1. SistaCafe
  2. 7 ข้อควรรู้ ถ้าอยากกลับไปเป็นเพื่อนกับ 'แฟนเก่า' #ระวังถ่านไฟเก่ามันร้อน (¬‿¬ )

" โตๆ กันแล้ว เลิกกันด้วยดี ก็เป็นเพื่อนกันได้นี่นา ทำไมล่ะ ไม่ได้เหรอ!? "

(; ω ; )



สาวๆ SistaCafe บางคนอาจแย้งแบบนี้ เมื่อได้ยินคนพูดว่า " เลิกกันแล้วอย่าไปเผาผีมัน! " ซึ่งในโลกความจริงแล้ว ความรักมีหลายรูปแบบมากๆ ค่ะ


หลายคู่เริ่มจากการเป็นเพื่อน พอเป็นแฟนดันไม่เวิร์ค ไลฟ์สไตล์ไม่แมทช์กันจึงต้องเลิก ( แถวบ้านเรียกว่า ' เลิกกันด้วยดี ' ) ไม่ได้โกรธหรือเกลียดอะไรกัน ก็กลับมาเป็นเพื่อนกันได้ เพราะสังคมก็กลุ่มเดียวกัน สรุปคบได้ยาวกว่าเดิมอีกก็มี



แต่อีกแบบที่ทำให้มีปัญหาคือ ไม่เคยเป็นเพื่อนกันตั้งแต่แรก เลิกแล้วแต่ทำใจไม่ได้ ยังรักอยู่ ไม่อยากปล่อยมือ... จึงขอยื้อเวลาด้วยคำว่า ' เพื่อน ' เผื่อเขาจะเห็นใจกลับมารีเทิร์น ซึ่งเป็นความคิดที่ไม่โอเคมากๆ!


ว่ากันตรงๆ มันก็ค่อนข้างสุ่มเสี่ยง วางตัวก็ลำบาก ครอบครัวกับเพื่อนๆ จะคิดยังไง? ถ้าเราหรือเขามีคนใหม่ จะกระอักกระอ่วนใจกันรึเปล่า? ถ้าเผลอไปอยู่ในสถานการณ์เหมือนตอนที่ยังคบกัน จะทำยังไง? สารพัดคำถามเลยล่ะค่ะ



แต่ถ้าสาวๆ ยืนกรานว่าแยกแยะได้ ผู้ชายคนนี้เป็นคนดีมาก ไม่อยากให้หายไปจากชีวิต ถึงเป็นแฟนไม่รอดก็ยังอยากเป็นเพื่อน ( เหรออ )  ก็ลองมาอ่าน

7 กฎที่อยากให้รู้ หากจะเป็นเพื่อนกับ ' แฟนเก่า ' เพราะ #ถ่านไฟเก่ามันร้อนรอวันรื้อฟื้น

ทำตามนี้จะได้ไม่เสียใจภายหลัง ไปค่ะซิส!



1. จากแฟน ลดไปเป็นเพื่อน มันต้องใช้เวลา!

ต้องบอกก่อนว่า วันนี้เธอเลิกกับแฟน แล้วพรุ่งนี้จะไปกอดคอเยิ้วๆ บอกว่าเฮ้ย เราเป็นเพื่อนกันแล้วนะ ไปเที่ยวกัน แบบนี้มันก็ไม่ใช่ปะ? มันก็ต้องใช้เวลาเยียวยานิดนึง!ถึงเธอจะไม่ยอมรับตัวเองก็เถอะ แต่เธอต้องให้สเปซตัวเอง ให้หัวใจปรับสภาพ ยอมรับสถานะใหม่ว่าเธอ ' โสด ' แล้วจริงๆเราแนะนำว่าในช่วงเลิกใหม่ๆ อย่าเพิ่งไปยุ่งกับเขา ตัดออกจากชีวิตไปก่อนเลย แล้วไปใช้เวลากับตัวเองสักพักออกท่องเที่ยวคนเดียว เข้าค่ายอาสา หรือแค่อยู่ในห้องเงียบๆ อ่านหนังสือ ฟังเพลง ดูหนังก็ได้ พยายามอย่าใช้อินเตอร์เน็ต เธอจะยิ่งฟุ้งซ่านเข้าไปใหญ่ อย่างน้อยก็สัก 2 สัปดาห์

