ชวนสาวๆ ไปฉายเดี่ยว เที่ยวคนเดียวแบบไม่ง้อใคร กับสถานที่สุดเริ่ดใกล้กรุงฯ
สาวๆ
SistaCafe
เคยเป็นกันไหมคะ เวลาเบื่อๆ เหงาๆ อยากออกไปเที่ยว แต่ก็แฟนไม่มี เพื่อนไม่ว่าง สารพัดเหตุผลที่ทำให้เหลือเรานอนแหง็กอยู่บ้านคนเดียว เลยอยากจะชวนเพื่อนๆ มาแสดงความกล้าที่จะออกไปเที่ยวคนเดียว อย่ากลัวว่าจะแปลกหรือเปล่า คนเดียวก็จอยกับทุกสรรพสิ่งได้ค่ะ เซลฟ์ๆ เข้าไว้ !
วันนี้
Hidekoririn
เลยอยากจะแนะนำ
เกาะเกร็ด
ขอบอกว่าย่านนี้ใกล้กรุงเทพมากๆ แถมยังอนุรักษ์อาชีพและภูมิปัญญาแบบไทยๆ ที่เที่ยวขึ้นชื่อก็ต้อง
เกาะเกร็ด
ล่ะค่ะ เกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยา รู้จักกันดีว่าเป็นชุมชนชาวมอญที่มีชื่อเสียง โด่งดังเรื่องเครื่องปั้นดินเผามากๆ ด้วย

การเดินทาง
รถอะไรก็ได้ที่ผ่านปากเกร็ด แล้วมา
ลงที่ เมเจอร์ฮอลลีวู้ด
ต่อวิน
มอเตอร์ไซค์ ประมาณ 15-20 บาท ไป
ลงวัดสนามเหนือ
หรือถ้าใครอยากลองฮิปๆ ชิคๆ แบบสตรียุคเก่าด้วยการนั่ง
สามล้อถีบ
อาชีพที่หาได้ยากยิ่งในปัจจุบัน ประเทศปากเกร็ดมีให้คุณค่ะซิส!!
ในส่วนนี้ถ้าสนใจ ลงรถเมล์ป้ายธนาคารออมสินแล้วเดินไปข้างโลตัส ค่ารถสามล้อถีบประมาณ 15-20 บาทเช่นกันค่ะ ( ตรงนี้มีวินเหมือนกัน ) แต่ปกติก็ให้เขาเกินๆ ไป เพราะลุงๆนิสัยดี แถมยังถีก รับน้ำหนักตัวหนักๆ ของชะนีน้อยคนนี้ได้ด้วย เขินนนนนน

สำหรับ
กิจกรรม
ที่นักท่องเที่ยวสามารถทำได้บนเกาะเกร็ด มีให้เลือกแน่นอนค่ะ สาวๆ อาจจะอยากเดิน
ช้อปปิ้งชิลล์ๆ
ในหมู่บ้าน อยาก
ล่องเรือไหว้พระ
ชมความงาม
รอบเกาะเกร็ด
ก็ทำได้ หรือถ้าเป็นสาวขาลุย ที่มั่นใจว่ากันแดดพร้อม กายพร้อม ใจพร้อม ก็เลือกที่จะ
เช่าจักรยานปั่นรอบเกาะ
สำหรับวันนี้เราเลือกช้อปปิ้งชิลล์ๆ กันในหมู่บ้านค่ะ เนื่องจากเราไปช้าทำให้อาจจะปั่นจักรยานชมธรรมชาติไม่ทัน เสียใจจังงงง T________________T


วัดปรมัยยิกาวาส
เมื่อลงเรือมาเราก็จะพบกับโต๊ะจ่ายเงินค่าเรือค่ะ สองบาทหยิบส่งไป
อิอิ ออกมาปุ๊บเราจะเจอกับร้านค้าต่างๆ มากมาย และ
วัดปรมัยยิกาวาส
หรือชื่อเดิมคือ
วัดปากอ่าว
เป็นวัดที่คาดว่ามีมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าท้ายสระ ปี พ.ศ.2517
ชาวมอญ
ที่อพยพมาในสมัยพระเจ้าตากสินมหาราช ไ
ด้ทำการบูรณะใหม่ เรียกว่า" เภี่ยมู้เกี้ยเติ้ง "


