รูปภาพ:https://media.giphy.com/media/PcwpnqpwAfRK/giphy.gif

ฮัลโหลค่าา ทาสแมวชาวSistaCafeทั้งหลายยย (.❛ ᴗ ❛.)

ไหน ใครมีเจ้านาย ( เหมียว ) ครองพื้นที่บ้านบ้างยกมือขึ้นค่ะซิส\(^ヮ^)/!

ก็เจ้านายเขามาอ้อนวอนตาปริบๆ ขอกลับบ้านด้วย ก็ต้องเอากลับมาดูแลต่อที่บ้าน พอมีตัวแรก ก็จะเริ่มงอกตัวที่สอง ที่สามออกมาเรื่อยๆ อ้างกลัวแมวเหงา จริงๆ อยากเลี้ยงเอง แฮ่! ก็ความสุขของทาสแมวอะเนอะ >< ที่ฝนกรงเล็บก็มีแล้ว ฟูกนอนก็เต็มบ้านแล้ว

แต่อาหารนี่สิ บางทีทาสอย่างเราก็ไม่รู้ว่า อาหารยี่ห้อไหนดีกับเจ้าเหมียว อยากให้เขาได้ของที่ดีที่สุด ขนนุ่มลื่น น่าฟัด อายุยืน อยู่ให้เกาคางไปนานๆ ~~~

ใครกำลังหายี่ห้อ ' อาหารแมว ' ดีๆ ให้น้องเหมียวคู่ใจ วันนี้เรารวบรวมมาแล้วถึง 9 ยี่ห้อด้วยกัน! แต่ละยี่ห้อคัดมาแล้วว่าดี ( แมว ) กินแล้วขนนุ่มไม่พันกัน น่าสัมผัส สุขภาพดีแน่นอน (☆ω☆)

แอบกระซิบว่า บางยี่ห้อเป็นสูตรพรีเมี่ยม ราคาอาจสูงนิดนึงน้า แต่คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปแน่นอน  ♡ ( ̄З ̄)

พร้อมแล้วก็ไปเริ่มกันเลย!

1. Royal Canin

รูปภาพ:https://www.royalcanin.com/us/-/media/royal-canin/united-states/images/products/cats/kitten-spayed-neutered-dry-cat-food/eublhns6fizrid2efsn6.jpg

เริ่มต้นยี่ห้อแรก กับอาหารแมวสูตรพรีเมี่ยมในตำนาน' โรยัลเคไนน์ 'ที่มีทั้งอาหารสุนัขและอาหารแมว ในส่วนของน้องแมว เขาก็ออกมาหลายสูตร หลายรสชาติมากๆ และยังมีสูตรเพื่อรักษาโรคในแมวโดยเฉพาะด้วย

เช่น โรคไต โรคนิ่ว ซึ่งแต่ละสูตรจะเหมาะกับแมวในแต่ละช่วงอายุ ( ลูกแมวกับแมวชรา ก็จะกินคนละอย่างกัน )

ซึ่งถ้าใครกลัวน้องจะเป็นโรคไต ก็ขอให้หายห่วง! เพราะยี่ห้อนี้จะเคลือบกลิ่นและความเค็มไว้แค่ด้านนอก ไส้ในไม่เค็มเกินไป ปลอดภัย กลิ่นจะหอมแบบเค็มๆ นิดนึง น้องแมวชอบ!

สูตรที่ทาสแมวนิยมซื้อกัน คือสูตร indoor

( แมวเลี้ยงระบบปิด ไม่โลดโผน ไขมันต่ำ น้องกินแล้วไม่อ้วน )

กับสูตร fit32

( แมวขยับตัวเก่ง! ออกนอกบ้านเก่ง! ไม่อยู่เฉย มีสารอาหารเหมาะสม พลังงานก็จะสูงขึ้นมาหน่อย )

ข้อดีคือกินแล้วน้องขนร่วงน้อยลง ขนนุ่มนิ่ม ขนสวย เงางามน่าลูบ มักเลือกใช้เป็นมาตรฐานอาหารในฟาร์มแมว และโรงพยาบาลรักษาสัตว์ค่ะ

