EP.ที่ 2 เราไปจบกันที่หมู่บ้านชิราคาวาโกะ


วันนี้เราจะพาไปเที่ยวทาคายามากันต่อค่ะ EP. สุดท้ายแล้วค่าา

เมืองนี้ขอบอกเลยว่าสงบแต่มีเอกลักษณ์มากเลยค่ะ จุดไฮไลท์ที่ประทับใจคือสะพานสีแดงที่ทอดยาวตัดกับต้นไม้และแม่น้ำที่ดูฟินสุดๆเลยค่ะ สะพานสีแดงนี้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมาแวะถ่ายรูปกันค่ะ  ไม่ไกลจากสะพานแห่งนี้จะมีตลาดเช้าและร้านค้าต่างๆ มากมายเลยค่ะ

เราขับรถมา check in ที่โรงแรม Tabino Sato ค่ะ เป็นโรงแรมเล็กๆแต่บรรยากาศดีของเมืองทาคายาม่า มีบริการออนเซ็นให้เราได้แช่ด้วยล่ะ บรรยากาศของโรงแรม เป็นโรงแรมเล็กๆ แต่ดูอบอุ่นค่ะ มีอาหารเช้าเสริฟให้ คูปองจะมาพร้อมกับคีย์การ์ดของโรงแรมค่ะ :-)

อาหารเช้าเป็นแบบบุฟเฟ่ค่ะ มีให้เลือกทั้งแบบญี่ปุ่นและแบบอเมริกัน อร่อยสุดๆ :-)

ภายในโรงแรมจะเป็นบรรยากาศแบบสมัยญี่ปุ่นโบราณ มีมุม ล็อบบี้ที่เราสามารถถ่ายภาพเก็บความประทับใจได้ ดูมีเสน่ห์เป็นอย่างยิ่งค่ะ

รูปภาพ:

เราเข้านอนที่โรงแรม Tabino Sato ที่ทาคายาม่า 1 คืนรุ่งขึ้นเราไปถ่ายรูปที่สะพานแดงที่ขึ้นชื่อของที่นี่ใครแวะมาที่นี่ก็ต้องลงไปถ่ายรูปกับสะพานสีแดงแห่งนี้ล่ะค่ะ

รอบๆ จะมีร้านขายของต่างๆ มากมาย ส่วนใหญ่จะเป็นของที่ระลึก พวก magnet กระเป๋าสตางค์ ถุงเท้า ตะเกียบ หลายอย่างมากกค่ะ

บรรยากาศแถวนี้ก็จะมีชาวบ้านและนักท่องเที่ยวมากินข้าว จ่ายตลาดหรือซื้อของฝากกันค่ะ :-)ใครชอบความสงบแต่ดูมีอะไรเมืองทาคายาม่าแห่งนี้เหมาะมากสำหรับการท่องเที่ยว และถ่ายรูปมากๆ เลยล่ะจ้า

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

หลังจากเราแวะถ่ายรูปและเดินรอบๆ ร้านขายของที่ระลึกเรียบร้อยแล้ว เราไปลุยกันต่อที่เมืองโอซาก้า ค่ะเมืองนี้เป็นเมืองหลักของแถบคันไซเลยก็ว่าได้ เพราะคึกคักและอาหารอร่อยไม่แพ้ เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นเลย  โอซาก้า ได้รับฉายาว่าเป็นครัวของญี่ปุ่นเพราะอาหารการกินที่อร่อยแบบฟินๆ รวมถึงราคาของอาหารไม่แพงเลยค่ะ เมื่อเทียบกับเมืองโตเกียว

เราและครอบครัวขับรถจากเมืองทาคายาม่า ดิ่งตรงเข้าเมืองโอซาก้า ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงค่ะ หลังจากนั้นเราก็เข้าโรงแรม เช็คอินที่โรงแรม APA  Hotel สาขาโอซาก้าค่ะ ที่นี่สะดวกมากเพราะติดกับ Family Mart และ รถไฟใต้ดิน เหมาะกับการเดินทางไปที่ต่างๆ ในโอซาก้ามากๆ เลยล่ะ

พอถึงที่พักเราออกไปกินข้าวแถวย่านดงโทบุริที่ใครเห็นก็ต้องร้องอ๋อ เพราะเป็นย่านของป้ายกูลิโกะนั่นเองค่ะ อาหารหลายร้านน่ากินมากเลย โดยเฉพาะซูชิกับของทอดจ้าา