ถ้าเมื่อไหร่เธอปล่อยวางได้ คิดได้แล้วว่า คนคนนี้ไม่ใช่คนรักของเราอีกแล้ว ( แบบจริงๆ ไม่หลอกตัวเอง ) แล้วค่อยกลับไปคุยใหม่ถ้ามองตาเขาแล้วยังรู้สึกแปลกๆ วูบวาบๆ ยังสปาร์คอยู่ก็อย่าเพิ่งคุย รอจนกว่าจะทำใจได้จริงๆ นั่นคือเธอมองเขาแล้วรู้สึกเฉยๆ เหมือนมองคนทั่วไปซึ่งระยะเวลาก็แล้วแต่เลยค่ะ บางคนอาจใช้เวลาเป็นปีเลยก็ได้ เรื่องแบบนี้มันเร่งไม่ได้ ถึงเวลาที่พร้อม เราจะรู้เองนะคะ

2. จะเป็นเพื่อนกับแฟนเก่า ขอบเขตต้องมี อย่าล้ำเส้น อย่าถามเยอะ!

มาถึงสเต็ปสอง ถ้าตกลงกับผู้ชายได้แล้วว่า โอเค เราเป็นเพื่อนกันนะ ( ย้ำว่าต้องทั้งสองฝ่ายนะ ไม่ใช่มโนไปเอง ถ้าเขาไม่อยากยุ่งด้วยแล้ว ก็ถอยออกมา! ) เราต้องมาวางกฎความสัมพันธ์กันใหม่นะจะใช้นิสัยเดิม พฤติกรรมเดิม เรียกไปหาตอนตีสองตีสาม ใส่ชุดชั้นในให้ดูแบบนี้ไม่ได้แล้วเด้อ เอาง่ายๆ ต้องขีดเส้นไว้ และอย่าล้ำเส้นนั้นเข้าไปเด็ดขาดจำไว้ว่า ตอนนี้ทั้งคู่เป็นแค่เพื่อนธรรมดาต่อกัน คุยเฉพาะเท่าที่จำเป็น อย่าไปงี่เง่าใส่เขามาก นิ่งเข้าไว้ถ้าไม่อยากมีปัญหา จำกัดเลเวลไว้แค่นี้ถ้าสนิท ปล่อยตัวเกินไป เสี่ยงจะสปาร์ค ยิ่งเคยรักกันมาก่อนด้วย ไม่เอาไม่งาม!ยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าตอนเป็นแฟน เธอชอบเมสเซจถามว่าทำอะไร อยู่ที่ไหน แชร์เพลง แท็กชื่อในเพจความรักทุกห้านาที อันนี้ก็ต้องงดแล้วนะ! เขาจะขยับตัวทำอะไร ปล่อยค่ะ อย่าถามเยอะ เป็นแค่เพื่อน ไม่ใช่แฟนแล้วค่ะ ถ้าเขารำคาญมากๆ คราวนี้แม้แต่เพื่อนก็จะไม่ได้เป็นแล้วนะคะ - -

3. ถึงเป็นเพื่อนแล้ว ก็เคารพกันนิดนึง ไม่ต้องเอาแฟนใหม่มาเย้ย!

อะ เอาจริงๆ ถึงไม่มีความรู้สึกเชิงชู้สาวแล้ว เหลือแค่เพื่อน แต่คนเรามันก็ต้องมีนิดนึงอะ ถ้าแฟนเก่าพาคนใหม่มาให้รู้จัก สวีทหวานแหวว กอดกัน จุ๊บกันต่อหน้าเรา( ถามหน่อยใครจะไม่รู้สึกอะไรบ้าง? มันก็เหมือนเอามาเย้ยกันอะ )เพื่อป้องกันความรู้สึกที่จะเกินเลย ควรเคารพและให้เกียรติซึ่งกันและกัน จะไปเปิดตัวคนใหม่กับใครก็ได้ แต่ไม่ต้องพาตัวเป็นๆ มาหาจะดีมาก แค่บอกผ่านคำพูดหรือแชทก็พอจ่ะ!แต่ยกเว้นว่า เธอทั้งคู่ต่างมีใหม่มาสักพักแล้ว แล้วอยากจะมาให้เห็นหน้ากันสักครั้ง นานๆ ที มาเจอกันแป๊บเดียว แบบนี้ก็ยังพอโอเคอยู่นะ แต่อย่าให้ร่วมทริปยาวๆ ไปต่างจังหวัด ต่างประเทศแบบเราสองสามคนเลย ไม่เวิร์คหรอกเธอ มาคุแน่นอน!

