ถึงแม้ทุกวันนี้อะไรๆ ก็พัฒนาไปมากจนเรียกได้ว่าโลกสว่างไสวตลอด 24 ชั่วโมงได้จนหายกลัวผีไปได้เยอะ แต่ก็ใช่ว่าเรื่องผีๆ หรือเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้จะไม่มีอยู่เลย เราถึงได้ยินคนนั้นเล่ามา คนนี้เล่าว่า เกี่ยวกับประสบการณ์ขนหัวลุกอีกมากต่อมาก และ 1 ในสถานที่ที่มักจะประสบพบเจอทั้งที่มีคนผ่านไปมาแท้ๆ ก็คือ"โรงแรม"
ไม่ว่าจะโรงแรมในประเทศ ต่างประเทศ ใหม่หรูหราหรือเป็นแค่โรงแรมเล็กๆ ราคาถูก ความเชื่อบางอย่างที่บอกเล่าต่อๆ มา เชื่อไว้บ้างก็ดี เพราะมันมีเหตุผลต่อความปลอดภัยของตัวเราจริงๆ
#1 อย่าดันทุรังจะพักในโรงแรมที่เต็มแล้ว
เรื่องเล่าของการเจอผียอดฮิตอย่างหนึ่งก็คือ การดันทุรังขอห้องว่างให้ได้ทั้งที่โรงแรมเต็มแล้ว ซึ่งไม่ว่าคุณจะจองมาก่อนล่วงหน้าหรือเพิ่งวอล์กอินมาถึงก็ตาม ทางที่ดีอย่าคะยั้นคะยอที่จะเข้าพักให้ได้ แต่ควรจะอดทนงีบอยู่ล็อบบี้จนกว่าจะเช้าแล้วค่อยว่ากันอีกทีหรือไปหาโรงแรมแห่งใหม่เดี๋ยวนั้นเลย เพราะห้องที่เราได้อาจเป็นห้องมีประวัติไม่ดี ทั้งในส่วนของความเชื่อ หรือเหตุผลที่ไม่ใช่เรื่องผีๆ อะไร แต่เป็นความเสื่อมโทรมที่อาจทำให้เราไม่สามารถหลับนอนได้ตลอดคืน เช่น สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพักชำรุด ยังไม่ได้ซ่อมแซมให้เรียบร้อย, มีสิ่งสกปรกที่อาจเป็นตัวก่อเชื้อโรคให้เราเจ็บป่วยได้
#2 เคาะห้องก่อนจะเข้าห้องบ้าง
ในเชิงของความเชื่อ มันแปลว่าเราทักทายผู้ที่เรามองไม่เห็น เพื่อเป็นการแสดงความเคารพว่าเรามาอย่างเป็นมิตรนะจ๊ะ แต่ในส่วนของเหตุผลตามโลกความจริงนั่นคือ เราเคาะเพื่อสังเกตว่ามีใครอยู่ในนั้นรึเปล่า เช่น แม่บ้านที่กำลังทำความสะอาดอยู่ เพื่อที่เราจะสามารถเข้าไปได้สะดวก โดยไม่รู้สึกว่ากำลังไปขัดจังหวะ" ใครในห้อง "รึเปล่า
#3 ขยับเตียงสักนิดก่อนจะล้มตัวนอน
ในส่วนของความเชื่อ บางคนอาจมีการเอาเงินเหรียญวางไว้เพื่อเป็นการซื้อเตียงต่อจากเจ้าที่ด้วย ( เหมือนกับพิธีเล็กน้อยก่อนนอนเตียงโรงพยาบาล ) ก็เพื่อบอกกับ" ใครคนนั้น "ที่เรามองไม่เห็นว่า เราไม่ได้มาแย่งที่นะจ๊ะ มาขอยืมที่พักผ่อนแป๊บเดียวเอง
แต่สำหรับคนที่ไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไหร่ เอาแค่ขยับเตียงนิดหน่อยก็พอค่ะ เราจะได้รู้ว่าสภาพเตียงโอเคมั้ย มีพิรุธหรือมีตรงไหนชำรุดรึเปล่า เราจะได้ลงไปแจ้งกับพนักงานโรงแรมให้อำนวยความสะดวกเราได้ทันทีไงล่ะ
#4 ไหว้เจ้าที่เจ้าทางของโรงแรมบ้าง
ในข้อนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับความเชื่อล้วนๆ เลยค่ะ เมื่อเราเข้าพักในที่ไหนก็ตาม สิ่งที่เราควรทำก็คือรายงานตัวต่อสิ่งที่มองไม่เห็นว่าเรามาเพื่ออะไร? นอนกี่คืน? พร้อมกับขอขมาลาโทษล่วงหน้าหากทำล่วงเกินไปบ้าง และขอให้ท่านๆ ทั้งหลายช่วยให้เราได้นอนเต็มอิ่ม พักผ่อนเต็มสุขด้วยเทอญ( เป็นการทำสัญญาร่วมกันกับเจ้าที่ ต่างคนต่างอยู่อย่างสันติสุข 555+ )
