
เอ...กับใครคนนั้นจริง ๆ
แล้วเรารู้สึก“หลง”ว่า“รัก”
หรือเปล่าน้า หรืออาจจะแค่”ชอบ”เฉยๆ
เอ๊ะ เอ๊ะ!!!!!
สวัสดีเพื่อนๆ ชาวSistaCafeทุกคนค่ะเพื่อนๆ เคยสงสัยกันไหมคะว่า ทำไม้ ทำไม ไมนะ สิ่งที่เรารู้สึกต่อบุคคลหนึ่งนั้น สรุปแล้วคือความรักความชอบหรือความหลงกันแน่ หรือว่าทั้งสามความรู้สึกนี้อาจจะรวมและพัลวันอยู่ในตัวเราซึ่งยากที่จะแยกและทำความเข้าใจให้แน่ชัด ความรู้สึกนี้กำลังคลุกรุ่นเป็นอายสีชมพูที่ลอยลละล่องบนหัวของหนุ่มสาวคู่รักทุกคู่ ที่เพิ่งจะโดนคิวปิดแผลงศรปักลงมาที่อก มองอะไรก็เป็นสีชมพูไปซะหมด แล้วจะทราบได้ยังไงละคะว่า สรุปแล้ว เรา "ชอบ" "หลง" หรือ"รัก"เค้าจริง ๆ กันแน่ และแต่ละความรู้สึกนั้นต่างกันอย่างไร
เกิดจากอะไร???
นักปรัชญาหลายคนนั้นมีความเห็นที่ตรงกันว่า ความรักนั้นเป็นสิ่งลี้ลับ
ยังไงน่ะเหรอ คงจะเหมือนเขาวงกตซะละมั้ง
เชื่อว่าเพื่อน ๆ ทุกคนอาจเคยตั้งคำถามว่าอะไรที่ดึงดูดเรากับคนๆ หนึ่งเข้ามาหากันการตกหลุมรักคนคนหนึ่งจริง ๆ แล้วมันคือความรู้สึกยังไงกันแน่ และไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ตามเราเองก็ชื่นชมเขาไปเสียหมด อะไรทำให้หลงได้หัวปักหัวปำขนาดนี้ อ่านมาถึงตรงนี้แล้วหากเพื่อนๆ สังเกตดีดีจะพบว่า ไรต์ได้แยกประเด็นทั้งสามออกมาแต่ยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่
ชอบหลงรัก...สามสิ่งนี้เป็นคนละความรู้สึกและจะมีผลทางพฤติกรรมที่แตกต่างกันไป แต่จะคลุกกรุ่นอยู่ในชุดความสัมพันธ์ของคนสองคนที่มีความรู้สึกพิเศษต่อกันและพัลวันกันอยู่อย่างนั้นจนบางทีหากไม่เข้าใจก็อาจจะทำให้แยกไม่ออกและตีความผิดได้ เอ....แล้วมันมีความเกี่ยวโยงกันยังไงนะเหรอ ขอยกตัวอย่างง่ายๆ จากประโยคเพียงสามประโยคเท่านั้นค่ะ
หากเราเริ่มจ้องมองดอกไม้นั่นคือ...เราเริ่มชอบและสนใจมัน
หากอยากดูแลดอกไม้....นั่นคือเราเริ่มรักมัน
หากเราอยากเป็นเจ้าของดอกไม้ดอกนั้น....เรากำลังหลงมัน!
พอเจะเห็นภาพกันบ้างหรือยังเอ่ย

หากเราเริ่มจ้องมองดอกไม้นั่นคือ...เราเริ่มชอบและสนใจมัน
ประโยคนี้หมายความว่าอย่างไร???
ความชอบ หมายถึงอะไร???
ถ้าหากให้นิยามความชอบแบบคร่าวๆนั้น อาจนิยามได้ว่า “ความพึงพอใจที่เกิดขึ้นระหว่างเรากับของบางสิ่งบางอย่าง” ไม่เฉพาะกับคนเท่านั้น อาจเป็นสัตว์ สิ่งของ และสถานที่ก็ได้
ความชอบมาจากไหน???
