♪♪♪ ฉันเหมือนคนไม่มีกําลัง และหมดแรงจะยืนจะลุกจะเดินไป

ฉันเหมือนคนกำลังจะตาย ที่ขาดอากาศจะหายใจ ♪♪♪

รูปภาพ:https://media1.giphy.com/media/3orif0olmGNHtrBnXO/giphy.gif?cid=ecf05e47b5a37068a2209824aab8cab5b93c6124412ca60f&rid=giphy.gif

No No No!!! อย่าเพิ่งดึงดราม่า บีบน้ำตาจนท่วมห้องไปซะก่อนล่ะ เพราะไอ้อาการไม่มีกำลัง หมดแรง ซังกะตาย ใช้ชีวิตในทุกๆ วันเหมือนกับซากศพเดินได้ก็ไม่ปาน มันไม่ได้มีสาเหตุมาจากอาการอกหักหรือโดนทิ้งเท่านั้นหรอกนะจริงๆ แล้วใครก็ตามที่กำลังรู้สึกหมดไฟ ไร้จุดมุ่งหมายในชีวิต หรือถ้าจะใช้คำให้มันดูเก๋ขึ้นมาหน่อยอย่าง#หมดแพชชั่นไม่ว่าจะเป็นเรื่องชีวิตประจำวัน เรื่องเรียน เรื่องการทำงาน หรือแม้แต่เรื่องความรักก็สามารถรู้สึกเซ็งๆ นอยด์ๆ แบบนี้กันได้ทั้งนั้นนั่นแหละ

โดยตัวเราเองก็เคยมีโมเมนต์ที่รู้สึกหมดไฟด้วยเหมือนกันนะ อาจจะเรียกได้ว่าเกิดขึ้นบ่อยๆ อย่างน้อยอาทิตย์ละครั้งเลยก็ว่าได้ ><ยิ่งช่วงไหนที่มีเรื่องให้คิด ให้เครียด หรือมีอะไรเข้ามากวนใจนิดๆ หน่อยๆก็ทำให้รู้สึกหมดไฟ หมดกำลังใจ จนอยากจะเททุกอย่างให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเหมือนกันอย่างในช่วงสมัยเรียนมหาวิทยาลัย จู่ๆ ก็เคยหมดไฟในการเรียน คิดโปรเจกต์ไม่ออกสมัยที่ทำงานก็เคยไอเดียตัน ทำงานไปวันๆ แบบไม่มีแรงจูงใจเหมือนมีเพลง‘ ชั้นมาทำอะไรที่นี่ ~~~ ’ลอยวนในหัวตลอดเวลา


รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/a8/00/2d/a8002d4c9a61490df11d2354c19b2609.jpg

แต่ถ้าปล่อยให้ตัวเองจมกับความรู้สึกนี้นานๆ เข้า ก็กลัวว่าเราจะกลายเป็นคนหมดไฟ ใช้ชีวิตแบบล่องลอย ไม่มีความสุขขึ้นมาจริงๆเราเลยอยากจะมาแชร์วิธีเติมกำลังใจ / เติมไฟในแบบฉบับของตัวเองกับสาวซิสเผื่อว่าวิธีเหล่านี้อาจช่วยจุดประกายไฟในวันที่หมดพลังให้กับเพื่อนๆ ทุกคนได้นะ ^^

。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆


① นอน… หนีปัญหา

ทุกครั้งที่เรารู้สึกว่าสิ่งต่างๆ มันดูยากเย็นเกินไป หรือพยายามมากเท่าไหร่ก็ดูจะไม่เป็นไปตามที่ใจหวัง จนพาลทำให้ตัวเองรู้สึกหมดไฟ / หมดกำลังใจลงไปเรื่อยๆ ต่อให้พยายามคิดหาทางออกขนาดไหน แต่คิดไป คิดมา ยิ่งคิดก็ดูจะยิ่งเครียดหนักกว่าเดิมเข้าไปอีกวิธีเรียนคืนสติและช่วยทำให้เราใจเย็นลงได้ก็คือการ‘ นอนหลับ ’นี่แหละ หรือจะเรียกว่าใช้วิธีนอนเพื่อหนีปัญหาก็ได้นะ

เพราะทุกครั้งที่เรานอนหลับก็เหมือนได้ปล่อยให้สมองเรียบเรียงเรื่องราวต่างๆ ที่พบเจอได้ใช้เวลาพักผ่อนเอาแรงไปสักระยะหนึ่งพอตื่นขึ้นมาอีกทีก็จะรู้สึกว่าจิตใจสงบขึ้นพร้อมที่จะคิดวางแผนแล้วว่าควรจะทำอะไร? จะเอายังไงต่อไปดี?แล้วบางครั้งก็มักจะได้ไอเดียใหม่ๆ มาเป็นของแถมอีกด้วย