ถ้าโรงแรมมีศาลเจ้าที่ ให้เราไหว้ศาลเจ้าที่ แต่ถ้าโรงแรมแห่งนั้นไม่มีหรือเราหาไม่เจอ อธิษฐานรายงานตัวในใจก็ได้ค่ะ ความตั้งใจจริงของเราฟ้าดินรับรู้อยู่แน่นอน ( อย่าคิดว่าเชื้อชาติอื่น ศาสนาอื่นจะไม่มีผีนะคะ เพื่อความไม่ประมาท โทรจิตไปรายงานตัวก็ได้ จิตของเราเป็นภาษาสากลอยู่แล้วค่ะ 555+ )
#5 สวดมนต์ก่อนนอนบ้างก็ดีเพื่อความสบายใจ
ในข้อนี้เป็นความเชื่อล้วนๆ ส่วนบุคคลเช่นกันค่ะ หากรู้สึกว่าการไหว้ศาล บอกกล่าวฟ้าดินยังไม่สบายใจพอ ก่อนจะเข้านอนสวดมนต์สักบทเพื่อขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เรานับถือบ้างก็ดี ( บางคนก็แผ่เมตตาแถมไปด้วย บางคนจะมีการบอกกล่าววิญญาณทั้งหลาย เช่น"ใครตั้งใจฟังก็ขอให้ฟังดีๆ อย่ารบกวนกัน ใครไม่ชอบก็ขอให้ออกไป เราไม่ได้มีเจตนาจะมาทำร้ายท่าน แต่สวดเพื่อระลึกถึงพระพุทธเจ้า "อันนี้ก็แล้วแต่ความสะดวกส่วนบุคคลนะคะ )
#6 อย่าถอดเครื่องรางของขลังส่วนตัวก่อนนอน
ถ้าเตือนกันในแง่ของความเชื่อก็คือ ขณะที่เรานอนเป็นภาวะที่เราปล่อยวาง ไร้กำลัง ง่ายต่อการถูกรบกวนจากสิ่งที่มองไม่เห็นได้ถ้าไม่มีอะไรป้องกันไว้บ้าง แต่ถ้าพูดกันในแง่ของความจริงแล้วนั้น ของมีค่าต่อจิตใจเรา ไม่ควรวางสะเปะสะปะในที่ๆ ที่เราไม่คุ้นเคยค่ะ เพราะแค่ของเล็กน้อยหลุดหายไปตอนไหนไม่รู้ในบ้านเราแท้ๆ เราก็ยังพลิกโลกหาแทบตายกว่าจะเจอ
#7 อย่านอนในทิศทางต้องห้าม
โบราณเขาว่าอย่าหันหัวนอนไปทางห้องน้ำ, ทิศตะวันตก, นอนขวางทางประตู เพราะนั่นคือทิศทางของสิ่งที่เรามองไม่เห็น แต่ในโลกของความเป็นจริงแล้วก็มีเหตุผลน่าคิด
- ห้องน้ำเป็นห้องที่มีความชื้นสูง การนอนโดยสูดความชื้น/กลิ่นอับเข้าไปตลอดเวลา เราอาจป่วยไข้เกี่ยวกับทางเดินหายใจได้
- ทิศตะวันตก คนโบราณถือว่าเป็นทิศของคนตาย ทิศไม่มงคล แต่ในโลกความจริงโนคอมเมนท์ค่ะ เพราะโรงแรมหลายแห่งก็จัดเตียงได้สะเปะสะปะจนเราไม่รู้ว่าทางไหนเป็นทางไหน ในจุดนี้เราเอาแสงสว่างเป็นหลักดีกว่า แง้มม่านหน้าต่างนิดๆ เพื่อให้แสงเข้าได้ ไม่รู้สึกว่าห้องอับทึบเกินไป
- การนอนขวางทิศทางที่ลมผ่านตลอดหรือมีคนผ่านไปมาหน้าห้องตลอดเช่นประตู ไม่มีทางที่เราจะหลับได้สนิทแน่นอน
ฟังหูไว้หู เชื่อบ้างก็ดี เพราะสิ่งที่เขาว่ากันมาก็เป็นกุศโลบายที่มีเหตุผลดีนะ
#8 อย่าหยิบของที่ไม่ใช่ของเราติดมือมา
นอกจากของที่โรงแรมมีแจกให้ เช่น สบู่, ทิชชู่, ผ้าเช็ดหน้า อย่ามือบอนไปหยิบฉวยอะไรติดมือเด็ดขาด ของบางอย่าง" เจ้าของ "ที่แท้จริงอาจกำลังตามหาอยู่ และอาจนำภัยให้เราได้ ไม่ว่าจะในเรื่องของไสยศาสตร์ หรือการถูกดำเนินคดีในข้อหาลักขโมยก็ตาม
เห็นไหมว่า ถึงบางอย่างจะฟังดูเป็นเรื่องงมงาย แต่ทำตามหรือฟังไว้บ้างก็ไม่ใช่เรื่องที่เสียหายอะไรนะคะ ล็อคความปลอดภัยกับโลกความจริง เซฟตัวเองอีกชั้นจากโลกที่มองไม่เห็น เราจะได้ปลอดภัยเต็ม 100 มั่นใจ อุ่นใจมากขึ้นไงล่ะ!!