ความชอบเกิดขึ้นจากความสนใจ ซึ่งที่มาของความชอบนั้นอาจขึ้นเกิดจากภูมิหลังและประสบการณ์ในอดีตของเราเอง ที่มีต่อสิ่งนั้นและตัวเราก็เกิดความรู้สึกดี ๆ และแฮปปี้กับมัน ห้วงอารมณ์นี้อยู่ในส่วนลึกของจิตใจที่เราอาจะระลึกถึงได้ หรือระลึกถึงไม่ได้ก็ได้เช่นกัน และก่อนที่เราจะเกิดความรู้สึกดีดี ไม่ว่าจะป็นความรู้สึกรัก หรือความรู้สึก หลง บางสิ่งบางอย่างหรือใครสักคนนั้นความจะเกิดความสนใจและความชอบขึ้นก่อนเสมอ...

หากเรารักดอกไม้เราจะอยากดูแลมัน
จริงหรือเปล่านะ ลองทำความใจกับความรักในมุมจิตวิทยาดูกันบ้าง ว่าเกิดขึ้นมาได้อย่างไร
ทำไมจึงเปรียบความรักเป็นเหมือนการดูแล
ความรัก...( หรือเปล่านะ )
ความรักมีหลายรูปแบบ หลายสถานะ และหลายความสัมพันธ์ ความเข้มข้นของความรู้สึกรักก็มีระดับที่แตกต่างกันไปไม่ว่าจะเป็น รักแบบเพื่อน ขยับขึ้นมาแบบคนพิเศษ แบบแฟน แบบสามีภรรยา แบบพี่น้อง และความรักในแบบของพ่อแม่ที่มีต่อลูก แต่เข้มข้นไม่ว่าจะอยู่ในระดับไหน อย่างไรก็ ตามปลายทางของมันนั้นก็คือความรู้สึกดีดีที่ที่เกิดขึ้นระหว่างเรากับตัวบุคคล สัตว์ สิ่งของ และสถานที่นั้น ๆ วันนี้เราจะมาเจาะประเด็นเพียงแค่ความรักในแบบฉบับของคู่รักหนุ่มสาวกันเท่านั้นค่ะ
ตามหลักจิตวิทยาแล้ว ความรักระหว่างหนุ่มสาวนั้นแบ่งออกได้เป็น3ช่วงดังนี้
ความปรารถนา( lust )
แรงดึงดูด( attraction )
ความผูกพัน( attachment )
Lust……ความปรารถนา
ความปรารถนา หมายถึงอะไร???
ความปรารถนาเป็นคำที่บอกตัวตนและสื่อความหมายของตัวเองชัดเจนอยู่แล้วโดยที่เราไม่ต้องตีความหรืออธิบายให้ยากอะไรเลย มันคือความต้องการนั่นเอง ความต้องการของใคร? ก็ของเรานะสิ ความปรารถนาควบคุมเราจริงหรือ? แน่นอนค่ะว่าจริงแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เมื่อเรามีความรู้สึกต้องการหรือความปรารถนาร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนออกมา 2ชนิดได้แก่
เทสทอสเทอโรน (testosterone )ฮอร์โมนสำหรับผู้ชาย
เอสโทรเจน (estrogen )ฮอร์โมนของผ้หญิง และ
ฮอร์โมนหลั่งแล้วเกิดอะไรขึ้น???
เมื่อฮอร์โมนสองตัวนี้จะไปกระตุ้นสารสารเคมีในสมองของเรา หลั่งเพื่อกำหนดการกระทำของเราและตอบสนองความต้องการของตัวเอง” ฮอร์โมนสองตัวนี้จะไปกระตุ้นสารเคมีในสมอง 4 ตัว แต่เราจะขอกล่าวถึงเพียงสารเคมีหลักๆ ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมเมื่อเราเกิดความปรารถนาเท่านั้น นั่นคือ ฟีโรโมน ( pheromone ) และ โดพามีน ( dopamine ) สารเคมีสองตัวนี้เป็นสิ่งที่กำหนดพฤติกรรมทางชีววิทยาของเราและเมื่อโดนตอบสนองความสุขก็จะเกิดขึ้นทันที โดย
ฟีโรโมน สารเคมีที่กระตุ้นให้ร่างกายพร้อมที่จะมีเพศสัมพันธ์
ส่วน
โดพามีน สารเคมีความอยากและทำให้เราเกิดความสุขเมื่ออยู่ใกล้คนที่รัก

Attraction....แรงดึงดูด
แรงดึงดูดเกิดขึ้นได้อย่างไร???
เกิดจากสารเคมีสองชนิดที่กล่าวถึงไปเมื่อสักครู่
ดึงดูดทำไม???
