ซากุระ และ TOKYO SKYTREE

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020041318572920276600.jpg

ช่วงเวลาที่คนนิยมมาเที่ยวโตเกียวมากที่สุดก็คือ ฤดูใบไม้ผลิ หรือฤดูซากุระนั่นเอง ทั้งอากาศที่เย็นสบาย บรรยากาศที่เต็มไปด้วยซากุระ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของการท่องเที่ยว โดยเฉพาะที่ TOKYO SKYTREE ที่มีความสูง 634 เมตร สามารถดูวิวเมืองโตเกียวได้ 360 องศา และยังเป็นอีกจุดหมายที่หลายคนอยากไป

TOKYO SKYTREEhttps://www.google.com/maps/place/Tokyo+Skytree/@35.7100627,139.8085117,17z/data=!3m1!4b1!4m5!3m4!1s0x60188ed0d12f9adf:0x7d1d4fb31f43f72a!8m2!3d35.7100627!4d139.8107004ที่อยู่: Tokyo Skytree Station (Tobu Skytree Line) / Oshiage Station (Hanzomon Line)เวลาเปิดให้บริการของจุดชมวิว: 8:00 - 22:00 (เวลาเข้าชมรอบสุดท้าย 21:00)http://www.tokyo-skytree.jp/th/ticket//https://www.govoyagin.com/activities/japan-tokyo-tokyo-skytree-tickets/2247http://www.tokyo-skytree.jp/th/


เริ่มต้นวันที่อาซากุสะ

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020041318415366103100.jpgรูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020041318421890683600.jpg

มุมมองจากระยะไกล

หากได้มีโอกาสเดินเล่นข้ามแม่น้ำสุมิดะ จะเจอกับต้นซากุระเรียงกันเป็นแถว ล้อมรอบ TOKYO SKYTREE ที่สูงตระหง่านอยู่ด้านหลัง จากจุดนี้มีจุดให้ถ่ายรูปมากมาย ทั้งตึกสูง บ้านเรือน บวกกับแสงอาทิตย์ที่ส่องมากระทบกับน้ำ รวมถึงซากุระ นางเอกประจำวันของเรา


เดินเล่น ชมวิวมาสักพัก ก็คงอยากจะเห็นเมืองโตเกียวในอีกมุมบ้าง ถึงเวลาไปยังจุดหมายของเราแล้ว TOKYO SKYTREE นั่นเอง แต่จะเดินไปก็ธรรมดาเกินไป นั่งรถลาก jinrikisha (人力車) ไปกันดีกว่า รู้หรือไม่ว่ารถลากนี้เป็นที่นิยมมากในอดีต ให้ความรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลาไปในอดีต แต่มีฉากหลังเป็น TOKYO SKYTREE ที่เป็น landmark ของยุคปัจจุบัน

เพลิดเพลินไปกับโตเกียวสกายทรี

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020041318430013416500.jpg

เริ่มต้นกันที่ Sorami-zaka

ไม่ว่าจะเดินทางมาที่ TOKYO SKYTREE ด้วยรถลาก หรือรถไฟ (Tokyo Skytree Station หรือ Oshiage Station) สิ่งแรกที่จะได้เห็นคือวิวที่มองจากด้านล่าง จึงเหมาะสำหรับผู้ที่อยากได้ภาพของ TOKYO SKYTREE แบบเห็นทั้งตึก ส่วนโลเคชั่นที่ดีที่สุดก็คือ the Sorami-Zaka area นั่นเอง

นอกจากนี้ยังสามารถมองเห็นโครงสร้างของตัวตึกแบบใกล้ชิด ที่ทาด้วยสีขาวที่เรียกว่า "Skytree White" สีที่ผสมผสานกันแบบพิเศษของ Japanese indigo dyes หรือ aizome, 藍染

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020041318433312172200.jpg

ตั๋วเข้าชม TOKYO SKYTREE

ถึงเวลาขึ้นลิฟต์ความเร็วสูงไปบนตึกกันแล้ว ก่อนอื่นเลยก็ต้องซื้อตั๋วกันก่อน ซึ่งสามารถซื้อได้ที่บริเวณทางเข้า แต่อาจต้องต่อแถวนานกันหน่อยสำหรับวันหยุด หรือวันที่อากาศดี หรือจะซื้อตั๋วล่วงหน้า ก่อนที่จะไปถึงญี่ปุ่นก็ได้ ตัวอย่างเช่นhttps://www.govoyagin.com/activities/japan-tokyo-tokyo-skytree-tickets/2247และยังสามารถตรวจสอบราคาตั๋วได้จากhttp://www.tokyo-skytree.jp/th/ticket/