แต่

ข้อเสียคือ ราคาค่อนข้างสูง ถ้าในบ้านมีหลายตัว อาจใช้การผสมกับอาหารแมวที่ราคาเบาลงมาแทนนะคะ

^___^

2. Orijen

รูปภาพ:https://cdn.shopify.com/s/files/1/0086/0795/7054/products/orj_cat_and_kitten_1024x1024.jpg?v=1562413424

ต่อกันกับยี่ห้อที่สอง ทาสแมวบางคนอาจไม่คุ้นชื่อ แต่ ' Orijen ' ถือเป็นอาหารชีวจิตสำหรับน้องเหมียว ราคาก็คือสูงทะลุเพดานไปเลย เพราะหรูกว่าสูตรพรีเมี่ยมทั่วไป แต่ถือว่าคุ้มค่า!

เพราะวัตถุดิบทำจากเนื้อสัตว์แท้เป็นหลัก

ในวงการจะเรียกว่าเกรดโฮลิสติก ( holistic ) ไม่เติมสารปรุงแต่งรส ไม่ใส่สีผสมอาหาร ไม่มีสารกันบูด สารถนอมอาหารใดๆ ทั้งสิ้น

การันตีคุณภาพด้วยการ Recommend จากเว็บไซต์ นิตยสารหัวนอก และรีวิวจากเหล่าทาสด้วยกันว่ามันดีจริงนะเอ้อ! น้องกินแล้วขนนุ่ม ขับถ่ายดี สุขภาพแข็งแรง คุณภาพดี แต่ก็ถือว่าราคาเบากว่ายี่ห้ออื่นในเกรดเดียวกัน

ใครเป็นทาสแมวที่พอมีทุนทรัพย์ จ่ายไหว เจ้านายที่บ้านชอบออกไปเที่ยวข้างนอก พลังงานล้นเหลือ เราแนะนำแรงๆ เลยค่ะ

ข้อดีคือส่วนผสมเป็นเนื้อสัตว์พรีเมี่ยม เหมาะกับแมววัยรุ่น แมวผู้ใหญ่ที่มีกิจกรรมนอกบ้านเยอะ ไม่อยู่นิ่ง

แต่ข้อเสียคือ อาหารยี่ห้อนี้โปรตีนจะสูงกว่าปกติ น้องที่เป็นโรคไต โรคตับ หรือไม่ค่อยได้ขยับตัว อยู่บ้านเฉยๆ ควรหลีกเลี่ยงจะดีกว่า เพราะมีสิทธิ์ที่กินแล้วไตจะทำงานหนักขึ้นค่ะ

3. Me-O

รูปภาพ:https://www.tazeein.com/images/thumbnails/410/410/detailed/23/ME-O_Cat_Food_Gourmet_400g@2x.png

มีแมว ต้องมีโอ! จะเป็นทาสหรือไม่ใช่ทาสแมว ก็น่าจะเคยได้ยินสโลแกนนี้ของอาหารแมว ' มีโอ ' โดยเขามีหลายแบบมากๆ ให้เลือกสรร ทั้งแบบเปียกและแบบแห้ง รสชาติก็หลากหลายเหมือนภัตตาคาร ( น้ำลายสอแทนน้อง )

ปลาทูน่าเอย ซีฟู้ดเอย แซลมอนเอย มีทั้งสูตรลูกแมวกับแมวโต  สูตรธรรมดาและแบบ Gold ที่จะพรีเมี่ยมขึ้นมาหน่อย และมีสูตรป้องกันก้อนขนอุดตัน สำหรับน้องสายพันธุ์เปอร์เซียโดยเฉพาะด้วยค่ะ

ข้อดีคือราคาโอเค เหมาะกับคนเลี้ยงแมวหลายตัว หาซื้อง่ายตามซูเปอร์ มีหลายสูตรด้วย ถ้าน้องไม่ชอบสูตรไหน ก็ลองเปลี่ยนรสชาติให้ได้ ( บางยี่ห้อมีรสเดียว ถ้าจะเปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยนยี่ห้อไปเลย )


แต่ข้อเสียคือ ยี่ห้อนี้จะมีเปอร์เซ็นต์โซเดียมในอาหารค่อนข้างสูง น้องเหมียวที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคไตอยู่แล้ว ควรเลี่ยงจะดีที่สุดค่า

