14 เหตุผลดี ๆ ที่เราควรบอกเลิกแฟนเสียที!

ถ้าความสัมพันธ์ที่เคยมีรสหวาน มันกลายเป็นความขม ก็คงถึงเวลาที่ต้องถอยออกมาเสียที!

( ╥ω╥ )

สาวๆ หลายคนเสียดายช่วงเวลาเก่าๆ ความประทับใจที่ทำร่วมกันกับแฟนจึงยังตัดความสัมพันธ์ไม่ขาด ทั้งที่เมื่อเวลาผ่านไป พฤติกรรมของเขาก็เริ่มเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้า จากที่เคยดูแลเทคแคร์ โทรถามห่วงใยทุกวันก็เริ่มลดความถี่ลงเรื่อยๆ จนตอนนี้กำโทรศัพท์จนมือหงิกก็ไม่มีสายเรียกเข้า -.-

หลายคู่ก็เริ่มค้นพบว่าความชอบ ทัศนคติ รสนิยม หรือเป้าหมายในชีวิตไม่ตรงกัน ( ถ้าภาษาดาราก็คือ 'เข้ากันไม่ได้' นั่นแหละ ) แต่ถึงแม้จะรู้ทั้งรู้ การจะยอมปล่อยมือคนที่เคยร่วมทางมาด้วยกัน ก็แอบทำใจลำบากอยู่ดี

เข้มแข็งไว้ค่ะสาวๆ เราต้องสตรอง! อย่าปล่อยให้ความสัมพันธ์แย่ๆ กัดกร่อนหัวใจ อ่านบทความนี้เพื่อเช็คสัญญาณที่เกิดขึ้น แล้วเธอจะพบว่าบางอย่างไม่ใช่เรื่องต้องทน ควรปล่อยมือไปซะตั้งนานแล้ว = =เพื่อความชัวร์ ไปเริ่มอ่านกันเลยดีกว่าค่ะ

1. การนอกใจ

'ความไม่ซื่อสัตย์ต่อคู่รัก' หรือการนอกใจเป็นสิ่งที่ไม่น่าให้อภัยมากที่สุด! เขาแอบไปมีกิ๊ก ไม่ว่าเธอจะจับได้ต่อหน้าหรือมีคนมาบอกก็ตาม หัวใจของเธอเจ็บช้ำจนไม่อาจให้โอกาสเขาได้เป็นครั้งที่สอง ก็ไม่ต้องทน บอกเลิกเลยจะดีกว่า

ในทางกลับกัน ถ้าเธอเป็นฝ่ายนอกใจ เธอก็ควรถอยออกมาเช่นกัน เพราะความสัมพันธ์ที่ไม่ซื่อสัตย์มักไม่ยืนยาวอยู่แล้ว จำไว้นะ ถ้าเธอพอใจกับคนแรกแล้ว เธอจะไม่มีวันหวั่นไหวกับผู้ชายคนอื่นหรอก เพื่อไม่ให้มีใครต้องเสียใจ ปล่อยเขาไปเจอคนใหม่ดีกว่าค่ะ

2. ทำร้ายร่างกาย

ไม่มีใครสมควรถูกทำร้าย ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรทั้งนั้น! ยิ่งถ้าเธอถูกตบ ต่อย ตี กระชากแขน ทึ้งผมโดยคนที่เธอรักและเชื่อใจมากที่สุด การที่เราสูญเสียความเชื่อมั่นกับคนที่เราไว้ใจ นั่นเหมือนฝันร้ายบนดินเลยล่ะ

ถ้าเธอถูกทำร้ายทั้งทางร่างกาย จิตใจ ( และอาจรวมเรื่องทางเพศด้วย ) จากแฟน นั่นคือเหตุผลที่ดีที่เธอจะโบกมือลาความสัมพันธ์ให้ขาดสะบั้น! หาผู้ชายคนใหม่ที่อ่อนโยนและดูแลหัวใจของเธอได้ดีกว่า อย่าทนกับคนใจร้ายเลยค่ะ

3. ใจไม่ได้อยู่ที่เขาแล้ว

'ใจไม่ได้อยู่ที่แฟน' ไม่ได้หมายความว่าจะนอกใจเสมอไป เธออาจแค่เบื่อ รำคาญ หรือหมดรักเขาไปเสียเฉยๆ เท่านั้นเอง ไม่ได้มีคนใหม่ แต่ก็ถือเป็น 'ก้าวแรก' ที่จะนำไปสู่ความวอกแวก และแสวงหาผู้ชายคนใหม่ที่ทำให้เธอมีความสุขกว่าคนปัจจุบันค่ะ

โดยปกติแล้ว เราจะไม่อยากเลิกกับแฟน ( ถ้าเขาไม่แย่จริงๆ ) ถ้าเราไม่มีคนใหม่ในใจอยู่ เธอกำลังจิตใจสับสน ว้าวุ่นเพราะใครบางคนอยู่หรือเปล่า เธอสนใจผู้ชายคนไหนที่ไม่ใช่แฟนเป็นพิเศษบ้างไหม คิดเตลิดเปิดเปิงไปถึงเรื่องบนเตียงกับคนคนนั้นบ้างหรือเปล่า ถ้าใช่ อีกไม่นานเธอต้องนอกใจแฟนอย่างแน่นอนค่ะ

หากถึงขั้นนั้นแล้ว จงรีบบอกเลิกความสัมพันธ์อย่างไว อย่าคบซ้อนเป็นอันขาด เพราะนอกจากไม่ซื่อสัตย์ต่อแฟนเก่าแล้ว ยังไม่แฟร์กับคนใหม่อีกด้วยค่ะ

4. คิดว่าถ้า 'เป็นโสด' อะไรๆ คงดีขึ้นกว่านี้

การคบกันก็ต้องมีบ้างแหละที่เบื่อ รำคาญ อยากแยกออกมาอยู่คนเดียวสักพัก คิดถึงช่วงเวลาเป็นโสดกันบ้าง แต่ถ้าคิดจะหนีเอาตัวรอด บอกเลิกตอนที่อีกฝ่ายกำลังเจอปัญหา อุปสรรคต่างๆ ที่ต้องการกำลังใจ นั่นไม่ใช่เรื่องดีแล้วล่ะค่ะ

ถ้าเธอคอยคิดอยู่ตลอดเวลาว่า อะไรๆ คงดีกว่านี้ถ้าเธอไม่มีแฟน อยากให้เจ้านั่นไปให้พ้นๆ เห็นหน้าเขาทีไรก็รู้สึกรังเกียจ ขยะแขยง นัดเจอเห็นหน้าแค่ 5 นาทีก็อยากจะบอกลาแล้ว เลิกเถอะค่ะ ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่สำหรับเธออีกต่อไปแล้วล่ะ

5. ทะเลาะกันบ่อย

คบกันก็ต้องมีทะเลาะกันบ้างในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เป็นเรื่องปกติเหมือนลิ้นกับฟันนั่นแหละ! แต่ถ้าเจอหน้าทีไรต้องขึ้นเสียง ลงไม้ลงมือ ข้าวของพังกระจุยกระจายทุกครั้ง ลองกลับมาทบทวนตัวเองซิว่า เธออยู่ในห้วงรักหรือสงครามที่จะฆ่าอีกฝ่ายให้ตายคามือกันแน่!?

การทะเลาะเป็นสัญญาณบ่งบอกกลายๆ ว่า เธอมีอะไรบางอย่างที่เข้ากันไม่ได้ อาจเป็นมุมมองชีวิต รสนิยม หรือทัศนคติต่างๆ มุมมองต่างกันไม่เท่าไหร่ แต่ไม่ยอมรับความแตกต่างของกันและกันนี่สิ ทำให้ไม่ลงรอยกันเสียที

ลองถามตัวเองว่า เธออยากคบกับคนที่คอยแขวะ ถากถาง เหน็บแนมและไม่เห็นด้วยกับทุกสิ่งที่เธอคิดจริงๆ เหรอ เสียสุขภาพจิตเปล่าๆ!

6. ไม่มีความสุขเวลาอยู่ด้วยกันมา 'สักพัก' แล้ว

บางครั้งความสัมพันธ์ของคู่รักก็ต้องมีช่วงเวลาที่ยากลำบาก! ต้องอาศัยความอดทนและเข้มแข็งเพื่อให้สิ่งต่างๆ ผ่านไปได้ด้วยดี แต่เธอต้องแยกแยะว่า ช่วงเวลาที่มีอุปสรรคบ้าง กับ การอยู่กับอุปสรรคตลอดเวลานั้นไม่เหมือนกัน!

ถ้าอยู่กับแฟนแล้วไม่มีความสุข ก็คงต้องถึงเวลาบอกลา ดูจากภายนอกอาจเหมือนรักกันดี คนทั่วไปดูไม่ออก ( แม้แต่แฟนของเธอก็อาจนึกไม่ถึง ) แต่ถ้าเสียงเรียกร้องภายในหัวใจบอกว่า 'คนนี้ไม่ใช่' ก็อย่าฝืน บอกเลิกไปแบบแมนๆ เลยดีกว่าค่ะ

7. คบเขาแก้เหงา ไม่ได้รักจริงๆ

สาวๆ บางคนมีนิสัยขี้เหงา อยู่คนเดียวไม่ได้ ต้องมีใครสักคนข้างกายอยู่เสมอทั้งที่ไม่ได้รักในฐานะแฟนเลยสักนิด เป็นโสดก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นสักหน่อย เกิดก็เกิดมาคนเดียว จะใช้ชีวิตคนเดียวต่อไปจะแปลกอะไร จริงไหมล่ะ

เธอไม่จำเป็นต้องดิ้นรนหาแฟนให้ได้จนจะเป็นจะตาย ถ้าเธอหลงรักในนิสัย มุมมองในชีวิตของเขา มีจุดที่สนใจร่วมกัน เข้ากันได้ก็แปลว่าเธอมาถูกทาง แต่ถ้าเธอแค่อยากมีใครคุยโทรศัพท์ด้วย กินข้าว ไปเที่ยว เทคแคร์เธอ นั่นไม่ใช่ความรักค่ะ แต่คือคนรับใช้!

อย่าปล่อยให้ทั้งสองฝ่ายเสียเวลา รีบปล่อยมือแล้วไปตามหาคนที่ใช่ดีกว่า ทั้งเธอและเขานั่นแหละค่ะ

8. มองไม่เห็นอนาคตร่วมกันกับเขาเลย

ตอนแรกคบอะไรๆ ก็ดีไปหมด ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ เขาสนใจอะไรเธอก็สนใจด้วย ไม่ว่าจะเรื่องกีฬา ภาพยนตร์ เพลงหรือแก๊งเพื่อนเดียวกัน แต่แค่ความสนใจที่มีเหมือนกันไม่ได้ช่วยให้ไปรอดตลอดฝั่ง แต่ต้องมี 'อนาคตร่วมกัน' ด้วยนะบ่อยครั้งที่ 'ความหลง' ทำให้คนตาบอด ทั้งที่เห็นๆ กันอยู่ว่าความสัมพันธ์ครั้งนี้ไปไม่รอด แม้จะรักกันหวานชื่นแค่ไหน ถ้าเป้าหมายในชีวิตต่างกันก็จบ เช่น ฝ่ายหนึ่งยังสนุกกับงาน แต่อีกฝ่ายอยากสร้างครอบครัวแล้ว ถ้าเธอเจอสถานการณ์แบบนี้คงต้องเลือกแล้วล่ะว่า จะอ้อนวอนให้เขาเปลี่ยนใจ, ยืดเวลาไปก่อน หรือเปลี่ยนแฟนไปเลย!

9. เธอเป็นฝ่ายที่ต้อง 'ยอม' ตลอด

เธอเริ่มเหนื่อยแล้วหรือยังกับการที่ต้องเป็นฝ่ายพยายาม คอยตื๊อ คอยวิ่งตาม เอาใจเขาตลอดเพื่อให้ความสัมพันธ์ดำเนินต่อไป ปรบมือข้างเดียวมันไม่ดังหรอกนะ ถ้าอีกฝ่ายไม่คิดจะช่วยประคับประคองกันเลย ก็ต้องถึงเวลาบอกลาแล้วล่ะ

เธออาจหลงใหลในรูปลักษณ์หน้าตาของเขา ( บางคนมีศักดิ์ศรีค้ำคอว่า อุตส่าห์จีบหนุ่มสุดฮอตในโรงเรียนติด จะยอมโดนทิ้งไม่ได้! ) ยอมให้เขาต่อว่า ด่าทอ ทิ้งของที่เธอให้อย่างไม่ไยดี ผิดนัดก็ไม่ว่า จนบางครั้งเลยเถิดไปถึงทำร้ายร่างกาย เธอก็ยอม ขอแค่เขาไม่จากไปไหน - -

กลับมาถามตัวเองซิ เธอมีความสุขกับสิ่งพวกนี้จริงๆ หรือ ถ้าไม่ไหวก็เดินออกมาเถอะค่ะ ยังมีหนุ่มๆ อีกเยอะแยะที่มีค่ากับเธอมากกว่าผู้ชายคนนี้

10. คบแล้วรู้สึกว่า ดึงอีกฝ่ายให้ตกต่ำตามไปด้วย

ข้อนี้อาจเกิดขึ้นได้เมื่อเธอรู้สึกว่า เธอคบกับคนที่ไม่คู่ควรกับตัวเอง เพราะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งด้อยกว่าในบางด้าน ( หรือทุกด้าน ) ทำให้เธอตกต่ำไปกับเขาด้วย เช่น เขาติดเกม เมื่อคบกับแฟนก็ทำให้เธอติดเกมไปด้วยจนเสียการเรียน หรือชักชวนกันไปในทางที่ไม่ดี เช่น ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ เป็นต้น

