สวัสดีค่าา สาวๆSistaCafeสายไดเอทลดหุ่นทั้งหลาย (☆▽☆)

หากนั่งอยู่หน้าคอม หรือมีมือถืออยู่กับตัวก่อนนี้ แค่กดเสิร์ชหาคำว่า" สูตรลดความอ้วน "ไม่ถึงเสี้ยววินาทีก็มีข้อมูลขึ้นมาพรึ่บ! เป็นล้านๆ เว็บไซต์ให้ได้ไปลองทำตามกัน มีตั้งแต่สูตรเสี่ยงตายอย่างกินแต่น้ำ 3 วัน, กินวันละ 500 แคลอรี่ หรือสูตรทำอาหารคลีน เน้นสุขภาพจากนักโภชนาการ


แต่การลดน้ำหนัก ' จำนวนเยอะๆ ' และคุมไว้ไม่ให้เด้งกลับคืน ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญ คนที่เข้าใจในหลักการลดน้ำหนักจริงๆ เท่านั้น ตัวอย่างที่ดีก็คือคนที่เคยอ้วนมากๆ 100 กิโลกรัม++ แต่สามารถลดลงมาในเกณฑ์ปกติได้ และไม่กลับไปอ้วนเหมือนเดิมอีกนั่นเองค่ะ

https://www.everydayhealth.com/columns/weight-loss-success-stories/

รูปภาพ:https://media3.giphy.com/media/8Cvq4pZyET4vC/giphy.gif

ในเรื่องราวของคนเหล่านี้ แม้เคล็ดลับแต่ละคนจะแตกต่างกันออกไปบ้าง แต่สุดท้ายสิ่งที่ทุกคนมีร่วมกันก็คือ ' ต้องเปลี่ยนพฤติกรรม ปรับไลฟ์สไตล์เดิมๆ ' จากที่กินแต่ขนมหวานๆ หรือของทอดไขมันสูง นั่งหน้าคอม หน้าทีวีทั้งวัน ก็ต้องเริ่มขยับแขนขา ออกกำลังกาย

เผาผลาญไขมันจากกิจวัตรต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เพื่อความผอมที่ยั่งยืน โดยไม่จำเป็นต้องเสียค่าสมัครฟิตเนสแพงๆ เสมอไป โดยเฉพาะการ

' เลือกสิ่งที่จะเอาเข้าปาก '

ในบทความนี้ได้สรุปมาเป็น

' 7 เคล็ดลับของเหล่าคนเคยอ้วน ' ที่ผ่านการรีดไขมันจากตัวมากกว่า 50 กิโลกรัม ให้สาวซิสได้อ่านและนำไปปรับใช้กัน


เขายังทำได้ แล้วทำไมเราจะทำไม่ได้ สู้!!!!

1. ปรับเปลี่ยน 'ขนมหวานมัน ไขมันสูง' เป็น 'ขนมคลีน สารอาหารสูง' แทน

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/ff1db7fb87047369d55e92cf1181d909.jpg

เคล็ดลับข้อแรกที่เหล่าคนเคยอ้วนแชร์กับเรา ก็คือในบรรดาอาหารต่างๆ เราต้องจัดการกับ ' น้ำตาล ' เป็นอันดับแรกควรกินเท่าที่จำเป็นเท่านั้น


คุณ Sara Knowles Lugger ผู้ลดน้ำหนักได้มากกว่า 75 กิโลกรัม ก็ทำขนมหวานเป็นรางวัลให้กับตัวเองเพียงเดือนละครั้งเท่านั้น ในมื้อที่เหลือเธอจะกินเป็นขนมสุขภาพแบบโฮมเมดแทน

เวลาเธออยากกินไอศกรีม เธอจะทำ ' ขนมคลีนที่รสชาติเหมือนไอศกรีม แต่สารอาหารสูงกว่า ' โดยการนำกล้วยแช่แข็งไปปั่นรวมกับเนยถั่วและผงโกโก้ จะได้เนื้อครีมเนียนนุ่มที่กินได้แบบไม่รู้สึกผิดค่ะ

