ฮัลโหลค่าา สาวๆSistaCafeทุกคน(♡˙︶˙♡)

สำหรับผู้หญิงบางคน เวลาแต่งหน้าอาจไม่เคยคิดถึงไอเทมชิ้นเล็กๆ ชิ้นนึงที่เรียกว่า' ไพรเมอร์ 'เลย เพราะคิดว่าไม่จำเป็น เปลืองเงิน แค่ทาเบสกับรองพื้นก็น่าจะพอแล้ว

ถ้าเธอแต่งหน้าเบาๆ ทั่วไป ก็อาจจะไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าต้องแต่งหน้าออกงาน หรือวันนั้นต้องเป๊ะตั้งแต่เช้าจรดเย็น ไม่มีเวลาเติมหน้า ห้ามหลุดห้ามเยิ้ม ไพรเมอร์คือ a must อย่างไม่ต้องสงสัย!

ลองนึกสภาพผิวหน้าเป็นที่ดินสักผืน การทา ' ไพรเมอร์ ' ก็เหมือนถมที่ดินให้เรียบ เปรียบเสมือนผิวนุ่มลื่น เรียบเนียน ไบรท์ พร้อมสร้างบ้านที่มั่นคงลงไปนั่นเอง ผลพลอยได้คือคุมมันทั้งวัน เบลอรูขุมขน ริ้วรอย หรือสิวที่ไม่พึงประสงค์ได้อีกด้วย ^^

ถ้าเกริ่นมาขนาดนี้แล้ว เธอยังไม่อยากใช้ไพรเมอร์อีกล่ะก็!

ลองอ่านทริคลับ 8 ข้อ ในการใช้ไพรเมอร์ให้หน้ากริบทั้งวัน บอกเลยว่าเวิร์คจริง!!!! คือหน้าเนียนจนงง ว่าทำไมไม่ใช้ตั้งนานแล้ว

( ; ω ; )

รอช้าอยู่ไย เราไปจดทริคเด็ดๆ กันเลยดีกว่าค่า

1. ใช้ไพรเมอร์แบบ 'ทิ้นท์' ดีกว่าแบบครีม

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/23/c9XiYE.jpg

ในเคสที่เธอเป็นสาวผิวมัน หน้ามันเยิ้มจนเอาไปทอดไข่ได้เป็นโหลล่ะก็ อย่าบังอาจใช้ไพรเมอร์เนื้อครีมเด็ดขาด!

เพราะพวกเนื้อครีมจะมีส่วนผสมของน้ำมันสูง เพื่อให้เนื้อนุ่ม เกลี่ยง่าย ปกปิดได้ดี มักใช้กลบรอยสิว สิวอักเสบ หรือสิวอุดตัน หากผิวก็มัน แล้วยังทาไพรเมอร์มันๆ ลงไปทั่วหน้า เกรงว่าหน้าจะมันย่อง เมคอัพหลุดในชั่วโมงแรกเป็นแน่แท้ - -

ทางที่ดี ควรใช้ไพรเมอร์เนื้อบางๆ แต่ยังเกลี่ยง่ายอยู่ อย่าง ' เนื้อทิ้นท์ ( Tinted Primer ) ' แทน ข้อดีคือจะยังให้ลุคฉ่ำอยู่เบาๆ ไม่ดูเยิ้ม ปรับสีผิวให้กระจ่างใสขึ้น ดูเป็นธรรมชาติ

แต่ข้อเสียนิดนึงคือ ถ้าเธอปัญหาผิวเยอะ สิวเม็ดเบ้งๆ หน้าขรุขระ จะยังเห็นรอยอยู่บ้าง ต้องใช้คอนซีลเลอร์ช่วยอีกรอบค่ะ

2. ใช้นิดเดียว อย่าพอกทั่วหน้า!

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/23/c9XARD.jpg

ไพรเมอร์ไม่ใช่เบส หรือรองพื้นที่ต้องทาแบบ ' พอก ' ให้ทั่วผิวหน้า หน้าที่หลักๆ ของเขาคือเบลอรูขุมขน เบลอความมัน ดังนั้นบีบเพียงเมล็ดถั่วเขียว แล้วเกลี่ยเฉพาะช่วงที่มันง่าย หรือรูขุมขนกว้างดีกว่า

เช่น ช่วงทีโซน ช่วงปีกข้างจมูก ( ฝรั่งเรียกว่า butterfly zone ) ถ้าใช้ไพรเมอร์เยอะไป หน้าจะอุดตันกว่าเดิม และเนื้อไปกองรวมกับรองพื้นได้ค่ะ

สำหรับไพรเมอร์ที่เนื้อหนักหน่อย ให้วอร์มที่หลังมือก่อน พอเนื้อเริ่มนุ่มๆ อุ่นๆ ค่อยเกลี่ยบนผิวให้เสมอกัน และใช้นิ้วลง ' เท่านั้น! ' อย่าใช้แปรงแต่งหน้า