4. ต้องใจแข็ง สตรอง อย่ากลับไปทำพฤติกรรมเดิมๆ เหมือนตอนเป็นแฟน!

ค่ะ ก็อย่างที่บอกไปแล้วว่า เลิกกันแล้วอะเนอะ ดังนั้นเธอต้องระวังเรื่องหัวข้อสนทนาให้มาก อย่าพยายามพูดเรื่องที่พูดบ่อยๆ ตอนเป็นแฟนกัน เดี๋ยวจะเดตแอร์เช่น ตอนคบกันคุยเรื่องกีฬากันบ่อยๆ เพราะไปฟิตเนสด้วยกันทุกวีค แบบนี้ก็เลี่ยง Topic นี้ไปยาวๆ ไปคุยเรื่องอื่นแทน เน้นคุยเรื่องกลางๆ ดินฟ้าอากาศ หรือปรึกษาเรื่องอื่นไปเลย ( ถ้าคิดอะไรไม่ออก เงียบก็ยังดีกว่าพูดแล้วมีเรื่องนะ )หากเธอกับเขายังมีสังคมกลุ่มเดียวกัน ยังต้องไปเที่ยวด้วยกันบ้างบางโอกาส ก็พยายามเลี่ยงอะไรที่ทำให้นึกถึงวันวานเก่าๆเช่น ร้านกาแฟที่ไปบ่อยตอนเป็นแฟน, เสื้อผ้าชุดเดิมๆ ที่ใส่คู่กัน, สิ่งของที่ใช้คู่กัน หรือแม้แต่รูปถ่ายคู่ เก็บใส่กล่องแล้วฝังดินไปเลย จะเป็นเพื่อนก็ต้องเป็นเพื่อนให้จริงค่ะซิส!

5. วางระยะห่าง อย่าถึงเนื้อถึงตัว เป็นเพื่อน ไม่ใช่เพื่อนรัก!

ในกรณีที่เธอกับเขา ยังอยู่ในวัยเรียน อยู่กลุ่มเดียวกัน หรือถ้าเป็นสาวออฟฟิศที่คบคนในบริษัท พอเลิกแล้วก็ยังทำงานด้วยกันอยู่ ก็ต้องเว้นระยะห่างนะคะซิส เป็นไปได้ก็อย่าถึงเนื้อถึงตัว พลังของการสัมผัสเนี่ยน่ากลัว ถ่านไฟเก่าปะทุกันมาเยอะแล้ว

( ยิ่งบางคู่เคยมีอะไรเกินเลยแล้วยิ่งยาก ) ยิ่งถ้าไปอยู่สองต่อสองในที่ลับตา เธอเอ๊ย ไม่อยากจะคิดเด้อ



คุยเท่าที่มีเรื่องให้คุย เรื่องงานก็ส่วนงาน ปฏิบัติกับเขาเหมือนเพื่อนร่วมห้อง / เพื่อนร่วมงานทั่วไป อย่าคุยเรื่องส่วนตัวเยอะเกิน

แต่ก็ไม่ถึงกับเบี่ยงตัวหนีด้วยความรังเกียจขนาดนั้นนะคะ ถ้ามีเหตุฉุกเฉินอะไรก็จับตัวได้ปกติ แต่แค่อย่าไปกอดแน่นๆ ดึงหู ดึงแก้มในเชิงหยอกเล่นเกินงามเท่านั้นเอง #อยู่เฉยๆสวยๆจ้า



6. ถ้าคนใหม่ของแฟนเก่าไม่สบายใจ ต้องรีบถอย อย่าไปทำให้เขาแตกกัน!

