รูปภาพ:https://data.whicdn.com/images/51684400/original.gif

สวัสดีค่าาา สาวๆSistaCafeทุกคนเลย 。゚( ゚^∀^゚)゚。

ปัญหาของคนยุคนี้ นอกจากการค้นหาตัวเอง ก็จะมาควบคู่กับการรู้สึก ' หลงทาง ' หรือ lost นี่แหละเนอะ ;_; บางทีทางเลือกมันก็เยอะเกินไปเหมือนเขาวงกต เลือกไปเลือกมามันก็เคว้ง ไม่รู้จะมุ่งไปทางไหนดี

ยิ่งช่วงหัวเลี้ยวหัวต่ออย่างใกล้จบม.ปลาย หรือใกล้เรียนจบนี่คือ... ใครเจอตัวเองไวก็โชคดีไป ใครยังหาจุดเด่นตัวเองไม่เจอ ก็จะเริ่มเครียดกันละ ( บางคนหนักจนขั้นเป็นภาวะซึมเศร้าได้เลยเด้อ T__T )

อันที่จริง การต้องค้นหาว่าเราต้องการอะไร กำหนดจุดเป้าหมายที่จะทำให้ตัวเองเนี่ย เธอจะต้องเจอไปตลอดชีวิตนั่นแหละค่ะ หนีไม่พ้นหรอก ไม่เจอตอนเด็ก ก็มาเจอตอนโตอยู่ดี ( นี่ก็เจออยู่... )ชีวิตคนเรา พอดำเนินมาถึงจุดหนึ่ง มันจะเจอทางแยกให้เราเลี้ยวเสมอ แต่ใครที่กำลังสับสน กลัวเลี้ยวผิด ไม่รู้ว่า goal ตัวเองคืออะไร ก็ขอให้มาอ่านบทความนี้ กับเพื่อกำจัดความรู้สึกนี้ให้หายไป ให้ชีวิตเดินหน้าไปได้ต่อ! เชื่อว่าอ่านจบเธอน่าจะปิ๊งอะไรดีๆ ได้แน่นอน พร้อมแล้วก็ไปอ่านกันได้เลย ( ´ ∀ `)ノ~ ♡

1. กลับไปที่จุดเริ่มต้น ว่าเราต้องการอะไรกันแน่

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/11/18/gXqEIN.jpg

ถ้าตอนนี้ไม่รู้จะทำยังไงต่อ ตั้งสติก่อน! จะมีเป้าหมายที่มั่นคงได้ ก็ต้องรู้ว่าจุดเริ่มต้นมาจากไหน ดังนั้นคิดทบทวนไปถึงจุดเริ่มต้นเลยว่า เธอต้องการอะไร เหตุผลที่เธออยากมีเป้าหมายในชีวิตคืออะไร?อาจจะเป็นอะไรก็ได้ เช่น ครอบครัว แฟน สัตว์เลี้ยง เพื่อนเก่า หนังสือเล่มโปรด สถานที่ในความทรงจำ หรือแม้แต่พระเจ้า ที่จุดประกายให้เธออยากมีคุณค่า อยากใช้ชีวิตให้ดีกว่านี้ค่ะเมื่อเธอคิดได้แล้วว่าคนจุดประกายเธอคือใคร ( หรืออะไร ) อย่างน้อยเธอก็จะไม่เคว้งอยู่คนเดียวตามลำพังแล้วแม้สิ่งนั้นอาจไม่ใช่คนที่เธอไปปรึกษาได้ แต่เธอก็สามารถย้อนกลับไปเก็บกำลังใจได้ แม้จะแค่ในความทรงจำก็ตามค่ะ ^^

2. นึกย้อนกลับไปว่า ถ้าเราเป็นเด็ก เราจะภูมิใจกับตัวเองตอนนี้มั้ย?