อาจจะยังงงๆ กับตั๋วของ TOKYO SKYTREE กันอยู่รึเปล่า ที่ TOKYO SKYTREE มี จุดชมวิวอยู่ 2 ที่ คือTembo Deckชั้น 350 และTembo Galleriaชั้น 450 สามารถซื้อตั๋วเพื่อขึ้นไปแค่บริเวณ Tembo Deck อย่างเดียว (จริงๆ แค่ชั้น 350 ก็สวยแล้ว) หรือจะไปยัง Tembo Galleria เพื่อชมวิวที่งดงามที่สุดรอบโตเกียวด้วยก็ได้เช่นกัน

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020041318484908420300.jpg

ขึ้นไปข้างบนกัน

ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ สามารถชมความงามของซากุระได้ระหว่างขึ้นไปที่ TOKYO SKYTREE ด้วย เพราะจะมีการตกแต่งลิฟต์ด้วยซากุระให้เข้ากับบรรยากาศของฤดูใบไม้ผลิ เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก วิวของเมืองโตเกียวจากกระจกหลายสิบบาน (หรืออาจจะเป็นร้อย) จะทำให้คุณลืมการตกแต่งของลิฟต์ไปเลย

ลิฟต์สำหรับผู้ที่ซื้อบัตรเข้าชมทุกคน จะมาจอดที่ Tembo Deck เป็นอันดับแรก สำหรับผู้ที่ซื้อบัตร Tembo Galleria มาแล้ว (ถ้าเปลี่ยนใจ จะซื้อเพิ่มที่ชั้นนี้ก็ได้) จะต้องขึ้นลิฟต์อีกตัว เพื่อขึ้นไปอีก 100 เมตร ข้อควรระวังคือ ตั๋วทั้งสองแบบ ไม่มีเวลากำหนด ฉะนั้นจะอยู่นานเท่าไรก็ได้ แต่สามารถขึ้นได้เพียงครั้งเดียว ถ้าจะลงจากชั้น 450 มายังชั้น 350 ก็ต้องแน่ใจแล้วว่าจะไม่กลับขึ้นไปอีก รวมถึงถ้าลงมาชั้นล่างสุดแล้วก็ไม่สามารถกลับขึ้นไปอีกได้เช่นกัน

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020041318522669664400.jpg

วิวที่ดีที่สุดของจุดชมวิว

ลองหลับตาแล้วนึกภาพดูว่า เมื่อเราได้อยู่บนจุดที่สูงสุดของโตเกียว สามารถมองเห็นโตเกียวทั้งเมือง รวมถึงเมืองรอบ ๆ แล้วอยากเห็นอะไรมากที่สุด?

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020041318494228933900.jpg

ที่ TOKYO SKYTREE สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิ ที่เป็นสัญลักษณ์ของญี่ปุ่นได้!

ที่ตั้ง:ชั้น 350 และ 450

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020041318503873266500.jpg

ใครที่ไม่กลัวความสูง ก็สามารถลองไปเดินที่พื้นกระจก คุณจะเห็นพื้นถนนจากความสูง 350 เมตร เราว่าต้องแอบรู้สึกหวิวๆบ้างหละ

ที่ตั้ง:Tembo Deck ชั้น 340

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020041318535821368000.jpg

สามารถส่งโปสการ์ดจากที่นี่ได้ด้วยนะ ที่พิเศษคือตู้ไปรษณีย์ที่เป็นตัวตึก TOKYO SKYTREE และตราปั๊มที่บอกว่าส่งมาจาก TOKYO SKYTREE เก็บไปเป็นที่ระลึกว่าครั้งหนึ่งเคยมาแล้วนะ

ที่ตั้ง:Tembo Deck ชั้น 345

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020041418072167701500.jpg

ภาพวาดนี้ดูคุ้นๆมั้ย วิวเมืองโตเกียว ที่มีฉากหลังเป็นภูเขาไฟฟูจิ ภาพนี้ถูกว่าขึ้นในสมัยเอโดะ และปัจจุบันจัดแสดงอยู่ที่ TOKYO SKYTREE ที่เมื่อไปถึงแล้วสามารถดูได้ทั้งวิวจริงในปัจจุบัน และวิวในอดีตจากภาพนี้เลย

