10 วิธี ทำยังไง ให้ เขา 'อยากแชท' กับเราอีกนะ!?
ถ้าไม่อยากให้หนุ่มที่แอบปิ๊งหนีหาย เพราะข้อความที่เราส่งแล้วล่ะก็ ต้องดู
เผยแพร่: 9 มิ.ย. 2558 09:00 น.
Views: 1,772,531
รหัสบทความ: 762
สำหรับทุกคนในยุคปัจจุบันนี้ การสื่อสารที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุด เห็นทีจะเป็นการสื่อสารด้วยนิ้วมือของเราซะมากกว่า ใช่แล้ว...คนยุคนี้ให้ความสนใจการสื่อสารผ่านตัวหนังสือมากกว่าใช้น้ำเสียงของตัวเองในการพูดคุย ซึ่งมั่นใจได้เลยว่า เกือบ 100% ของสาวๆ ในนี้ต้องชอบการพิมพ์การแชทเป็นชีวิตจิตใจแน่นอนบางคนนี่อาจมีทั้งLine,Messenger,Wechat,Kakao Talkหรืออะไรก็ตามที่สามารถรัวนิ้วแชทได้เพลินๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสำคัญ เรื่องทั่วไป คุยกับเพื่อน คุยกับแฟน คุยกับคนที่แอบปิ๊งเราก็สื่อสารผ่านข้อความกันทั้งนั้น แต่มันก็มีข้อควรระวังอยู่อย่างคือการแชทของเราจะกลายเป็นการทำให้คนที่เราแอบปิ๊ง หนีเราไปโดยไม่รู้ตัวหรือเปล่า?ดังนั้นในวันนี้เราจึงมีคำแนะนำเล็กๆ น้อยๆ ที่จะช่วยให้เรามั่นใจในการโต้ตอบผ่านข้อความได้ว่า เราเลือกที่จะสร้างความรู้สึกที่ดีแก่คนที่เราคุย และไม่ได้เป็นการรบกวนเขาจนเกินไป
10 วิธี การแชทที่มีเสน่ห์
1. อย่าเผลอเขียนเรียงความไปให้เขา
เก็บบทสนทนายาวๆ ไว้คุยกับเขาตอนได้เจอกัน แล้วคุยกันต่อหน้าดีกว่า หรือถ้าเรื่องที่จะคุยเป็นเรื่องสำคัญ คุณก็ต้องเตือนให้เขาถามคุณเกี่ยวกับเรื่องนั้นเมื่อเจอกัน เพราะว่าบทสนทนาที่จะคุยมันคงจะยาวเกินกว่าที่จะส่งเป็นข้อความ
จำไว้ว่าเรื่องสำคัญๆ บ่อยครั้งมักจะถูกแปลความไปผิดเมื่ออยู่ในรูปแบบข้อความ ดังนั้นควรจะทำให้ข้อความกระชับ และไม่ยืดยาว ซับซ้อนจนเกินไป
2. ถ้าไม่ใช่เรื่องสำคัญมาก อย่าส่งไป
ควรจะให้ความเคารพกับเวลาส่วนตัวของเขาบ้าง คนส่วนใหญ่ถ้ามีข้อความมาก็จะต้องอ่าน เพราะเป็นสิ่งที่คนเราคิดว่าควรทำใช่มั้ยล่ะ ดังนั้นก่อนจะกดส่ง ต้องมั่นใจว่าคุณไม่ได้ส่งข้อความหาเขาในทุกเรื่องที่ผุดขึ้นมาในหัว หรือทุกเรื่องที่คุณนึกขึ้นมาได้ และต้องระมัดระวังในการใช้คำด้วย เพราะคำพูดเป็นนายคนนะจ๊ะ
3. ส่งไปแค่ข้อความที่ดีๆ
