#ระวังหมายศาลส่งถึงบ้าน! 8 เหตุผลเด็ดที่เธอควร 'คิดก่อนพูด' ให้มากๆ #เพื่อนหายแฟนก็หนี

" แก...อันนี้แกใส่แล้วเหมือนหมูตอนเลย เลิกใส่เหอะ อายเขา "" ทำไมสอบได้คะแนนแค่นี้อะ ในสมองมีแต่ขี้เลื่อยเหรอ "" หาแฟนที่หล่อกว่านี้ไม่ได้แล้วดิ? หน้าอย่างกับปลาบู่ชนเขื่อน "สารภาพมาซะดีๆ สาวซิสคนไหนบ้าง เผลอพูดประโยคพวกนี้กับเพื่อนบ้าง? แม้จะรู้ว่าตัวเองเป็นคนปากไว หลุดปากแซะคนสนิท ( และไม่สนิท ) โดยไม่ได้ตั้งใจบ่อยๆ อ้างว่าที่เป็นแบบนี้เพราะ ' เป็นคนตรงๆ 'แต่รู้ไหมว่า มันเป็นลักษณะนิสัยไม่ดีที่ควรปรับปรุงด่วน ก่อนเพื่อนจะทยอยหายไปจนหมด เพราะคำพูดที่ไม่นึกถึงใจคนอื่น และยังบ่อนทำลาย ไม่เรียกว่าตรงค่ะ แต่เรียกว่าไม่มีมารยาทเด้อ//มองแรง (￢_￢;)แม้สัญชาตญาณลึกๆ ของเราอยากพูดในสิ่งที่ใจคิดแค่ไหนก็ตาม แต่การอยู่ร่วมกันเป็นสังคม บางครั้งเราต้องรู้จัก' คิดเยอะๆ ก่อนพูด 'เพื่อไม่ให้เกิดการหมางใจกัน หรือมีผลกระทบทางลบตามมาทีหลังหากเธอเป็นคนนึงที่อยากจะเริ่มเปลี่ยนแปลงนิสัยนี้ แต่ไม่รู้จะหยุดยั้งตัวเองยังไงดี ลองมาอ่าน 8 เหตุผลปังๆ ที่จะทำให้เธอได้ฉุกคิด และปรับอาการปากไวของตัวเองได้ ในบทความนี้เลยค่ะซิส

1. เธอพูดอะไรออกมา ก็แสดงถึงตัวตนของเธอเองนั่นแหละ

คนเราเวลาพูดอะไรออกมา ย่อมกลั่นกรองออกมาจากสมอง ซึ่งสมองของเราจะคิดอะไร ก็มาจากภูมิหลัง ความเป็นอยู่ และนิสัยติดตัวของเธอเองนั่นล่ะ! ( เอาภาษาง่ายๆ เลยก็คือ บ่งบอกว่าที่บ้านเลี้ยงมายังไง )

แต่ละครอบครัวเลี้ยงลูกแตกต่างกัน บางบ้านสอนให้เด็กคิดก่อนพูด บางบ้านก็ปล่อย เด็กพูดจาแย่ หยาบคายยังไงก็ไม่ห้าม เพราะผู้ใหญ่เองก็นิสัยเดียวกัน เธออยากให้คนนอกมองเธอเป็นบ้านแรก หรือบ้านหลังดีล่ะ? //ครุ่นคิส

อย่างที่สมัยก่อนเขาจะบอกว่าถ้าอยากเป็นผู้ดี ต้องเข้ารั้วเข้าวัง อ่านหนังสือสมบัติผู้ดี ทำตามคุณลักษณะของกุลสตรีที่ดีงาม เราว่ามันคือกุศโลบายเนียนๆ ที่ช่วยสั่งสอนให้เราเป็นคนดีของสังคม

ปี 2020 แล้ว เราไม่จำเป็นต้องทำตามคนโบราณทุกอย่างก็ได้ แต่การพูดจาดี มีมารยาท จะยุคสมัยไหนก็ไม่เอาท์หรอกค่ะ เชื่อเรา