รูปภาพ:http://images6.fanpop.com/image/photos/41400000/happy-golden-retrievers-golden-retreivers-41442079-736-718.jpg

ลองนึกย้อนกลับไปยาวๆ เลย สักตอนเธออายุ 5-6 ขวบ ถ้ามีกระจกบานใหญ่สะท้อนเธอได้ตอนนี้ เธอคิดว่าเด็กคนนั้นจะภูมิใจกับเธอตอนนี้มั้ย? เธออาจจะเคยเห็นคำถามนี้ตามหนังสือปรัชญา ให้กำลังใจมาบ่อยแล้ว แต่ขอให้ลองทำดูก่อน!คนเราเปลี่ยนไปตามอายุเนอะ บางทีเธอในตอนนี้ อาจไม่ใช่ภาพฝันของเธอในวัยเยาว์เลยก็เป็นได้ แต่สิ่งสำคัญคือ เธอโอเคกับตอนนี้มั้ย? ถ้าไม่ ก็ลองให้เด็กคนนั้นเตือนสติดูสิคะนึกถึงตอนที่เธอยังเด็ก ไร้เดียงสา หัวใจบริสุทธิ์ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมใดๆ คิดอะไรก็พูดออกมาอย่างนั้น ยังมีจินตนาการไร้ขีดจำกัด มีความมั่นใจในความคิดของตัวเอง ไม่หวั่นไหวไปกับคำพูดคนอื่น นั่นแหละ ขุดเด็กคนนั้นขึ้นมาอีกรอบสิ!หรือในทางกลับกัน ถ้าสมัยก่อนเธอเป็นเด็กขี้อาย ยังโลกสวย ขี้ขลาด มองโลกแบบผิดๆ อยู่ เธอจะดึงนิสัยเหล่านั้นมาแก้ไขในปัจจุบันได้ยังไงบ้าง ให้ไม่กลับไปเป็นแบบเดิมอีก? คำตอบนั้นแหละ สามารถเป็นเป้าหมายในอนาคตได้เลย ( ˙꒳​˙ )

3. ตอนเธออยู่คนเดียว เธอมีความสุขรึเปล่า?

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/11/18/gX5yn2.jpg

คำถามหนึ่งที่เธอควรตอบตัวเองให้ได้คือ ' เวลาอยู่กับตัวเอง เธอมีความสุขรึเปล่า?? ' มันสำคัญมากนะคะ เพราะในที่สุดแล้ว คนที่จะใช้เวลาอยู่กับเธอมากที่สุด และอยู่กับเธอไปจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต ( ตายอะแหละ ) ก็คือตัวเธอเอง!ถ้าได้คำตอบว่าไม่ใช่ ก็ถึงเวลาแล้วที่ต้องปรับปรุงวิถีชีวิตและทัศนคติของตัวเองด่วน!บางคนเป็นคนสังคมจัด วันๆ เจอแต่เพื่อน ผู้คนมากมายตลอดเวลา จนลืมทำความรู้จักตัวเอง ลองหาเวลาว่าง ก่อนอาบน้ำหรือก่อนนอนก็ได้ นั่งในห้องเงียบๆ แล้วคิดว่า ถ้าต้องอยู่คนเดียวบ้าง เธอมีความสุขด้วยตัวเองได้มั้ย?ถ้าใช่ก็ถือเป็นเรื่องดี แต่ถ้าไม่ ต้องมาทำการบ้านกันหนักแล้วล่ะเพราะคนที่ต้องพึ่งคนอื่นในการมีความสุขตลอดเวลา จะไม่มีวันมีความสุขที่แท้จริงได้เลยค่ะ #รักตัวเองเยอะๆเด้อ

4. ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง ทดลองหาสิ่งใหม่ไปเรื่อยๆ