เพราะว่าคนอื่นไม่สามารถได้ยินโทนน้ำเสียงของคุณผ่านข้อความได้ ดังนั้นคุณไม่ควรคุยทุกเรื่องที่คุณต้องการอยากจะคุย อยากจะถกประเด็นกัน หากอยากจะคุยก็เก็บเอาไว้คุยผ่านโทรศัพท์หรือคุยกันตัวต่อตัวน่าจะดีกว่านะ และหากคุณคิดว่าคนที่คุณคุยด้วยไม่เข้าใจเรื่องที่คุณพูด ก็ให้เขาโทรมา หรือรอไปก่อน ตอนนีคนเรากลายเป็นคนที่หมดความอดทนได้ง่าย นับตั้งแต่ที่ผู้คนสามารถติดต่อหากันได้อย่างรวดเร็วเพียงแค่คลิก ซึ่งความเร็วนี้ต้องแลกกับการเข้าใจผิดในเรื่่องซีเรียส ผ่านทางตัวอักษรเช่นกัน
4. โฟกัสไปที่เป้าหมาย
หากคุณพบว่าตัวเองกำลังนั่งเฝ้ารอให้เขาตอบกลับอย่างเดียวและรู้สึกเหมือนโดนปั่นหัว ก็ขอจงโฟกัสไปที่เรื่องอื่นบ้าง จำไว้ว่า คุณน่ะยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว ไม่ว่าเขาจะชอบคุณหรือไม่ และช่วงเวลาในการตอบกลับข้อความของเขานั้นไม่ใช่เรืองสำคัญเลย คุณคงไม่อยากถูกผูกมัดไปกับการใช้เวลาด้วยการนั่งรอเพื่อจะได้แชทกับเขาอยู่ตลอดทุกชั่วโมงตลอดทั้งวัน จนไม่ได้ใส่ใจไปที่เป้าหมายอื่นของคุณเลยใช่มั้ย
เรียงลำดับความสำคัญของเป้าหมายคุณให้ดีดีกว่านะ แล้วเขาจะซาบซึ้งกับเวลาที่คุณมอบให้เขา
5. ทำตัวให้เหมาะสมมากขึ้น
อย่าเอาแต่ส่งข้อความน่าเบื่อไปหาเขา อย่างเรื่องอาหารที่คุณต้องการ ของที่ต้องใช้ ลองใช้สติคิดดูก่อนว่า มีอะไรที่จะทำให้เขามีวันที่ดีได้บ้าง? คุณรู้น่า...ว่าอะไรที่จะทำให้เขารู้สึกดีได้ และเขาจะตอบสนองอย่างไร ฉะนั้นใช้ความเป็นผู้หญิงของคุณสร้างความกระชุ่มกระชวยให้กับวันของเขาหน่อย แต่ไม่ใช่ว่าให้ออกนอกทะเลไปไกลนะ แค่ให้สนุกแบบซอฟท์ๆ เพียงพอที่จะทำให้เขารู้สึกได้ว่าโชคดีแค่ไหนที่มีผู้หญิงแบบคุณอยู่ในชีวิต
6. สร้างเสียงหัวเราะให้กับเขา
นานๆครั้ง ลองส่งอะไรก็ได้ที่ตลกๆ ไปให้เขาดูหน่อย อย่างพวกภาพฮาๆ วิดีโอตลกๆ หรือคำคมขำๆ อะไรก็ได้ เพราะมันเป็นวิธีที่ดีที่จะทำให้ใครสักคนมีความสุข โดยเฉพาะหากว่าใครที่มีเรื่องเครียดๆ อยู่ ลองส่งข้อความของคุณที่สามารถแบ่งปันพลังงานดีๆ ให้กับเขา แทนที่จะไปส่งพลังงานดราม่าไปให้เขา หรือวิกฤติชีวิตใดๆ ที่เคยเจอ เอาเป็นว่าเรื่องตลกนี่แหละดีที่สุดแล้ว!