ทริคอีกอย่างที่สาวๆ นำไปใช้ได้คือ อย่าซื้อขนมถุงไขมันสูง แคลอรี่สูงไว้ในบ้าน เพราะถ้าเราเห็น ก็รู้สึกล่อตาล่อใจ อดไม่ได้ที่จะไปหยิบมากิน สู้อย่าซื้อเข้าบ้านตั้งแต่แรกจะดีกว่าหรือถ้าวันไหนอยากกินขนมมากจริงๆ ก็ให้กินรวมกับเพื่อน ซื้อขนมมาเป็นกองกลางแล้วแบ่งกันกิน เน้นคุยมากกว่ากิน เธอจะกินได้น้อยลงโดยอัตโนมัติอย่าซื้อมานั่งกินคนเดียว เคี้ยวเพลิน กินไปดูทีวีไป หมดถุงไม่รู้ตัว น้ำหนักก็พุ่งไม่รู้ตัวเช่นกัน #เป็นเศร้า

2. เลิกกิน 'อาหารแปรรูป' หันมากิน 'อาหารธรรมชาติ (Whole Food)' เท่านั้น

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/6c86601df2a017801c8bfb3371a35af3.jpg

ไม่ว่าเธอจะใช้สูตรอะไรลดความอ้วนอยู่ก็ตาม แต่หลักการที่ลดน้ำหนักได้อย่างยั่งยืน ต้องเน้น ' สารอาหารที่มีประโยชน์ ' เป็นหลัก หากกินของแปลกๆ ไร้สารอาหาร หรือของกินที่มนุษย์ปกติไม่กินกัน เช่น ยาลดความอ้วน ซุปไดเอท คุกกี้ไดเอท etc. สุดท้ายก็เสี่ยงที่จะเกิดโยโย่เอฟเฟกต์

คุณ Cat Elliot หนึ่งในผู้ลดน้ำหนักบอกว่า เมื่อเธอเริ่มกินอาหารจากธรรมชาติ ที่ไม่ผ่านการแปรรูป หรือ ' Whole Food ' น้ำหนักก็ลงไปได้สูงสุดกว่า 56 กิโลกรัมเลยทีเดียว!!

คุณ Cat แชร์ประสบการณ์ว่า เคยกินอาหารแปรรูป หรืออาหารที่ไม่ได้มาจากธรรมชาติมาก่อน แต่ไม่ส่งผลดีต่อร่างกายและลำไส้เลย


เมื่อลองปรับเปลี่ยนเป็นอาหารสุขภาพ ที่ไม่ผ่านการแปรรูปหรือกระบวนการทางเคมีใดๆ  เช่น ข้าวกล้อง ผักผลไม้สด ไข่ เนื้อไก่ เนื้อปลา และกินต่อเนื่องเป็นประจำน้ำหนักก็ค่อยๆ ลดลงมาเองเรื่อยๆ แบบไม่ต้องพยายาม และลงถาวร ไม่เด้งกลับคืนอีกเลยค่ะ

3. เลิกคิดว่าการออกกำลังกายคือ 'ความทรมาน' แต่เป็น 'ช่วงเวลาแห่งความสุข'

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/53bf1e580e18a446d32d292038bda3e2.jpg

คนที่ตกอยู่ในสภาวะน้ำหนักเกินมากๆ เช่น เกินเกณฑ์ 10-20 กิโลกรัม เชื่อว่าเกินครึ่งเป็นผู้ที่ไม่สนใจในการออกกำลังกายมาก่อน ไม่ชอบการออกแรง ขี้เกียจ หรือชีวิตยุ่งมากจน ( คิดไปเองว่า ) ไม่มีเวลา แต่ถ้าอยากผอมลงอย่างยั่งยืน ไม่ว่ายังไงก็เลี่ยงการ ' ออกกำลังกาย ' ไปไม่ได้