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/11/18/gX5v3Q.jpg

เวลาคือสิ่งที่ควรลงทุนกับตัวเองที่สุด เพราะเวลาทำให้หลายๆ คนค้นพบตัวเอง และนั่นเปลี่ยนชีวิตคนคนหนึ่งได้เลย!ดังนั้นหาเวลาอยู่กับตัวเอง ทดลองทำสิ่งนั่นสิ่งนี้ไปเรื่อยๆ ที่อยากทำ การใช้เวลากับตัวเองไม่มีคำว่าเสียเปล่า มีแต่จะช่วยตัดช้อยส์สิ่งที่เราเกลียดออก และเพิ่มช้อยส์สิ่งที่เราชอบ ทำให้เราได้รู้จักตัวตนตัวเองได้เยอะขึ้นเรื่อยๆ ด้วยซ้ำ มันคุ้มมากนะเออ!ถ้าทำงานแล้ว ก็ไม่จำเป็นถึงขั้นลาออกมาค้นหาตัวเองเด้อ ( เข้าใจความจำเป็น คนเราต้องมีเงินกินข้าว ;_; )แค่แบ่งเวลาว่างมาวันละ 30 นาที เช่น หลังเลิกงาน ก่อนนอน หรือเวลา 5-10 นาทีช่วงรอรถไปทำงาน อ่านหนังสือ เขียนไดอารี่สั้นๆ ประจำวัน หรือนั่งอ่านเพจให้ความรู้ ฟังเพลง กินขนมที่ชอบช้าๆ ไม่เร่งรีบดื่มด่ำเวลาทั้ง 30 นาทีนั้นโดยไม่มีอะไรมารบกวน วันหยุดก็ออกไปเที่ยวนอกสถานที่บ้าง ไปเช้าเย็นกลับก็ยังดีนอกจากได้ความผ่อนคลายจากเรื่องเครียดประจำวันแล้ว เธอยังอาจได้ไอเดียที่ไม่คาดคิดระหว่างทำเรื่องธรรมดาๆ แบบนี้นี่แหละ อย่าประมาทไป!

5. ออกไปข้างนอก สัมผัสธรรมชาติในโลกจริงๆ บ้าง

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/11/18/gX5nxl.jpg

อย่างที่บอกจากข้อข้างบนเลย อย่าจับเจ่าอยู่แต่ในบ้าน เราจะเห็นอะไรชัดขึ้นเมื่อเราออกมาเจอโลกภายนอกค่ะ!

เสาร์อาทิตย์ไหนว่าง เจียดเวลาออกไปชื่นชมธรรมชาติบ้าง

จะภูเขา ทะเล หรือแค่สวนสาธารณะใกล้ๆ ก็ยังดี

ปิดเสียงโทรศัพท์ ใช้เวลากับตัวเองให้เต็มที่ เดินเล่นซึมซับบรรยากาศไปเรื่อยๆ อยู่กับตัวเองจริงๆ ตั้งแต่เช้าจรดเย็น ทบทวนชีวิตที่ผ่านมา

ถ้ากลัวเหงา จะพาสัตว์เลี้ยงตัวโปรด เพื่อนสนิทไปด้วยบ้างก็ได้ แต่ไม่ว่ายังไง หาเวลาไปสูดอากาศบริสุทธิ์บ้างนะคะ ถ้าเมืองกรุงหาอากาศดีๆ ยาก ก็ลองจองตั๋วไปต่างจังหวัดดูนะ รับรองว่าได้อะไรมากกว่าที่คิดแน่นอน :)

6. อ่านหนังสือ 'พัฒนาตัวเอง' ก็พอช่วยได้นะ

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/11/18/gXqNGf.jpg

ถ้าชีวิตรู้สึกไม่ไหวละ ขุดตัวเองไม่ไหวจริงๆ ต้องการหาตัวช่วย หนังสือ podcast หรือคลิปวิดีโอที่ช่วยพัฒนาตัวเอง( self-improvement )ก็ช่วยแนะนำได้อยู่นะ!การที่เรารู้สึกหลงทาง แสดงว่าคลังความรู้เราไม่พอ การไปรับ ' อาหารสมอง ' เพิ่มจากคนที่มีประสบการณ์ต่างจากเรา และผ่านปัญหานั้นมาแล้วแชร์ให้คนอื่นฟัง ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย เผื่อจะเอามาปรับใช้กับตัวเองได้ค่ะร้านหนังสือสมัยนี้ก็มีหนังสือประเภท' จิตวิทยาพัฒนาตัวเอง 'วางขายมากมาย มีทั้งพัฒนาภายนอกอย่างรูปลักษณ์หน้าตา จัดการเงินเก็บ ทักษะเข้าสังคม จิตวิทยาความสัมพันธ์ ุถ้ายังไม่รู้จะเริ่มจากไหน ลองไล่ๆ อ่านไปทีละหมวดหมู่ก่อนก็ได้ ไม่แน่ว่าบางบรรทัด บางประโยคในหนังสือเล่มหนึ่ง อาจทำให้เธอ ' คลิก! ' บางอย่างในใจ และเปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาลก็ได้ ใครจะรู้