ที่ตั้ง:Tembo Deck ชั้น 350

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020041318505842603300.jpg

ถ้าไปตอนช่วงกลางวัน สามารถมองเห็นเงาของโตเกียวสกายทรี พาดผ่านเมืองโตเกียวที่อยู่ด้านล่างได้ด้วย ซึ่งจุดที่สามารถมองเห็นได้ก็คืออฝั่งทิศตะวันตก

ที่ตั้ง:ชั้น 350 และ 450

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020041318544491104200.jpg

“Sorakara Point” (ตั้งชื่อตามมาสคอตของ TOKYO SKYTREE ) เป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดของ TOKYO SKYTREE สามารถมองวิวโตเกียวได้ทั้งเมือง ที่ไม่สามารถหาได้จากที่ไหนอีกแล้ว

ที่ตั้ง:Tembo Galleria ชั้น 450

พักผ่อนกันตอนเย็น

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020041318561912534600.jpg

Sky Restaurant 634

ยังไม่อยากกลับลงไปข้างล่างใช่มั้ย

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020041516302758818500.jpg

หากจะยังอยากชมวิวอยู่ ยังไม่อยากกลับลงไปด้านล่าง สามารถจองร้านอาหารที่ Sky Restaurant 634 ที่คุณสามารถรับประทานอาหารได้ที่ระดับความสูง 345 เมตร จากระดับพื้นดิน ทุกโต๊ะสามารถมองเห็นวิวของเมืองโตเกียวได้แบบ panoramic view ทำให้มื้อนี้เป็นมื้อที่พิเศษกว่ามื้อไหนๆ


Sky Restaurant 634

เวลาเปิดปิด: 11:00 – 23:00 (Last order 20:30)

https://restaurant.tokyo-skytree.jp/english/

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020041318562987718000.jpg

ด้านล่างของ TOKYO SKYTREE

เมื่อลงมาจากจุดชมวิวที่ชั้น 340 แล้ว ด้านล่างของ TOKYO SKYTREE ยังมีอีกหลายจุดให้ไปสำรวจกัน ไม่ว่าจะร้านอาหาร หรือร้านค้า ที่มีทั้งของฝาก ของที่ระลึกจาก TOKYO SKYTREE สินค้าพิเศษเฉพาะฤดูกาลของซากุระ ที่ให้เลือกกันอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นขนม ของแต่งบ้าน หรือกระเป๋าผ้า เอาใจคนรักซากุระสุดๆไปเลยTOKYO SolamachiShopping Facilitiesเวลาเปิดปิด ร้านค้า: 10:00 - 21:00เวลาเปิดปิด ร้านค้า: 11:00 - 23:00https://www.tokyo-solamachi.jp/en/

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020041516283490323100.jpg

©TOKYO-SKYTREEก่อนกลับอย่าลืมแวะร้านของฝากที่ชั้น 1

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020041318575545639000.jpg

ดูไฟตอนกลางคืนที่ TOKYO SKYTREE

เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ก็ได้เวลาของ light up ของตึก ไม่ว่าตอนที่ยังอยู่ที่ TOKYO SKYTREE หรือระหว่างทางกลับที่พัก ก็สามารถมองเห็นไฟสีต่างๆ ที่มีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไปทั้ง Iki, Miyabi และ Nobori แต่ในบางโอกาสอาจจะได้เห็นรูปแบบที่พิเศษกว่าปกติ (เหมือนในรูป) ที่นี่เค้าใช้ไฟ LEDs ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยนะ

ไม่ว่า TOKYO SKYTREE จะสว่างไสวด้วยสีฟ้า สีม่วง ส้ม หรือสีใดก็ตาม หากมองจากมุมนี้จะเห็นภาพของซากุระที่ล้อมรอบโตเกียวสกายทรีอยู่ เป็นภาพที่สวย จนไม่อยากให้ถึงเวลาเช้าเลย

ราตรีสวัสดิ์นะ TOKYO SKYTREEเราเริ่มต้นกันตั้งแต่เช้าด้วยการใส่ชุดกิโมโน ที่อาซากุสะ ถ่ายรูปกับซากุระ ระหว่าเดินทางไป TOKYO SKYTREE ขึ้นไปดูวิวสวยๆบนจุดชมวิว ก่อนที่จะจบทริปของวันด้วยของกินอร่อยๆ และชม light up พร้อมด้วยซากุระยามค่ำคืน เป็นอีกวันที่น่าประทับใจในโตเกียว