เมื่อประมาณปี 2554 คุณแม่เดินทางกลับจากประเทศสหรัฐอเมริกา ได้นำน้ำมันปลากับวิตามินบีรวมมาให้ข้าพเจ้า 2 ขวด ซึ่งขณะนั้นข้าพเจ้าป่วยเป็นโรคทางสมอง จนกระทั่งปี 2562 ข้าพเจ้าได้รู้จักกับ SistaCafe จึงเขียนบทความเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยเฉพาะอาหารเสริม และหนึ่งในนั้น คือ แนทบี ของ Mega We care

วิตามินบีรวมเป็นวิตามินที่จำเป็นต่อการทำงานของสมอง เนื่องจากเมื่อต้องใช้ความคิดหรือการเรียนรู้จดจำ วิตามินบีจะรวมกับน้ำตาลกลูโคสในเลือดผลิตสารสื่อประสาทชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า “อะซิทิลโคลีน” ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยบำรุงสมอง เพิ่มสมาธิ ความจำ และช่วยให้ระบบประสาททำงานเป็นปกติ ดังนั้นร่างกายจึงควรได้รับวิตามินบีในปริมาณที่เพียงพออยู่เสมอ

นอกจากนี้ เมื่อมีความเครียด ร่างกายจะปรับตัวโดยการสร้างสารสื่อประสาทต่างๆ โดยเฉพาะ “เซโรโทนิน” ออกมาเพื่อทำให้รู้สึกผ่อนคลายและอารมณ์ดีขึ้น ซึ่งในกระบวนการสร้างสารสื่อประสาทเหล่านี้จำเป็นต้องใช้วิตามินบีรวม ( B-complex ) ในการสังเคราะห์ ดังนั้น หากร่างกายอยู่ในภาวะเครียดสะสม วิตามินบีก็จะถูกใช้จนหมดลงอย่างรวดเร็ว

10 เคล็ดลับผ่อนคลายจากความตึงเครียด

1. หัวเราะบ่อยๆ

เพราะทุกครั้งที่คุณหัวเราะ ร่างกายจะหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินออกมา สารนี้จะเป็นตัวช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและสดชื่น นอกจากนี้การหัวเราะยังช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานดีขึ้น เลือดจึงไปเลี้ยงสมองได้มากขึ้น จึงสามารถป้องกันการเกิดโรคทางระบบประสาทและสมองได้ อีกทั้งผลการวิจัยชี้ว่า การหัวเราะจะช่วยให้ร่างกายได้พักผ่อนและทำให้รู้สึกเหมือนว่าร่างกายได้ออกกำลังกายอีกด้วย



2. ยิ้มให้กับตัวเอง

การยิ้มให้กับตัวเองในทุกๆ ครั้งที่รู้สึกแย่ ถือว่าเป็นการให้กำลังใจตังเองที่ดี การยิ้มยังช่วยให้กล้ามเนื้อและเส้นประสาทบริเวณด้านหน้าศีรษะยืดออก ส่งผลให้ระบบการทำงานของระบบประสาทและการไหลเวียนเลือดดีขึ้น

3. แช่น้ำร้อนคลายความเครียด

การได้แช่น้ำร้อนหรือน้ำอุ่นจะช่วยให้ทุกส่วนของร่างกายได้ผ่อนคลายจากความตึงเครียด ส่งผลให้เส้นประสาทและเส้นเลือดในสมองที่เกร็งและหดตัวอยู่ ขยายตัวออก จึงเป็นการลดความเสี่ยงในการเกิดเส้นเลือดในสมองตีบ แต่ไม่ควรแช่นานเกินครึ่งชั่วโมง เพราะอาจทำให้เกิดอาการเหนื่อยอ่อนได้ คุณอาจอาบน้ำเย็นตามหลังจากที่แช่น้ำอุ่นแล้วเพื่อเป็นการกระชับรูขุมขนและช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง



4. เทียนหอมลดความเครียด

กลิ่นหอมจากเทียนหอมจะช่วยให้สมองและระบบประสาทได้ผ่อนคลาย และรู้สึกสงบมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในเวลาที่เกิดความเครียด กลิ่นหอมจากเทียนหอมจะช่วยกระตุ้นเส้นประสาทที่ทำหน้าที่ในการรับกลิ่นทำงานได้ดีขึ้น แนะนำเป็นกลิ่นตะไคร้หอมจะช่วยคุณลดอาการซึมเศร้า และลดอาการปวดศีรษะได้

