‘ อยากชวนตบ ! ตบกันมั้ย !? ’

จะว่าท้าตบก็ได้นะ แต่เราไม่ได้ท้าทายมาตบหน้าด้วยมือ อย่าเกรี้ยวกราดขนาดน้านแค่จะชวนมาตบด้วยแป้งฝุ่นให้สบายใจ เติมความสวยให้ผิวหน้าระหว่างวัน เซฟความหมอง ความมันให้ผิวเปล่งประกายมีออร่าเท่านั้นเอง!อะใครง้างมือ กางแขนซะเต็มที่ก็หุบลงซะเดี๋ยวนี้ แล้วหยิบแป้งฝุ่นตัวโปรดของตัวเองขึ้นมาตบๆๆ แตะๆๆ ให้สบายใจแล้วตามเรามาทางนี้ดีกว่า

รูปภาพ:

ที่อยู่ๆ มาชวนตบหน้าก็เพราะครั้งนี้เรารวบรวม5แป้งฝุ่นตัวฮิตมาให้น่ะสิ เป็นแป้งฝุ่นที่หลายคนเทคะแนนให้ด้วยจุดเด่นของแต่ละแบรนด์ที่แตกต่างกัน แต่ก็ล้วนแล้วแต่ช่วยเซฟผิวหน้ามันหน้าหมองให้ผิวผ่องได้ตลอดวันว่ากันว่าทั้ง 5 แบรนด์นี้ติดทำเนียบ แป้งฝุ่นแห่ง pantip และติดโผรีวิวแป้งฝุ่นดีๆ ของหลายเจ้าด้วยล่ะ

จะรอช้าอยู่ใย ไปเช็คหน่อยว่าแป้งฝุ่นที่เราใช้ๆ กันอยู่น่ะ ติดTop แป้งฝุ่น 5 อันดับเหล่านี้รึเปล่า ? แล้วที่ว่าดีจนต้องพกติดตัว ถึงขนาดเป็นแป้งฝุ่นกู้ชีพน่ะจะดียังไง ดีขนาดไหน ไปเช็คกันด้วยตัวเองเลย!

◎ แป้งฝุ่นเหมาะกับใคร ? ต้องใช้ด้วยหรอ ? ◎

- - - - - - - - - - - - - - -

รูปภาพ:

หลายคนอาจจะสงสัยว่าจำเป็นต้องพกแป้งฝุ่นเป็นของคู่ชีพขนาดนั้นเลยหรอ? ตอบเลยว่า ก็ใช่น่ะสิลองนึกภาพตามดูว่าเวลาที่เราเดินจากรถไฟฟ้ามาที่ทำงานตอนเช้า หรือเดินไปซื้อของกินที่ตลาดตอนเที่ยง หรือแม้แต่อยู่ในห้องแอร์ทั้งวัน ทำงานไปทำงานมาจนกลับบ้าน มันจะมีโมเม้นต์ที่แอบตกใจเล็กๆ ตอนเห็นหน้าตัวเองในกระจก แม้จะแค่จังหวะเดินผ่านกระจกแว้บๆก็งงใจแล้วว่าผิวหน้าเรามันระหว่างวันขนาดนี้เลยหรอ

นั่นแหละโมเม้นต์ที่ทุกคนต้องเคยเจอ และมักจะแก้ปัญหาหน้ามันนั้นด้วยการซับหน้ามันบ้าง ตบแป้งบ้าง ซึ่งตรงนี้แหละที่แป้งฝุ่นตอบโจทย์ได้ดีทำให้เราอุ่นใจได้ด้วยลักษณะของแป้งฝุ่นที่เป็นผงเนียนละเอียด เนื้อโปร่ง ค่อนข้างบางเบากว่าแป้งพัฟ จึงไม่ต้องกลัวเรื่องการกดแป้งทับแล้วทำให้หนักหน้า หมักหมม หรือเกิดการทับถมของสิ่งสกปรกตกค้างบนใบหน้าจนพัฒนาเป็นสิว หรือความอุดตันเลยเพราะงั้นหากหน้ามันหน้าหมองระหว่างวันขึ้นมา ผิวหน้าเราก็จะดูดีขึ้นได้ด้วยแป้งฝุ่นเหล่านี้ แป้งฝุ่นจึงกลายเป็นฮีโร่ช่วยเซฟผิวหน้าระหว่างวันที่ใครๆ ก็มีได้ ใช้ได้กับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีผิวแห้ง เพราะเนื้อแป้งฝุ่นบางเบา จะไม่ไปดูดซับความชื้นบนใบหน้ามากเกินไป ใช้แตะๆ เพียงเบาๆ ให้ผิวหน้าไม่มันเยิ้มก็พอแล้ว