คุณ Cat Elliot บอกว่า เมื่อก่อนเธอมองว่าการออกกำลังกายคือ ' การถูกลงโทษ ' เพราะทำแต่ละครั้งทั้งเหนื่อยหอบและทรมาน เพราะออกกำลังในแบบที่ไม่ชอบ ไม่เหมาะกับตัวเอง

เมื่อเริ่มปรับการออกกำลังใหม่ เลือกที่ทำแล้วร่างกายมีความสุข ก็ออกกำลังเพื่อสุขภาพได้นานขึ้น เริ่มมีความสุขกับการออกกำลังกาย คุณ Cat บอกว่า เมื่อมีความสุขแล้ว น้ำหนักก็ลดลงอย่างรวดเร็วมากๆ คุณ Erica Lugo ที่ลดน้ำหนักไปได้มากกว่า 78 กิโลกรัมก็เสริมว่า การรู้จัก ' สนุก ' ในการออกกำลังนี่แหละ ทำให้การลดน้ำหนักประสบความสำเร็จ

อย่ามองว่าเป็นหน้าที่ที่ถูกบังคับ ปรับมุมมองใหม่ว่าเป็นช่วงเวลาที่เรามีความสุข ทั้งได้เผาผลาญไขมัน ทั้งได้ทำให้ร่างกายสุขภาพดีขึ้น การออกกำลังมีหลายประเภท เช่น วิ่ง เดินเร็ว เต้นแอโรบิก ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ ตีแบด ชกมวย โยคะ เลือกแบบที่เธอชอบ จะได้ทำได้นานๆ ค่ะ

4. อย่าหมกมุ่นกับ 'ตัวเลขบนตาชั่ง' ตลอดเวลา โฟกัสที่สัดส่วนดีกว่า

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/038f42b0239efb8a0cbda2fb9527e5a2.jpg

เมื่อไดเอทไปสักพัก คนลดน้ำหนักส่วนใหญ่จะจิตตกเพราะตัวเลขบนตาชั่งไม่ยอมขยับเอาเสียเลย! เป็นปกติที่น้ำหนักจะลดลงเร็วมากในช่วงแรก แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งที่ร่างกายชิน และเป็นการเผาผลาญไขมันมากกว่าน้ำและกล้ามเนื้อในร่างกาย น้ำหนักจะลงยากขึ้นเรื่อยๆ

บางคนติดนิสัยต้องชั่งน้ำหนักทุกเช้า ทำให้จิตใจว้าวุ่นว่าทำไมน้ำหนักไม่ลดทุกวันเหมือนแต่ก่อน นานเข้าอาจทำให้ประสาทเสีย พาลเลิกลดน้ำหนักไปเลยก็มีค่ะ

ความถี่ในการชั่งน้ำหนักที่เหมาะสม ไม่ควรบ่อยเกิน 1 ครั้ง/สัปดาห์ หากรู้ตัวว่ามาถูกทาง ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลกับน้ำหนักบนตาชั่งมาก คุณ Noelia Beatriz Trujillo ผู้ลดน้ำหนักได้มากกว่า 80 กิโลกรัมกล่าวไว้ว่า เธอรู้สึกแข็งแรงขึ้น ยกน้ำหนักได้เยอะขึ้น ใส่เสื้อผ้าได้ดูดีขึ้น ถ้าน้ำหนักจะดีดขึ้นมาบ้างนิดหน่อยก็ไม่เป็นไรส่วนคุณ Pamela Kimbro ที่ลดไปได้กว่า 75 กิโลกรัม เมื่อเจอภาวะน้ำหนักนิ่ง เธอเลิกสนใจตาชั่งไปเลย ชั่งแค่พอติดตามผลทุกๆ 2 สัปดาห์เท่านั้น จะได้ไม่เครียดเกินไป และไปโฟกัสที่ไซส์เสื้อผ้าแทนตัวเลขน้ำหนักแทน


ซึ่งเอาตามความจริง ไม่มีใครสนหรอกว่าเธอ 45 กิโล หรือ 65 กิโล ถ้าเธอหุ่นดี ใส่เสื้อผ้าสวย  เธอก็คือคนหุ่นดี ไม่ว่าจะมีน้ำหนักเท่าไหร่ก็ตาม จริงไหมล่ะ

