สวัสดีค่ะสาวๆSista*(*´∀｀*)☆
ผิวหน้าของสาวๆ เราเนี่ย นับว่าเป็นสิ่งที่ต้องทะนุถนอมมากกกกก สิวขึ้นทีแทบจะขาดใจ
จะใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงหน้าแต่ละตัวก็กลัวแพ้เหลือเกิน
วันนี้เราจะมาแนะนำให้สาวๆ ทุกคน ใช้oilบำรุงผิวหน้ากัน!(◍•ᴗ•◍)/
ได้ยินครั้งแรกอาจจะตกใจว่า เฮ้ย หน้าเรามันอยู่แล้วยิ่งใช้น้ำมันไม่ยิ่งมันขึ้นไปใหญ่หรอ??
หน้ามันมีหลายสาเหตุค่ะ แต่หนึ่งในนั้นคือ ผิวหน้ามีความชุ่มชื้นไม่เพียงพอทำให้ต้องผลิตน้ำมันออกมาจำนวนมากเพื่อคงความชุ่มชื้นเอาไว้ การที่เราใช้น้ำมันบำรุงผิวหน้า ก็จะเป็นการเติมความชุ่มชื้นในส่วนนั้น แล
ะ
ทำให้ผิวหน้าเรามันน้อยลงนั่นเอง!
อีกทั้งน้ำมันส่วนมาก ยังเป็นสารสกัดที่ผลิตจากธรรมชาติ จึงเกิดโอกาสแพ้น้อยกว่าผลิตภัณฑ์ทั่วไป เรามาดูกันดีกว่า ว่ามีเหตุผลอะไรน่าสนใจทำให้อยากเปลี่ยนมาใช้Facial oilบ้าง
1. ช่วยลดริ้วรอย
แสงแดดเป็นตัวการร้ายแรงที่ทำร้ายผิวหน้าของเรารุนแรงมากหากเราไม่ป้องกันอย่างดีพอ ซึ่งทำให้ผิวเหี่ยวย่นและเกิดฝ้าแดดได้
oil บำรุงผิวหน้าบางชนิด มีสารแอนตี้ออกซิเดนท์ที่ช่วยป้องกันริ้วรอยที่เกิดจากอายุได้ ดังนั้นถ้าเพื่อนๆ ได้รับผลกระทบจากแสงแดดและมีผิวที่ขาดความชุ่มชื้น ก็ลองใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันพริมโรสหรือ มีวิตามิน E เป็นหลักเช่นน้ำมันอาร์แกนดู
แต่ถ้าเพื่อนๆ มีผิวที่มันและกังวลเกี่ยวกับการใช้น้ำมัน ก็ให้ลองน้ำมันเมล็ดองุ่นซึ่งมีสาร anti-aging บางเบา ไม่มันเยิ้ม และมีกลิ่นที่หอม เหมาะแก่ผู้เริ่มต้นใช้มากๆ
วิธีการใช้ เวลากลางคืนหลังจากล้างหน้า ให้หยดน้ำมันลงบนฝ่ามือเล็กน้อย จากนั้นให้ทาจากหน้าผาก > โหนกแก้ม > จมูก > คางเพื่อประโยชน์สูงสุดค่ะ
2. ได้ผลดีสำหรับสาวผิวแห้ง!
สำหรับสาวๆ ที่เผชิญปัญหาผิวหน้าแห้งจนลอกเป็นขุย น้ำมันบำรุงผิวหน้าถือเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์อย่างดีเยี่ยม! โดยน้ำมันถือว่ามีประสิทธิภาพในการเพิ่มความชุ่มชื้นสูงมากเมื่อเทียบกับการใช้ผลิตภัณฑ์แบบครีม
ลองใช้น้ำมันมะพร้าวขนาดเท่าเมล็ดถั่วทาบริเวณผิวที่แห้งของเพื่อนๆดู รับรองผลลัพธ์ออกมาเริ่ดมาก!(๑>◡<๑)หรือถ้ามีผิวที่บอบบาง แพ้ง่าย ก็อยากให้ลองน้ำมันอัลมอนด์ซึ่งเจ้าน้ำมันอัลมอนด์นั้นช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และยังมีส่วนผสมของกรดไขมันโอเมกา-3อีกด้วยน้า
3. ปกป้องผิวของคุณได้
เนื่องจากน้ำมันมีคุณสมบัติแบบLipophilicหรือเป็นสารที่ไม่รวมกับน้ำ ทำให้สามารถซึมซาบเข้าสู่ชั้นผิวได้อย่างล้ำลึก กักเก็บน้ำเอาไว้ในขณะที่จะกันส่วนของเสียไม่ให้เข้าสู่ชั้นผิวของเราได้
น้ำมันบางชนิดยังช่วยเสริมสร้างและทำให้ชั้นผิวของเราแข็งแรงมากขึ้นด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับสาวๆ ที่ทำงานอยู่ในเมืองใหญ่ จะต้องเจอกับมลพิษและควันจากท่อไอเสียอยู่ตลอดเวลา ล้วนแต่เป็นสาเหตุของริ้วรอยก่อนวัยทั้งนั้น
สำหรับสาวๆ ที่อยากได้ผิวหน้าที่แข็งแรง ลองใช้น้ำมันโรสฮิปซึ่งอุดมไปด้วยสารแอนตี้ออกซิเดนท์ดูนะ
4. เป็นไพรเมอร์ได้ด้วย
น้ำมันอย่างน้ำมันเมล็ดฟักทองนั้น สามารถใช้เป็นไพรเมอร์ก่อนการแต่งหน้าได้ด้วยนะคะ โดยให้ทาลงบนบริเวณที่ต้องการความชุ่มชื้นมากที่สุด ตัวน้ำมันจะทำให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนขึ้นแบบทันทีทันใด และทำให้ผิวดูดีขึ้นเยอะเลยค่ะ!
