าน ทิ้งไว้ 30 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ผิวโกลว์สวยดั่งใจแน่นอน

10. ถั่วชนิดต่างๆ ( อัลมอนด์, แมคคาเดเมีย, มะม่วงหิมพานต์ )

รูปภาพ:https://instagram.fbkk7-2.fna.fbcdn.net/vp/0d25e61ec99dc8c7728a5df05373da46/5DE0424F/t51.2885-15/e35/s1080x1080/65871734_490703668407710_1841627557630979959_n.jpg?_nc_ht=instagram.fbkk7-2.fna.fbcdn.net

ถั่วชนิดใดก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นอัลมอนด์ วอลนัท แมคคาเดเมีย พิสตาชิโอ มะม่วงหิมพานต์ เฮเซลนัท etc. ทุกชนิดเป็นแหล่งของกรดไขมันจำเป็นอย่างโอเมก้า 3 และ 6, โปรตีน, วิตามิน E และ B, แมกนีเซียม, เซเลเนียม, ทองแดง, เหล็ก, ซิงค์, แคลเซียม, โพแตสเซียมและกากใยอาหารช่วยรักษาความสมบูรณ์ของเซลล์ผิว รักษาระบบหมุนเวียนในเลือด ทำให้เซลล์เต่งตึง อิ่มน้ำอยู่เสมอ สังเกตได้ว่าคนกินถั่วบ่อยๆ จะผิวเนียนๆ โกลว์ๆ อยากผิวสวยต้องลอง แต่อย่ากินเยอะเกินวันละ 1 กำมือล่ะ เดี๋ยวจะแถมความอ้วนไปด้วยจ้าแบบกิน >>แช่ถั่วในน้ำทิ้งไว้ข้ามคืน แล้วเอามากินเป็นมื้อเช้า จะใส่ในชามสลัด สมูทตี้ ของทอดอื่นๆ หรือปั่นรวมกับนมก็ได้แบบทา >>แช่ถั่ว 4-6 เมล็ดทิ้งไว้ข้ามคืน ลอกเปลือกถั่วออก ปั่นจนได้เป็นครีมข้นๆ เติมนมลงไป 2 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากัน ทาให้ทั่วผิวหน้า มาส์กทิ้งไว้ 20 นาที แล้วเช็ดออกด้วยผ้าขนหนูหรือทิชชู่ชุบน้ำอุ่น ผิวจะเอิบอิ่มขึ้นสุดๆ เลยล่ะค่ะ

12. มันหวาน / มันเทศ

รูปภาพ:https://instagram.fbkk7-2.fna.fbcdn.net/vp/d7f18119e6504815daa350c0ef64489d/5DC88EF6/t51.2885-15/e35/p1080x1080/66229984_1103477586709254_5411514546169453665_n.jpg?_nc_ht=instagram.fbkk7-2.fna.fbcdn.net

ซื้อมันเทศปิ้งรถเข็น เนื้อเหลืองๆ นิ่มๆ มาเลยค่ะ! เพราะมันอุดมไปด้วยวิตามิน A, B6, B3, B2, และ B1, ไบโอติน, ทองแดง, โพแตสเซียม, ฟอสฟอรัส, กากใยอาหาร โดยเฉพาะสารต้านอนุมูลอิสระ ' Carotenoids ' ที่ช่วยกระตุ้นเอนไซม์ต้านอนุมูลอิสระให้ทำงานได้ดี และยังมีสาร ' Anthocyanin ' ที่ช่วยต้านการอักเสบตามธรรมชาติแบบกิน :มันเทศลูกเดียว ก็ช่วยทั้งผิวชุ่มชื้น ดีท็อกซ์สารพิษ เยียวยาผิวแห้งแตกให้ชุ่มชื้นได้ง่ายๆ แถมอร่อย จะปิ้ง ย่าง บด ต้มก็ได้หมด ราคาถูก วัยใสซื้อได้ไม่ต้องคิดเยอะด่วยค่ะแบบทา :ขูดมันเทศเป็นฝอยๆ ใส่ชาม บีบเอาน้ำออก ใส่น้ำผึ้งลงไป 1 ช้อนชา แปะลงบนผิวที่แห้ง ทิ้งไว้ 30 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทำเป็นประจำ รับรองผิวนุ่มชุ่มชื้นได้อีก

13. ไข่

รูปภาพ:https://instagram.fbkk7-2.fna.fbcdn.net/vp/209c6c8de288b2df5589731e8da50d3c/5DD37C26/t51.2885-15/e35/56857828_2408110692553948_3287702858596246257_n.jpg?_nc_ht=instagram.fbkk7-2.fna.fbcdn.net

' ไข่ ' นี่แหละ กินแล้วผิวดี ไม่แห้งแตก! เพราะเป็นแหล่งของวิตามินหลายชนิดมากเวอร์ ทั้ง A,D และ E มีโฟเลต โปรตีน กรดไขมันโอเมก้า 3 และ 6, แคลเซียม โปแตสเซียม ฟอสฟอรัส เซเลเนียมและโซเดียม โดยเฉพาะส่วน ' ไข่แดง ' เยิ้มๆ นี่แหละ ช่วยสมานเซลล์ผิวแห้งๆ ให้เรียบเนียน ดังนั้นให้กินทั้งฟอง อย่าแคะทิ้งนะคะ ^^แบบกิน :กินไข่ต้ม ไข่คน หรือไข่น้ำ 1-2 ฟองในมื้อเช้าทุกวัน หรือจะต้มไข่แล้วเอาไปผสมกับสลัด หรือแซนด์วิชในมื้อกลางวันก็ดีแบบทา :ตอกไข่ลงชาม ตักแค่ส่วนไข่แดงแล้วทาลงบนผิวที่แห้งแตก รอให้แห้ง 10 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทำเป็นประจำ ผิวสวยชัวร์ค่ะซิส

-----------------------จะผิวแห้งกรอบ เป็นเจ้าแม่ทะเลทรายซาฮาร่ายังไง ถ้าดูแลตัวเองทั้งเรื่องอาหาร หลบแดด ดื่มน้ำ หมั่นทาครีมบำรุงผิว ก็ผิวนุ่มเด้งได้ อาหารที่เรามาแนะนำ ไม่จำเป็นต้องกินทั้งหมดก็ได้นะคะ ขอแค่ให้กินสารอาหารครบที่เซลล์ผิวต้องการก็พอ เพราะผิวหนังก็เป็นของรักของหวงของสาวๆ อย่างเราเนอะ ต้องดูแลให้ดีที่สุดค่ะ ^___^ ส่วนวันนี้เราขอออกไปซูเปอร์ ช้อปอาหารผิวสวยมาตุนบ้าละ เจอกันใหม่คราวหน้าน้าา บายค่าซิสส-----------------------