แม้ว่าจังหวัดชิซุโอกะจะเป็นเมืองแห่งอุตสาหกรรม แต่นักท่องเที่ยวก็แวะเวียนมาดูทัศนียภาพที่สวยงาม รวมถึงชิมอาหารอร่อยๆ กันอย่างไม่ขาดสาย
เมือง Hamamatsu จังหวัด Shizuoka

ถ้าตอนนี้คุณกำลังวางแผนเที่ยวญี่ปุ่นอยู่แล้วละก็ ไม่อยากให้พลาดจังหวัด Shizuoka เพราะแม้ว่าส่วนหนึ่งเป็นเขตอุตสาหกรรม แต่อีกส่วนเป็นรีสอร์ทที่ตั้งอยู่ล้อมรอบทะเลสาบ Hamanako (Lake Hamana) เป็นที่ตั้งของภูเขาไฟฟูจิ เป็นจุดจอดรถไฟชินคันเซ็นที่เชื่อมต่อไปยัง โตเกียว นาโกย่า โอซาก้า และเกียวโต รวมถึงเป็นบ้านเกิดของรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า (Honda) และเปียโนยี่ห้อยามาฮ่า (Yamaha) มีปลาไหลที่อร่อยที่สุดในญี่ปุ่น ออนเซ็น ชาเขียวคุณภาพดี อาหารทะเล(ปลาไหล และปลาปักเป้า) เกี๊ยวซ่า และสวนดอกไม้ เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ เชื่อว่าหลายคนอยากจะวางแผนไป Hamamatsu กับเรากันแล้ว

รถไฟชินคันเซ็นสายTokaido จอดที่สถานี Hamamatsu ด้วย ซึ่งสะดวกต่อการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เพราะสามารถนั่งต่อไปยัง โตเกียว นาโกย่า โอซาก้า หรือเกียวโตได้สบายๆ หรือถ้าหากเป็นการเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก ก็สามารถนั่งรถบัสจากสนามบินนาโกย่า (Nagoya Chubu International Airport) ได้เลย ภายในตัวเมืองมีรถบัสหลายสายสะดวกต่อการเดินทาง ยิ่งถ้าใช้บัตร Hamanako Rail Pass ก็ยิ่งคุ้ม เพราะสามารถเดินทางโดย Entetsu Railway, Entetsu Bus, Tenryu Hamanako Railroad และ Hamanako Cruise ได้อย่างไม่จำกัด (2-day หรือ 3-day pass) รวมถึงรถบัสไปสนามบินได้ 1 เที่ยว
ทะเลสาบ Hamanako

บริเวณนี้เคยเป็นทะเลสาบน้ำจืดมาก่อน ย้อนกลับไปเมื่อปี 1498 มีการเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ เกิดการแยกตัวของแผ่นดิน ทำให้ทะเลสาบ Hamanako และมหาสมุทรแปซิฟิก เชื่อมต่อกัน เกิดเป็นทะเลสาบน้ำกร่อยในปัจจุบัน ซึ่งสิ่งแวดล้อมของทะเลสาบแบบนี้แหละเป็นทำให้ Hamamatsu ขึ้นชื่อในเรื่องของปลาไหล และปลาปักเป้า เกิดแหล่งท่องเที่ยวมากมายรอบทะเลสาบ ทั้ง Hamanako Pal Pal amusement park, Kanzanji Onsen, และ the Hamanako Orgel Museum (พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี)

สถานี Kiga หนึ่งในสถานีที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรม แสดงให้เห็นถึงเสน่ห์ของยุคสมัยโชวะ ใช่ว่าแฟนพันธุ์แท้รถไฟอย่างเดียวที่จะชื่นชอบการมาเที่ยวสถานีรถไฟ เพราะเราได้ยินมาว่าบรรดานักบิดทั้งหลายก็ชอบที่จะแวะมากินราเมงกันที่สถานีนี้กันด้วย

Hamamatsu ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งดอกไม้ แม้กระทั่งสถานีรถไฟก็มีการปลูกดอกไม้เพื่อเพิ่มความสดใสให้กับสถานี ดอกแดฟโฟดิลที่เรียงรายอยู่หน้าสถานี ตัดกับฉากหลังที่เป็นชานชาลาสไตล์ย้อนยุค หลังคาไม้เก่าๆให้อารมณ์เหมือนอยู่ในฉากภาพยนตร์