สมมุติว่า เลิกกันมาระยะหนึ่งละ ฝ่ายชายตัดใจ 100% มองเธอเป็นแค่เพื่อนธรรมดา เริ่มมองหารักครั้งใหม่ จนในที่สุดก็มีแฟนใหม่แซงหน้าเธอแล้วเรียบร้อย! แต่ปัญหาคือ สาวคนใหม่เขาไม่ปลื้ม ไม่สบายใจ

ที่เธอ ( ซึ่งเคยอิ๊อ๊ะ มุ้งมิ้งกับแฟนนางมาก่อน ) ยังมาวอแว ไปเที่ยวด้วยกัน ส่งแชทตี๊ดๆ มาคุยกับเขาไม่เลิก จนในที่สุดผู้ชายก็เอ่ยปากว่า ' แก แฟนเราเขาไม่โอเคที่เรายังคุยกันว่ะ '



ถ้าแบบนี้เราแนะนำว่า ถอยออกมาเถอะค่ะ อันนี้คิดในมุมมองเพื่อนเลยนะ ว่ายังไงอีกฝั่งเขาก็ควรให้ความสำคัญกับแฟน ที่จะอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิตมากกว่าเพื่อน ที่เจอกันเป็นครั้งคราว

อย่าไปทำให้เขาแตกหักกัน บาปเปล่าๆ แถมเราก็ไม่ได้คบเขาต่ออยู่ดีนะ



7. ถ้ามันไม่ไหวจริงๆ ก็รีบถอยออกมา ก่อนจะมองหน้ากันไม่ติด!

ต้องยอมรับก่อนว่า ไม่ใช่ทุกคู่ที่ิเลิกกัน แล้วจะกลับไปเป็นเพื่อนกันได้ แม้จะจบกันด้วยดีก็ตาม!ถ้าเธอไม่ใช่คนใจแข็ง คนสตรองที่เห็นคนเคยรักมีครอบครัว แล้วเสียใจ เจ็บข้างในลึกๆ ทำยังไงก็ไม่หาย ยังคิดอยากง้อ ขอคืนดี รีเทิร์น all the time ทนไม่ไหวแล้ว ก็ไม่ต้องทนค่ะ เดินออกมาเลย Walk Out โลด ก่อนจะมองหน้าผู้ชายไม่ติด!!

ถ้าสภาวะทางอารมณ์เราไม่พร้อม และไม่มีวันพร้อม ก็แค่ค่อยๆ เฟดตัวไปจากชีวิตเขา ( หรือจะหักดิบเลยก็ได้ แล้วแต่ ) เราเชื่อว่าผู้ชายเข้าใจ ส่วนเธอเองก็ไปใช้เวลากับตัวเองเพิ่ม ตัดใจจริงๆ ซะทีแล้วก้าวต่อไป ใช้ชีวิตโดยไม่ต้องมีเขาอีกต่อไป อาจจะดูยากในช่วงแรก แต่เดี่ยวมันก็จะดีขึ้น จนรอยแผลเบาบางลงเองนะคะ


------------------------------------------


อ่านมาถึงจุดนี้แล้ว ตัดสินใจได้หรือยังว่า จะยังคีพความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อน หรือจะเดินหน้าต่อ Move On หาความรักครั้งใหม่? ไม่ใช่เรื่องง่ายหรอกที่เราจะเปลี่ยนสถานะใครสักคน แล้วยังคุยกันต่อได้  ทำได้ก็ดี แต่ถ้าทำไม่ได้ ก็ไม่ใช่เรื่องผิด ความรู้สึกเป็นเรื่องบังคับไม่ได้เนอะ สาวๆ ก็แค่ใช้ชีวิตต่อ มองหาโอกาสใหม่ๆ คนใหม่ๆ ในชีวิต อายุยังน้อย เราเชื่อว่าจะต้องมีคนดีๆ เข้ามาในวงโคจรชีวิตของเธออีกแน่นอน


วันนี้ขอตัวลาไปก่อนแล้วนะค้า แล้วพบกันใหม่คราวหน้าค่า ขอให้สาวๆ หาทางออกได้น้า เราเป็นกำลังใจให้ บ๊ายบาย


------------------------------------------



เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้