7. ลองเขียนใส่กระดาษว่า ชีวิตนี้ต้องการอะไรที่สุด

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/11/18/gXUssu.jpg

ถ้าการคิดในหัวมันทำให้ยิ่งสับสน ก็กลับมาสู่ยุค analog ดูค่ะ หยิบกระดาษกับปากกาออกมา คิดอะไร เขียนออกมาเลย!เหมือนเวลาเธอไปเจอครูที่ปรึกษา หรือไปพบนักจิตวิทยา จิตแพทย์แหละ เขาก็จะใช้วิธีประมาณว่า ' ไปเจออะไรมาบ้าง เขียนลงกระดาษดูนะ แล้วเรามาแก้ไขปัญหานี้ด้วยกัน ' ซึ่งจริงๆ เราก็ทำเองได้ เพราะในที่สุดคนจะยอมรับปัญหาคนแรก ก็คือตัวเราเองถ้าปัญหาที่เจอมันซับซ้อนมาก ไม่รู้จะเขียนบรรยายออกมายังไงดี ก็ลองเขียนเล่าไปเรื่อยๆ เกี่ยวกับมันก็ได้ ตั้งแต่เริ่มมีปัญหาจนปัจจุบันนี้ เหมือนเขียนไดอารี่นั่นแหละ แล้วเอามาอ่านทบทวนดูหลายๆ รอบเธออาจจะพบว่า สมองของเธอกำลังคิดอะไรที่เธอเองก็คิดไม่ถึง และถ้าทำตามความคิดนั้น เธออาจจะแก้ปัญหาได้ไปตั้งนานแล้ว...ดังนั้นลองเขียนดูเถอะค่ะ ไม่มีอะไรเสียหาย อย่างน้อยก็ได้ไดอารี่เก็บไว้อ่านเมื่ออายุมากขึ้นนะ :))

8. ห่างจากเทคโนโลยี / ลดการเล่นโซเชียลมีเดียบ้าง

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/11/18/gXqa5a.jpg

ปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีสุดไฮเทคอย่าง ' โซเชียลมีเดีย ' อำนวยความสะดวกให้เรามากๆ แต่หากจมจ่อมอยู่กับมันจนถึงขั้นเสพติด มันอาจกลืนกินเราไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้ตัว ทั้งพลังบวก พลังลบ ดูดพลังงานเราไปหมด จนวันหนึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเราเป็นใครอีกต่อไปเผลอๆ จิตใจพังไปด้วย ... ดังนั้นหาเวลาหลบจากมันไป ' ชาร์จพลังตัวเอง ' บ้าง จะดีกว่าค่ะหันมาใช้เวลากับตัวเองอย่างจริงๆ จังๆ อย่าเฝ้าหน้าจอ รอการตอบกลับแชทคนนั้นคนนี้ ส่องดราม่าเพจให้หัวใจร้อนรน เอาเวลาไปทบทวนชีวิตตัวเอง ไปเที่ยว ไปเดินเล่นคนเดียว หรือแค่ไปคาเฟ่ จิบกาแฟอร่อยๆ คนเดียวก็ยังดีเท่านั้นก็บูสต์พลังได้ แล้วเธอจะตกใจว่าตัวเองมีพลังขึ้นมามากแค่ไหน =w=

9. เลิกหาข้ออ้าง จงเปลี่ยนตัวเองอย่างจริงจัง!