Nukumori no Mori สถาปัตยกรรมดั่งเทพนิยาย และนกฮูก
คุณคิดว่าภาพนี้คือที่ไหน ภาพจากอนิเมชั่นของ Studio Ghibli? หมู่บ้านในยุโรป? หรือดิสนีย์โซนใหม่? ไม่ใช่ทุกอย่างที่กล่าวมาเลย เพราะที่นี่คือ Nukumori no Mori หรือแปลได้ว่า ป่าแห่งความอบอุ่น

ตัวอาคารเหล่านี้ถูกสร้างโดย Shigeyoshi Sasaki สถาปนิกชาวญี่ปุ่น จากบ้านเพียงแค่หลังเดียว ที่เริ่มสร้างขึ้นในปี 1983 กลายมาเป็นหมู่บ้านที่เปิดให้ผู้คนมาท่องเที่ยว แม้ในปัจจุบันไม่มีคนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้แล้ว มีแต่เพียงกระท่อมเล็กๆ ที่เปลี่ยนเป็นร้านขายของ อยู่ข้างๆกับสวนสีเขียวขจี ขายของจำพวกเครื่องประดับ และของจุกจิก ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในอนิเมชั่นของสตูดิโอจิบลิ

Sasaki สถาปนิกผู้ออกแบบ และสร้าง Nukumori no Mori ขึ้นมา ได้แรงบันดาลใจมาจากทั่วโลก และคุณจะไม่รู้เลยว่าถ้าเปิดประตูไปแล้วจะเจอกับอะไร อย่างเช่นนกฮูก ที่ไม่คิดจะเจอที่นี่ก็มี ด้วยราคาเพียง 1,000 เยน คุณจะได้เห็นนกฮูกตัวเป็นๆ ในระยะแค่เพียงเอื้อมมือ

ในส่วนอื่นๆ ของบ้าน ทั้งในตัวบ้าน (main house) หรือบ้านเล็กๆ โดยรอบจะมีคาเฟ่ ร้านขนมปัง ร้านขายของจุกจิก อโรม่า และเครื่องปั้นดินเผา เราเชื่อว่าคนที่มาเที่ยวที่นี่จุดประสงค์หลักคือการมาถ่ายรูป และการช้อปปิ้งคือเรื่องรองลงมา โดยเฉพาะบันได ที่หลายคนบอกว่าเหมือนในหนังเรื่อง Howl's Moving Castle!

อีกหนึ่งจุดถ่ายรูป ที่ทุกคนต้องไม่พลาด

พวกเราก็ไม่พลาดที่จะถ่ายรูปคู่กับกรอบรูปหัวใจ

การตกแต่งของ main house มีลูกเล่นที่น่าสนใจ คือ คุณสามารถเดินผ่านถ้ำ และใต้ต้นไม้ได้โดยที่ไม่ต้องออกไปข้างนอก เชื่อว่าเดินวนไปวนมาในนี้แป๊ปเดียวก็จะได้ภาพสวยๆ กลับไปเพียบ!

รูปสุดท้ายก่อนกลับ เหมือนในหนัง Totoro เลย!
เก็บสตรอเบอร์รี่

Hamamatsu ขึ้นชื่อว่าสตรอเบอร์รี่อร่อย ในทุกๆปีของฤดูใบไม้ผลิ สวนสตรอเบอร์รี่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเก็บสตรอเบอร์รี่สดๆ จากต้น และกินได้ไม่อั้น (ภายในเวลาที่กำหนด) จะจิ้มนมข้นหวานเพิ่มความหอมละมุนตามสไตล์ชาวญี่ปุ่น หรือจะกินเปล่าๆ เพื่อสัมผัสความหอมหวานของสตรอเบอร์รี่สดก็อร่อยไม่แพ้กัน
Agurisu Hamanako Strawberry Picking
Bentenjima (弁天島) เกาะเบ็นเท็น และประตูโทริอิ

ความน่าสนใจของทะเลสาบ Hamanako คือประวัติศาสตร์ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงจากทะเลสาบน้ำจืดมาเป็นทะเลสาบน้ำกร่อย ที่เป็นผลมาจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในอดีต เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้สถานที่แห่งนี้จึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ผู้คนนิยมมาท่องเที่ยวและพักผ่อนกัน


Hoshino Resorts KAI Enshu ชาเขียว และออนเซ็น



หลายคนเลือกจะพักที่ Hoshino Resort KAI Enshu เพราะว่าที่นี่ใช้น้ำจาก Kanzanji Onsen สำหรับคนที่อยากจะสัมผัสประสบการณ์ที่พิเศษและหรูหรามากขึ้น สามารถจองห้องพักที่มาพร้อมกับออนเซ็นส่วนตัวได้ หรือจะลองสัมผัสกับออนเซ็นรวม ออนเซ็นชาเขียวที่มีใบชาเขียวจริงๆ และสารสกัดจากชาเขียวอยู่ในน้ำ ทั้งกลิ่น และสารต้านอนุมูลอิสระนี้จะช่วยฟื้นฟูผิว และทำให้รู้สึกผ่อนคลาย