ลองทบทวนตัวเองว่า พฤติกรรมของเธอเปลี่ยนไปในทางที่แย่ลงเพราะเขาหรือไม่ ถ้าได้รับคำตอบว่า "ใช่" ก็คงถึงเวลาต้องโบกมือลาแล้วไปหาคนใหม่ที่ศีลเสมอกันแล้วล่ะค่ะ

11. เธอไม่อยากจะ 'ปรับความเข้าใจ' กับเขาอีกแล้ว

ทะเลาะทีก็ต้องง้อ ปรับความเข้าใจที ทะเลาะบ่อยครั้งขึ้น แรงขึ้นเรื่อยๆ จนเครียดจัด เริ่มโมโหหงุดหงิดจนเกิดความคิดว่า 'ไม่อยากไปง้ออีกต่อไปแล้ว เหนื่อย!' เพราะง้อไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา อีกไม่นานก็หาเรื่องมาต่อว่ากันอีกอยู่ดี

ถ้าเธอเริ่มรู้สึก 'เหนื่อย' หมดพลังที่จะรั้งความสัมพันธ์ ก็เป็นสัญญาณกลายๆ แล้วว่าเธอคงอยู่กับเขาต่อไปได้อีกไม่นาน อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด บอกเลิกเถอะค่ะก่อนอะไรๆ จะแย่ไปกว่านี้

12. ไม่มีเหตุผลที่จะ 'ทน' เขาอีกต่อไป

ลองถามตัวเองดูว่า 'ทำไมเธอจึงยังคบกับแฟนคนนี้อยู่ เขามีดีอะไร' ถ้าเธอเริ่มหาเหตุผลไม่ได้ คำตอบที่แท้จริงคือเธอ 'ทนคบ' เพราะไม่มีคนอื่นที่ดีกว่าค่ะ

เหตุผลประเภทที่ว่า 'เพราะเขาอยู่กับฉันตลอดเวลา' หรือ 'ฉันคุ้นชิน สนิทกับเขามากที่สุดแล้ว' หรือ 'ก็ไม่รู้สิ ก็คบๆไป' ไม่ใช่สิ่งที่จะเหนี่ยวรั้งอีกฝ่ายได้ เพราะไม่มีคำว่าความรักอยู่ในเหตุผลนั้นเลย ถ้าอีกฝ่ายเจอคนที่ดีกว่า ใช่กว่า ก็พร้อมจะปล่อยมืออย่างไม่ลังเล

ไม่ต้องรอให้เวลานั้นมาถึง เธอเป็นฝ่ายบอกเลิกก่อนเลยจะดีกว่า

=========================

ความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนไม่อาจอยู่ได้ด้วยเพียงรูปลักษณ์หน้าตา คำหวานที่ไร้ความหมาย พฤติกรรมทางกายที่ทำไปวันๆ เท่านั้น แต่ต้องเข้ากันได้ด้วยนิสัย ทัศนคติ มุมมอง เป้าหมายชีวิต และที่สำคัญ ต้องรัก เคารพและเชื่อใจกันค่ะ ไม่อย่างนั้นคู่รักที่หน้าตาสวยหล่อคงไม่แยกทางกันไปหลายต่อหลายรายหรอก

ทบทวนความสัมพันธ์ที่ผ่านมา ถ้ายังมีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่ด้วยกัน นึกภาพตัวเองอยู่กับคนอื่นไม่ออก ต้องเป็นเขาเท่านั้น ก็ถือว่าเขายังเป็นคนที่ใช่ แต่ถ้าเธอเริ่มเบื่อหน้าเขารัวๆ หงุดหงิดทุกครั้งที่เห็นหน้า ทำอะไรก็ไม่ถูกใจ คุยไปก็ทะเลาะทุกที ก็ลองห่างกันสักพัก

ถ้ารู้สึกว่า 'ไม่มีเขา เราก็อยู่ได้' อาจจะถึงเวลาแล้วที่ต้องจบความสัมพันธ์ ไปตามหาคนที่ใช่สักที หรือถ้าหาไม่เจอ การอยู่คนเดียวก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรขนาดนั้นหรอกค่ะ

มีคู่แล้วไม่ดี ก็ต้องโสดอย่างสตรอง! สู้ค่ะสาวๆ ทุกคน :3

=========================

Cr. 14 Valid Reasons to Break Up with Someone [ lovepanky ]http://www.lovepanky.com/love-couch/broken-heart/valid-reasons-to-break-up-with-someone