2. 'คำพูด' มีพลังมากกว่าที่เราคิด

หัวข้อนี้อาจจะเหมือนไลฟ์โค้ชมาขายตรงไปหน่อย แต่ขอยืนยัน นอนยันว่าเป็นเรื่องจริงค่ะ! อย่างที่เห็นว่

าในสังคมไทยตอนนี้มีการตระหนักเรื่อง ' Political Correctness ' หรือใช้ภาษาอย่างสุภาพมากขึ้น เพราะคนรุ่นใหม่มีความรู้มากขึ้น และเมื่อต้องการแลกเปลี่ยนความเห็น เราก็สามารถถกกันอย่างปัญญาชนได้ ไม่ต้องใส่คำหยาบคายมาแบบสาดเสียเทเสีย ให้การถกกันหลุดประเด็นหลักที่จะสื่อ

ยกตัวอย่างง่ายๆ แม้เธอจะเป็นฝ่ายที่ความรู้ถูกต้อง แต่ใช้คำหยาบคายดีเบตกับฝ่ายที่รู้มาผิดๆ แต่ใช้คำสุภาพโต้เถียงตลอด คนนอกจะตัดสินว่าเธอแย่กว่าทันที ทั้งที่เชิงเนื้อหาจริงๆ เธอเป็นฝ่ายถูก

นี่ก็เป็นพลังอย่างหนึ่งของคำพูดเช่นกัน ดังนั้นอย่าใช้จุดอ่อนข้อนี้ ทำให้ตัวเองเสียเปรียบเป็นอันขาด

อีกข้อที่อยากเตือนไว้ คำพูดของเรา สามารถทำลายหรือช่วยชีวิตคนอื่นได้ง่ายๆ แม้เพียงคำเดียว สำหรับบางคน

แค่เราพูดคำเดียวแบบไม่คิด แต่ไปกระตุ้นให้เขานึกถึงเหตุการณ์ร้ายแรง เขาก็อาจจบชีวิตต่อหน้าเราได้เลย ดังนั้นจงคิดก่อนพูดซะตั้งแต่ตอนนี้ ดีกว่ามานั่งเสียใจย้อนหลัง ว่าไม่น่าฆ่าคนด้วยคำพูดนั้นเลย ( คนแบบนี้มีเยอะมากในเน็ต ที่เขาเรียกว่า Cyber Bullying ไงล่ะ )

3. หลุดปากเพราะอารมณ์พาไป ไม่ได้หมายความอย่างนั้น (แต่คนฟังคิดไปแล้ว)

สาวๆ บางคนติดนิสัยมีอะไรอยู่ในหัว ก็พูดโพล่งมันออกไปเลยโดยไม่ได้สนใจว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกยังไง เช่นเวลาโกรธเพื่อน โมโหพ่อแม่ อารมณ์พุ่งปรื๊ด บางคำก็ด่าไปแรงมากๆ จนมานึกย้อนทีหลัง " เอ๊ะ มันแรงไปรึเปล่านะ ไม่น่าพูดเลย แต่พูดไปแล้ว ช่างมันละกัน "

แต่อีกฝ่ายเสียความรู้สึก เสียใจ ผิดหวังในตัวเธอไปแล้วเรียบร้อย

จะเอาคำพูดกลับมาก็ไม่ได้แล้ว นี่แหละราคาของคนปากไวที่ต้องจ่ายค่ะ!

เบาหน่อยก็อาจแค่โมโหกรุ่นๆ เข้าไปง้อทีหลังได้ แต่ถ้าเคสหนักๆ ที่เขาตัดสินใจตัดความสัมพันธ์กับเธอให้ขาดสะบั้น หรือแค้นกลับ ตามมาทำร้ายเธอทีหลัง เธอจะรับผิดชอบผลลัพธ์เหล่านี้ไหวหรือไม่?