ก็เพื่อตอบสนองความต้องการน่ะสิ
ในงานวิจัยอื่น ๆ ยังพบว่า เมื่อเวลาที่เราเสพติดอะไรบางอย่างและได้ทำกิจกรรมนั้นซ้ำ ๆ และถี่ขึ้น โดพามีนจะหลั่งออกมาในปริมาณที่มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมองของคนที่ใช้สารเสพติดและสมองของคนที่มีความรักนั้นก็ไม่ได้แตกต่างจากสมองของคนที่ติดยาเสพติดเลย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเมื่อความสัมพันธ์จบลงหรือสูญเสียคนรักไป ทำไม้ ทำไม เราถึงได้รู้สึกเจ็บปวด ทรมานและบางคนเสียใจร้องไห้เป็นเดือนๆ บางคนอาจเป็นปีด้วยซ้ำ ราวกับว่ากำลังลงแดงเสียยังไงอย่างงั้นเลยแหละ นั่นก็เพราะว่าความปรารถนาไม่ได้รับการตอบสนองนั้นเอง
จะรู้ได้ยังไงว่าตอนนี้ฟีโรโมนและโดพามีนกำลังทำงานอยู่ ง่ายๆ เลยค่ะ เราสามารถเริ่มได้จากการสังเกตตัวเองก่อนเลยหรืออาจจะคนใกล้ตัวที่กำลังมีความรักก็ได้ ตอนนี้อยากให้เพื่อนๆ ลองนึกภาพว่า ในขณะที่เพื่อนๆ กำลังอยู่กับคนรักของตัวเอง คนที่เรากำลังรู้สึกพิเศษ คิดถึงภาพที่ทำให้เกิดความสุขนะคะ แต่ไม่ได้เจอกัน ณ ขณะนี้ ตอนนี้ เดี๋ยวนี้ ภาพที่ขึ้นในหัวของเพื่อนๆ อาจเป็นภาพอดีตหรือประสบการณ์เก่า ที่เคยใช้เวลาร่วมกัน หรือบางคนอาจจินตนาการไปถึงภาพใหม่ในอนาคตที่ยังมาไม่ถึงและยังไม่เกิดขึ้นแต่ต้องการให้เกิดขึ้น และในขณะที่คิดนี้เอง รู้สึกอย่างไรกันบ้างคะ คิดแล้ว...ฟินใช่ไหม

อาการฟิน...เนี่ยแหละค่ะเป็นตัวบ่งบอกว่าโดพามีนละฟีโรโมนกำลังทำปฏิกิริยาในสมองของเรา การที่นึกถึงภาพความสุขที่เคยผ่านมาหรือจินตนาการไปถึงภาพใหม่ในอนาคตที่อยากให้เกิดขึ้นอาจทดแทนความคิดถึงได้ชั่วขณะ แต่ไม่มากพอและไม่จบ ไม่จบคืออะไร? ก็หมายถึงว่าเราก็จะนึกถึงๆ ๆ ๆ แบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะได้เจอใครคนนั้น การได้เจอก็เหมือนการประสบความสำเร็จ บรรลุผล และเมื่อนึกถึงก็เริ่มดึงดูด อาจมีแพลนเกิดขึ้นในหัวว่าจะไปพบเจอตอนไหน เวลาไหน และจะทำอะไรเมื่อพบกันกัน บลาๆๆๆ
แค่คิดถึงแล้วรู้สึกดีใช่ไหมล่ะคะ แต่ถ้าไม่ได้เจอละ เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย??? ก็คงจะทรมานใช่ไหม เกิดการคาดหวัง การรอคอย เฮ้อออ...นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมบางทีที่เรานึกถึงใครคนนั้น นอกจากอาการฟินแล้ว ยังเกิดความทรมานขึ้นในใจไปด้วยพร้อม ๆ กัน อาจมีความ กระสับกระส่าย กระวนกระวาย อยู่ไม่สุข หงุดหงิด ผสมปปนเปกับความฟินไปด้วย
แต่...เพียงแค่ได้พบหน้าสักหน่อยเท่านั้น ความสุขก็จะเอ่อล้น ท่วมท้นออกมาอย่างบอกไม่ถูกเลยใช่ไหมละคะ รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า โลกทั้งใบกลายเป็นสีชมพู และเมื่อความต้องการได้รับการตอบสนองแล้วนั้น ก็ยังไม่สิ้นสุดลงเพียงเท่านี้ การได้เจอกันหรือทำกิจกรรมร่วมกันบ้าง ก็เป็นการพัฒนาความสัมพันธ์ให้เหนียวแน่นขึ้นไปอีก ซึ่งก็มีฮอร์โมนอีกบางชนิดที่หลั่งออกมาแต่ขออุบไว้ก่อน แฮะๆ
แล้วโดพามีนจะอยู่กับเราตลอดไปใช่ไหม???
อืมมมม...เปล่าเลยค่ะ มันจะเริ่มถดถอยลงหากไม่ได้รับการตอบสนองที่ทวีคุณขึ้น หรือพูดภาษาบ้านๆ ที่เข้าใจง่ายๆ เลยคือ โดพามีน จะหลั่งมากแค่ในช่วงโปรโมชั่นนั่นคือ1-3 ปีเท่านั้นก็แล้วแต่ว่าคู่ไหนจะใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ และหลังจากนั้นก็จะลดลงๆ เรื่อยๆ เมื่อฮอร์โมนสองชนิดนี้หลั่งน้อยลง เพื่อนๆอาจคิดว่าก็แย่ละสิแปลว่าเราหมดรักกันใช่ไหม
ความสัมพันธ์ต้องจบและสิ้นสุลงใช่ไหมเนี้ย อย่าเพิ่งเป็นกังวลกันไป แม้ว่าโดพามีนจะหลั่งน้อยลง แต่ระหว่างนั้นช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ที่เพื่อนๆ ได้ใช้เวลาร่วมกับคนรักหรือคนพิเศษนอกจาก โดพามีนและฟีโรโมนแล้ว ก็ยังมีฮอร์โมนอีกชนิดที่ค่อยๆ หลั่งออกมาโดยที่เรานั้นไม่รู้ตัวเลยว่ามันได้แทรกซึมเข้าไปในความสัมพันธ์ของเราพร้อมๆ กับกิจกรรม และเวลาที่ใช้ร่วมกันเรียบร้อยแล้ว และยิ่งคู่รักคู่ไหน มีกิจกรรมดีดี หรือช่วงเวลาดีดีมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งจะทำให้มีผูกพันธ์ความใกล้ชิดนั้นเหนียวเเน่นมากยิ่งขึ้น และส่งผลให้ฮอร์โมนแห่งความห่วงใยหลั่งไหลออกมาหรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าอ็อกซิโทซินนั่นเองงงง

Attachment….ความผูกพัน
ความผูกพันเกิดขึ้นได้อย่างไร???
การที่เราจะผูกพันกับใครสักคนนั้นแน่นอนว่าต้องเคยใช้เวลาร่วมกันพอสมควร ผ่านการพูดคุยและการมีกิจกรรมร่วมกัน ไม่เฉพาะความสัมพันธ์แบบหนุ่มสาวเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงเพื่อน และครอบครัวอีกด้วย
เมื่อรู้สึกผูกพันธ์...โดพามีนและฟีโรโมนหลั่งใช่ไหม???
Nooooo!!
แต่เป็นอ็อกซิโทซินต่างหากล่ะ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าฮอร์โมนความห่วงใยแต่ส่วนมากแล้วเจ้าฮอร์โมนชนิดนี้จะมีมากในตัวมนุษย์แม่ โดยเริ่มหลั่งตั้งแต่ช่วงตั้งครรภ์ และจะมากที่สุดตอนที่ได้ให้กำเนิดเบบี้ออกมา จะหลั่งออกมาอย่างสม่ำเสมอและจะคงอยู่ตลอดไปจนชั่วชีวิตขอผู้เป็นแม่ แต่ก็ไม่ใช่เฉพาะมนุษย์แม่เท่านั้นนะคะที่จะมีฮอร์โมนชนิดนี้ ชายหญิงหนุ่มสาวก็มีฮอร์โมนชนิดนี้เช่นกัน แต่ผู้หญิงนั้นจะมีมากกว่าผู้ชายและผู้ที่ขาดฮอร์โมนนี้หรือหลั่งในปริมาณที่น้อย อาจมีพฤติกรรมสำส่อนทางเพศสูงกว่าคนปกติ และอาจมีความผูกพันธ์และมนุษยสัมพันธ์กับเพื่อนมนุษย์น้อยกว่าผู้อื่นอีกด้วย ซึ่งเป็นส่วนน้อย
อ็อกซิโทซินนั้นจะหลั่งออกมากแทนฟีโรมโมนและโดพามันในคู่รักที่สามารถอยู่ด้วยกันอย่างแฮปปี้และราบรื่นหลังจากสิ้นสุดช่วงโปรโมชั่นไปแล้ว
อ็อกซิโทซินเกี่ยวข้องกับความห่วงใยความผูกพันความเมตตาเอื้ออาทรเป็นฮอร์โมนที่เต็มไปด้วยความหวังดี เป็นสิ่งบริสุทธิ์ เช่นเดียวกับความรักของแม่ที่มีให้ลูกแต่ก็ไม่ใช่จะสุขสมหวังหรือปราศจากความทุกข์เสมอและตลอดไป เพราะว่ายังคงมีความยึดติดซึ่งความระมัดระวัง ความหวงแหนอยู่ แต่ถึงกระนั้นก็ยังดีกว่าความรักที่เป็นสีชมพูมากที่ทำให้ตาบอดมาก ซึ่งเป็นความรักแบบหลงไม่ใช่สิ่งที่ดีแน่นอนไม่มั่นคงยั่งยืน อาจทำให้รู้สึกหวาบหวาม จั๊กจี้ ฟินในช่วงแรกๆ แต่ต่อมาก็จะลดลงๆ จนจืดจางไป จะยังอยู่เพียงแค่ความผูกพันเท่านั้น
แต่ถึงอย่างไรแล้วไม่ว่าจะ"ความรัก""ความชอบ"และ"ความหลง"เราไม่อาจตัดสินลงไปได้ว่าดีหรือไม่ดี ทราบเพียงว่าเหล่านี้เป็นความรู้สึกที่ธรรมชาติให้มาและเราไม่อาจปฏิเสธธรรมชาติได้และมนุษย์โลกทุกคนมีความรู้สึกเช่นนี้อยู่ในตัวทั้งนั้น
Cr. LOVE HORMONE รู้จักฮอร์โมนความรัก : bangkokhospital
https://www.bangkokhospital.com/th/health-tips/love-hormone

ในเมื่อไม่สุขร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วจะจัดการไม่ให้ทุกข์ได้อย่างไร
อืมมม...เป็นคำถามที่ไม่ยากและไม่ง่ายเลยนะคะ ไรต์ขอตอบว่าก็คงจะต้องรักอย่างมี"สติ"รักให้รู้ว่ารักหลงให้รู้ว่ากำลังหลงรู้ให้ทันใจตัวเอง เพื่อนๆ ทราบหรือไม่คะว่าการหลงใครสักคนนั้นแปลว่าเราเองก็ได้ยินยอมที่จะรับความทุกข์ไว้เรียบร้อยแล้ว และผู้ใดที่เรายอมให้เขามีอำนาจเหนือเรานั้นก็แปลว่าเขาเองก็สามารถกุมไว้ซึ่งความสุขและความทุกข์ของเราในปริมาณที่เท่า ๆ กัน
อ่านมาถึงตรงนี้เพื่อนๆ ก็พอที่จะเข้ากันบ้างแล้วใช่ไหมคะว่า ชอบ หลง และรักต่างกันอย่างไร
หากเราอยากเป็นเจ้าของดอกไม้ดอกนั้น....เรากำลังหลงมัน!