◎ แป้งฝุ่นดียังไง ? ◎

- - - - - - - - - - - - - - -

ด้วยความที่แป้งฝุ่นมีเนื้อละเอียดบางเบาจึงมักใช้ตบบางๆ รองพื้นก่อนลงเครื่องสำอาง ช่วยให้เมคอัพติดทนดี หรือบางคนก็มักใช้เป็นขั้นตอนสุดท้ายของการแต่งหน้าเพราะช่วยดูดซับความมัน ทำให้ผิวหน้าดูเนียน ไม่มันเลื่อมจนเกินไป

และอีกหนึ่งประโยชน์ของแป้งฝุ่นคือช่วยให้เมคอัพเฉพาะส่วนมีความติดทน เห็นสีชัดยิ่งขึ้น เช่นบริเวณที่มีความมันง่าย เครื่องสำอางเลือนง่ายๆ อย่างเปลือกตาและคิ้ว ลองตบแป้งเบาๆ ก่อนลงสีเมคอัพจริง รับรองเอาอยู่ หรือจะเอาไว้แตะทับลิปสติกที่ทาแล้วมันวาวเกินไปให้ดูแมตต์ขึ้น หรือลดความมันของเส้นผมก็ยังได้และที่สำคัญคือแป้งฝุ่นยังช่วยคุมมันบนใบหน้า ช่วยกู้หน้าหมอง รวมถึงช่วยอำพรางเส้นริ้วรอยต่างๆ บนใบหน้าได้ด้วยอะใครสะดวกใช้แบบไหนก็ลองตบไปแบบนั้นเลยจ้า

◎ ชวนมาตบ..ด้วย ' Top 5 แป้งฝุ่นคู่ชีพ ' #savemyfaceplease ◎

- - - - - - - - - - - - - - -

เอาล่ะได้เวลาเข้าเรื่อง และนี่ก็คือ 5 อันดับแป้งฝุ่นที่มีความดีงามโดดเด่นแตกต่างกันไป แต่เอ๊ะ ! ทำไมถึงกลายเป็นแป้งฝุ่นคู่ชีพที่ใครๆ ก็ไม่อยากเอาออกจากกระเป๋าไปได้ เอ้าเลื่อนไปดูให้ไวเลยจ้า

▹1. แป้งฝุ่น เจ้านาง

รูปภาพ:

ตัวแรกขอแนะนำแป้งฝุ่นเจ้านาง Chaonang Diamond Translucent Powderก่อนเลย ความน่าสนใจคือเค้าเป็นแป้งฝุ่นที่มีเนื้อสีอมเหลือง เน้นโทนเดียวกับผิวซึ่งสามารถใช้ได้กับทุกโทนสีผิวโดยที่ไม่ทำให้หน้าลอย แต่กลับกลมกลืนปรับเข้ากับสีผิวไปได้อย่างเนียนๆ

และด้วยความที่เนื้อแป้งละเอียดบางเบา จึงวางใจเรื่องความโปร่งสบายผิว ไม่หนักหน้า ไม่อุดตัน ช่วยปรับสีผิวให้หน้าสว่างกระจ่างใสได้แบบที่ยังดูเป็นธรรมชาติ และที่สำคัญคือคุมมันได้อยู่หมัดด้วยการกระเจิงแสงของเพชร (Diamond Powder) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีจากประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว

ส่วนใครที่กังวลเรื่องริ้วรอยล่ะก็ ขอบอกว่าแป้งฝุ่นเจ้านางก็ช่วยอำพรางได้จ้า เพราะแม้แป้งฝุ่นจะช่วยคุมมันได้ดีมาก เป๊ะตลอดวัน แต่ก็ยังให้ความชุ่มชื่นจากสารที่ช่วยบำรุงผิวอย่าง Hyaluronic Acid และ PCA Group ที่เป็นอนุพันธ์จากกรดอะมิโนซึ่งเป็น NMF (Natural Moisturizing Factor)