4. Hill's Science Diet

รูปภาพ:https://i5.walmartimages.com/asr/9b86047c-d5a6-4e07-9e8c-3e71b8494e9d_1.0eb754166605e94bae6b098384403d86.jpeg

แค่เห็นถุงก็รู้สึกพรีเมี่ยมแล้วอ่า! ' Hill's Science Diet ' เป็นอาหารแมวที่สัตวแพทย์หลายคนยอมรับ และแนะนำทาสแมวให้ซื้อให้น้องเหมียว เพราะกินแล้วช่วยลดการเป็นนิ่ว หรือโรคไตได้! กลิ่นไม่แรงจนเกินไป เค็มน้อยมากๆ แทบจะไม่เค็มเลย

ขนาดเม็ดก็ไม่ใหญ่จนกินลำบาก น้องเคี้ยวและกลืนง่าย แต่ความเซ็งของทาสคือ พอกลิ่นจาง เจ้านายก็ไม่อยากจะกิน บางทีเทให้ตั้งเยอะ เหมียวเมินก็มี แงง เงินชั้นน ;_;

ข้อดีคือ ถ้าเทียบอาหารเป็นยา ยี่ห้อนี้ก็เป็นยาในรูปแบบอาหารที่ดีที่สุด! ช่วยแก้โรคต่างๆ ของแมว เช่น ขี้ตา น้ำตาไหล อึเหลว อึติดก้น มีทาสแมวหลายคนให้กิน Hill's แค่เดือนเดียวอาการพวกนี้ก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด


แต่ข้อเสียคือราคาจะซีดๆ หน่อย ต้องลงทุนนิดนึง แต่ถ้าเลี้ยงตัวเดียวก็กินได้นานอยู่ และราคาที่ไม่ยั่วยวนสำหรับน้องนี่แหละ แต่แก้ได้ แค่เอาไปผสมกับอาหารเกรดตลาดทั่วไปที่กลิ่นหอมๆ นะคะ ^^

5. Friskies

รูปภาพ:https://cdn.shopify.com/s/files/1/2382/0223/products/41998-1554918371_700x700.jpg?v=1562123301

ชื่อคุ้นตีคู่มากับมีโอเลยทีเดียว! จะทาสแมวหรือไม่ก็ต้องรู้จัก ' ฟริสกี้ ' อาหารแมวเกรดทั่วไป ที่เดินเข้าซูเปอร์แผนกอาหารแมว ยังไงก็ต้องเจอ! เหมาะกับคนที่เลี้ยงแมวค่อนข้างเยอะ ราคาไม่แรง ซื้อให้น้องกินได้เรื่อยๆ

วัตถุดิบตัวแรกของยี่ห้อนี้จะเป็นข้าวโพดป่น ( ground yellow corn ) และเนื้อ ซึ่งเมื่อแมวกินแล้วจะไม่ดูดซึมข้าวโพดได้ กินแล้วถ่ายออกหมด ถ้าอยากให้น้องตัวโตจ้ำม่ำ ยี่ห้อนี้อาจไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่ จะได้หุ่นผอมเพรียว ตัวเล็กๆ แทน

ข้อดีคือราคาน่ารัก ไม่สะเทือนกระเป๋าตังค์ และไม่ค่อยทำให้แมวอ้วน มีหลายสูตรให้เลือก เช่น ซีฟู้ด ปลาทูน่าและซาร์ดีน เนื้อไก่และปลา ทำให้แมวไม่เบื่อ

แต่ข้อเสียคือโซเดียมสูง ( เค็มนั่นแหละ ) ถ้าจะให้กินยี่ห้อนี้ ต้องดูแลให้น้องดื่มน้ำมากๆ ตามด้วย ไม่อย่างนั้นจะเสี่ยงเป็นโรคไตได้ค่ะ

6. Maxima

รูปภาพ:https://vetstreet-brightspot.s3.amazonaws.com/80/b6/39beb51d4217b7bcb173837c621b/cat-wagging-tail-thinkstockphotos-466241136-335lc050415jpg.jpg

แม้จะชื่อและหน้าตาถุงเหมือนอาหารแมวต่างประเทศ แต่ที่จริงเขาผลิตในประเทศไทยนะคะซิส! ราคาจึงไม่แรงมาก แต่ก็ถือว่าพรีเมี่ยมพอสมควร วัตถุดิบหลักเป็นเนื้อแกะ หอมมัน เหมาะกับแมวที่ชอบอาหารมีรสชาติ ถ้างบไม่เยอะแต่อยากสปอยล์น้องบ้าง แนะนำ ' Maxima ' เลย!

