หยุดซะ!! 10 พฤติกรรมที่ไม่ควรทำเมื่อ 'ลดความอ้วน'

ในช่วงที่สาวๆ กำลังลดความอ้วนก็ต้องมีความหวังว่าจะต้องมีคนทักว่าผอม จริงมั้ยคะ ? แต่บางครั้งกลับโดนทักกลับมาแบบผิดคาดว่า" อ้วนขึ้นรึเปล่าเนี่ย ? "เจอทักแบบนี้ก็หมดกำลังใจกันไปเลยน่ะสิ

บางครั้งตอนที่เรากำลังตั้งใจลดความอ้วน เราอาจจะไม่รู้ตัวก็ได้นะว่าเผลอทำพฤติกรรมผิดๆ ไปแบบไม่คิดว่ามันจะได้ผลเสียกลับมาแทน รู้ตัวอีกทีก็น้ำหนักขึ้น แถมรูปร่างขยายขึ้นอีกต่างหาก ทำเอาความพยายามที่ทำมาสูญเปล่ากันเลยทีเดียว ก็ได้แต่สงสัยว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้

มาดูกันดีกว่าค่ะ ว่า 10 พฤติกรรมที่สาวๆ ควรจะหยุดทำได้แล้วในขณะที่ลดความอ้วนอยู่ จะมีอะไรบ้าง ถ้าไม่อยากอ้วนไปมากกว่านี้

1. อดอาหารในบางมื้อ

หลายๆ คนคงเชื่อว่าการลดน้ำหนักต้องอดอาหาร แต่รู้มั้ยว่า

การอดอาหารในบางมื้อของวันไม่ได้ช่วยให้น้ำหนักลดลง

แถมยังทำให้รู้สึกหิวมากกว่าเดิมอีกด้วย แล้วก็จะมากินเยอะขึ้นในมื้อถัดไปโดยไม่รู้ตัว อีกทั้งการอดอาหารยังทำให้ระบบเผาผลาญทำงานช้าลง เป็นผลทำให้อ้วนขึ้นกว่าเดิมอีกนะ

ลองหันมาใช้วิธีเปลี่ยนนิสัยการทาน เลือกทานอาหารสำหรับลดน้ำหนัก และทานให้ครบทุกมื้อ แค่นี้ก็ได้ผลแล้วค่ะ

2. ยอมอดทนกับความหิว

การอดทนปล่อยให้ตัวเองหิวไม่ใช่ทางเลือกที่ดี

แนะนำว่าถ้าอยากลดน้ำหนักจริงๆ ให้แบ่งอาหารเป็นมื้อเล็กๆ สัก 5-6 มื้อ

เพื่อขจัดความหิวก่อนถึงมื้อหลัก

อย่าพยายามเก็บความหิวเพื่อรอทานมื้อหลักมื้อเดียวเลยค่ะ

ไม่เช่นนั้นพอถึงเวลามื้อหลัก คุณอาจจัดหนักกับปริมาณอาหารในมื้อนั้นอย่างไม่รู้ตัวก็ได้

3. กังวลเรื่องอาหาร

ตอนลดความอ้วนก็ต้องมีกังวลใช่มั้ยล่ะ ว่ากินอันนี้ดีไหม แต่อยากกินอันนี้จัง แล้วก็ต้องมีนับแคลอรี่ให้ยุ่งยากอีกว่าอาหารชนิดนี้กี่แคลอรี่ วันนี้ห้ามกินเกินกี่แคลอรี่ แทนที่จะมานั่งกังวล

ลองเปลี่ยนมาคิดเมนูสำหรับลดน้ำหนักด้วยตัวเอง

ดีกว่าค่ะ ได้เพลิดเพลินกับการสร้างสรรค์อาหารด้วยตัวเอง ทั้งถูกปาก ถูกใจ และลดน้ำหนักได้ตามใจต้องการด้วย

4. ทดลองสูตรลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน

คุณสาวๆ หลายคนคงเคยเห็นสูตรลดน้ำหนักเร่งด่วนแบบที่ว่าจำกัดปริมาณอาหารหรือกำหนดว่าต้องกินอะไรในมื้อไหน กินแค่ไหนถึงจะลดน้ำหนักได้ ซึ่งขอเตือนว่าอย่าได้ลองกันเลยค่ะ เพราะ

มันจะช่วยลดน้ำหนักได้แค่ในระยะสั้นเท่านั้น

หากคุณหยุดการทำแบบนี้ และกลับมากินปกติเมื่อไรก็ให้ทำใจได้เลยค่ะว่าจะเกิดการโยโย่ น้ำหนักตัวพุ่ง กลับมาอ้วนเหมือนเดิมหรืออาจจะมากกว่าเดิมด้วยนะ