เจดีย์เอียงเกาะเกร็ด
มากันที่สัญลักษณ์ของที่นี่เลยก็ว่าได้ค่ะกับ
พระมหารามัญเจดีย์ วัดปรมัยยิกาวาส
หรือ
เจดีย์เอียง
ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นเจดีย์ทรงรามัญสีขาว ที่เดิมแบบเป็นศิลปะมอญผสมพม่า ส่วนผ้าแดงที่ผูกไว้ด้านบน เป็นวัฒนธรรมนึงของชาวมอญค่ะ

OTOP Village
สำหรับตัวหมู่บ้านจะเป็นซอยแคบๆ สามารถเดินสวนกันได้ค่ะ มีจักรยานนักท่องเที่ยว มอเตอร์ไซค์ชาวบ้าน รถเข็นขายของ ผ่านบ้างเป็นระยะๆ มีร้านค้าเรียงรายสองของทาง ส่วนมากมักเป็นอาหาร หรือขนมหวาน


เมนูของคาว
ก่อนจะเข้าตลาดต้องขอบอกก่อนว่าเมื่อมาเดินที่นี่คุณจะเห็นเมนูอาหารที่จะตบท้ายด้วยคำว่า
หน่อกะลา
เต็มไปหมดเลยล่ะค่ะ เพราะว่า
หน่อกะลา
เป็นพืชพื้นบ้านที่พบได้แค่ที่เกาะเกร็ดเท่านั้น เมนูดังๆ ของที่นี่เช่น
ทอดมันหน่อกะลาและผักทอด , ไส้อั่วหน่อกะลา , ข้าวแช่มอญ ฯลฯ


เมนูของหวาน
สำหรับเมนูของหวาน เกาะเกร็ดขึ้นชื่อเรื่องขนมไทยมากๆ เลยค่ะ ตลอดสองข้างทางมีให้เราเห็นตลอด ไม่ว่าจะเป็นขนมไทยมงคล เช่น
ทองเอก , สัมปันนี , ฝอยทอง , รังไข่เงิน-ทอง , กระเช้าสีดา,
จ่ามงกุฎ
,
ขนมโค , ขนมหัวล้าน , ตะโก้ , กระทงทองผลไม้ , ขนมสอดไส้ , ผกากรอง , ลูกชุบ , ขนมเห็ดโคน , ขนมเปียกปูน , ขนมวง , ขนมไข่ปลา , ช่อม่วง
, ขนมถ้วย
และอีกสารพัดอย่างให้สาวๆ ไปเลือกเติมความหวานให้ตัวเอง






บ้านกวานอาม่าน
บ้านกวานอาม่าน
หรือ
พิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาของเกาะเกร็ด
ไว้จัดแสดงเครื่องปั้นดินเผามอญ ซึงอาชีพช่างปั้นที่เป็นอาชีพของชาวมอญมาตั้งแต่โบราณ
เอกลักษณ์ของช่างเกาะเกร็ดคือ โอ่งสลักหรือหม้อสลัก หรือปัจจุบันเรียกว่า หม้อลายวิจิตร
ซึ่งพิพิธภัณฑ์นี้ริเริ่มโดย
คุณพิศาล บุญผูก
สนใจชมพิพิธภัณฑ์ หรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 02584 5086 ได้เลยค่ะ