5. อย่าท้อ เสียใจกับอุปสรรคระหว่างทาง สนใจแค่ 'เป้าหมาย' ก็พอ

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/d678e50c80dd44b9bfca17a9a9320964.jpg

สิ่งสำคัญอีกอย่างที่คน ' ลดน้ำหนักระยะยาว ' ต้องยึดมั่นไว้คือ การไดเอทก็เหมือนวิ่งมาราธอนระยะไกล ต้องอดทน ห้ามท้อถอยระหว่างทาง


คุณ Hanna Preston ผู้ลดน้ำหนักได้มากกว่า 55 กิโลกรัมเปิดเผยว่า ในช่วงแรก เธอมีช่วงหลุด 1 สัปดาห์ ที่ทำลายแรงใจของเธอไปจนหมด เมื่อกลับมาลดใหม่อีกรอบ เธอเรียนรู้ที่จะไม่จดตัวเลขน้ำหนักเป็นบ้าเป็นหลังตลอดเวลา ชั่งแค่พอติดตามผลบ้าง โฟกัสที่ภาพรวมดีกว่า

การลดน้ำหนักก็เหมือนเกมจิตวิทยาอย่างหนึ่ง ต้องอดทนกับสิ่งยั่วเย้า หรือความอยากของตัวเองให้ได้ จะประสบความสำเร็จหรือไม่ ก็อยู่ที่ว่า " เธอรู้สึกยังไง "


ถ้ารู้สึกมีความสุขแล้ว ก็ถือว่าการไดเอทนั้นสำเร็จ ถ้าระหว่างลดน้ำหนัก เธอมีพลังงานในการใช้ชีวิตมากขึ้น ออกกำลังกายได้อึดขึ้น นานขึ้น ใส่เสื้อผ้าได้สวยขึ้นเรื่อยๆ หุ่นดีขึ้นเรื่อยๆ นั่นแหละมาตรวัดความสำเร็จที่แท้จริงค่ะ

6. ถ้ารู้สึกหิว ก่อนอื่นให้ดื่ม 'น้ำเปล่า' ก่อนเลย ดื่มเยอะๆ ด้วย!

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/d90df15c922aef22db30a6da99646698.jpg

คุณ Lorann Brown ผู้ลดน้ำหนักไปได้มากกว่า 45 กิโลกรัมเปิดเผยว่า เมื่อก่อนเธอติดน้ำอัดลมมาก ไม่ดื่มน้ำเปล่าเลย แต่วันนี้เธอดื่มได้วันละครึ่งลิตร ( 18 แก้วโดยประมาณ ) จากที่ไม่เคยพกกระบอกน้ำไปไหนเลย ตอนนี้เธอต้องพกตลอด เพื่อดื่มได้ทุกเวลาที่ร่างกายขาดน้ำ

คุณ Kimbro ที่เป็นแฟนพันธุ์แท้น้ำหวานมาก่อนก็เช่นกัน จากที่ติดกินวันละ 12 ขวด เพราะน้ำเปล่านี่แหละ ทำให้เธอลดน้ำหนักออกจากตัวไปได้มากกว่าครึ่งนึงเลย!

คุณ Preston กล่าวว่า" ถ้าคุณรู้สึกว่าวันนี้ดื่มน้ำเปล่ามากพอแล้วล่ะก็ จริงๆ มันยังไม่พอหรอก ดื่มไปเลยอีกแก้วนึง! "เพราะน้ำเปล่ามีประโยชน์มาก ทั้งช่วยทำให้สมองทำงานเต็มประสิทธิภาพ ช่วยระบบลำไส้ให้ย่อย ขับถ่ายได้ดี และยังช่วยกำจัดของเสียในร่างกายได้อีกด้วย

คนส่วนใหญ่เวลาหิว มักเข้าใจผิดว่าหิวข้าว ทั้งที่จริงอาจแค่กระหายน้ำ จึงทำให้กินเกินที่ร่างกายต้องการโดยไม่จำเป็น น้ำหนักจึงไม่ยอมลดเสียทีนั่นเอง