การันตีความปลอดภัยจากหน่วยงานที่ดูแลมาตรฐานอาหารสัตว์โดยตรง ( AAFCO ) ด้วยค่ะ ใครกลัวเจ้านายกินแล้วเป็นโรค จะมีส่วนผสมอันตรายหรือเปล่า? ก็หมดห่วงได้เลย ^__^

ข้อดีคือ ถือเป็นอาหารราคากลางๆ ที่คุณภาพโอเค แมวกินแล้วไม่ป่วย ไม่มีสีผสมอาหาร ซึ่งดีต่อน้องในระยะยาว กินแล้วน้องขนแน่น ขนนุ่ม แข็งแรงขึ้น ตัวแน่นขึ้น ขนร่วงน้อยลง


แต่ข้อเสียคือเม็ดค่อนข้างใหญ่ แมวตัวเล็ก ลูกแมวหรือแมวอายุมากแล้ว อาจเคี้ยวยากไปสักนิด

7. Avoderm

รูปภาพ:https://vetstreet-brightspot.s3.amazonaws.com/80/b6/39beb51d4217b7bcb173837c621b/cat-wagging-tail-thinkstockphotos-466241136-335lc050415jpg.jpg

ยี่ห้อนี้เป็นเกรดซูเปอร์พรีเมี่ยม เห็นชื่อยี่ห้อ ' AvoDerm ' แถมมีรูปอะโวคาโดแบบนี้ ใช่แล้วค่ะ! จุดเด่นของเขาคือ หนึ่งในส่วนผสมหลักคือ ' น้ำมันอะโวคาโด ' ซึ่งเป็นไขมันดี

เมื่อเจ้าเหมียวกินเข้าไป ก็จะช่วยลดอาการอักเสบต่างๆ แถมช่วยบำรุงขน ให้ขนแน่นสวย เงางาม มีน้ำหนัก ขนที่เคยร่วงก็จะร่วงน้อยลงค่ะ

ข้อดีคือมีหลายสูตรให้เลือก เช่น รสไก่ รสปลาแซลมอนและข้าว รสปลาเฮอร์ริ่ง มีทั้งของลูกแมวและแมวโต บำรุงผิวหนังและขน เม็ดเป็นรูปสามเหลี่ยม ไม่ใหญ่มาก น้องเคี้ยวได้ไม่แข็งเกินไป เหมาะกับแมวชรา หรือแมวที่ฟันไม่ค่อยดี และบำรุงขนได้ครบเครื่อง!

แต่ข้อเสียคือเนื่องจากใช้เนื้อสัตว์เป็นส่วนผสมหลัก โปรตีนจะสูง ไม่เหมาะกับแมวที่ไม่ค่อยขยับตัว มีกิจกรรมน้อย อาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคไตได้ค่ะ

8. Purina One

รูปภาพ:https://shop.countdown.co.nz/Content/ProductImages/large/17800151337.jpg/Purina-One-Dry-Cat-Food-Healthy-Metabolism.jpg

เป็นที่กล่าวขานกันทั้งในโลกโซเชียล และเหล่าคนรักแมว ครองอันดับอาหารแมวขวัญใจคน Pantip ประจำปี 2019 เลยล่ะค่ะ กับ ' Purina One ' ด้วยคุณภาพระดับพรีเมี่ยม แต่ผลิตในไทย เป็นยี่ห้อไทย ราคาไม่สูงจนเกินเอื้อม

โดยปัจจุบันจะมีสูตร indoor เพื่อแมวเลี้ยงในบ้าน ไขมันน้อยลง เพื่อน้องที่ไม่ค่อยขยับตัวออกกำลังกาย แมวจะอ้วนยาก เหมาะกับสาวๆ ที่กลัวว่าเจ้านายจะตัวใหญ่จนเป็นโรคนะคะ