เพราะแปรงจะยิ่งลากเนื้อผลิตภัณฑ์ไปมา กลายเป็นรอยแปรง ดูรอยเปื้อนซะมากกว่าค่ะซิส

3. ทาไพรเมอร์ที่ 'เปลือกตา' ด้วย

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/23/c9XuAf.jpg

หลายคนทาไพรเมอร์ทั่วหน้าเนียนกริ๊บเลย แต่หลงลืมส่วน ' เปลือกตามันๆ ' ไปเสียสนิท บอกเลยว่าพลาดมาก! สาวๆ ต้องใช้ ' ไพรเมอร์ตา ( eye primer ) ' ทุกครั้งก่อนลงอายแชโดว์ และอายไลเนอร์

เพราะอายไพรเมอร์จะช่วยเซ็ตผิวเปลือกตาให้เนียน เรียบ ดูดซับความมัน เบลอริ้วรอย เส้นเลือดฝอย เหมือนผืนผ้าใบที่พร้อมลงสี และทำให้อายแชโดว์ติดทนนานกว่าปกติอีกด้วย

วิธีใช้ก็คล้ายๆ ไพรเมอร์หน้า คือบีบออกมาเท่าเมล็ดถั่วเขียว ( ใครตาเล็ก ใช้แค่ครึ่งเมล็ดก็พอ ) เกลี่ยให้ทั่วเปลือกตา แล้วลงอายแชโดว์ตามปกติ อย่าลืมลงที่ใต้ตาด้วย

เวลาลงคอนซีลเลอร์กลบรอยคล้ำแพนด้า จะได้ไม่ตกร่อง เห็นเป็นเส้นริ้วๆ หรือหลุดระหว่างวันนะจ๊ะ

4. ใช้มาสคาร่าใส ก่อนปัดทับด้วยมาสคาร่ากันน้ำ

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/23/c9XLAP.jpg

เรื่องขนตาก็สำคัญ! บางทีเราก็ไม่ได้ร้องไห้ น้ำตาไหลอะไรหรอก แต่แดดร้อนๆ เหงื่อก็ไหลจากคิ้วมาโดนขนตาได้ ถ้าใช้มาสคาร่าไม่กันน้ำ มีเป็นแรคคูนกันบ้างแหละ - -

สาวๆ ควรใช้ ' มาสคาร่าเบส ' หรือมาสคาร่าสีใสๆ เพื่อล็อคขนตาให้งอนเด้ง ติดทน และปัดทับด้วยมาสคาร่าสูตรกันน้ำ

เพื่อให้ขนตาสวยเป๊ะ หนาๆ ฟูๆ รับรองว่าเพื่อนต้องแซวว่า ' ไปต่อขนตามาปะเนี่ยะ?? ' แน่นอนค่า

5. ใช้ไพรเมอร์ ให้เหมาะกับสภาพผิว

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/23/cT001q.jpg

นอกจากเรื่องผิวมัน ผิวแห้งแล้ว ' สภาพผิว ' ก็เป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงเสมอ สภาพที่ว่าหมายถึง ริ้วรอย รอยสิว จุดด่างดำต่างๆ ถ้าหน้าค่อนข้างเนียน ไม่ได้มีรอยอะไรเยอะ ใช้ไพรเมอร์เนื้อทิ้นท์ธรรมดาตัวเดียวก็จบ

แต่ถ้ามีรอยเยอะ ให้ใช้ไพรเมอร์ผสมกับ ' รองพื้นเนื้อครีม ' เพื่อปกปิดปัญหาผิว และปรับผิวให้เนียนในเวลาเดียวกัน

ทั้งนี้ ถ้าเธอไม่ได้มีแค่รอยสิว แต่มีรอยคล้ำ รอยแดงด้วย ก็อาจต้องผสมกับเบสเขียว เบสม่วง เพื่อปรับสีผิวให้รอยเหล่านี้จางลงด้วย

จึงไม่สามารถใช้อัตราส่วนไพรเมอร์สูตรเดียว กับผิวของผู้หญิงทุกคนได้ ต้องดูเป็นเคสๆ ไปนะคะ

6. เตรียมผิวริมฝีปากให้เรียบเนียน ด้วย 'Lip Primer'

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/23/c9Xyke.jpg

ถ้าหน้าสวยกริบ แต่ริมฝีปากย่น ร่องเพียบ เหมือนลูกเกดเหี่ยวๆ มันก็ไม่โอเคอะเนาะ ;_;

เราจึงแนะนำให้สาวๆ ใช้ ' ลิปไพรเมอร์ ' ( คนละอย่างกับลิปคอนซีลเลอร์นะ อย่าเข้าใจผิด ) ซึ่งเมื่อทาทั่วปากแล้ว จะช่วยเติมเต็มร่องลึกบนริมฝีปากได้ดี พร้อมทาลิปสติก ลิปกลอสให้ปากอิ่มฟู น่าจุ๊บ