วัดไผ่ล้อม
วัดไผ่ล้อม
วัดเก่าที่อายุไม่ห่างจากวัดปรมัยยิกาวาสมากนัก แต่จากการบูรณะต่อเติมใหม่ทั้งหมด ทำให้ดูเหมือนเป็นวัดใหม่ที่สุด มีสนามหญ้าขนาดย่อม ให้ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวได้แวะเวียนมาพักผ่อนและถ่ายรูปอยู่เสมอ
ขวามือของวัด คนในพื้นที่เล่าว่าเป็นกุฎิเก่าขนาดใหญ่ มีอายุกว่า 200 ปี ขอบอกว่ารีบไปเที่ยวนะคะ เพราะคนในพื้นที่บอกว่ามีแพลนที่จะสร้างพิพิธภัณฑ์ ทับบนกุฎิ (เสียดาย T__T) เมื่อเดินเข้าไปที่โบสถ์ เราจะเห็น
พระอุปคุต
ที่แกะสลักจากไม้ทั้งองค์ เชื่อว่าถ้าเรากราบไหว้พระอุปคุตจะช่วยเรื่องโชคค่ะ



ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนโรงงานเครื่องปั้นดินเผา ป้าตุ่ม
ถัดมาที่ซอยข้างวัดไผ่ล้อม จะมีคนตะโกนอยู่ด้านหน้าว่าด้านในคือ
ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนโรงงานเครื่องปั้นดินเผา ป้าตุ่ม
เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปชมตั้งแต่การผสมดิน ปั้นหม้อ แกะสลัก เข้าเตาเผา และสามารถเลือกช้อปสินค้าตามใจชอบ ซึ่งคุณลุงคนปั้นที่เก๋าประสบการณ์มามากกว่า 40 ปี ไม่มีการใช้แม่พิมพ์ ขึ้นทรงด้วยมือลุงเองล้วนๆ เจ๋งป่ะล่ะ
ในส่วนของลวดลายที่นี่แกะลายไทยอยู่หลายแบบ แต่สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของเครื่องปั้นดินเผาเกาะเกร็ดคือ
ลายวิจิตร
หรือ
หม้อลายวิจิตร
อันเป็นสินค้าขึ้นชื่อของที่นี่ค่ะ



วัดเสาธงทอง
เดินมาอีกนิดจะพบกับ
วัดเสาธงทอง
หรือเดิมชื่อ
วัดสวนหมาก
ค่ะ สร้างมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2513 ด้านข้างโบสถ์มีเจดีย์องค์ใหญ่ 2 องค์ ได้แก่
เจดีย์ทรงลังกาและเจดีย์ทรงมะเฟือกลีบอวบ
องค์สุดท้ายของโลก ภายในมีต้นยางใหญ่อายุกว่า 200 ปีอยู่หน้าโบสถ์ ชาวบ้านนำผ้าสามสีมาผูกไว้ ใต้ต้นยางเป็น
ศาลกุมารหัวจุก
นักท่องเที่ยวและชาวบ้านนิยมมากราบไหว้ขอพรกันค่ะ คนมอญเรียกวัดนี้ว่า
เ
พี๊ยะอาล๊าต


ซึ่งวัดเสาธงทองนี้เป็นจุดสิ้นสุดของทางเดินตลาด 800 เมตรค่ะ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ รออยู่อีกฝั่งของสะพาน แต่ต้องเช่าจักรยานไปน้าาา ไม่งั้นเดินขาลากแน่ 555 ถ้าเพื่อนๆ คนไหนสนใจไปชมความงามธรรมชาติในอีกฝั่งของเกาะเกร็ด อย่าลืมนำรูปมาอวดกันบ้างนะคะ
สำหรับทริปนี้มาคนเดียว เที่ยวคนเดียว กินคนเดียว น้ำหนักก็ขึ้นคนเดียว โอ้โห ตาชั่งที่บ้านร้องไห้แล้วล่ะค่ะ ไว้ครั้งหน้า
Hidekoririn
จะชวนสาวๆ ไปเที่ยวที่ไหนอีก โปรดรอติดตามชมกันด้วยนะคะ ใครไม่ว่างไม่ต้องแคร์ เราไปด้วยกันก็ได้นะ
<3