5. รู้สึกแย่กับรูปร่างตัวเอง

ช่วงที่ลดความอ้วน ถึงส่องกระจกแล้วเห็นแต่รูปร่างอวบอ้วนของตัวเอง ก็อย่าไปรู้สึกแย่ เพราะนั่นจะยิ่งทำให้ยิ่งรู้สึกไม่ดีและหมดกำลังใจ จนไม่อยากจะลดแล้ว ฉะนั้นลองให้กำลังใจตัวเองและมองด้านบวกเข้าไว้ เพื่อให้ตัวเองมีแรงผลักดันที่จะที่จะลดน้ำหนักเพื่อให้หุ่นเฟิร์มและสามารถกลับมาใส่เสื้อผ้าชุดโปรดที่อยู่ในตู้เสื้อผ้าได้ หรืออาจจะถือโอกาสออกกำลังกาย นอกจากทำให้น้ำหนักลด ก็ยังส่งผลดีต่อสุขภาพอีกด้วยนะคะ

6. ซื้อเสื้อผ้าใหม่ทั้งตู้

หยุดการช้อปปิ้งเสื้อผ้าของคุณไว้ก่อนเลยค่ะ ยิ่งถ้าอ้วนขึ้นก็ต้องเปลี่ยนไซส์เสื้อผ้าด้วย ซึ่งนี่ไม่ต่างจากการเปิดโอกาสให้รูปร่างของคุณขยายขึ้นได้อีกเรื่อยๆ เลยค่ะ สาวๆ ที่ลดความอ้วนอยู่ต้องอดทนใส่เสื้อผ้าตัวเดิมกันหน่อยนะคะ คิดซะว่าประหยัดค่าใช้จ่ายและเป็นแรงผลักดันที่ดีที่ทำให้เราหันมาลดน้ำหนักอย่างจริงจังด้วยนะ

7. หมกมุ่นอยู่กับเครื่องชั่งน้ำหนัก

การลดน้ำหนักไม่จำเป็นต้องใช้ตาชั่งเพื่อบอกน้ำหนักเราเป็นตัวเลขทุกวันหรอกค่ะ บางครั้งชั่งไป น้ำหนักเพิ่มขึ้นก็เครียด จริงๆ แล้วสาวๆ สามารถรู้ตัวเองได้จากความอึดอัดของรูปร่างของเรา แค่นี้ก็พอทำให้เริ่มคิดได้แล้วล่ะค่ะ ว่าจะทนอยู่กับความอึดอัดของรูปร่างนี้ถึงเมื่อไหร่ แล้วจะเริ่มหันมาลดความอ้วนกันได้หรือยัง

8. ออกกำลังกายหักโหมเกินไป

การออกกำลังกายเป็นวิธีที่ดีสำหรับการลดความอ้วนเลยล่ะค่ะ แต่ควรทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป เริ่มจากทีละนิด แล้วค่อยๆ เพิ่มระดับความเหนื่อยไปเรื่อยๆ แบบนี้จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว ทำควบคู่ไปกับการควบคุมอาหาร เพราะถ้าแค่ออกกำลังกายแต่กินไม่หยุด ก็ไม่สามารถช่วยให้ผอมลงได้นะ แถมยังเสี่ยงที่จะอ้วนต่อเนื่องและมีโรคภัยต่อร่างกายเท่าเดิมอีกด้วยนะคะ

9. หยุดการออกกำลังกาย

สำหรับคนที่ใช้การออกกำลังกายในการลดน้ำหนัก คงมีช่วงเวลาที่รู้สึกเหนื่อยและไม่อยากทำแล้ว แต่การออกกำลังกายเป็นวิธีที่ถูกต้องแล้วค่ะ อย่าพึ่งถอดใจเลย ถือซะว่าได้ลดน้ำหนักแถมมีสุขภาพที่ดี แลกกับเหงื่อที่เสียไป ถึงจะได้ผลช้า แต่เชื่อเถอะค่ะว่าได้ผลดีเชียวล่ะ ให้เวลากับมันหน่อย ค่อยเป็นค่อยไปนะคะ

10. ทำใจยอมรับความอ้วนของตัวเอง

หากกำลังเหนื่อย และท้อในการลดน้ำหนัก ขอให้คุณพับความคิดที่จะทำใจยอมรับว่าตัวเองอ้วนและคิดจะหยุดลงไป แล้วลองมาตั้งเป้าหมายในการลดน้ำหนักแบบทีละนิดที่คุณคิดว่าคุณสามารถทำได้แบบง่ายๆ เช่น ลดน้ำหวานลง หากคุณเริ่มทำได้ก็จะมีกำลังใจที่จะสร้างเป้าหมายใหม่ในการลดน้ำหนักแล้วล่ะค่ะ

ลองสังเกตพฤติกรรมของตัวเองกันดูนะคะว่าเผลอทำแบบใน 10 ข้อนี้บ้างหรือเปล่าถ้ารู้ตัวแล้วให้หยุดทำก่อนที่จะส่งผลเสีย และทำให้อ้วนไปมากกว่าเดิมแทนที่จะเป็นการลดน้ำหนัก กลับกลายเป็นเพิ่มน้ำหนักโดยไม่รู้ตัวนะคะ