ข้อดีคือมีหลายสูตรให้เลือก ทั้งปลาแซลมอน ปลาทูน่า มีทั้งของลูกแมวและแมวโต โปรตีนสูง เหมาะกับแมวที่กำลังโต กินแล้วขนนุ่มลื่น ขนร่วงน้อย กลิ่นอึไม่แรง น้องเหมียวกินง่าย


แต่ข้อเสียคือขนอาจไม่นุ่มเท่าสูตรพรีเมี่ยมราคาแพง อาจยังมีสัมผัสสากๆ อยู่บ้าง และแมวบางตัวอาจกินแล้วท้องผูก อึกลิ่นแรงขึ้น ต้องลองทดสอบกับน้องแมวเป็นเคสๆ ไปค่ะ

9. Whiskas

รูปภาพ:https://5.imimg.com/data5/FY/SI/MY-28642098/whiskas-cat-food-tuna-flavour-1kg-500x500.jpg

ปิดท้ายด้วยอาหารแมวสุดเลิฟของสาวๆ ที่ทุกคนต้องเคยได้ยินชื่อ ' วิสกัส ' การันตีด้วยยอดขายอันดับ 1 ในไทย และแพ็กเกจสีม่วงที่คุ้นตา ราคาทั่วไป หาซื้อง่าย ไปแผนกอาหารแมวต้องเจอ!

แยกเป็นลูกแมว, 1 ขวบขึ้นไป ( วัยผู้ใหญ่ ) และ 7 ขวบขึ้นไป ( วัยชรา ) มีทั้งแบบแห้งและแบบเปียก ผ่านคุณภาพการผลิตตามมาตรฐานของ GMP

ข้อดีคือมีหลายสูตร หลายรสชาติ รสชาติอร่อยสำหรับน้องเหมียว สารอาหารครบถ้วน เหมาะกับน้องในแต่ละช่วงวัย ช่วยในการเจริญเติบโต สุขภาพแข็งแรง ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทาน

แต่ข้อเสียก็คือปริมาณโซเดียมจะค่อนข้างสูง ( ที่จริงอาหารแมวเกรดทั่วไปจะโซเดียมสูงทั้งนั้น ) ต้องให้น้องดื่มน้ำตามมากๆ ไม่อย่างนั้นก็เสี่ยงเป็นโรคไต หรือเป็นนิ่วได้ และด้วยส่วนผสม ก็อาจไม่ได้ทำให้น้องขนนุ่มมากมาย เท่าสูตรพรีเมี่ยมค่ะ

รูปภาพ:https://img.buzzfeed.com/buzzfeed-static/static/2015-02/17/16/enhanced/webdr05/anigif_original-grid-image-6323-1424207087-9.gif?crop=625:413;0,1&downsize=400:*&output-format=auto&output-quality=auto

------------------

ทาสเหมียวอ่านมาถึงตรงนี้ สนใจรับยี่ห้อไหนให้น้องเหมียวบ้างเอ่ย? เราคัดมาให้เน้นๆ ทั้งแบบเกรดทั่วไปและเกรดพรีเมี่ยม ทุกยี่ห้อก็จะช่วยให้น้องขนนุ่ม แข็งแรงอยู่แล้ว แต่ต้องยอมรับว่ายี่ห้อที่แพง ก็จะมีส่วนผสมของเนื้อมากกว่า โปรตีนสูงกว่า บำรุงขนได้ดีกว่า อันนี้ก็ต้องแล้วแต่งบประมาณเลย หรือจะซื้อทั้งสองอย่างมาผสมๆ กันก็ได้นะคะ น้องจะได้กินของดี แต่เราไม่หมดตัวเนอะ ><ทั้งนี้ แมวแต่ละตัวก็ถูกกับอาหารต่างยี่ห้อกัน ลองทดสอบดูก่อน แล้วเลือกอันที่น้องโอเคที่สุดนะคะ ^^ วันนี้ไปแล้ว เจอกันใหม่คราวหน้าน้าา บ๊ายบายค่า