5. รูขุมขนดูเรียบเนียนขึ้น
น้ำมันคุณภาพดี เช่นน้ำมันแมคคาเดเมีย น้ำมันโจโจบาและน้ำมันดอกคาร์มีเลียสามารถช่วยขจัดความสกปรกและไขมันจากรูขุมขน ทำให้หน้าดูเรียบเนียนและรูขุมขนดูเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด
แต่!!!นี่เป็นสิ่งที่พิสูจน์กันในเชิงทฤษฎี จึงน่าเสียดายที่น้ำมันที่มีขายอยู่ทั่วไปอาจทำให้เกิดการอุดตันหรือรูขุมขนขยายออกได้ ทางที่ดีคือควรตรวจเช็คสภาพผิวหน้าของตัวเองก่อนการใช้น้ำมันบำรุงผิวหน้านะคะ
6. บรรเทาอาการผื่น
น้ำมันหลายๆ ชนิดต่างก็มีคุณสมบัติลดการอักเสบได้น้ำมันอาร์แกนและน้ำมัน Yangu(เมล็ดชนิดหนึ่งจากแถบแอฟริกา) เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวระคายเคืองง่าย และการใช้น้ำมัน 2 ตัวนี้ยังช่วยเรื่องริ้วรอยอีกด้วยนะ
7. ลดสิวได้!
เป็นข้อที่อยากจะดอกจันไว้สักร้อยดอก! น้ำมันที่แนะนำคือน้ำมันทรีทีออยเป็นน้ำมันที่ออกฤทธิ์กับพวกสิวได้ดีมากกกก (ตัวนี้เราใช้อยู่ อยากจะแนะนำมากๆ ใช้ดีสุดๆ)
และน้ำมันโจโจบาใช้ในปริมาณที่พอเหมาะก็สามารถลดการเกิดสิวได้เช่นกัน การทาน้ำมันโจโจบาลงบริเวณสิวโดยตรงจะทำให้สิวแห้งลงได้ค่ะ
อ่านทั้ง 7 เหตุผลแล้วเกิดกิเลสอยากได้น้ำมันมาซักตัวจริงๆ คุณสมบัติสารพัดประโยชน์ในขวดเดียว แต่อยากให้เพื่อนๆ ศึกษาประเภทของผิวเราให้ดีๆ ก่อนตัดสินใจซื้อนะคะ เพื่อนน้ำมันบางตัวค่อนข้างหนักหน้า อาจทำให้เกิดอาการอุดตันได้
โดยส่วนตัวเคยใช้น้ำมันโรสฮิปทำให้หน้าดูอิ่มน้ำ ดูฟู ดูชุ่มชื้นมากกกกกก แต่จะมีกลิ่นที่เหม็นหืนหน่อย และใช้ยาแต้มสิวทรีทีออยค่ะ จะบอกว่าตัวนี้ก็เริ่ดมาก ลูกรักสุดๆ ทากี่ครั้งก็ยุบ ไม่เคยได้เจ็บจากสิวอีกเลย 5555 หลังๆ พวกน้ำมันอาร์แกนก็ค่อนข้างมาแรงค่ะ อยากลองดูเหมือนกัน /สายตาเป็นประกายวิ้งวับ
เห็นประโยชน์ขนาดนี้แล้ว อย่าลืมหามาไว้ในคลังซักขวดนะคะ