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

ช่วงที่เราไปฝนตกพอดี แต่ตกหนักสัก 30 นาทีแล้วก็หยุดค่ะหลังจากกินอาหารเรียบร้อยและเดินเล่นรอบๆย่านดงโทบุริแล้ว เราก็กลับไปที่พักเพื่อเตรียมตัวสำหรับวันรุ่งขึ้นค่ะเราจะไปเมืองนาระกัน ซึ่งไม่ไกลจากเมื่องโอซาก้า เราสามารถนั่งรถไฟไปได้ค่ะ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ

วันรุ่งขึ้นเรากับครอบครัวนั่งรถไฟใต้ดินมาแทนค่ะ เพราะสะดวกกว่าการขับรถไปค่ะเรามาไหว้พระใหญ่กันก่อนที่วัดข้างสวนนาระ คือวัดโทไดจิซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่มาสักการะก่อนไปให้อาหารกวางที่Nara Parkค่ะ

ภายในวัดดูสงบเงียบมีองค์พระพุทธรูปใหญ่อยู่  2 ข้าง ข้างหนึ่งเป็นองค์หลวงพ่อโต และอีกข้างนึงเป็นเจ้าแม่กวนอิม องค์ใหญ่ค่ะ สวยงามทั้ง 2 องค์เลยค่ะ

จากที่ศึกษามา วัดไทโดจินี้ ได้รับการบันทึกว่าเป็นอาคารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเลยเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปไดบุตสึขนาดใหญ่หรือเรารู้จักกันคือหลวงพ่อโต วัดนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วยนะคะ

หลังจากไหว้พระเสร็จแล้วเราก็มาถ่ายรูปด้านหน้าวัดก่อนไปให้อาหารกวางที่สวนนาระจ้า

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

น้องกวางที่นี่น่ารัก มีหลายรุ่น หลายขนาดและเยอะมากๆ เลยค่ะตามทางจะมีร้านขายขนมและของที่ระลึก เอาไปฝาก พี่ ป้า น้า อา เพื่อนๆ ได้ค่ะ มีให้เลือกเยอะมาก หลากหลายเลย

หลังจากนั้นเราก็กลับรถไฟไปที่พักค่ะ เพราะวันรุ่งขึ้นจะต้องไปสนามบินตอนเช้าและต้องกลับบ้านแล้ว อยากอยู่ต่อเลยจริงๆ

วันรุ่งขึ้นเราและครอบครัวขับรถไปคืนที่สนามบินคันไซ และไป check in กลับประเทศไทยโดยสายการบินเวียดนามแอร์ไลน์ค่ะสะดวกมากๆ หลังจาก check in ที่เคาเตอร์เรียบร้อย เราก็ไปกินข้าวกันค่ะ จำได้ว่าหิวมาก เพราะยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย เราเลยหาร้านใกล้ๆ ในสนามบินมีหลายร้านเลยค่ะ เราเลือกกินหมี่เย็นของญี่ปุ่น ส่งท้ายก่อนบินกลับ

ทริปนี้สนุกมากๆเลยค่ะสำหรับการมาเที่ยวคันไซ เก็บประสบการณ์ดีๆและความทรงจำดีๆกลับไป ถึงแม้ว่าผ่านมาแล้ว 1 ปี (ปี 2018) แต่ก็ยังจดจำความรู้สึกดี อากาศดี อาหารอร่อยและบรรยากาศดีๆ ในแถบคันไซ ประเทศญี่ปุ่นนี้ได้ดีอยู่ :-)

เพื่อนๆ สาวๆSistaCafeคนไหนชื่นชอบการรีวิวนี้ อย่าลืมไปเที่ยวแถบภูมิภาคคันไซนี้ให้ได้เลยนะคะ รับรองไม่ผิดหวัง จะได้อะไรกลับมามากกว่าที่เราคิดแน่นอนค่ะ

วันนี้จบบริบูรณ์ ทั้ง 3 EP.ใครชอบฝากกด Love กด Follow กันด้วยน่ะค่ะคราวหน้า ถ้าHappyBowlไปเที่ยวที่ไหน ที่แปลกใหม่ หรือต่างไปจากที่ไทยเรา จะมารีวิวให้อ่านกันอีกจ้าา...


วันนี้ขอตัวไปก่อนล่ะน้า.....

Sayonara na ka:-)

รูปภาพ: