“เมื่อพูดถึงประกันคนส่วนใหญ่มักจะเบือนหน้าหนี ไม่สนใจ ไม่อยากทำ มองว่าเป็นเรื่องไกลตัว และยังไม่มีความจำเป็นที่ต้องทำ แต่ถ้าคุณอ่านบทความนี้จบแล้ว คุณอาจจะเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อประกันไม่มากก็น้อย”

-----------------------

ทุกวันนี้ต่อให้เราดูแลสุขภาพดี ทานอาหารถูกหลักโภชนาการ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนเพียงพอ ก็ยังมีโอกาสที่จะเกิดโรคร้ายได้อย่างไม่คาดคิด อาทิ โรคมะเร็งต่างๆ หรือโรคซึมเศร้า ที่ล้วนเป็นภัยใกล้ตัวของเรา ที่กล่าวมานี้ไม่ได้มีเจตนาที่จะให้คุณเจ็บไข้ได้ป่วยแต่อย่างใด เราเพียงนำเสนอแง่คิดเมื่อคุณต้องตกอยู่ในสภาวะโรคร้ายต่างๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และนำมาซึ่งภาระค่าใช้จ่ายจำนวนไม่น้อย เพื่อที่จะได้เตรียมรับมือกัน

เพื่อไม่ให้เสียเวลา วันนี้! SistaCafe จะพาผู้อ่านทุกท่าน ไปทำความรู้จักกับประกันสุขภาพกันมากขึ้นค่ะ

ประกันสุขภาพ คืออะไร ?

หลายๆ ท่าน คงรู้จักประกันสุขภาพ (Health insurance) กันดีอยู่แล้วว่า เป็นการประกันภัยที่บริษัทประกันตกลงจะจ่ายเงินชดเชยค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการรักษาพยาบาลของผู้เอาประกัน ไม่ว่าค่ารักษาพยาบาลนั้นจะมีเกิดจากอาการเจ็บป่วยที่มีสาเหตุจากโรคต่างๆ หรือการบาดเจ็บที่มีสาเหตุมาจากอุบัติเหตุก็ตาม (ที่มา:

http://www.oic.or.th/th/consumer/Health_ins

) เมื่อในยามคุณเจ็บไข้ได้ป่วย บริษัทประกันนี้เอง ก็จะมีหน้าที่รับความเสี่ยงเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายจากค่ารักษาพยาบาล ตามแบบประกันที่คุณได้ทำไว้ โดยที่คุณไม่ต้องจ่ายเงินอีกหากค่ารักษาในกรณีนั้นๆ ไม่เกินวงเงินที่คุ้มครอง (ถ้าเป็นโรงพยาบาลที่บริษัทประกันไม่ได้เป็นคู่สัญญา อาจต้องมีการสำรองค่าใช้จ่ายไปก่อน แล้วสามารถส่งเคลมค่าใช้จ่ายได้ในภายหลัง)

ทำประกันสุขภาพ แล้วได้อะไร?

เป็นคำถามยอดฮิตสำหรับผู้ที่ยังไม่มีหรือไม่เคยทำประกันสุขภาพมาก่อนว่า การที่เราจ่ายเงินค่าเบี้ยประกันไปแล้ว เราจะได้รับความคุ้มครอง หรือสิทธิประโยชน์อะไร หรือทำไปแล้วหากในปีนั้นคุณไม่ได้ใช้สิทธิประกันเลย จะเป็นการเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์รึเปล่า หัวข้อนี้ตอบคุณได้

เมื่อคุณทำประกันสุขภาพความคุ้มครองหลักๆ ที่คุณจะได้รับเมื่อรับต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล เนื่องจากอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ มีอยู่ด้วยกันดังนี้

รูปภาพ:

(ทั้งนี้ประกันสุขภาพจะไม่คุ้มครองการเข้าพักรักษาที่ไม่ได้เกิดจากอาการบาดเจ็บ หรือป่วยเป็นไข้ เช่น การทำหมัน การทำศัลยกรรม การลดความอ้วน การพักผ่อน รวมทั้งการรักษาโรคประสาท กามโรค การติด และการตรวจสายตา)

และสิ่งที่คุณจะได้รับนอกจากความคุ้มครองในข้างต้นแล้ว คุณสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท ต่อปีอีกด้วย

ถ้าไม่ทำประกันแต่เลือกจ่ายค่ารักษาเอง แบบไหนคุ้มกว่า?

แน่นอนว่าถ้าคุณเลือกทำประกันสุขภาพค่ารักษาพยาบาลถ้าไม่เกินวงเงิน ต่อให้คุณจะเป็นแค่ไข้หวัด หรือต้องรับการผ่าตัดเนื่องจากเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง ประกันสุขภาพที่คุณทำไว้จะ cover ให้คุณตามแผนที่ได้ทำประกันไว้ นอกจากค่ารักษาแล้วคุณยังได้รับค่าชดเชยรายวันในกรณีที่ต้องรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาล แต่ในกรณีที่คุณไม่ได้ทำประกันสุขภาพไว้ คุณจะต้องเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายจากค่ารักษาพยาบาลเองทั้งหมด ตั้งแต่ค่าหมอ ค่ายา ค่าห้อง (ในกรณีที่ต้องพักรักษาตัว) เป็นต้น

ตัวอย่าง หากคุณเกิดเป็นโรคมะเร็ง

ปัจจุบันโรคมะเร็งมีหลากหลายชนิดมาก อาทิ มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ มะเร็งต่อมน้ำเหลือง หรือแม้กระทั่งโรคมะเร็งผิวหนัง ซึ่งเราได้ทำการเปรียบเทียบให้เห็นว่าในกรณีที่คุณไม่มีประกันสุขภาพ หรือมีประกันสุขภาพ แตกต่างกันอย่างไร สามารถดูได้จากตารางด้านล่างนี้ค่ะ

รูปภาพ:

เงินเดือน 15,000 บาท สนใจทำประกันสุขภาพ จะทำได้ไหม?

สำหรับผู้ที่ยังกังวลว่าการทำประกันสุขภาพนั้นมีค่าใช้จ่ายที่สูง ลำพังมีเงินเดือน 15,000 บาทจะทำไหวรึเปล่า ลองมาดูอัตราค่าเบี้ยกับความคุ้มครองที่คุณจะได้รับในเบื้องต้นกัน

กรณีตัวอย่าง คนทำงานออฟฟิศ ทั้งชาย/หญิง ที่มีอายุระหว่าง 16-40 ปี วงเงินความคุ้มครองที่จะได้รับและค่าเบี้ยต่อปีที่จะต้องเสีย มีดังนี้

1. ความคุ้มครองประกันโรคมะเร็ง วงเงิน 1,000,000 บาท และค่าชดเชยรายวัน 10,000 บาท/วัน จ่ายค่าเบี้ยประกันต่อปีโดยประมาณ 2,443 บาท*

2. ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล วงเงิน 1,000,000 บาท จ่ายค่าเบี้ยประกันโดยประมาณ 10,000-17,000 บาท ต่อปี*

(*ค่าเบี้ยประกันต่อปีขึ้นอยู่กับแผนประกัน และแคมเปญการตลาดของบริษัทประกันภัยนั้นๆ)จากตัวอย่าง ถึงแม้คุณจะมีรายได้ 15,000 บาท/เดือน ก็สามารถทำประกันสุขภาพที่มีความคุ้มครองสูงถึง 1,000,000 บาทได้ เพราะถ้าเฉลี่ยค่าใช้จ่ายต่อปีแล้ว หากคุณต้องจ่ายเบี้ยจำนวน 17,000 บาท เท่ากับว่า ในแต่ละเดือน คุณจะจ่ายค่าเบี้ยเพียง 1,416 บาท หรือถ้าคิดเป็นวัน คุณจะจ่ายค่าเบี้ยเพียง 46 บาทเท่านั้น ซึ่งถูกกว่าอาหาร 1 จาน หรือเครื่องดื่ม 1 แก้ว ตามห้างสรรพสินค้าเสียอีก

สรุป

ถ้าลองเปรียบเทียบดูแล้วจะเห็นได้ว่า การที่ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลเองเมื่อไม่มีประกันสุขภาพ มีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่ามาก เมื่อคุณเกิดเป็นโรคภัยไข้เจ็บหรือโรคร้ายอันไม่พึงประสงค์ ถึงต่อให้ในกรณีที่คุณไม่ได้เจ็บไข้ได้ป่วยเลยในปีนั้น คุณยังสามารถนำไปใช้ลดหย่อนภาษีได้

สุดท้ายนี้หากคุณไม่มีประกันสังคมหรือประกันกลุ่มจากองค์กรที่ทำงานอยู่ การทำประกันสุขภาพ ถือเป็นข้อดีที่จะช่วยคุ้มครองค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลให้กับคุณได้ อีกทั้งยังช่วยให้คุณได้มีการวางแผนบริหารการเงินและฝึกวินัยการออมมากขึ้น หรือไม่

หวังว่าข้อมูลที่เรานำมาฝากจะช่วยให้คุณได้เข้าใจประกันสุขภาพ และตัดสินใจได้ว่าจะเลือกทำประกันสุขภาพกันนะค่ะ

อ่านคอนเทนต์ทางด้านการเงิน การลงทุนดีๆ จากผู้เชี่ยวชาญได้ที่https://kkpadvicecenter.kiatnakin.co.th/th/home

ข้อมูลอ้างอิงจาก :https://www.oic.or.th/th/consumer/Health_inshttp://www.rd.go.th/publish/index.html