ชาถ้วยสุดท้ายที่ได้ลองชิมคือ ชาซากุระ

แวะยืดเส้นยืดสายในตอนเช้าที่ทุ่งชาเล็กๆ ในโรงแรม
เทศกาลดอกไม้ที่ทะเลสาบ Hamana

ทุ่งดอกทิวลิปหลากสีสัน ปกคลุมพื้นหญ้าจนแทบมองไม่เห็นสีเขียว ฉากหลังของต้นซากุระสีชมพูที่เรียงราย และกลีบซากุระที่ร่วงหล่นบนพื้น เสมือนพรมสีชมพูบนพื้นหญ้า เป็นภาพที่ทำให้สวนแห่งนี้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว เพราะคนส่วนใหญ่จะนึกถึงแต่ภาพของซากุระเพียงอย่างเดียว แต่ที Hamamatsu Park ให้คุณได้ชมซากุระสีชมพู และทิวลิปสีสดใสไปพร้อมๆ กัน

ในแต่ละฤดูก็มีดอกไม้ที่แตกต่างกันออกไป ถ้าอยากชมทุ่งดอกทิวลิป และอุโมงค์ซากุระก็ต้องมาในช่วงฤดูใบไม้ผลิ และในช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็จะเป็นดอกเบญจมาศ

ที่สวนแห่งนี้สามารถเดินเล่นได้ทั้งวัน แต่ถ้ามีเวลาไม่มากก็สามารถนั่งรถไฟที่วิ่งอยู่ในสวนแทนการเดินก็ได้เช่นกัน

ดอก Nemophila หรือ baby blue eyes เป็นดอกไม้อีกหนึ่งชนิดที่คนญี่ปุ่นนิยมชมกันในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ

จะหลบฝน หรือหลบแดดยามบ่ายได้ที่ Crystal Palace เรือนกระจกที่เต็มไปด้วยหมู่มวลดอกไม้

ภายในเรือนกระจกมีดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์จากทั่วโลก รวมทั้งดอกไอริสสีดำที่ได้รับมาจากรัฐบาลจอร์แดน พวกเราใช้เวลาสักพักในการชื่นชม และถ่ายรูปดอกไม้ที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนก็ได้มาเห็นที่ Crystal Palace
ปลาไหล และเกี๊ยวซ่า

ปลาไหลที่ชุ่มฉ่ำด้วยซอสรสชาติกลมกล่อม หอมกลิ่นเตาถ่าน ย่างมาในระดับที่กำลังดี บวกกับข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ เป็นมื้อที่ลืมไม่ลงจริงๆ

สำหรับผู้ที่อยากลองร้านอาหารแบบท้องถิ่นแบบพวกเรา ก็ลองมาชิมข้าวหน้าปลาไหลกันได้ที่ Kanzanjien
เกี๊ยวซ่า Hamamatsu ที่ Ishimatsu

เรามุ่งหน้าไปที่ Ishimatsu Gyoza ร้านเกี๊ยวซ่าที่เชี่ยวชาญในเรื่องของเกี๊ยวซ่า Hamamatsu โดยเฉพาะ

เอกลักษณ์สำคัญของเกี๊ยวซ่า Hamamatsu คือ
Unagi Pie พายปลาไหล

บนแพ็กเกจมีสโลแกนเขียนไว้ว่า “Yoru no Okashi" (夜のお菓子)” ที่แปลได้ว่า ขนมยามดึก แต่สำหรับพวกเราแล้วอาจไม่เหลือถึงกลางคืน!

นอกจากจะสามารถเยี่ยมชมโรงงานได้ฟรีแล้ว เรายังได้ขนมติดมือกลับมาด้วย แต่เมื่อได้กลิ่นของขนมในโรงงานแล้วเราคิดว่าขนมที่เค้าให้มามันไม่พอจริงๆ พวกเราจึงแวะกินพาร์เฟ่ต์ที่คาเฟ่ในโรงงาน (ไซส์ใหญ่จุใจจริงๆ)
Unagi Pie Factory (うなぎパイファクトリー)
หากมีข้อสงสัย มาร่วมพูดคุยกันได้ที่ Facebook Japankuru ทุกเรื่องราวส่งตรงจากญี่ปุ่น
Comments