กลัวเข็ม ไม่อยากผ่าตัด ไม่ถนัดศัลยกรรม ขอให้มารวมกันตรงนี้!

รู้กันรึเปล่าว่ามันมีวิธีทำให้จมูกโด่งดูเป็นธรรมชาติได้โดยไม่ต้องศัลยกรรมไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องเย็บแผล ไม่ต้องพักฟื้น และที่สำคัญคือไม่ทิ้งรอยแผลไว้กวนใจทำเสร็จแล้วก็เดินสวยๆ ออกจากคลินิกได้เลย !

รูปภาพ:

ย้ำว่าไม่ได้เวอร์ เพราะมายด์ไปลองใช้บริการจริงด้วยตัวเองมาแล้ว ที่Waleerat Clinicซึ่งที่นี่ เค้าจะเรียกว่าการ‘ ฉีดไหมจมูก ’ขอบอกว่าการมาฉีดไหมเสริมจมูกที่นี่ทำมายด์อึ้งและทึ่งจริงๆเพราะคุณหมอปั้นดั้งเราให้โด่งขึ้นได้โดยที่ไม่มีการผ่าตัดใดๆ ใช้เพียงการวิเคราะห์รูปหน้า ดูรูปทรงจมูกที่เหมาะสมให้ และใช้เวลาฉีดไหมเพียงไม่นานก็เสร็จ!

พูดไปก็จะไม่เห็นภาพเนอะ งั้นตามมายด์มาดูรีวิวฉีดไหมเสริมจมูกแบบช็อตต่อช็อตไม่ให้พลาดซักขั้นตอนกันเลยดีกว่าดูจบแล้วคนดั้งน้อยจะต้องหวั่นไหว อยากทำบ้างแน่นอน มายด์คอนเฟิร์ม!

★ ‘ ฉีดไหมจมูก ’ คืออะไร เหมาะกับใครบ้าง ?

เอาจริงๆ แม้จะดั้งไม่โด่ง ค่อนข้างแบน ทำให้เสียความมั่นใจไปบ้าง แต่ที่ผ่านมาก็ยังไม่เคยคิดจะไปศัลยกรรมผ่าตัดเสริมจมูกหรือคิดจะไปฉีดฟิลเลอร์เสริมจมูกแบบจริงจังเพราะตั้งใจว่าถ้าจะอยากให้จมูกดูโด่งขึ้นก็จะขอคงความเป็นธรรมชาติเอาไว้ให้ได้มากที่สุด และใช้วิธีที่อันตรายน้อยที่สุด เพราะใจไม่กล้าพอ >w<

แต่พอรู้ว่าร้อยไหมเสริมจมูก หรือที่วลีรัตน์คลินิกเรียกว่าฉีดไหมจมูก ( Diamond Nose )นั้นเป็นวิธีที่เซฟมากขึ้น คือไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องมีแผลผ่าตัดมากวนใจ ใช้เวลาไม่นาน แถมยังเป็นวิธีการที่เป็นการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนขึ้นมาได้เอง ก็เลยรู้สึกว่าตัวนี้ดูเบากว่า ตอบโจทย์เราได้นะ

รูปภาพ:

คุณหมออธิบายให้ฟังว่าการฉีดไหมจมูกจะเป็นการฉีดไหมละลาย (PDO: Polydioxanone) ซึ่งเป็นไหมที่ละลายได้เองในร่างกายจึงไม่เหลือสารตกค้างที่เป็นอันตรายไว้และด้วยรูปทรงของไหมที่เป็นลักษณะไหมหล่อ (Molding) มีเงี่ยงไหมรอบด้านจึงช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และยังมีขนาดใหญ่ทำให้กระตุ้นคอลลาเจนได้มาก และมีความคงทนอยู่ได้นานถึง 5 ปี

กลไกการทำงานคือเมื่อไหมเข้าไปใต้ชั้นผิวหนัง ร่างกายจะมีกลไกรักษาตัวเองตามสัญชาติญาณ โดยกระตุ้นคอลลาเจนและเร่งสร้างเนื้อเยื่อใหม่มาพันรอบเส้นไหมเมื่อเส้นไหมละลายไปเองตามระยะเวลาที่เหมาะสม แต่คอลลาเจนและเนื้อเยื่อใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นยังมีอยู่และยังถูกร่างกายกระตุ้นตลอดเวลา และนั่นแหละคือกระบวนการสำคัญที่ช่วยคงรูปทรงจมูกที่ปั้นเอาไว้ได้ยาวนาน

รูปภาพ:

วิธีนี้จะแก้ปัญหาจมูกได้คล้ายกับการทำศัลยกรรม เช่น แก้ปัญหาจมูกแบน เพิ่มความโด่ง เก็บปีกจมูกให้แคบลง ตกแต่งปลายจมูกปลายเชิด ปลายหยดน้ำ แก้ฮัมพ์ โดยมีแผลเล็กแค่รอยเข็ม

อย่างของมายด์เป็นเคสที่คุณหมอวิเคราะห์ว่า“ จมูกเดิมค่อนข้างมีเนื้อจมูกน้อย ทำยากหน่อย จึงจะใช้ไหมแบบ combined technic เป็นวัสดุพิเศษ ช่วยเสริมให้จมูกโด่งแบบเป็นธรรมชาติ ไม่เยอะจนดูหลอก แต่จะช่วยเพิ่มมิติบนใบหน้าทั้งมุมด้านหน้าและด้านข้างแทน ”และเมื่อคุณหมอพร้อมแล้ว มายด์ก็พร้อมลุย

★ ขั้นตอนฉีดไหมเสริมจมูก

หลังจากนั้นก็ไปคลีนจมูก ประคบเย็นพร้อมฉีดยาชา งานนี้ต้องติดตามดูให้ดีอย่ากะพริบตา เพราะคุณหมอทำอย่างชำนาญ คล่องแคล่ว เผลอแป๊บเดียวคือเสร็จแล้วอะ

รูปภาพ:

เริ่มจากมาร์คตำแหน่งวางไหมก่อน จากนั้นคุณหมอจะฉีดไหมโดยใช้เข็มปลายทู่เพื่อลดความบวมช้ำและรอยเขียวช้ำ พร้อมปั้นดั้งไปด้วยอย่างชำนาญระหว่างทำคุณหมอจะคอยถามตลอดว่าเจ็บมั้ยเอาตรงๆ มีเจ็บจิ๊ดเดียวตรงฉีดยาชา ที่เหลือคือไม่เจ็บเลยจริงๆ มันเป็นแค่ความรู้สึกตึงๆ แค่นั้นเอง นี่ก็ยังแอบทึ่งๆ อยู่ในใจเลย

แล้วคุณหมอก็ฉีดไหมอยุ่ประมาณ 5-6 ครั้ง ก็เป็นอันว่าเสร็จแล้วค่ะ แค่นี้เลย!

★ ความรู้สึกหลังทำ

รูปภาพ:

พอเสร็จแล้วคุณหมอก็ยื่นกระจกให้ดู คือประทับใจมาก เห็นชัดเลยว่าดั้งโด่งขึ้นจากเดิมจริงๆ และที่ถูกใจสุดคือดูเป็นธรรมชาติ ไม่มีแบบเป็นแท่งหรือเป็นแกนๆ ให้เห็น แต่มีสันคมที่ดูมีมิติ ยิ่งมองจมูกตัวเองก็ยิ่งชอบ ^^

อีกข้อที่ยอมรับว่าดีจริงคือรอยแผลเป็นเพียงรอยจุดเล็กๆ ของเข็ม แล้วก็ปิดพลาสเตอร์เล็กๆ ไว้เพื่อกันโดนน้ำ แค่นี้ก็ไม่เห็นแผลแล้ว

รูปภาพ:รูปภาพ:

จากนั้นเราก็มาดูผลลัพธ์กันแบบชัดๆ อีกที หลังทำ 3 วันแรกอาจจะเขียวๆ ตรงฮัมพ์หรือบริเวณสันจมูกนิดหน่อยแค่นั้นแต่ประมาณ 1 สัปดาห์ก็เข้าที่ สวยเลยอะมาถึงตรงนี้เข้าใจเลยว่าทำไมฉีดไหมเสริมจมูกถึงได้รับความนิยมในปัจจุบันนัก เพราะไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน มีแผลเพียงนิดเดียว แล้วยังให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติไปอีีก

★ คำแนะนำก่อน-หลังทำ

อีกข้อที่สำคัญในการฉีดไหมเสริมจมูกคือต้องดูแลตัวเอง เช็คข้อมูลให้ดีทั้งก่อนและหลังทำกันด้วยนะโดยทางวลีรัตน์คลินิคให้คำแนะนำมาว่า ก่อนฉีดไหมจมูกควรงดอาหารเสริมหรือยาบางชนิดที่ทำให้เลือดออกง่าย

และหลังทำเสร็จก็ควรป้องกันไม่ให้แผลโดนน้ำประมาณ 12 ชม. หลีกเลี่ยงการสัมผัสจมูกแรงๆ ในช่วงแรก เพื่อป้องการการเคลื่อนตัวของเส้นไหม เพราะงั้นห้ามสั่งน้ำมูกหรือบีบจมูก เลี่ยงการให้ใบหน้าสัมผัสกับความร้อนโดยตรงหรือแคะดันปลายจมูกไปอีกอย่างน้อย 2 สัปดาห์

นอกจากนี้ก็ควรงดแอลกอฮอล์ และควรนอนหงาย นอนหมอนเสริมได้ก็จะดี ประคบเย็นหากมีอาการปวด กินคอลลาเจนและวิตามินซีสม่ำเสมอหลังจากฉีดไหมในช่วงแรกเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเนื้อเยื่อใหม่ และสุดท้ายคือกินยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัดทำตามนี้รับรองว่าได้จมูกโด่งสวยสมใจ อยู่คู่ใบหน้าเราไปอีกนาน

★ - - - - - - - - - - - - - - - ★

รูปภาพ:

จบแล้วค่ารีวิวฉีดไหมเสริมจมูกแบบช็อตต่อช็อตมายด์ทำมาให้เห็นกันแบบละเอียดทุกขั้นตอน รวมถึงสร้างความเข้าใจให้กับคนที่อยากเสริมจมูกแต่ไม่อยากผ่าตัดศัลยกรรม ไม่อยากพักฟื้นและรอแผลหายนานด้วย

ที่สำคัญคือจะเห็นชัดเจนเลยว่าจมูกของมายด์ดูโด่งขึ้นทันทีหลังทำเสร็จ และค่อยๆ มีสันคมที่ชัดขึ้น ช่วยให้ใบหน้าดูมีมิติกว่าเก่า ไม่ดูเป็นแกน ไม่เป็นแท่งอย่างที่กลัวเลย จุดนี้ต้องยอมรับว่าความเชี่ยวชาญของคุณหมอ ช่วยแก้ปัญหาจมูกมายด์ได้อย่างตรงจุดและให้ผลลัพธ์แบบมีประสิทธิภาพได้จริงสมใจมายด์ที่สุดอะ

ใครที่อยากลองทำหรือจะลองปรึกษาปัญหารูปหน้าของตัวเองก่อนก็ลองไปใช้บริการด้วยตัวเองกันได้นะ รู้น่าว่าทุกคนเริ่มหวั่นไหวแล้ว งั้นเราฝากลิงก์ไว้ให้ตรงนี้เลยแล้วกันhttps://www.waleerat.com/service/diamond-nose-รับประกันว่าทำแล้วถูกใจแน่นอน :))