② หาต้นตอของปัญหาให้เจอ

เราเชื่อว่าทุกปัญหาที่เกิดขึ้น มันมักจะมีสาเหตุหรือต้นตอของปัญหานั้นๆ เสมอ อย่างปัญหาเรื่องการหมดไฟ / หมดแพชชั่นก็เช่นกันดังนั้น ถ้าอยากจะกำจัดความรู้สึกนี้ให้มันหายไป ก็ต้องลองพยายามหาต้นตอของปัญหาให้เจออย่างเช่น ถ้ารู้สึกหมดไฟในการทำงาน ก็ต้องลองถามตัวเองแล้วว่ามันเป็นเพราะอะไร…เป็นเพราะเบื่องานที่ทำ / เป็นเพราะเริ่มอิ่มตัว / เป็นเพราะงานที่ทำอยู่มันไม่ใช่

พอเราหาคำตอบได้แล้วว่าสาเหตุที่ทำให้รู้สึกหมดไฟมันเกิดจากอะไรก็จะช่วยให้เราสามารถหาทางออก วิธีแก้ไข หรือวางแผนในอนาคตข้างหน้าต่อไปได้ว่าควรทำอะไร หรือเปลี่ยนแปลงชีวิตยังไงให้มันดีขึ้น

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/b9/ad/60/b9ad60bab9089eb9b8c28bf9d6aca1a8.jpg

③ ถามใจให้ดีว่าอยากทำอะไร

บางทีความเบื่อหน่ายกับอะไรเดิมๆ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เรารู้สึกหมดไฟได้แบบไม่รู้ตัวเลยนะก็ถ้าใจของเราเองบอกว่าเบื่อ บ่นว่าเหนื่อย คิดว่าไม่อยากทำมันอีกต่อไปต่อให้พยายามโฟกัสแค่ไหนก็ทำไม่ได้อยู่ดีมันคงถึงเวลาแล้วล่ะที่ต้องลองถามใจให้ดีๆ ว่าตัวเราเองอยากจะทำอะไรกันแน่???

ถ้าหากรู้สึกหมดแพชชั่นในเรื่องการทำงาน ก็ต้องลองถามตัวเองว่าจริงๆ แล้วอยากทำอะไรหรือถ้างานที่ทำอยู่ตอนนี้มันเหนื่อยหรือหนักหนามากจนเกินไป อย่างน้อยๆ ก็ลองหาเวลาไปพักผ่อนหย่อนใจเพื่อเป็นการปลดปล่อยความเครียดและภาระต่างๆไม่แน่ว่าอาจจะได้ชาร์จแบตให้ร่างกาย และเติมไฟให้ใจกลับมาพร้อมลุยสิ่งที่ต้องทำต่อไปก็ได้ ของแบบนี้มันต้องลองดูก่อนถึงจะรู้ได้นะว่าเวิร์ครึเปล่า

④ ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน

เคยเป็นมั้ยคะ… ยิ่งเดินไปข้างหน้า ยิ่งมองไม่เห็นทาง เลยทำให้สิ่งต่างๆ มันดูยากเย็นและเป็นไปไม่ได้เข้าไปเรื่อยๆหากใครที่กำลังรู้สึกหมดไฟเหมือนกันในตอนนี้ อาจเป็นเพราะว่าเรามีเป้าหมายที่ยังไม่ชัดเจนพอก็ได้นะอย่างเช่น อยากทำนั่น ทำนี่ อยากเป็นอย่างโน้น อย่างนี้พร้อมกันไปซะหมด จนหลงทางและไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นที่ตรงไหนดีพอเรื่องต่างๆ มันตีกันเลยทำให้หลุดโฟกัสและอยากถอดใจในที่สุด

เพราะฉะนั้นควรเริ่มต้นใหม่ด้วยการค้นหาสิ่งที่ต้องเองอยากทำโดยอาจจะเป็นเป้าหมายเล็กๆ ที่ไม่ได้ไกลตัวมากนักก็ได้พอเราปักหมุดจุดหมายที่จะเดินทางไปได้แล้ว ก็จะช่วยให้วางแผนเพื่อเดินไปสู่เป้าหมายนั้นๆ ได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมว่าควรต้องทำยังไงบ้าง? ควรลำดับความสำคัญอะไรก่อน - หลัง?พอลงมือทำไป พร้อมๆ กับมองเห็นจุดหมายที่เริ่มใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ก็จะยิ่งมีกำลังใจอยากทำมันให้สำเร็จ

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/e7/7b/50/e77b502460cc85acb397d305097da0d1.jpg