ทีนี้เพื่อนสามารถเข้าใจได้แล้วใช่ไหมคะว่า ประโยคสุดท้ายหมายถึงอะไร
ความรักหรือความหลงกันแน่
ความรักที่จริงแท้และบริสุทธิ์นั้นลึกๆ แล้วก็คือการอยากดูแลค่ะ เปรียบเสมือนเราอยากดูแลต้นไม้ หรือไม่ได้แตกต่างจากการดูแลสัตว์เลี้ยงเลย ซึ่งหากจะให้มั่นคงและยืนยาวควรที่จะผ่านช่วงโปรโมชั่นไปก่อน และแม้อ็อกซิโทซินจะหลั่งก็ไม่ใช่ว่าเราจะทำตัวเป็นแม่ตลอดเวลานะคะสาวๆ แฟนเราคงไม่อยากได้แม่เพิ่มเป็นคนที่สองเป็นแน่ โดยเฉพาะสาวๆ ที่ทำตัวเป็นแม่ที่จู้จี้ขี้บ่น แต่เป็นแม่ศรีเรือนก็แม่แน่นะคะ เห็นทีจะเข้าท่าอยู่
การดูแลห่วงใย เอาใจใส่แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่ดีค่ะ แต่เราเองก็ควรมีความพอดีและให้เกียรติซึ่งกันและกันอยู่เสมอๆ นะคะ หากเราจะใส่ปุ๋ยลงไปในดอกไม้ของเราในปริมาณที่มากเกินไปก็อาจทำให้ดอกไม้ตายได้เพราะความเค็มจากปุ๋ย หรือดูแลเพียงแค่ในช่วงแรกที่เห่อเท่านั้น นานๆ ไปดอกไม้ก็จะเหี่ยวเฉาและตายในที่สุด และการทำเช่นนี้ก็เป็นเพียงความชื่นชอบเท่านั้นไม่ใช่ความรักอย่างที่เราเข้าใจ ทางที่ดีควรเดินทางสายกลางจะดีที่สุดค่ะ ไม่มาก ไม่น้อยจนเกินไป แต่ให้มีความสม่ำเสมอจะทำให้มั่นคงและยั่งยืนยาวนานมากกว่า

คราวนี้เพื่อนๆ ก็คงจะพอเข้าใจและทราบกันแล้วใช่ไหมคะว่าสรุปแล้วกับใครคนนั้นความรู้สึกที่เรามีต่อเค้าคืออะไรกันแน่ ควรเดินหน้าต่อ ถอยคนละก้าว หรือยุติความสัมพันธ์ลง คนจะใช่อะไรๆ ก็ง่ายไปหมดนั่นแหละค่ะ แต่ถ้าไม่ใช่แล้ว บรรดาอุปสรรคและคำถามต่าง ๆ ก็พรั่งพร้อมจะดาหน้ากันเข้ามาทันที จนบางทีเราๆ ก็ไม่อาจรับมือกับความรู้สึกเหล่านั้นได้ทัน เมื่อทราบกันแล้วตอบตัวเองได้แล้วก็ให้รัก ชอบ หลง อย่างมีสติกันนะคะ บทความนี้ไรต์ตั้งใจเขียนและรวบรวมข้อมูลมาก เพื่อต้องการแบ่งปันและนำเสนอให้กับเพื่อนๆ ทุกคน หากเพื่อนๆ ชอบคอนเทนท์แนวนี้ยังไงไรต์ก็ขออนุญาตฝากให้เพื่อนๆ กดติดตามที่เพื่อเป็นกำลังใจให้ไรต์ด้วยนะคะ ที่นี่เรามีบทความดีดีอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น แนวจิตวิทยา ความรัก การพัฒนาตัวเอง ไลฟ์สไตล์ สุขภาพ อาหาร ความงาม การเดินทาง บลาๆๆๆ ที่มีพร้อมทั้งสาระความรู้แน่นๆ ที่เป็นประโยชน์สำหรับสาวๆทุกคน ไรต์มีคอนเทนต์อีกมากมายที่อยากจะแบ่งปันและนำเสนอให้กับสาวๆ ชาวSistaCafeที่น่ารักทุกคนอีกมากมายเลยค่ะ แล้วพบกันใหม่กับคอนเทนท์ต่อไปนะคะ สำหรับวันนี้ขอขอบคุณเพื่อนๆ มากๆ ค่ะ บายยยย
Cr. ขุนเขา สินธุเสน เขจรบุตร, รู้มากไปทำไมรู้ใจก่อนดีกว่า, (2561)
http://www.artisanvalleyperfumes.com/%E0%B8%9F%E0%B8%B5%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B9%82%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A8%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3/
Cr. โดพามีน ฮอร์โมนควบคุมความสุข : honestdocs
https://www.honestdocs.co/do-not-let-go-of-hormones
Cr. ออกซิโทซินต่ำสัมพันธ์กับการเข้าใจคนอื่นได้อย่างไร? งานวิจัยมีคำตอบ
https://www.honestdocs.co/how-does-low-oxithiine-interact-with-others
Cr. The Science of Love ความลับของความรัก
https://women.kapook.com/view9766.html
Cr. โลกและชีวิต: ความรัก กับ สารเคมีในสมอง
https://www.ryt9.com/s/nnd/3006709
Cr. ฟีโรโมน…หรือคนโสดไม่มีกลิ่นนี้
http://www.cleothailand.com/love/single-pheromone.html