แทนที่จะตัดไฟแต่ต้นลมด้วยการ ' ไม่พูด ' ตั้งแต่แรก ครั้งหน้าเวลาสาวๆ โกรธ หรือกำลังจะหลุดพูดคำไม่ดีออกมา ลองนับ 1-5 ในใจ ตั้งสติ สูดหายใจลึกๆ คิดกรองอารมณ์ทุกอย่างในสมองออกก่อน เชื่อสิว่าคำพูดจะซอฟต์ลงกว่า 50% เลยทีเดียว เพราะสมองส่วนเหตุผลเริ่มทำงานแล้วนั่นเอง

4. คิดไปเองว่าเขาทำเราก่อน เราต้องด่ากลับ!

สาวซิสบางคนก็เข้าใจผิด มโนไปเองว่าอีกฝ่ายตั้งใจว่าเธอให้เจ็บช้ำน้ำใจก่อน แม้จริงๆ เขาแค่เตือนด้วยความหวังดี และไม่ใช้คำหยาบคายแต่อย่างใด แต่เธอกลับคิดว่าเขาด่า จึงปรื๊ดแตก ตอบโต้ด้วยคำพูดหยาบคายอย่างรุนแรง หรือแซะกลับอย่างกับไม่เคยสนิทกันมาก่อน

ซึ่งก็ไม่พ้นคำว่า ' เอาอารมณ์เป็นใหญ่ ' อีกแล้วล่ะนะ ถ้ากับเพื่อนกันเองยังพอว่า แต่ถ้าฟิวส์ขาดต่อหน้าอาจารย์หรือหัวหน้าที่ทำงานล่ะก็ เราว่าผลหลังจากนั้นไม่น่าจะจบสวยเท่าไหร่...

ไม่ปฏิเสธหรอกว่า มันมีกลุ่มคนที่เกลียด อิจฉา อคติ พร้อมด่าเราไม่ว่าเราจะทำดีแค่ไหนก็ตามอยู่จริงๆ

แต่ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นแบบนั้นไง ยังมีอีกเยอะที่เขากล้าจะตำหนิเธอ เพราะเขารู้ว่าเธอยังแก้ได้ ให้เธอเป็นคนที่ดีขึ้น ซึ่งจริงๆ ถือว่าสาวซิสยังมีแต้มบุญนะถ้ามีคนแบบนั้นในชีวิต

ถ้าทุกคนพร้อมใจกันปล่อย แล้วให้เธอไปทำนิสัยนี้กับคนใหญ่คนโตล่ะก็ แปลว่าพวกเขาคงเห็นว่าเธอเกินเยียวยาแล้วล่ะค่ะ

5. เล่นใหญ่ ใส่ไข่ พูดซะโอเวอร์ จนคนอื่นอาจเข้าใจผิด

สาวซิสบางคนก็นึกว่าเรียนจบจากรัชดาลัย ด่าใคร แซะใครทีคือสีหน้า ท่าทาง มือไม้ น้ำเสียงออกหมด เล่นใหญ่เกินเบอร์มากทั้งที่เรื่องเล็กนิดเดียว จากเรื่องที่ควรเคลียร์จบใน 5 นาที กลายเป็นโยงหาบุคคลที่สาม บุคคลที่สี่ ลากคนมาสาวไส้กัน จนเกลียดกันทั้งชีวิตก็มีมาแล้ว

แค่เพราะนิสัยไม่คิดก่อนพูด เอาอารมณ์มาก่อนเหตุผลนี่แหละ ดังนั้นจึงควรระวังให้มากๆ นะคะ

เราจะไม่ห้ามถ้าเรื่องนั้นเป็นเรื่องใหญ่จริงๆ และต้องพูดอย่างมีเหตุมีผล ( ไม่หยาบคาย ไม่ลามปาม ) แต่ถ้าเป็นเรื่องที่คุยตกลงกันเองได้ ก็พูดดีๆ ตกลงกันเองสองคนให้จบไวๆ ดีกว่า