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/11/18/gX5YRk.jpg

ถ้าทำทุกอย่างแล้วไม่มีอะไรดีขึ้น ขอแบบไม่หลอกตัวเองเลยนะ เป็นตัวเธอเองรึเปล่าที่ปฏิเสธความจริง ที่จริงก็รู้ทุกอย่างว่าจะออกจากเขาวงกตนี้ยังไง แต่ยังกลัวจะออกจาก comfort zone เธอคะ อยู่ที่ปลอดภัยมันสบายใจก็จริง แต่มันก็ไม่ดีไปกว่านี้เด้อ!

เธอจะหวังผลลัพธ์ที่ดีขึ้น จากการกระทำเหมือนๆ กันทุกวันไม่ได้ บางทีอาจถึงเวลาแล้วที่เธอต้องรวบรวมความกล้า แล้วเปลี่ยนตัวเองจริงๆ ซะที!

เราอายุยังน้อย มีสิ่งที่ต้องทำในชีวิตอีกมาก ลองกล้าที่จะก้าวขาออกมาจาก Safe Zone ดูสักครั้ง ไม่แน่ เธออาจจะเจอเรื่องดีๆ จนบางทีเธออาจจะไม่อยากกลับเข้าไปในนั้นอีกเลยก็ได้นะ :)

10. ปรึกษาปัญหากับ 'คนสนิท/คนที่ไว้ใจได้'

รูปภาพ:https://sv1.picz.in.th/images/2019/11/18/gX5oK0.jpg

ถ้าทำข้อ 1-9 แล้ว แต่ยังต้องการ second opinion อยากมีความเห็นคนอื่นมาช่วยตัดสินใจ ก็พุ่งตัวหาคนสนิท หรือคนที่ไว้ใจได้เลยค่ะ จะพ่อแม่ พี่น้อง เพื่อนสนิท หรือแม้แต่คนแปลกหน้าในอินเตอร์เน็ตต้องยอมรับว่าบางเรื่อง คุยกับคนที่ไม่รู้ตัวตนของเรา อาจได้คำตอบที่ดีกว่าคนใกล้ตัว ก็ลองพิจารณาตามความเหมาะสม และกับคนแปลกหน้า คุยทางตัวอักษรก็พอนะคะ เพื่อความปลอดภัย!คนที่รักและเป็นห่วงเรา แม้อาจจะไม่ได้แก้ปัญหาให้เธอได้ 100% แต่อย่างน้อยเขาก็เป็น ' ที่พึ่งใจ ' ที่ให้คำปรึกษา และเป็นไหล่ให้เธอได้พึ่งพิงหากมีความผิดพลาดใดๆ ก็ตามเหมือนน้ำเปล่าแหละค่ะ อาจจะดูธรรมดา รสชาติไม่จัดจ้าน แต่ก็ไม่เคยขาดได้เลย ใครหลงลืมคนเหล่านี้อยู่ กลับไปหาพวกเขานะคะ เชื่อเรา o( ❛ᴗ❛ )o

--------------------------

ก็จะประมาณนี้เนอะ... ใครอ่านจบ 10 ข้อนี้แล้วแว้บ! อะไรขึ้นมาได้บ้างเอ่ย อันที่จริงจุดเปลี่ยนของชีวิตที่ทำให้เราหลงทาง มันก็มีได้หลายเหตุการณ์นะคะ นอกจากเรียนจบ บางคนก็เจอจุดพลิกผัน พ่อแม่เสียชีวิต แฟนทิ้ง สัตว์เลี้ยงตาย โดนไล่ออกจากงาน ซึ่งบางครั้งมันก็จะมาโดยไม่ทันตั้งตัว ดังนั้นสิ่งที่ไม่ควรลืมเด็ดขาดคือ ' สติ ' และอย่าลืมรักตัวเองให้มาก ใช้เวลากับตัวเองและคนที่รัก ถ้ามีสองอย่างนี้ เธอจะผ่านไปได้ทุกอุปสรรคอย่างไร้กังวลแน่นอน

เป็นกำลังใจให้ ' เด็กหลง ' ทุกคนนะคะ ขอให้ทุกคนโชคดี เจอทางที่จะไปต่อกันทุกคน เรามีชีวิตเดียว ใช้ให้คุ้มที่สุดกันนะ :)