7. เว้นระยะห่างกับเขาบ้าง
ตอนนี้คุณคิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่เอาแต่ใจรึเปล่า การเกาะติดกับเขามากเกินไปอาจเป็นการทำลายความสัมพันธ์กันได้ ก็เหมือนกับที่คุณคงไม่อยากให้เขามาเกาะหนึบอยู่กับคุณตลอดเวลาจนคุณไม่สามารถให้ความสำคัญกับเรื่องอื่นได้เลย นั่นแหละ คุณก็ไม่ควรทำแบบนั้นกับเขาเช่นเดียวกัน แต่ถ้าคุณรู้สึกกระวนกระวาย ก็หยุดแค่รู้สึกพอ แล้วไปหาอย่างอื่นทำ อย่างการทำสมาธิ ออกกำลังกาย อ่านหนังสือที่ทำให้รู้สึกดีขึ้น
มันก็มีบ้างอยู่แล้วที่เราจะรู้สึกแบบนี้ แต่มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร และจงอย่าได้นำไปปนกับความสัมพันธ์เชียวนะ
8. เป็นแรงบันดาลใจให้เขา
คุณต้องยอมรับว่า ผู้ชายก็มีความเครียดของตัวเองอยู่แล้ว ฉะนั้นไม่มีเหตุผลที่เราจะต้องไปเพิ่มความเครียดให้เขาขึ้นไปอีก ทุกวันเขาก็ต้องเผชิญกับความผิดหวัง ขุ่นมัว เหมือนที่เราเป็นนี่แหละ อย่าไปพยายามสูบพลังเขาด้วยการส่งข้อความงอแง หงุดหงิด เกี่ยวกับคนที่ทำให้คุณอารมณ์เสียหรืออะไรก็ตามที่ไม่เป็นดังหวังในวันนั้นๆ แต่ให้มอบพลังงานที่ดีให้กับเขาแทน ไม่ว่าจะเป็นข้อความที่มอบพลัง ภาพที่สร้างแรงบันดาลใจหรืออะไรก็ได้ที่สร้างความรู้สึกทีดี ขอแค่ต้องนึกไว้ว่าถึงแม้ความสัมพันธ์ของคุณจะเป็นแบบสบายๆก็ตาม แต่ในแต่ละวันควรจะมุ่งไปในแง่บวก และมอบความสุขให้กับวันของคนรอบข้าง หากคุณรู้สึกเหมือนหมดพลัง ให้ชาร์ตตัวเองด้วยการงีบ หรือนอนแทนที่จะไปลงที่ผู้ชายของคุณนะ
9. ถามคำถามเขา
หากคุณต้องการรู้จักเขาให้มากขึ้น ก็จงแสดงออกว่าคุณใส่ใจเขา ใช้ข้อความให้เป็นประโยชน์ ถามเขาเกี่ยวกับชีวิตของเขา ความฝันของเขา แล้วเขาจะรู้สึกว่าคุณเอาใจใส่และสนับสนุนเขาดี ส่วนสิ่งที่ควรเลี่ยงก็คือ การพูดเกี่ยวกับเรื่องของตัวเอง เพราะจะทำให้เขารู้สึกรำคาญกับข้อความของคุณ ลองถามเขาเกี่ยวกับทัศนคติ หรือคำปรึกษาจากเขา เพื่อจะได้แสดงให้เห็นว่าคุณให้ความเคารพ และนับถือในความคิดของเขา แถมยังเป็นการทำให้เขารู้สึกว่าคุณมั่นใจในความฉลาดของเขาอีกต่างหาก
10. อย่าเพลินกับการใช้ Emoticon มากไป
มันง่ายที่จะย่อตัวหนังสือให้เหลือเพียงแค่หน้ายิ้ม หรือ emoticon แต่ว่ามันไม่สามารถโชว์ความเอาใจใส่ได้มากนัก มันเหมือนกับเราบอกเขาว่า “ดูสิ เธอมีค่าแค่ภาพนี้ที่ใช้เวลาแค่เศษเสี้ยววิ ในการส่ง” ถ้าคุณเล่าเรืองด้วยการใช้อีโมติคอนที่ทำให้เขาต้องจินตนาการเอาเองว่ามันสื่อถึงอะไร มันก็อาจจะดูน่ารักและน่าเอ็นดูแหละ แต่ก็อย่าทุ่มใช้จนทักษะทางด้านการสื่อสารของคุณเสื่อมสภาพไปล่ะ ฉะนั้นใช้แค่เป็นสีสันก็พอนะจ๊ะ
สรุปแล้วเคล็ดลับที่จะทำให้เขาอยากคุยกับเราอีกก็คือ การสร้างความรู้สึกที่ดีกับเขาเข้าไว้ ถ้าเราสร้างโมเมนต์ดีๆ ให้เกิดขึ้นกับเขา ให้กำลังใจ ทำให้เขาหัวเราะ และเป็นผู้หญิงอารมณ์ดี ยังไง้...ยังไงเขาก็ต้องอยากคุยกับเราอีกแน่นอน
ใครๆ ก็อยากวิ่งเข้าหาคนที่ดึงดูดแต่สิ่งดีๆทั้งนั้นล่ะจริงมั้ย?