การด่ามันใช้พลังงานเยอะนะ เหนื่อยด้วย เอาเวลาไปทำอย่างอื่นเถอะ เสียเวลาชีวิตค่ะซิสขา

6. คิดว่าเขาเป็นคนสนิท (พ่อแม่,พี่น้อง,เพื่อน) พูดได้ไม่เป็นไรหรอก

สาวๆ หลายคนที่โดนด่าว่า ' ปากไม่มีหูรูด ' เพราะพูดอะไรไม่เคยกลั่นกรองจากสมองเลย ส่วนนึงก็เพราะย่ามใจว่าคนที่พูดไม่ดีด้วยเป็นคนสนิท คนในครอบครัว หรือคนสถานะต่ำกว่าทั้งนั้น พูดได้ไม่เห็นจะเป็นอะไร เช่น พ่อแม่ พี่น้อง เพื่อนสนิท แฟน แม่บ้าน คนสวน ซึ่งเป็นความคิดที่แย่และไม่ให้เกียรติคนอื่นอย่างรุนแรง!

อันที่จริงยิ่งสนิทกันมาก ยิ่งต้องเกรงใจกันมากขึ้นด้วยซ้ำ ความอดทนของทุกคนมีขีดจำกัด หากพวกเขาพร้อมใจกัน ' เท ' เมื่อไหร่ เธออาจจะไม่เหลือใครในชีวิตอีกเลย ด้วยปากของเธอเองนั่นแหละ!

ดังนั้นเวลาจะพูดอะไรกับคนเหล่านี้ จงนึกถึงใจเขาใจเราให้มากๆ คิดง่ายๆ ว่าเราก็ไม่อยากให้พ่อแม่ แฟน เพื่อนเรา มาด่าเราด้วยคำพูดแรงๆ เหมือนกันใช่ไหมล่ะ จงให้เกียรติพวกเขาให้มากๆ

หากมีเรื่องต้องตำหนิกันจริงๆ ก็ควรไปคุยกันเองลับๆ อย่ามาแฉ มาด่ากันหน้าที่สาธารณะให้อับอาย แบบนั้นไม่ได้รัก ไม่ได้ห่วงกันแล้ว เอาสะใจล้วนๆ

7. คำพูดของเธอ ด่วนตัดสินคนไปก่อนรึเปล่า

สาวซิสบางคนก็ชอบด่วนสรุป ตัดสินคน ' จั๊ดจ์ ' คนไปก่อนจากสถานการณ์ภายนอก สมมุติเกิดคดีนึงขึ้นและมีผู้ต้องสงสัย ทั้งที่ยังรู้ข้อมูลไม่ละเอียดรอบด้านเลย ก็พาลโกรธ ด่าฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาไปก่อนเสียแล้ว

นอกจากจะบ่งบอกว่าเธอฟังความข้างเดียวและหูเบาแล้ว เธอยังไม่ให้ความยุติธรรมกับอีกฝ่ายอีกด้วย แทนที่จะให้โอกาสเขาได้ชี้แจงตัวเองก่อน ( ที่จริงคนไทยก็เป็นเยอะนะนิสัยนี้... )

เพลาๆ นิสัยวิเคราะห์ วิจารณ์คนอื่นสนุกปากทั้งที่ยังไม่มีมูลบ้างก็ดี! ศึกษาหาข้อมูลให้รอบด้านก่อนออกความเห็นจะดีกว่า ไม่จำเป็นต้องไปศึกษาวิจัยลึกขนาดจะทำ ป.โท แต่อย่างน้อยต้องมีความรู้พื้นฐานในเรื่องนั้นๆ ก่อนจะไปด่าเขา ถูกไหม?