โดยช่างแต่งหน้าแนะนำทริคว่า ถ้าอยากให้สีลิปติดทนทั้งวัน ให้ทา ' ไพรเมอร์ตา ' ทั่วปากก่อนทาลิปสติก รับรองเป๊ะ เม็ดสีปั๊วะตั้งแต่เช้าจรดเย็นแน่นอน

ปล. ถ้าในช่วงเร่งด่วน ปากสภาพไม่ไหวแล้ว แต่ไม่มีลิปไพรเมอร์ ใช้ลิปบาล์มหรือลิปมาส์ก พอกทั่วปากไว้ก่อนแต่งหน้า 10-15 นาที แล้วเช็ดออก ปากจะกำลังนิ่มฟู พร้อมทาลิปพอดี เป็นวิธีประหยัด ที่เหมาะกับคนงบน้อยอย่างเรามากๆ!

7. ฟินิชลุคด้วย 'แป้งฝุ่นโปร่งแสง'

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/23/c9XFOl.jpg

ถ้าอยากมีหน้าสวยเป๊ะ เนียน ไม่หลุดทั้งวัน แต่ไม่ดูโบกหนาเป็นปูนฉาบ ให้แต่งหน้าเรียงตามขั้นตอนดังนี้ >>

ไพรเมอร์ > รองพื้นเนื้อลิควิด / เนื้อทิ้นท์ และตบท้ายด้วยแป้งฝุ่นโปร่งแสง *แนะนำให้ใช้พัฟกดให้ทั่วหน้า จะทนกว่าใช้แปรงเกลี่ยนะคะ*

ไพรเมอร์ เบส รองพื้น ทุกอย่างในนี้ล้วนมีน้ำกับซิลิโคนเป็นส่วนผสม ถ้าทาทับกันหลายชั้นโดยไม่โปะทับด้านบนสุดด้วย ' ผงฝุ่นเนื้อแมท '

เวลาผ่านไปนานๆ ครีมจะเริ่มผสมกันเอง และเริ่มหลุดลอกออกในที่สุด ดังนั้นห้ามลืมแป้งฝุ่นเป็นอันขาด!

8. อย่าดูแลแค่ผิวหน้า ทาไพรเมอร์ที่ 'มือ/ลำคอ/หัวไหล่' ด้วย!

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/09/23/c9aKPb.jpg

ในเคสที่ไม่ได้เน้นแค่ผิวหน้า แต่ต้องโชว์เสื้อผ้าที่ใส่ด้วย ( ส่วนมากจะเป็นงานกลางคืน ) เช่น ชุดเปิดไหล่ สายเดี่ยว เกาะอก ชุดเหล่านี้จะเผยผิวช่วงลำคอ หัวไหล่ มือ และช่วงอก

ดังนั้นถ้าอยากผิวเนียนกริบไปทั้งตัว ไม่ใช่หน้าเนียน แต่ไหล่กับอกเป็นจุดด่างดำตะปุ่มตะป่ำ ให้คนมองแล้วซุบซิบนั้น ก็ต้องทาไพรเมอร์ที่ส่วนนั้นด้วย!

บีบไพรเมอร์จากหลอด วอร์มให้เนื้ออุ่นๆ แล้วเกลี่ยผิวช่วงมือ คอ และอก โปะทับด้วยโลชั่นชิมเมอร์ให้ฉ่ำวาว

แล้วผิวช่วงนั้นจะดูเบลอ เนียนๆ ดูอิ่มฟู ผิวชุ่มชื้นไปทั้งวัน #แค่ใช้โลชั่นก็เหมือนดื่มน้ำวันละแปดแก้วได้

-----------------------

ใครที่เคยหลงลืมไพรเมอร์ บอกเลยว่าต้องกลับมาใช้ด่วนๆ! แม้จะไม่ได้ปกปิดผิวกริ๊บเหมือนรองพื้น ไม่ได้กันแดดเวอร์เหมือนครีมกันแดด แต่เขาเป็นไอเทมพื้นฐานสุดๆ ในการปรับผิวพร้อมรับเครื่องสำอางให้เป๊ะ! ดั่งใจลองสังเกตผิวที่ใช้ กับไม่ใช้ไพรเมอร์ ผ่านไปหลายชั่วโมงจะต่างกันอย่างชัดเจน ผิวที่ใช้ไพรเมอร์จะยังสวย เนียน ไม่ต้องเติมระหว่างวัน อาจเสียเวลาแต่งหน้านานหน่อย แต่รับรองว่าคุ้มชัวร์!!!

ถ้าชอบก็ฝากกดฟอล กดหัวใจให้บทความให้ด้วยน้า สำหรับวันนี้เราก็ต้องขอตัวลาไปก่อน มีทริคเมคอัพอะไรดีๆ อีกจะรีบมาแชร์กับสาวซิสแน่นอนจ้า บ๊ายบายย

-----------------------