5. ออกกำลังกาย

การออกกำลังกายเป็นยาอย่างดีที่จะช่วยให้คุณคลายจากความวิตกกังวล ทั้งยังช่วยป้องกันโรคได้สารพัด รวมทั้งโรคที่เกิดขึ้นพร้อมๆ กับความเครียด เช่น โรคซึมเศร้า โรคนอนไม่หลับ โดยเฉพาะถ้าคุณมีเพื่อนที่ออกกำลังกายด้วยกัน การได้คุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นก็จะช่วยลดความตึงเครียดได้อีกด้วย



6. ดื่มน้ำเปล่าให้สดชื่น

น้ำเปล่าจะช่วยในการปรับสมดุลการทำงานของต่อมใต้สมองให้หลั่งสารเคมีออกมาอยู่ในระดับปกติ และยังช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น สมอง ระบบประสาท ระบบย่อยอาหาร ทำงานดีขึ้น โดยเฉพาะถ้าคุณรู้สึกว่าคิดอะไรไม่ออก ลองหยิบน้ำเปล่ามาดื่มจะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น

7. นวดลดความเครียด

เพราะทุกครั้งที่เกิดอาการเครียด กล้ามเนื้อ ระบบประสาท และเส้นเลือดจะเกิดอาการหดและเกร็ง ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้น้อย การนวดจึงเป็นวิธีการผ่อนคลายกล้ามเนื้อและทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น แนะนำให้คุณลองนวดที่ขมับเบาๆ ประมาณ 3-5 นาที จะทำให้รู้สึกว่าเบาสมองมากขึ้น วิธีนี้จะเป็นการกระตุ้นให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้ดียิ่งขึ้น

8. เต้นลีลาศ

ลองหาคอร์สเรียนเต้นลีลาศหลังเลิกงานหรือวันหยุด เพราะการเต้นลีลาศจะทำให้คุณได้อยู่กับบทเพลง จิตใจจดจ่อกับจังหวะและท่าทางในการเต้น จึงช่วยให้คุณลืมความเครียดได้ เมื่อสมองหลั่งสารนิวโรทีฟินส์ ( Neurotrophins ) ออกมา สารนี้เองจะช่วยเพิ่มปริมาณของเซลล์สมองให้มากขึ้น

9. ร้องคาราโอเกะ

การร้องคาราโอเกะก็เหมือนกับการหากิจกรรมสนุกๆ ทำ เพื่อให้ลืมความเครียดโดยที่ไม่รู้ตัว ข้อดีของการร้องคาราโอเกะ คือ ช่วยจัดคลื่นสมองให้เป็นระเบียบ ส่งผลให้คลายเครียดได้ เพราะการที่ได้ตะโกน ได้ร้องเพลงออกมา จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและได้ปลดปล่อย หลังจากที่ได้ร้องเพลงแล้ว จะรู้สึกว่าคุณสามารถหาทางแก้ปัญหาเหล่านั้นได้ง่ายขึ้น

10. นอนให้เพียงพอ

การนอนทำให้ร่างกายสามารถต้านทานกับความเครียดได้มากยิ่งขึ้น เพราะหากคุณนอนไม่เพียงพอหรือมีปัญหาการนอนไม่หลับ จะทำให้รู้สึกเพลียในตอนกลางวัน และถ้าเจอกับปัญหาเครียดๆ ก็จะยิ่งทำให้อาการเป็นมากขึ้น ดังนั้นการนอนครบ 8 ชั่วโมงจึงช่วยให้ร่างกายปรับนาฬิกาชีวิตได้ถูกต้อง ช่วยให้คุณนอนหลับได้ง่ายขึ้น แม้มีภาวะความเครียด



เพราะความเครียดเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่บั่นทอนสุขภาพโดยรวม รวมทั้งระบบประสาทและสมอง ทำให้ระบบเหล่านี้เกิดอาการผิดปกติทั้งทางร่างกายและจิตใจ อาจรุนแรงถึงขั้นเป็นอัมพาต ดังนั้นคุณจึงควรรู้ว่าวิธีผ่อนคลายความเครียดด้วยวิธีไหนที่เหมาะกับคุณ เพื่อที่คุณจะได้เรียนรู้วิธีการรับมือกับความเครียดและมีความสุขกับการดำเนินชีวิตมากขึ้น

รูปภาพ:https://www.pingfai.com/wp-content/uploads/2018/03/%E0%B8%9B%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%94.jpg