หากเป็นคนนอก เขาจะมองว่าความเห็นของเธอไม่มีค่าให้สนใจ ไม่จำเป็นต้องให้ราคา แต่หากเป็นคนสนิท เขาอาจจะมองว่าเธอไม่ใช่เพื่อนอีกต่อไป และพร้อมตัดสัมพันธ์ทันที ไม่ว่าจะทางไหนก็คือพัง

8. คำพูดเป็นนายเรา ออกจากปากแล้ว เอากลับคืนไม่ได้อีก

ข้อสุดท้ายที่เราอยากเตือนให้ฉุกคิด คือคำพูดเป็น ' เจ้านาย ' ของเราเสมอ ในสมัยก่อนระดับบนๆ อย่างกษัตริย์ยังมีคำพูดที่ว่า ' เป็นกษัตริย์ ตรัสแล้วไม่คืนคำ ' ซึ่งคนธรรมดาก็เช่นกัน

หากพูดอะไรออกไป คำเหล่านั้นจะเกาะติดอยู่กับตัวเธอแน่นหนึบ สลัดไม่ออกทันที หากพูดคำแย่ๆ หรือให้คำสัญญาแล้วไม่รักษา มันก็จะเป็นความผิดติดตัวเธอไปจนวันตาย

ไม่ว่าจะคำพูดทางลมปาก หรือคำต่างๆ มากมายที่พิมพ์ลงอินเตอร์เน็ต เมื่อกด send ไปแล้วก็แก้ไขไม่ได้อีกต่อไป ( ถึงกด edit ก็ไม่รอด เพราะการเคลื่อนไหวในโลกออนไลน์ ทิ้งร่องรอยบางอย่างให้สืบถึงต้นตอได้เสมอ )

ดังนั้นขอร้องเลยนะ เวลาจะพูดหรือพิมพ์อะไรออกมา คิดก่อนว่าคนอ่านเขาจะรู้สึกยังไง แล้วค่อยกดส่ง หรือพูดออกมานะคะซิส บางคนคะนองมือมากๆ หมายศาลส่งไปถึงบ้านแล้วจะมาร้องโอดโอยไม่ได้เด้อ

-------------------------------

ครบแล้วกับทั้ง 8 ข้อย้ำเตือนคนปากไว ชอบแซะ ( ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว ) ให้สาวๆ ได้ลองฉุกคิด และปรับนิสัยของตัวเองให้ดีขึ้น อายุยังไม่มากก็พอแก้ไขได้ นึกถึงใจอีกฝ่ายให้มากเธอเองก็คงไม่อยากโตไปเป็นมนุษย์ป้านิสัยเสีย อย่างที่เธอเองก็ไม่ชอบหรอกใช่ไหม? ดังนั้นปรับปรุงตัวเองเสียตั้งแต่วันนี้ แค่คิดก่อนอย่างน้อย 5-10 วินาทีก่อนพูด โดยเฉพาะเวลาที่อารมณ์ไม่ปกติ โกรธ โมโห เสียใจหรือถ้าไม่รู้จะพูดอะไรให้ดูดีจริงๆ ก็ไม่ต้องพูด ออกจากห้องไปเลยยังดีกว่า เหมือนที่ฝรั่งบอกว่า" If you can't say something nice, don't say anything at all "นั่นล่ะค่ะ

ทุกคำพูดมีผลการกระทำตามมาเสมอ คำพูดร้ายๆ ก็เหมือนก้อนหินที่ปาใส่คนอื่น จะหวังให้เขาโปรยดอกไม้ โปรยเงินกลับก็คงไม่ใช่ ทำอะไรไว้ก็ได้อย่างนั้น อยากมีเพื่อนดีๆ อยากมีแฟนที่อยู่กันยืนยาว มีพ่อแม่ที่เข้าใจกัน ก็ต้องเริ่มจากใช้คำพูดให้ดีก่อนเนอะ เราเชื่อว่าสาวๆ ทำได้ สู้ค่ะ!!!

Cr. 11 Reasons Why You Should Think Before You Speak [lifehack.org]https://www.lifehack.org/articles/communication/6-reasons-why-you-should-think-before-you-speak.html