7. การออกกำลังกายคือชีวิตประจำวัน ทำให้ 'สุขภาพดี ไม่ป่วยง่าย'

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/c4fe331edd49b79a0ec3aa1cb10f65c6.jpg

จากที่พูดเรื่องการออกกำลังกายว่า ' เป็นช่วงเวลาที่แสนสุข ไม่ใช่การทรมานตัวเอง ' ไปแล้วนั้น อีกอย่างที่อยากเสริม คือให้ปรับแนวคิดว่า แม้จะรูปร่างอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานแล้ว ก็อย่าทิ้งกิจวัตรนี้ไป ไม่ว่าจะผอมหรืออวบอ้วน เราทุกคนควรต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง ไม่ป่วยง่าย

คุณ Nick Guile ที่ลดน้ำหนักไปมากกว่า 65 กิโลกรัม ด้วยการเล่น Wii Fit และเดินเป็นประจำบอกว่า " พอการออกกำลังเป็นส่วนนึงในชีวิตประจำวัน มันก็ยิ่งสนุกขึ้น ไม่ฝืน แถมลดน้ำหนักได้ง่ายขึ้นด้วยครับ "

คุณ Lugger หนึ่งในคนเคยอ้วน เปลี่ยนพฤติกรรมจากการนั่งนิ่งๆ 1 ชั่วโมงตลอดมื้อเที่ยง เป็นการกินข้าวเสร็จแล้วไปเดินเล่นย่อยอาหาร 30-45 นาทีแทน ส่วนคุณ Preston ออกกำลังกายด้วยการเดินระยะไกลกับเพื่อนๆ เล่นเกมเต้นซุมบ้า ( Zumba ) ในเครื่องเล่น Wii ของเธอ และยังลองออกกำลังกายวิธีใหม่ๆ ตามคลิปในยูทูปอีกด้วย


เธอบอกว่า " จะเชื่อหรือไม่ก็ได้ ที่ฉันลดน้ำหนักไปเยอะขนาดนี้ ตอนนี้ก็ยังไม่เคยสมัครสมาชิกฟิตเนสเลย แต่ฉันจะออกกำลังด้วยการเดินขั้นต่ำ 4.8 กิโลกรัมทุกวันค่ะ " จะอ้างว่าไม่มีเงินค่าฟิตเนสไม่ได้แล้วนะ บอกเลย!!

รูปภาพ:https://i.gifer.com/KB32.gif

------------------------------------

เคล็ดลับง่ายๆ ทั้ง 7 ข้อ จากเหล่าคนลดความอ้วนที่ประสบความสำเร็จ ก็มีทั้งหมดเท่านี้! ไม่ต้องเสียเงินค่าคอร์สแพง ซื้ออาหารชั้นดีราคาสูงจากที่ไหนทั้งนั้น อยู่ที่การปรับพฤติกรรมการกิน และการใช้ชีวิตประจำวันของตัวเองล้วนๆ!ที่สำคัญต้องตั้ง ' จิต ' ให้เข้มแข็ง อดทน อย่าอ่อนแอ พ่ายแพ้ต่อสิ่งยั่วเย้าในรูปแบบความขี้เกียจหรือขนมหวานๆ เพราะในบทความนี้เราก็ได้รู้แล้วว่า การออกกำลังสามารถดีไซน์ให้สนุกได้ และขนมคลีน อาหารคลีน หากปรุงดีๆ ก็อร่อยไม่แพ้อาหารแปรรูปเลยขอแค่สาวซิสตั้งใจจริง กินอาหารที่ดี ดื่มน้ำเยอะๆ ออกกำลังกายเป็นประจำ รูปร่างที่ตั้งใจก็ไม่ยากเกินได้มาในครอบครองอย่างแน่นอน แล้วเจอกันที่เส้นชัยนะคะ เหล่า Dieters ทุกคน

☆ ~('▽^人)