⑤ เติมความรู้ใหม่ๆ ให้ตัวเอง

ขอสารภาพตรงนี้เลยนะว่ามีหลายครั้งเชียวล่ะที่เรามักจะรู้สึกว่า‘ ตัวเองสู้คนอื่นไม่ได้ ’ / ‘ มีคนที่เก่งกว่าเราอีกตั้งเยอะ ’ / ‘ ยังไม่ทันลงสนามสู้ ก็รู้สึกเหมือนจะแพ้ซะแล้ว ’ซึ่งความคิดหรือทัศนคติแบบนี้แหละที่เป็นสาเหตุที่ทำให้รู้สึกนอยด์แตก ไม่มีกำลังใจ ไม่มีไฟที่จะลุกขึ้นสู้หรือลงมือทำอะไรสักอย่าง

แต่จะไปขอให้คนอื่นอ่อนข้อให้ก็คงไม่ใช่เรื่องหรอกนะเราเลยบอกตัวเองเสมอว่าถ้ารู้ว่าไม่เก่งเรื่องไหน ก็ต้องขวนขวาย เรียนรู้ และพยายามฝึกฝนบ่อยๆเพราะถ้ามัวแต่อยู่เฉยๆ แล้วดูถูกตัวเองเรื่อยๆ ต่อไปก็ไม่ช่วยแก้ไขปัญหา และไม่มีทางเก่งขึ้นกว่านี้อย่างแน่นอนพอมีความรู้ ความสามารถ และมีสกิลด้านต่างๆ เพิ่มขึ้นแล้วก็จะช่วยเรียนคืนความมั่นใจ ได้ลองลงมือทำเพื่อให้รู้ตัวว่าชอบ / ไม่ชอบสิ่งไหน แลัวยังเป็นการเสริมสร้างแรงบันดาลใจให้อยากทำสิ่งต่างๆ มากขึ้นกว่าเดิมด้วย

⑥ ใช้ความสำเร็จของคนอื่นเป็นแรงบันดาลใจ

ถ้าหากใช้‘ ความอิจฉา ’ให้เป็นประโยชน์ ก็สามารถเปลี่ยนมันมาเป็นแรงผลักดันให้อยากประสบความสำเร็จในชีวิตได้เหมือนกันนะบางช่วงเวลาที่เรารู้สึกหมดไฟในตัวเอง อยากปล่อยให้ชีวิตไหลตามน้ำไปวันๆ ไม่จริงจังกับสิ่งไหนเลยสักนิดเราก็จะชอบเปิดดูคลิปของคนที่ประสบความสำเร็จ / คนเก่งๆ ทั้งหลายว่ากว่าที่เค้าเหล่านั้นจะมีชีวิตที่ดีอย่างวันนี้ได้ ก็ต้องลงมือทำและทุ่มเทหลายๆ อย่างในชีวิต

พอยิ่งเปิดดูความสำเร็จของคนอื่น ได้รับรู้ว่าชีวิตของเค้ามันดีแค่ไหน แล้วได้หันกลับมามองตัวเองที่ชีวิตยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่างความอิจฉาที่มีอยู่ในใจนี่แหละที่จะเป็นน้ำมันชั้นดีที่จะช่วยจุดประกายให้เราอยากได้ อยากมี อยากลงมือทำสิ่งๆ หนึ่งให้กลายมาเป็นคนที่ประสบความสำเร็จบ้าง


。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆。⋆

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/ed/44/d2/ed44d2a8c8111baf5a7984944c32d0b9.jpg

ภาวะหมดไฟ… เป็นเรื่องที่สามารถเกิดได้กับคนทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงอายุไหน มีหน้าที่การงานอะไร หรือแม้แต่สถานะไหนก็ตามเพราะสภาวะแวดล้อมที่ต้องพบเจอในชีวิตประจำวัน ความเบื่อหน่ายจากการทำอะไรเดิมๆ ซ้ำๆ หรือการใช้ชีวิตแบบไร้จุดหมายปลายทาง ก็ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้รู้สึกหมดกำลังใจ ไม่มีแรงทำสิ่งต่างๆ ได้ทั้งนั้นสิ่งสำคัญมันอยู่ที่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่รู้สึกหมดไฟ ก็ต้องรีบหาต้นตอและลงมือเปลี่ยนแปลงแก้ไขเพื่อจุดประกายให้ชีวิตกลับมามีไฟและพร้อมทุ่มเททำอะไรสักอย่างมากขึ้น

ถ้าหากเพื่อนๆ คนไหนที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์นี้ เราก็หวังว่าวิธีเติมไฟในแบบฉบับของตัวเองเราเอง อาจช่วยเรียกคืนแรงใจให้กลับมาได้อีกครั้ง หรือถ้าใครมีวิธีดีๆ วิธีไหนอีกบ้าง ก็ลองแชร์ ลองเล่าสู่กันฟังได้นะคะ เผื่อว่าเราจะได้เอาไปลองใช้ในวันที่หมดกำลังใจดูบ้าง รอฟังทุกคนอยู่น้าาา~~~