จุดนี้เลยต้องยอมรับในจุดเด่นของแป้งฝุ่นเจ้านางเค้าที่ช่วยคุมมัน ทำให้ผิวผ่อง ดูมีออร่าอย่างเป็นธรรมชาติ และสามารถใช้ได้ทุกสีผิวแถมพัฟก็นุ่มนิ่มไม่บาดหน้า ดีไปอีก! เวลาใช้ก็โรยแป้งฝุ่นในปริมาณพอดีๆ ลงมาบนพัฟแต่งหน้าแล้วค่อยๆ ตบเบาๆ พลางกดให้แป้งติดกับผิวหน้าค่อยๆ กด+ตบไปจนทั่วใบหน้า ก็จะได้หน้าใสวิ้งคืนมาละ เค้ามาในราคาน่ารักด้วยนะ 319.- เท่านั้นจ้า

▹2. แป้งฝุ่น Bennye

รูปภาพ:

ตัวถัดมาสาวๆ สายแป้งฝุ่นอาจจะพอคุ้นหน้าคุ้นตากันบ้าง นั่นคือแป้งฝุ่น Bennye Luxury Powderจากอังกฤษนั่นเองตัวนี้ขึ้นชื่อเรื่องคุณสมบัติที่สามารถคุมมันได้ดี เนื้อแป้งก็ค่อนข้างละเอียด เบา เป็นแป้งโปร่งแสงและไม่ผสมชิมเมอร์กลิตเตอร์กวนใจใดๆ จึงดูมีความเป็นธรรมชาติพอสมควร แต่สำหรับแป้งฝุ่นตัวนี้จะมีเฉดสีให้เลือกใช้ตามความชอบ เป็นสีโทนชมพู โทนเหลือง และสีโทนผิวแทน ต้องเลือกเฉดให้เข้ากับสีผิวของตัวเองกันนะ ถึงจะใช้แล้วเกิดที่สุด

แป้งฝุ่นเจ้านี้มาในรูปแบบขวดพลาสติก อาจจะเหมือนพกแป้งกระปุก ต้องเคาะๆ กันหน่อย จะใช้ก็ค่อยๆ เทกันล่ะ เดี๋ยวแป้งหกออกมาเกินจำเป็นที่ต้องใช้จะเสียดายเอาได้ ใครสนใจลองหามาใช้กันดู ว่ากันว่าเมื่อเทียบกับคุณภาพก็ถือว่าสมราคา กระปุกละ 420.- เลยล่ะ

▹3. แป้งฝุ่น Three

รูปภาพ:

แป้งฝุ่นตัวถัดมาคือThree Ultimate Diaphanous Loose Powderหรือแป้ง Threeที่ใครๆ ก็รู้จักชื่อเสียงเรียงนามกันดี โดยรุ่นนี้จะมีให้เลือก 3 สูตร สูตรละ 2 สี สาวๆ จะเอามาใช้ก็เลือกแมตช์สีให้เข้ากับผิวหน้ากันดีๆโดยตัวที่ฮอตอย่างสูตร Glow จะโดดเด่นที่เป็นแป้งฝุ่นเนื้อนุ่มละเอียดมาก เพราะมีตาข่ายกรองแป้งในตลับ แป้งจึงออกมาละเอียด เหมาะกับงานผิวสุดๆ ใครที่ชอบเนื้อแป้งฝุ่นนุ่มเนียนบางเบาจะต้องโดนใจ

อีกจุดที่สาวกเค้าประทับใจคือพัฟที่เนื้อนุ่มนิ่ม ละมุนถึงขนาดที่ว่าแตะแป้งที่หน้าทีคือฟินมาก แต่แนะนำว่าแป้งฝุ่นนี้เหมาะกับคนที่ไม่เน้นเรื่องคุมมัน แต่ต้องการเน้นปกปิดและอยากให้ผิวดูสุขภาพดี เพราะมีส่วนผสมจากน้ำมันธรรมชาติช่วยเพิ่มความเปล่งประกายให้ผิวดูชุ่มชื่น เหมาะกับคนผิวแห้งและผิวผสมมากกว่าผิวมัน

ส่วนแพ็กเกจจะมาในไซส์ใหญ่พอประมาณ พกแล้วอาจแน่นๆ กระเป๋าและอาจจะจุกๆ กับราคาพอสมควร มาในราคา 1,950.- จ้า

▹4. แป้งฝุ่น ศรีจันทร์

รูปภาพ:

สำหรับแป้งฝุ่นของศรีจันทร์Srichand Translucent Powderเจ้านี้เด่นเรื่องคุณสมบัติของเนื้อแป้งที่เหมาะกับคนผิวแพ้ง่าย เพราะเป็นแป้งฝุ่นโปร่งแสงที่ปราศจากสารกันเสีย แอลกอฮอล์และน้ำหอมต่างๆ แต่มีส่วนผสมของ Defensil plus ซึ่งเป็นสารสกัดจากธรรมชาติจากสวิตเซอร์แลนด์ที่อ่อนโยนต่อผิว ป้องกันอาการแพ้และลดสาเหตุของผื่นคัน เพราะงั้นจึงทำให้ไม่แพ้ ไม่อุดตัน ไม่ระคายเคืองผิว

สำหรับคนที่อยากได้ลุคบางเบา เน้นปกปิดเบาๆ ให้ใช้แปรงกับแป้งฝุ่น ไม่ต้องใช้พัฟนะ และแป้งฝุ่นเจ้านี้ก็ไม่ต้องเลือกโทนสีให้เข้ากับสีผิวเพราะแป้งฝุ่นโปร่งแสงใช้ได้กับทุกสีผิว คุมมันได้ค่อนข้างดี มาในตลับพกพาง่าย ตลับละ 350.-

▹5. แป้งฝุ่น ลอร่า

รูปภาพ:

และแป้งฝุ่นตัวสุดท้ายก็คือแป้งฝุ่นลอร่าในตำนาน นั่นคือแป้งฝุ่นโปร่งแสง Laura Mercier Loose Setting Powder สูตร #Translucentตัวนี้มีคุณสมบัติที่ค่อนข้างครบทั้งความเนียนละเอียดของเนื้อแป้ง สีแป้งเป็นสีอมเบจไม่ขาวแต่ก็ไม่ออกสีชัดไป ช่วยทำให้ผิวสว่างขึ้นได้แบบไม่ลอย ไม่ทำให้วาวเพราะไม่มีประกายชิมเมอร์

จุดเด่นเค้าคือคุมมันส่วนเกินได้ดีทีเดียว เหมาะกับคนผิวมันหรือคนที่เน้นให้หน้าดูแมตต์ โดยเลือกใช้พัฟสำหรับลุคที่เน้นแมตต์ หรือต้องการปกปิด และเลือกใช้กับแปรงถ้าอยากได้ลุคใสๆ ธรรมชาติๆ หน่อยแต่ต้องยอมรับว่าแป้งฝุ่นตัวนี้มาในราคาที่สมน้ำสมเนื้อกับความเป็นเคาน์เตอร์แบรนด์ คือ 1,590.- และมีตลับค่อนข้างหนา พกแล้วก็จะแน่นๆ กระเป๋าซักหน่อยล่ะนะ

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

รูปภาพ:

เอ้า ครบซะแล้วล่ะ!

นี่แหละค่ะ แป้งฝุ่น 5 แบรนด์ที่เราอยากชวนสาวๆ มาตบกัน!คอนเฟิร์มเลยว่า ทั้ง 5 แบรนด์นี้เหมาะเป็นแป้งฝุ่นคู่ชีพควรพกไว้เซฟหน้าหมอง หน้ามัน แบบไม่ต้องกลัวอุดตัน ใช้แล้วสบายผิวแน่นอน ที่เหลือก็อยู่ที่แต่ละคนแล้วล่ะว่าจะชอบสไตล์ ชอบจุดเด่นของตัวไหนเป็นพิเศษ หรือลองใช้จริงแล้วรู้สึกว่าตัวไหนถูกกับผิวหน้า หรือจะเลือกตามขนาดที่ต้องพก หรือจากงบประมาณที่มี อันนี้ก็ไม่ว่ากัน เพราะสำหรับเราก็เน้นแป้งฝุ่นที่คุมมัน เพิ่มความชุ่มชื้นได้ก็ดี ขอเน้นที่พกพาง่าย และราคาเอื้อมถึงได้ ก็โอเค

ส่วนใครใช้แป้งฝุ่นอันไหนอยู่ แต่พออ่านจบแล้วเกิดอยากจะลองของใหม่ก็ไปลองดูได้จะได้รู้กันไปว่าตกลงจะตบ ไม่ตบ!